อี้เฉินเฟยแปลงโฉมเป็นเจียงซวี่ ลงจากหอชั้นที่เจ็ดถึงชั้นที่หก คนที่รับผิดชอบเฝ้าหอต่างโค้งคำนับ ไม่สงสัยในตัวเขา

“วันนี้ท่านหัวหน้ากองธงอารมณ์ดียิ่งนัก ให้ข้านำตัวทาสบำเรอในนี้ทั้งหมดไป พวกเจ้าสองคนเอาทาสบำเรอในหอทั้งหมดออกมา”

ว่าแล้วอี้เฉินเฟยก็โยนกุญแจออกไป สั่งการด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง

“ทะ…ทั้งหมด…?”

“ทำไม? เจ้ามีปัญหากับท่านหัวหน้ากองธงหรือ?”

“ไม่ๆๆ ขอรับ! ข้าน้อยมิกล้า ข้าน้อยจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”

ฉีโส่วที่เฝ้ายามทั้งสองสงสัย แต่พอเห็นอี้เฉินเฟยทำหน้ายักษ์แล้วก็ไม่กล้าสงสัยอะไรอีก เพราะเจียงซวี่ขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิตในเผ่าปีศาจ

ตั้งแต่ชั้นที่เจ็ดจนถึงชั้นที่สอง พวกเขาผ่านไปได้อย่างปลอดภัย

กู้ชูหน่วนป้ายหน้าเย่เฟิงให้ดำ ประคองเขาที่เมามายปะปนอยู่ในกลุ่มผู้คน

ที่บอกว่าประคองก็น่าจะบอกว่าแบกมากกว่า เพราะร่างเย่เฟิงทั้งหมดคว่ำอยู่บนตัวนาง เกือบทำนางเหนื่อยตายแล้ว

ฉีโส่วที่เฝ้าทาสบำเรอจำนวนไม่น้อยต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์

“หอหลังหนึ่งเกือบห้าสิบคน อารมณ์ของท่านหัวหน้ากองธงจะมากไปหน่อยกระมัง?”

“ชู่! พวกเราไหนเลยจะวิพากษ์วิจารณ์ท่านหัวหน้ากองธงได้ เดี๋ยวถูกใครได้ยินเข้า ได้โดนลงโทษหนักแน่!”

“เปล่า! ความหมายข้าคือ…เหมือนจะแปลกๆ อยู่นะ ด้วยนิสัยที่แล้วมาของท่านหัวหน้ากองธง ถึงท่านจะมีอารมณ์ดี แต่ก็แค่ดึงคนจำนวนหนึ่งจากทั้งสามหอไป จะเอาทาสบำเรอทั้งหอไปหมดได้อย่างไร?”

“ใครจะรู้ล่ะ? เฮ้อ! นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่คนระดับล่างอย่างพวกเราจะยุ่งได้ ทำตามคำสั่งถันจู่ เอาคนไปที่แท่นจุดสัญญาณไฟเถอะ” เวลานี้จะลงถึงชั้นที่หนึ่งแล้ว

กู้ชูหน่วนจับตามองรอบทิศ ป้องกันการเกิดเหตุอะไร

“หยุด! พวกเจ้าลงมากันทำไมเยอะแยะ?” ฉีโส่วชั้นที่หนึ่งขวางพวกเขาไว้

อี้เฉินเฟยเดินออกไปทีละก้าว แลพวกเขาจากที่สูง

“ท่านหัวหน้ากองธงบอกว่าวันนี้อารมณ์ดีนัก ต้องการให้ทาสบำเรอในหอทั้งหมดไปปรนนิบัติ พวกเจ้ายังไม่รีบหลีกไปอีก!”

“ท่านหัวหน้ากองธงมีคำสั่งนี้ด้วยหรือ? ทำไมเราไม่ได้รับคำสั่งเล่า?”

ฉีโส่วที่ดูแลชั้นที่หนึ่งค่อนข้างมาก มีแปดคนเต็มๆ ทั้งแปดสบตากัน และเห็นความฉงนใจจากดวงตาอีกฝ่าย

ถ้ามีคำสั่งนี้ พวกเขาก็น่าจะรู้สิ

อี้เฉินเฟยทำหน้าขมึงทันที เอ่ยกราด “พวกเจ้าแปดคนเฝ้าหอนี้ แม้แต่ท่านหัวหน้ากองธงสั่งมาก็ไม่รู้ พวกเจ้าทำงานกันอย่างไร?! ดูท่าปกติข้าจะปล่อยปละพวกเจ้ามากไปแล้ว!”

เขาเอ่ยโพล่งเสียงกร้าว อาจบันดาลโทสะได้ทุกเมื่อ

ฉีโส่วทั้งแปดพากันโน้มเอว ไม่กล้าเงยหน้ามองเจียงซวี่

เพียงแต่ในใจยังคงสงสัย

หรือว่าพวกเขาจะพลั้งพลาดไปจริงๆ?

กู้ชูหน่วนเห็นแล้วก็ให้ขำขัน

วิธีการข่มขู่ ดูจนนางเองก็เกือบเชื่อแล้ว

ฉีโส่วคนหนึ่งฮึดความกล้า เอ่ยเสียงสั่น “ถันจู่ ถันจู่… ข้าน้อยขอบังอาจ จะขอให้ท่านแสดงป้ายคำสั่งได้หรือไม่?”

“พวกเจ้าเล่นสนุกละเลยหน้าที่ แล้วยังจะดูป้ายคำสั่งของข้าอีก? หรือพวกเจ้าคิดว่าข้าโกหก?”

“มิกล้า! ข้าน้อยมิกล้า!”

“ในเมื่อไม่กล้า เช่นนั้นก็รีบหลีกไป!”

“เออ…”

“ทำไม? หรือว่าพวกเจ้าจะขวาง?”

“ข้าน้อยมิกล้า เพียงแต่ไม่มีป้ายคำสั่งหากปล่อยทาสบำเรอมากมายขนาดนี้ไป เกิดเบื้องบนเอาความมา ข้าน้อย…”

“ข้าดีกับพวกเจ้ามากไปจริงๆ ทำให้พวกเจ้าขัดขืนได้กระทั่งคำสั่งของท่านหัวหน้ากองธง เด็กๆ! จับตัวพวกมันไว้!”

อี้เฉินเฟยยิ้มเย็นชา ดวงตาชั่วร้ายเต็มไปด้วยน้ำค้างแข็ง

ครั้นทุกคนได้ยินคำพูดของเขา ก็ตกใจจนขนลุกซู่

ไหนเลยจะกล้าขัดคำสั่งเขา รีบเปิดทางให้ทันที

“ถันจู่ เชิญ”

“เฮอะ! ยังไม่รีบเอาคนไปที่แท่นจุดสัญญาณไฟอีก! หรือว่าจะให้ข้าสอนพวกเขากุมตัวด้วยตัวเอง?”