“เจ้าจะยอมแพ้ไหม?”
เย่เทียนถือดาบพาดคอของซุนเฟิงและถาม
“ข้ายอมแพ้!”
ซุนเฟิงกล่าวอย่างหมดหนทาง
เขาเป็นเพียงนักรบชั้นยอด แม้ว่าพลังโจมตีของเขาจะอยู่ในระดับเดียวกับนักรบผู้เชี่ยวชาญด้วยทักษะดาบ แต่พลังป้องกันของเขายังคงเป็นนักรบชั้นยอด และพลังปราณของเขาก็ไม่สามารถป้องกันดาบของเยเทียนได้
นอกจากนี้คอของเขาเป็นหนึ่งในส่วนที่อ่อนแอที่สุดของร่างกายมนุษย์ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแข็งกว่าอาวุธ
“เอาทักษะดาบระดับทองแดงของเจ้าออกมา!”
เย่เทียนมองไปที่ซุนเฟิงและกล่าวขึ้น
ใบหน้าของซุนเฟิงซีดเผือด เขาจ้องเย่เทียนอย่างดุร้าย “เจ้าจะเอาทักษะดาบระดับทองแดงของข้าไปจริงๆหรือ? หากเจ้าทําเช่นนั้นเจ้าจะต้องเสียใจในภายหลัง! ”
มูลค่าของทักษะดาบระดับทองแดงนั้นไม่ต่นัก นักรบที่ไม่มีพรสวรรค์ในด้านดาบคงจะไม่สนใจ แต่นักรบที่มีพรสวรรค์ด้านดาบจะให้ความสําคัญกับทักษะดาบระดับทองแดงเป็นอย่างมาก และยินดีที่จะใช้จ่ายหลายสิบล้านเพื่อซื้อทักษะดาบระดับทองแดง
ซุนเฟิงไม่สนใจทักษะดาบระดับทองแดงสําหรับเขาแล้วมันเป็นการสูญเสียเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่สิ่งที่ทําให้เขารู้สึกไม่พอใจไม่ใช่มูลค่าของทักษะ แต่เป็นเรื่องของชื่อเสียงและหน้าตา
ครั้งนี้เขาถูกตบหน้าอย่างรุนแรง ไม่เพียงแต่เขาเสียหน้าเท่านั้น แต่ยังเป็นฐานเขียวเหล็กกด้วย
อัจฉริยะจากฐานขนาดกลางมายังฐานเล็ก ๆเช่นนี้ แต่กลับพ่ายแพ้ให้กับอัจฉริยะของฐานขนาดเล็ก ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไปศักดิ์ศรีของเขาคงไม่เหลือแน่! แม้แต่ตระกูลของเขาก็ยังต้องขายหน้าตระกูลอื่น
ดังนั้นเขาจึงโมโหมาก
“นํามันออกมา!”
น่าเสียงของเย่เทียนเริ่มเย็นลง
“งั้นก็เอาไป!”
ซุนเฟิงโยนตําราทักษะดาบฟาดฟันวายุครามออกไป จากนั้นเขาจ้องมองเย่เทียนด้วยสายตาที่ราวกับจะฆ่าคนได้ เหมือนกับว่าเขาต้องการจะบอกเย่เทียนว่า “คอยดูเถอะ!
เย่เทียนรับทักษะดาบฟาดฟันวายุครามด้วยสีหน้ายินดี โดยไม่สนท่าทางของซุนเฟิงเลย
ถ้าซุนเฟิงกล้าหาเรื่องจริงล่ะก็ คนที่เสียใจก็จะต้องเป็นมัน
เมื่อการประลองจบลง ผู้ฝึกยุทธคนอื่นๆ ก็แยกย้ายกันไปและกระจายข่าวนี้อย่างรวดเร็วเ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพรุ่งนี้ทั่วทั้งฐานหลินไห่จะต้องพูดถึงการประลองระหว่างเย่เทียนและซุนเฟิงอย่างแน่นอน และชื่อเสียงของเยเทียนจะต้องโด่งดังไปทั่วฐานหลินไห่ ซึ่งตรงกันข้ามกับซุนเฟิง
“น้องเย่เทียน!”
หมาป่าวายุและคนอื่นๆเดินเข้ามา
“หมาป่าวายุ คุณก็มาด้วย!”
เย่เทียนยิ้มและกล่าวทักทาย
“น้องเย่เทียน ระวังตัวด้วย ซุนเฟิงไม่ใช่คนที่พูดง่ายๆ ครั้งนี้เจ้าทําให้เขาเสียหน้ามาก บางทีเขาอาจแก้แค้นเจ้าก็ได้?” หมาป่าวายเตือน
“วางใจเถอะ ข้ามีแผน!”
เย่เทียนพยักหน้า
หมาป่าวายุไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่กล่าวเตือนก็พอแล้ว ยังไงเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี
หลังจากแยกจากหมาป่าวายุและคนอื่นๆแล้ว เย่เทียนก็กลับมาถึงบ้านและเริ่มศึกษาทักษะดาบฟาดฟันวายุคราม
ทักษะดาบฟาดฟันวายุครามเป็นทักษะดาบระดับทองแดง มันเป็นเรื่องยากมากในการทําความเข้าใจ แต่เย่เทียนที่มีพรสวรรค์ด้านดาบระดับกลางสามารถฝึกฝนทักษะดาบฟาดฟันวายุครามได้จนถึงขั้นเชี่ยวชาญเช่นเดียวกับซุนเฟิง
มันเป็นเรื่องยากที่จะฝึกฝนจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบ เว้นเสียแต่ว่าเขามีโอกาสทําความเข้าใจเกี่ยวจํานงค์แห่งดาบ หรือเพิ่มพรสวรรค์ด้านดาบขึ้น
หลังจากนั้น ภารกิจหลักของเยเทียนก็เพิ่มมาอีกหนึ่งภารกิจนั่นก็คือการฝึกฝนทักษะดาบฟาดฟันวายุคราม
ในขณะที่เย่เทียนกําลังฝึกฝนอย่างหนัก ฐานหลินไห่ก็แพร่กระจายผลการต่อสู้ของเย่เทียน ที่ทําให้ซุนเฟิงพ่ายแพ้ในพริบตา!
ความสําเร็จเช่นนี้แม้แต่นักรบผู้เชี่ยวชาญก็ยากที่จะทําได้ แต่เย่เทียนกลับทํามันสําเร็จ
ตระกูลหลิน
เมื่อหลินว่านหลได้ยินข่าวจากคนในตระกูล ปฏิกิริยาแรกของเขาคือความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
“ความเร็วของเยเทียนนั้นเร็วมาก ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินพรสวรรค์ด้านความเร็วของเขาต่ำไป บางทีเย่เทียนอาจจะมีพรสวรรค์ด้านความเร็วระดับปานกลางหรือแม้กระทั่งระดับสูง!” หลินว่านหลีคาดเดา
เยเทียนที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ความแข็งแกร่งของเขาต้องเหนือกว่านักรบชั้นยอดไปแล้ว แม้แต่เมื่อเทียบกับนักรบผู้เชี่ยวชาญ เขาก็ไม่ได้อ่อนแอ
“น่าเสียดายที่ตระกูลซุนไม่ใช่ตระกูลที่จะยั่วยุได้ง่าย ขึ้นอยู่กับว่าเย่เทียนจะสามารถทนต่อการ แก้แค้นของตระกูลฮุนได้หรือไม่!”
หลินว่านหลีถอนหายใจ
เย่เทียนเป็นอัจฉริยะของฐานหลินไห่ ตามหลักแล้วเขาควรจะช่วยเย่เทียนต่อต้านตระกูลซุน แต่เขาไม่กล้าทําเช่นนั้น เพราะความแข็งแกร่งของตระกูลซุนนั้นแข็งแกร่งกว่าตระกูลหลินมาก
แม้ว่าตระกูลซุนจะไม่มีปรมาจารย์ แต่พวกมันก็มีนักรบผู้เชี่ยวชาญระดับสูงถึงสองคน และนักรบผู้เชี่ยวชาญทั่วไปอีกแปดคน
นอกจากนี้นักรบผู้เชี่ยวชาญสูงสองคนนั้นแข็งแกร่งกว่าเขามาก ก่อนหน้านี้เขาเคยต่อสู้กับนักรบผู้เชี่ยวชาญของตระกูลซุนมาก่อน และเขาก็พ่ายแพ้ในกระบวนท่าเดียว
ผู้ฝึกยุทธหลายคนในตระกูลซุนมีพรสวรรค์ด้านดาบ กล่าวกันว่าเป็นเพราะคนตระกูลซุนไม่ค่อยแต่งงานกับคนภายนอก พวกเขาส่วนใหญ่เลือกที่จะแต่งงานกับคนในตระกูลสาขา เพื่อที่จะรักษาความบริสุทธิ์ของสายเลือด มันจึงทําให้มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดคนที่มีพรสวรรค์ในด้านดาบ
และมีอีกเปล่าหรือว่า เนื่องจากการแต่งงานในเครือญาติ หลายคนที่เกิดมาในตระกูลซุนเกิดภาวะสมองเสื่อมหรือไม่ก็พิการ คนประเภทนี้จึงถูกสังหารอย่างลับๆ
ตระกูลซุนที่โหดร้ายเช่นนี้ไม่มีทางปล่อยเย่เทียนไปง่ายๆแน่
ภายในฐานเขียวเหล็ก ตระกูลซุนเป็นตระกูลใหญ่ติดห้าอันดับแรก
ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลซุน ตระกูลหลินจะกล่าต่อกรได้อย่างไร!
อาจกล่าวได้ว่านักรบผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลซุนสามารถกวาดล้างตระกูลหลินได้ทั้งหมด!
อีกด้านหนึ่ง
ที่พักตระกูลซุน
ในเวลานี้ซุนเฟิงกําลังระบายความโกรธอยู่ในที่พักของเขา เขาทําลายเฟอร์นิเจอร์ไปจํานวนมาก แม้กระทั่งคนรับใช้หลายคนก็ถูกทุบตีอย่างรุนแรง
“เฟิงเอ๋อ!”
ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาและมองไปที่เศษเฟอร์นิเจอร์ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นห้อง เขาขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เจ้ายังโกรธเกี่ยวกับความพ่ายแพ้ของการประลองอยู่อีกหรือ? ”
ชายวัยกลางคนผู้นี้เป็นบิดาของซุนเฟิง ซุนชิงเหอ เป็นนักรบผู้เชี่ยวชาญ แต่เป็นเพียงขั้นเริ่มต้นเท่านั้น แต่เขามีพรสวรรค์ด้านดาบทําให้เขามีพลังโจมตีเทียบเท่ากับนักรบผู้เชี่ยวชาญขั้นปลาย
“ท่านพ่อ!”
ซุนเฟิง สงบสติอารมณ์ลงเล็กน้อย เขาเดินไปหาซุนชิงเหอและกล่าว
“เจ้าพ่ายแพ้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่ทําไมเจ้าถึงหดหูนัก!”
ซุนชิงเหอกล่าว
“ท่านพ่อ ข้าอยากให้เย่เทียนตาย ท่านช่วยข้าได้หรือไม่?” ซุนเฟิงถาม
เขารู้ดีว่าด้วยความแข็งแกร่งของเขาไม่มีทางที่จะฆ่าเย่เทียนได้ และเขาไม่มีอํานาจพอที่จะสามารถระดมนักรบจากตระกูลฮุนได้ ดังนั้นเขาจึงต้องขอความช่วยเหลือจากพ่อของเขา
“ไม่ได้” ซุนชิงเหอปฏิเสธ
“ทําไม?” ซุนเฟิงไม่เข้าใจ
เย่เทียนแค่คนเดียว ต่อให้มีพรสวรรค์ในการฝึกฝนสูงแล้วอย่างไร ขอเพียงไม่เติบโต ต่อหน้าตระกูลซุนมันก็เป็นแค่มดปลวก
ตราบใดที่ซุนชิงเหอลงมือ เย่เทียนจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“เพราะตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่ดี!” ซุนชิงเหออธิบาย “แม้ว่าพวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งของฐานหลินไห่แล้ว แต่หลายคนในฐานหลินไห่ก็ยังมองว่าเราเป็นคนนอก รากฐานของเราจึงยังไม่มั่นคง หากพวกเราฆ่าอัจฉริยะอันดับหนึ่งของฐานหลินไห่ในตอนนี้ แม้ว่าตระกูลหลินจะไม่สร้างปัญหาให้กับพวกเรา แต่นักรบคนอื่นๆในฐานหลินไห่จะคิดอย่างไร? ไม่แน่ว่าอาจจะสร้างปัญหาให้เราในทุกด้าน ซึ่งมันจะมีผลต่อการพัฒนาตระกูลของเราอย่างมาก!”
“งั้นพวกเราจะไม่สนใจเย่เทียนเหรอ?”
ซุนเฟิงรู้สึกไม่เต็มใจ
“ไม่ เย่เทียนทําให้ตระกูลซุนของเราเสียหน้า แน่นอนว่าพวกเราไม่สามารถปล่อยเย่เทียนไปได้ แต่ในช่วงเวลานี้พวกเรายังไม่สามารถลงมือกับเย่เทียน แต่อีกไม่กี่เดือนตระกูลของเราจะตั้งหลักในฐานหลินไห่แล้วค่อยลงมือฆ่าเย่เทียนก็ยังไม่สาย!” ซุนชิงเหอให้คํามั่น
“ดี ปล่อยให้เย่เทียนมีชีวิตอยู่อีกสัก 2-3 เดือน!”
ใบหน้าของซุนเฟิงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ไม่กี่เดือนก็ไม่นาน ยังคงไม่เปลี่ยนไปมากนัก
ไม่ว่าจะเป็นซุนเฟิงหรือซุนซึ่งเหอ เขาก็ไม่คิดว่าเย่เทียนจะเติบโตขึ้นจนถึงจุดสูงสุดของนักรบผู้เชี่ยวชาญเพียงเวลาไม่กี่เดือน
เมื่อเป็นเช่นนี้ เวลาจึงค่อยๆ ไหลผ่านไป ทั่วทั้งฐานหลินไห่จึงสงบสุข
“ตระกูลซุนไม่ได้สร้างปัญหาให้ข้าหรือ?”
เย่เทียนที่ฝึกฝนมา 10 กว่าวันก็รู้สึกแปลกใจ