“การวิเคราะห์ของคุณถูกต้อง แจกันนั่นจะมีมูลค่าสองล้านเหรียญหากมันอยู่ในสภาพไร้ตำหนิ” แดร์ริลกล่าวต่อ “ยังไงก็ตาม คุณพลาดอะไรบางอย่างไป เวลาตอนที่แจกันนั่นแตก”

ท่าทางของชอว์นเปลี่ยนไป แต่เขาไม่ได้กล่าวอะไร

“เจ้าหนู นายทำเหมือนว่านายรู้มากกว่าพนักงานพิพิธภัณฑ์อีกนะ”

“นายดูเหมือนยาม เดี๋ยวก่อนนะ กลิ่นนายเหมือนเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ นี่นายเป็นภารโรงด้วยเหรอ?”

ฝูงชนหัวเราะ แดร์ริลนั้นมีกลิ่นเหมือนมีปัสสาวะติดอยู่กับเขาจริง

แต่มีหนึ่งคนที่ไม่ได้หัวเราะออกมา ดอร่าจ้องไปที่แดร์ริลอย่างนิ่งค้าง

แดร์ริลก้มลงแล้วหยิบเศษแจกันที่แตกออกมา “ผู้เชี่ยวชาญย่อมรู้ว่าเครื่องชามของราชวงศ์หยวนนั้นถูกสร้างมาด้วยส่วนผสมสองชนิด—หินของจีนและดินขาว ดังนั้น เมื่อเครื่องชามแตก ฐานสีเหลืองของมันจะเข้มขึ้นเมื่อมันกระทบกับอากาศ”

แดร์ริลส่งเศษเครื่องดินเผาให้ชายวัยกลางคน “ชิ้นส่วนในกระเป๋านั่นบอกได้ว่าแจกันนั้นแตกมาได้สักพักแล้ว จากสีที่เข้มของมัน ผมบอกได้ว่าแจกันนั่นแตกมาเป็นสิบปีแล้ว เป็นไปได้ว่ามันแตกตั้งแต่ขุดพบด้วยซ้ำ”

แดร์ริลหันเหสายตาไปที่เหล่ามิจฉาชีพ “เศษพวกนี้มีค่าอย่างมากที่สุดก็แค่แปดถึงเก้าร้อยเหรียญ กระเป๋าของพวกนายมีแค่เศษแตก ๆ ในนั้น นายไม่อายคนอื่นเหรอที่หลอกคนอื่นด้วยแผนแบบนี้?”

ฝูงชนเงียบในทันที!

นิ้วมือของชอว์นสั่นเทาในขณะที่เขาถือชิ้นส่วนเครื่องดินเผา สำหรับใครบางคนที่มีประสบการณ์มา 20 ปี ในพิพิธภัณฑ์ เขาเชื่อมาตลอดมาว่าเขาเป็นที่สุดในเมืองตงไห่! แม้แต่อีวอนและคิงส์ตัน ยัง ก็ยังเทียบเขาไม่ได้!

เขารู้สึกอับอายสหายหนุ่มอายุราว 20 คนนี้ที่มีความรู้มากกว่าเขา!

ภรรยาของชอว์นจ้องแดร์ริลด้วยความสงสัย ความรู้ของเขาทำให้เธอทึ่ง!

“ชื่อของฉันคือชอว์น ลาร์สัน หนุ่มน้อย เธอเฉลียวฉลาดมาก ฉันประทับใจจริง ๆ!” ชอว์นเดินเข้าไปหาแดร์ริลด้วยความแปลกใจและส่งนามบัตรให้เขา “นี่คือนามบัตรของฉัน ได้โปรดติดต่อฉันมา บางทีเราอาจจะดื่มชากันหากเธอสะดวก!”

ฝูงชนตกตะลึง!

“กระเป๋านั่นมีแต่เศษจริงเหรอ?”

“ช่างไร้ศีลธรรม!”

ดอร่ารู้สึกเหมือนเธออยู่ในฝัน

เธอตกอยู่ในความสิ้นหวัง และเธอแม้กระทั่งขุดทุกส่วนของสมองเธอเพื่อคิดหาวิธีหาเงินสองล้านเหรียญ ยังไงก็ตาม สถานการณ์ได้กลับตาลปัตรในพริบตา

เธอมองแดร์ริลด้วยความซึ้งใจ

พวกมิจฉาชีพมองหน้ากันก่อนจะชี้ไปที่แดร์ริลแล้วกล่าว “ไอ้หนู แกบอกว่าแจกันของพวกเราแตกก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้แล้วงั้นเหรอ? แกเป็นใครวะ? แกรู้อะไรเกี่ยวกับวัตถุโบราณบ้าง? หยุด-อแหลสักที! ไม่สำคัญว่าเธอจะจ่าย หรือแกจ่าย! บางทีแกอาจจะจ่ายให้เธอได้นะถ้าแกอยากเป็นฮีโร่ขนาดนั้น!”

ชายร่างอ้วนหยิบมีดพกออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วดันมันเปิดออก

ดูเหมือนนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกของพวกเขา พวกเขาต้องเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

พวกเขามั่นใจว่าแดร์ริลต้องเป็นแค่ยามไร้ความสำคัญ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กังวลเลยสักนิด

ผู้คนตกใจเมื่อเห็นมีดพก ไม่มีใครกล้าพูดอะไรหรือช่วยเหลือดอร่า

แดร์ริลหัวเราะ “ก็ได้ ฉันจะจ่ายให้นาย แต่ขอเวลาฉันสักครู่ ฉันจะโทรบอกให้เพื่อนฉันนำเงินมา”

“ค่อยดีขึ้นหน่อย!” มิจฉาชีพจ้องหน้ากันเองอีกครั้ง ‘เด็กนี่ต้องกลัวตอนที่เขาหยิบมีดพับออกมาแน่ ขี้ขลาดซะจริง!’

แดร์ริลหยิบมือถือออกมาแล้วรออกไป

ดอร่าตื่นตระหนกแล้วดึงแขนเสื้อของแดร์ริลไว้ “ไม่นะ ได้โปรดอย่าบอกเพื่อนของคุณให้นำเงินมาเลยค่ะ ฉันเป็นหาสร้างปัญหาเอง ฉันจะจ่ายด้วยตัวเอง”

ดอร่าคิดไม่ออกว่าเธอจะไปหาเงินมากขนาดนั้นมาจากไหน ยังไงก็ตาม เธอไม่สามารถปล่อยให้คนแปลกหน้าจ่ายเงินสองล้านเหรียญแทนเธอได้! แม่ของเธอสอนเธอให้รับผิดชอบในความผิดพลาดของตนเอง แม้ว่าพวกเธอจะยากจนก็ตาม

แดร์ริลโบกมือ แต่เขาไม่ได้กล่าวอะไร

สายถูกโทรออก และแดร์ริลก็เปิดลำโพง

“เฮ้ น้องชาย! ว่าไง?” เมแกน แคสเทลโล ยิ้มแล้วกล่าวผ่านสายมา

เธอเรียกเขาว่าน้องชายในตอนที่เธอไม่รู้จะถามอะไรจากเขา กลายเปลี่ยนแปลงทางทัศนคติของเธอช่างเหลือเชื่อจริง ๆ

‘หืมม?’

ท่าทางของมิจฉาชีพเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

“เ-ี่ย! เสียงนี้มันคุ้น ๆ…” ชายร่างอ้วนขมวดคิ้ว

ชายร่างผอมกลืนน้ำลายแล้วพยักหน้าก่อนจะกล่าวเสียงแผ่ว “ทำไมเธอถึงมีเสียงเหมือนตำรวจหญิงแคสเทลโล?”

คนทั้งสองนั้นเป็นผู้ที่ทำผิดโดยการขโมยของหลวงประจำ

เมแกนนั้นเป็นผู้จับกุมพวกเขาและส่งพวกเขาเข้าคุกไปหลายครั้งแล้ว

พวกเขาหวาดกลัวเมแกนมากกว่าตำรวจคนใด ดังนั้นพวกเขาจึงเหมือนหนูขี้ขลาดเมื่อได้ยินเสียงของเธอผ่านมือถือมา