ในที่สุดแสนรักก็บอกเส้นหมี่ ให้เธอรีบกลับมา
จู่ๆเส้นหมี่ได้รับสายแบบนี้ ก็คิดว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น จึงรับกลับมาจากโรงพยาบาล
สรุปว่า พอกลับมา ลูกสาวที่ร้องไห้ก็พุ่งเข้ามาหาเธอ
“หม่ามี๊ ในที่สุดหม่ามี๊ก็กลับมาแล้ว พวกเรารีบกลับบ้านกันเถอะ ไม่อยู่นี่แล้ว”
เด็กสาวร้องไห้อย่างเสียใจ ในที่สุดก็เห็นหม่ามี๊ จากนั้นจูงเธอออกไปด้านนอก ไม่ยอมให้เธออยู่นี่เลย
เส้นหมี่รู้สึกแปลกเล็กน้อย
เกิดอะไรขึ้น?เมื่อก่อนเด็กคนนี้อยากอยู่กับแด๊ดดี้ตลอดไม่ใช่เหรอ?
เส้นหมี่มองไปที่ลูกชายทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลัง:“คุณชายคิว ชินชิน น้องสาวเป็นอะไรไป?”
คุณชายคิว:“……”
ชินจัง:“……”
สุดท้าย ชินจังก็เข้ามา พูดเรื่องราวไปอย่างกระชับๆว่า:“ขอโทษครับ หม่ามี๊ เพราะว่าแด๊ดดี้ ผมจะคุยกับเขาเอง”
พูดกระชับสั้นๆ เป็นรูปแบบการพูดจาที่เคยชินของเขา
แต่เส้นหมี่เป็นคนฉลาด เธอได้ยิน ก็เข้าใจทันที ทันใดนั้น เธอมองลูกสาวในอ้อมแขนที่ร้องไห้จนน้ำมูกไหลออกมา ก็สงสารสุดๆ
ใช่สิ เธอน้อยใจต่อหน้าแด๊ดดี้ ไม่ใช่เพราะเธอที่เป็นหม่ามี๊เหรอ?
เส้นหมี่ที่เสียใจ ก็เริ่มโทษตัวเอง ไม่ควรเห็นแก่ตัวมากไปหรือเปล่า?ให้พ่อลูกได้รู้จักกัน ก็เป็นสิทธิ์ของเธออยู่แล้วนี่
ทำไมเธอต้องให้เธอที่ยังเด็กอายุน้อยแบบนี้?น้อยใจแบบเธอไปด้วย?
ในที่สุดเส้นหมี่ก็ตัดสินใจแล้ว ดังนั้นเธอจึงอุ้มลูกสาวที่ร้องไห้เสียใจในอ้อมแขนขึ้นมา จับหน้าเล็กๆของเธอ แล้วเช็ดน้ำตาของเธออย่างระมัดระวัง
“เอาล่ะ หนูรินจังไม่ร้องแล้วนะ ที่แด๊ดดี้ไม่ดีกับหนูรินจัง นั่นเพราะว่าแด๊ดดี้ไม่รู้ว่าหนูรินจังก็เป็นลูกของเขา แบบนี้ละกัน หม่ามี๊จะหาโอกาสบอกแด๊ดดี้ บอกว่าหนูรินจังก็เป็นลูกของเขาด้วย ดีไหม?”
“จริงเหรอ?”
พอพูดคำนี้ออกมา ไม่ใช่แค่รินจังลูกรักที่หยุดร้องไห้ทันที
แม้แต่คุณชายคิวกับชินจังสองคนนี้ ก็มองไปที่หม่ามี๊อย่างตาโตๆ ไม่เชื่อที่ได้ยิน
“หม่ามี๊ หม่ามี๊จะให้แด๊ดดี้รู้เรื่องน้องเหรอ?งั้นหม่ามี๊หม่ามี๊……”
“ไม่เป็นไร แค่พวกลูกมีความสุขก็พอ หม่ามี๊ไม่เป็นไร”
เส้นหมี่ลูบหัวของลูกชายคนเล็ก ปลอบเสียงอ่อนโยน
ตอนนี้เธอ ดูเหมือนว่าจะรู้สึกไม่เป็นไรจริงๆ ดูเขาสิก็ได้รู้จักกับแด๊ดดี้แล้วไม่ใช่เหรอ?แต่ว่า เธอก็ยังคงเห็นเขาได้ทุกวัน และก็ได้อยู่ด้วยกันทุกวันด้วย
ดังนั้น เส้นหมี่คิดว่า เอาเรื่องลูกสาวบอกชายคนนี้ ก็ไม่เป็นไร
พวกเด็กๆได้ยิน ก็มีความสุขทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนูรินจัง พอได้ยินว่าในที่สุดก็จะได้เป็นที่รู้จักของแด๊ดดี้แล้ว อารมณ์ที่เสียใจของเธอ หายไปในทันที
“งั้นหม่ามี๊ รินจังอยากไปอาบน้ำ แล้วสวมกระโปรงลายดอกไม้สวยๆ ตอนค่ำไปเจอแด๊ดดี้”
“โอเค พวกเราจะแต่งตัวหนูรินจังให้สวยๆ”
“อือ!”
พี่ชายทั้งสองคนก็คล้อยตามน้องสาวอย่างมีความสุข
จากนั้นสี่คนแม่ลูก ก็ไปแต่งตัวให้เด็กสาวคนนี้จริงๆ
แต่น่าเสียดายเล็กน้อย คืนนี้ แสนรักดันกลับมาดึกมาก เพราะว่าบริษัทมีเรื่องเล็กน้อยกะทันหัน กว่าเขาจะกลับมาก็ห้าทุ่มกว่า
เวลานี้ เด็กๆหลับกันแล้วแน่นอน
แสนรักกำลังจะขึ้นไปชั้นบนโดยตรง
แต่ตอนที่เขาจะผ่านชั้นสอง จู่ๆกลับเห็นว่า ห้องนอนตรงทางเดินข้างในสุดดูเหมือนว่าจะมีไฟอยู่ พอเขาขึ้นมา ทันใดนั้น มันก็เปิดไว้อยู่แล้ว
“คุณกลับมาแล้วเหรอ?”
นั่นเป็นแสงไฟสีเหลืองอมส้มดวงหนึ่ง จู่ๆมันก็สว่างขึ้นมาในชั้นที่มืดและว่างเปล่านี้ เหมือนกับเปลวไฟดวงหนึ่ง ที่จู่ๆก็ปรากฏในโลกของน้ำแข็งหิมะด้านนอก
แสนรักตะลึง มองหญิงสาวตัวเล็กที่เดินออกมาจากแสงไฟนิ่งๆ
“เอ่อ……เด็กๆรอคุณอยู่สักพัก แต่คุณยังไม่มา จากนั้น ……พวกเขาก็หลับไป”
เส้นหมี่เดินเข้ามาอย่างประหม่า ถึงจะเตรียมมาแล้วทั้งคืน แต่ว่า ตอนเธอยืนตรงหน้าชายหนุ่มคนนี้ เธอพบว่าตัวเอง มีเหงื่อออกมาจากฝ่ามือทันที
เธอต้องพูดไหม?
พูดตอนนี้เลยไหม?
พูดละกัน เธอรับปากลูกสาวแล้ว ไม่อย่างนั้นก็พูดตอนนี้ให้เสร็จเลย
ในหัวเส้นหมี่เหมือนมีคลื่นลูกใหญ่ ที่เข้ามาพัวพันอยู่ตลอด ทำให้เธอรู้สึกเหมือนหัวใจจะหลุดออกมาจากอก
แสนรักได้ยินประโยคนี้ของเธอแล้ว ก็นิ่งไปอีกทันที
นี่เป็นความรู้สึกแปลกๆอย่างหนึ่ง เขาชินกับการอยู่คนเดียวมาตลอด ถึงจะมีลูกชาย แต่ทุกครั้งที่กลับมา สิ่งที่ต้องเผชิญก็ยังคงเป็นห้องที่แสนว่างเปล่า มืดมนและอากาศที่เย็นเฉียบ
เขาไม่เคยคิดเลยว่า วันหนึ่ง พอเขากลับมาแล้ว จะมองเห็นแสงไฟดวงหนึ่ง
และในแสงไฟนี้ ยังมีอีกคนหนึ่ง
ในที่สุดความเยือกเย็นบนตัวเขาจางหายไป ตอนนี้ เขามองไปที่เธอ อบอุ่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
“คืนนี้บริษัทมีเรื่องด่วน ยุ่งทั้งคืน ครั้งหน้าถ้ากลับมาดึกมาก บอกพวกเขาไม่ต้องรอผม”
“……อือ โอเค งั้นคุณ……”
“แล้วก็ คุณก็เหมือนกัน”
เส้นหมี่ที่เดิมทีคำพูดเหล่านั้นติดอยู่ที่ปากแล้ว ทันใดนั้น ในหูของเธอก็ได้ยินคำนี้
ทันใดนั้น ก็เหมือนมีอะไรกระทบไปที่ใจเธอ ในหัวเธอมีเสียงดัง“หึ่ง”ไปมา จำคำพูดอะไรไม่ได้ทั้งนั้น รู้แค่มองคนๆนี้ไปอย่างนิ่งๆ