บทที่ 49 การยกระดับพรสวรรค์ - พรสวรรค์ใน การบ่มเพาะระดับสูงสุด!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

เย่เทียนถอนหายใจเมื่อซุนเฟิงที่เดินจากไป

ไม่เพียงแต่ส่งทักษะดาบระดับทองแดงที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้เขาเขียนเท่านั้น แต่ยังมอบพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงให้เขาอีกด้วย

ในขณะที่เขากําลังพูดคุยกับซุนเฟิง เขาก็แอบคัดลอกพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงของมัน

ในความเป็นจริงเย่เทียนต้องการคัดลอกทักษะดาบระดับกลาง แต่หากเลือกระหว่างทักษะดาบระดับกลางและพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูง เย่เทียนต้องการคัดลอกพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงมากกว่า เนื่องจากพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงของเขาตอนนี้ถึงขีดสุดแล้วและใกล้เคียงกับพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงสุด

หากเขาคัดลอกพรสวรรค์ด้านดาบระดับกลาง พรสวรรค์ในด้านดาบระดับกลางของเขาไม่มีทางเพิ่มขึ้นจนบรรลุขั้นต่อไป แต่หากคัดลอกพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงแล้ว เขาจะสามารถยกระดับพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงได้อย่างแน่นอน
เมื่อกลับเข้ามาในบ้าน

เย่เทียนก็เริ่มผสานพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงที่เพิ่งคัดลอกมาทันที กระบวนการประสานพรสวรรค์ในครั้งนี้ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดอะไร เย่เทียนสามารถหลอมรวมมันได้อย่างราบรื่น ร่างกายของเขามีเพียงแค่เหงื่อเท่านั้นที่ปรากฏออกมา

[มนุษย์: เย่เทียน

พรสวรรค์ในการฝึกฝน: สูงสุด

พรสวรรค์ความเร็ว: สูงสุด

พรสวรรค์ด้านดาบ: ปานกลาง

พรสวรรค์เงาทมิฬ: ระดับเริ่มต้น

พรสวรรค์ในการรักษา: สูงสุด

พรสวรรค์ด้านความแข็งแกร่ง: ระดับสูง]

“เป็นอย่างที่คิด พรสวรรค์ของเรากลายเป็นระดับสุดยอดจริงๆด้วย” เย่เทียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น

นี่คือพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงสุด! ตราบเท่าที่เขาฝึกฝนต่อไป เขาจะสามารถบรรลุถึงระดับปรมาจารย์ได้อย่างแน่นอน พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงก่อนหน้านี้มีโอกาสบรรลุเป็นปรมาจารย์ได้เพียง 10-20% เท่านั้น และแม้ว่าจะสามารถเลื่อนขั้นเป็นระดับปรมาจารย์ได้ แต่เส้นทางของพวกเขาก็จะถึงทางตัน ยากที่จะเลื่อนระดับต่อไป

แต่พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงสุดนั้นต่างกัน ปรมาจารย์ขั้นต้น กลาง หรือแม้แต่ขั้นปลาย สามารถบรรลุได้อย่างง่ายดาย เฉพาะตอนที่ทะลวงผ่านไปยังระดับถัดไปก็จะพบเจอปัญหาคอขวดเท่านั้น เพียงแค่ทําลายคอขวดนั้นได้ก็จะสามารถเลื่อนขั้นไปยังระดับถัดไป

“ด้วยพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงสุด เราไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการบรรลุไปยังระดับ ปรมาจารย์ จะถึงขั้นนั้นเมื่อไหร่ก็อยู่ที่เวลาแล้ว!”

เย่เทียนได้ทดลองผลของพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงสุด และเขาก็พบว่าพรสวรรค์ในการบ่มเพาะของเขาในตอนนี้ เหนือกว่าพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงถึง 2 เท่า หากรวมกับเทคนิครวบรวมลมปราณระดับกลางและเลือดของสัตว์อสูรระดับสูง ผลลัพธ์โดยรวมน่าจะเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า เนื่องจากการมีพรสวรรค์ของเขาสูงเท่าใด ก็ยิ่งต้องใช้เลือดของสัตว์อสูรมากขึ้นเท่านั้น

ด้วยพรสวรรค์ในการฝึกฝนระดับสูงสุด เย่เทียนมันใจว่าภายในสองเดือนเขาจะสามารถยกระดับกลายเป็นนักรบชั้นยอดขั้นสูงสุด ที่มีพลังถึง 100,000 จิน

วันรุ่งขึ้นก่อน 10.00 น.

เย่เทียนมาถึงจัตุรัสชุ่ยหมิง

จัตรัสสู่ยหมิงเป็นลานของห้างสรรพสินค้าที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และยังเป็นทางเข้าของตลาดมืด

เมื่อเย่เทียนมาถึงที่นี่ เขาก็เห็นคนมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักรบ

“เย่เทียน ในที่สุดเจ้าก็มา!”

ซุนเฟิงเดินไปหาเย่เทียนและพูดด้วยรอยยิ้ม

“ทําไมคนเยอะขนาดนี้?”

เย่เทียนมองไปรอบ ๆ และถามด้วยความสงสัย

ปกติแล้วที่นี่ไม่ควรมีคนมากมายขนาดนี้ อีกทั้งยังมีผู้ฝึกยุทธจํานวนมากมารวมตัวกัน เหตุการณ์เช่นนี้มันจะต้องเกี่ยวข้องกับซุนเฟิงอย่างแน่นอน

“ไม่มีอะไร ข้าแค่ประกาศเรื่องการเดิมพันของพวกเราเท่านั้นเอง!”

ซุนเพิ่งพูดเบา ๆ

สิ่งที่เขาต้องการคือชื่อเสียง มิฉะนั้นเขาจะไม่ท้าทายผู้คนไปทั่ว มันเป็นการตอบสนองความหยิ่งยโสของเขา

แม้ว่าเขาจะรังแกผู้ฝึกยุทธจากฐานหลินไห่อยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่สนใจ

ในความคิดของเขา อัจฉริยะของฐานหลินไห่เป็นเพียงชื่อเท่านั้น หากอยู่ในฐานเขียวเหล็กคนเหล่านั้นล้วนไม่ใช่อัจฉริยะ

การเอาชนะอัจฉริยะของฐานหลินไห่ และโจมตีผู้ฝึกยุทธของฐานหลินไห่นั้นเป็นประโยชน์อย่างมากสําหรับคนของฐานเขี้ยวเหล็กในการควบคุมฐานหลินไห่

อัจฉริยะคนอื่นๆ ในฐานหลินไห่ล้วนถูกเขาจัดการไปทั่ว เหลือแต่เย่เทียนเท่านั้น

ดังนั้นการต่อสู้ครั้งนี้จะต้องยิ่งใหญ่!

“เอาสิ่งเดิมพันออกมา!”

ซนเฟิงรีบเปิดปากของเขาก่อนที่เขาจะประลอง เขากลัวว่าเย่เทียนจะไม่มีทักษะดาบระดับ

ทองแดง

“ตกลง!”

เย่เทียนหยิบตําราลับของทักษะดาบระดับทองแดงออกมา

ซุนเฟิงหยิบตําราทักษะดาบระดับทองแดงออกมาเช่นกัน

ทั้งสองตรวจสอบตําราลับของอีกฝ่าย การดูง่ายๆ เช่นนี้ไม่มีทางแอบเรียนรู้ทักษะดาบได้ เพราะทักษะดาบนั้นซับซ้อนมาก ทั้งยังมาพร้อมกับภาพหลายภาพ ภาพแต่ละภาพยังแฝงไว้ด้วย ความลึกลับของทักษะดาบระดับทองแดง ถึงแม้จะมีความจําที่ดีก็ไม่สามารถเรียนรู้ได้ มันต้องอาศัยการทําความเข้าใจอย่างลึกซึ้งจึงจะสามารถเรียนรู้ทักษะดาบได้

ดังนั้นการสร้างตําราทักษะดาบทุกเล่มจึงเป็นเรื่องยาก นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมทักษะดาบจึงไม่แพร่หลาย

“ตําราลับเป็นของจริง งั้นมาเริ่มกันเลย!”

เย่เทียนและซุนเฟิงยืนอยู่กลางจัตุรัสฮียหมิง คนอื่นๆแยกย้ายกันไป

ในเวลานี้ นักรบหลายคนต่างพูดคุยกัน

“เย่เทียนเป็นใคร? เขาเป็นนักรบชั้นยอดด้วยเหรอ?

“ข้าได้ยินมาว่าเย่เทียนมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูง ตอนนี้เขาเป็นนักรบชั้นยอดแล้ว แต่ตัวตนของเขาค่อนข้างลึกลับ ดังนั้นไม่แปลกที่พวกเราจะไม่รู้จัก”

“เย่เทียนมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูง ซุนเฟิงเป็นอัจฉริยะในการบ่มเพาะระดับสูงเช่นกัน แต่ซุนเฟิงนั้นอายุมากกว่าเย่เทียน ความแข็งแกร่งของเขาย่อมเหนือกว่าเย่เทียนอย่างแน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นอย่างไร?”

“ข้าเองก็คิดว่าซุนเฟิงจะต้องชนะ เพราะซุนเฟิงมีพรสวรรค์ด้านดาบ และยังฝึกฝนทักษะดาบระดับทองแดง และสุดทนมันจนถึงขั้นเชี่ยวชาญอีกด้วย มันสามารถใช้พลังโจมตีได้ถึงสามเท่า! ด้วยพละกําลัง 50,000 จิน เขาสามารถระเบิดพลังโจมตีได้ 150,000 จิน นักรบชั้นยอดของฐานหลินไห่ของเราไม่ใช่คู่มือของซุนเฟิง และนักรบผู้เชี่ยวชาญก็ไม่กล้าลงมือ คาดว่าคงไม่มีใครสามารถเอาชนะซุนเฟิงได้! ”

“ใช่แล้ว ความหวังของเยเทียนที่จะชนะต่าเกินไป!”

เกือบทุกคนคิดว่าเย่เทียนจะพ่ายแพ้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคาดหวัง

คนกลุ่มนี้ก็คือทีมล่าหมาป่าวาย!

“หัวหน้า เย่เทียนน่าจะมีโอกาสชนะใช่ไหมครับ?” นักรบจากทีมล่าหมาป่าวายุถามด้วยเสียง

“น่าจะเป็นไปได้ แต่มันก็ค่อนข้างยาก ซุนเฟิงมีพลังโจมตีที่เทียบได้กับนักรบผู้เชี่ยวชาญ แม้ว่าน้องเยเทียนจะมีพรสวรรค์ด้านความเร็ว และวิชาดาบของเขาก็แข็งแกร่งมาก แต่ความได้เปรียบของเขาก็ไม่ได้มากมายนัก ถ้าคิดว่าเขาสามารถเอาชนะได้อย่างฉิวเฉียด!”

หมาป่าวายุประเมิน

เขาคํานวณจากความเข้าใจของเขาที่มีต่อเย่เทียน แต่เขาก็ยังไม่เคยคิดว่าเย่เทียนจะมีพลังที่แท้จริงเกินกว่าขีดจํากัดของนักรบผู้เชี่ยวชาญ
ไม่นานนัก การต่อสู้ก็ปะทุขึ้น!

พรึบ!

ร่างของซุนเพิ่งกลายเป็นภาพติดตาพุ่งเข้าใส่เย่เทียน เขายกดาบขึ้นและฟันออกไปอย่างฉับไว

ทักษะดาบฟาดฟันวายุครามถูกใช้ออกมา ปราณดาบพุ่งเข้าใส่เย่เทียน พลังโจมตีของดาบนี้ เพิ่มขึ้นถึง 300,000 จิน แม้ว่าความเร็วของดาบจะไม่เร็วนัก แต่ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ในระดับต่ากว่าขั้นนักรบผู้เชี่ยวชาญก็ยากที่จะหลบ

อย่างไรก็ตามฉากที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น

ร่างของเย่เทียนหายไปและดาบฟาดฟันวายุครามก็ฟันลงไปที่พื้นจนเกิดเป็นรอยแยกขนาดใหญ่ที่ยาวกว่า 10 เมตร แผ่นหินสีเขียวจํานวนมากแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

“ไม่ดีแล้ว!”

ซุนเฟิงตระหนักถึงความอันตราย

แต่ทันทีที่เขาคิดจะหลบ คมดาบก็พาดอยู่บนล่าคอของเขาอย่างแผ่วเบา

“ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ซุนเฟิงเหงื่อแตกพลั่ก เขาไม่ทันสังเกตการเคลื่อนไหวของเย่เทียน เลยไม่รู้ว่าเย่เทียนมาอยู่ด้านหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่

มันน่ากลัวมาก!

ซุนเพิ่งรู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร หากเย่เทียนต้องการ มันเพียงพอที่จะฆ่าเขาได้ในพริบตา

“มันมีพรสวรรค์ด้านความเร็วที่สูงมาก!”

ซุนเฟิง กล่าวออกมาโดยไม่รู้ตัว