ตอนที่ 541 ม้วนเช่นนี้จะนอนอย่างไร + ตอนที่ 542 อวี๋เหล่ามาเยี่ยมเยือน

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า

ตอนที่ 541 ม้วนเช่นนี้จะนอนอย่างไร

“ดึกดื่นมืดค่ำ ควรนอนได้แล้ว”

หลิงโม่หานอุ้มนางพลางสาวก้าวเดินไปห้องด้านใน ไม่สนใจว่านางจะดิ้นร้องเสียงเบา จนกระทั่งมาถึงข้างเตียงถึงจะวางนางลงด้านบน จากนั้นค่อยแก้เสื้อคลุมตัวนอก ดึงเคราหนาบนหน้าออก พลางมองสาวน้อยที่กำลังกอดผ้าห่มก+ถลึงมองเขา “เจ้านอนฝั่งใน ข้านอนฝั่งนอก”

“นะ นะ นี่ท่านจะนอนที่นี่หรือ?”

เธอเบิกตากว้าง ผู้ชายคนนี้พูดเองว่าตั้งแต่พบเธอก็ควบคุมตัวเองไม่ได้แม้แต่น้อย นึกไม่ถึงว่ายังกล้าวิ่งมาเบียดบนเตียงเดียวกันกับเธออีก? นี่มันจังหวะฟืนแห้งไฟแรงแค่แตะก็ปะทุแล้ว!

“ใช่” เขาพยักหน้า นัยน์ตาฉายยิ้มวาบผ่าน

“ไม่ได้!” เธอปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะคิด ครอบครองอาณาเขตของตนเองราวกับเสือน้อย “ท่านกลับไปห้องข้างๆ เลย!”

“เพื่อรับประกันความปลอดภัยเจ้า ตลอดทางต่อจากนี้ข้าจะพักห้องเดียวกับเจ้า นอนร่วมเตียงเดียวกัน ปฏิเสธไปก็เปล่าประโยชน์ เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัว” เขาถอดเสื้อนอกและยังแก้เชือกชุดซับใน เฟิ่งจิ่วที่ครอบครองทั้งเตียงไว้เห็นแล้วดวงตาเบิกโต สีหน้าตกตะลึง

“ยะ ยะ อย่าบอกข้านะว่าปกติท่านไม่สวมเสื้อผ้านอน?” พูดออกไปแล้วเธอก็กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว สองตาฉายแววเจ้าเล่ห์ขึ้นมา

เห็นก่อนหน้านี้นางยังปฏิเสธ ถลึงตาจ้องเขาอย่างเกรี้ยวกราด เวลานี้กลับกลืนน้ำลายลงคอ สองตายิ่งฉายแววเจ้าเล่ห์จ้องมองเขาถอดเสื้อตรงๆ หลิงโม่หานจึงชายตามองอย่างอดไม่ได้ มุมปากยกขึ้นน้อยๆ อย่างที่ไม่อาจสังเกต “หากเจ้ามีความคิดเช่นนั้น ข้ายินดีอย่างยิ่งที่จะร่วมด้วย”

“เฮ้อ! ท่านทำเช่นนี้ข้าคงขายไม่ออก” ตอนเห็นเขาถอดรองเท้านั่งลงข้างเตียง เธอทอดถอนใจขึ้นมาอย่างจนใจ

“ไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายเจ้าจะแต่งกับข้าเท่านั้น” คำพูดเขาเอาแต่ใจ ยิ้มหัวอยู่บ้าง ไม่ได้นอนลงทันทีแต่หยิบผ้าห่มมาห่อนางเป็นก้อน จากนั้นค่อยนอนลงฝั่งด้านนอกและโอบนางไว้ในอ้อมกอดทันที

เขาไม่สนใจสาวน้อยที่เบิกตาด้วยสีหน้าตะลึง เพียงลูบศีรษะนางเบาๆ “เด็กดี นอนเสียเถอะ!”

“ท่านห่อข้าเช่นนี้จะนอนได้อย่างไร?” เธอถลึงตา เห็นแขนขาตัวเองล้วนถูกห่อไว้ในผ้าห่ม ทั้งร่างเผยให้เห็นเพียงศีรษะ สีหน้าจึงหมดคำพูดทันใด

เช่นนี้จะนอนได้หรือ เช่นนี้นางจะหลับลงหรือ ม้วนเธอเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน?

“หลับตาก็นอนได้แล้ว” เขาโอบกอดสาวน้อยในผ้าห่ม คิดว่าทำเช่นนี้ตนจะไม่คิดฟุ้งซ่าน

“ท่าน…” เฟิ่งจิ่วถลึงตามอง เพิ่งเอ่ยก็ถูกจี้จุดชีพจรไว้ หลับสนิทไปทันที

“เช่นนี้ก็หลับได้แล้ว นอนเถอะ! รอข้าควบคุมตัวเองได้ดีขึ้นอีกหน่อย เจ้าจะไม่ต้องโดนห่อเช่นนี้” เขากระซิบด้วยน้ำเสียงขบขัน คิดว่าคุ้นชินกับการมีนางนอนข้างกายเสียก่อนสักสองสามวัน ถึงเวลานั้นถึงนอนโอบนางไว้ในอ้อมกอดตรงๆ คงจะไม่คิดฟุ้งซ่านแล้ว

ค่ำคืนเคลื่อนคล้อย หลิงโม่หานบนเตียงกอดสาวน้อยที่นอนหลับและโดนห่อด้วยผ้าห่มหลับไปด้วยความอิ่มเอม เพราะความสุขและสำราญในใจ แม้จะหลับไป มุมปากก็ยังยกโค้งบางๆ…

ฮุยหลางกับอิ่งอีที่เฝ้าด้านนอกมองหน้ากัน ต่างถอนหายใจเบาๆ สุดท้ายนายท่านก็ใช้อำนาจอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้ พวกเขาสองคนเฝ้าอยู่ข้างนอกตั้งนาน ยังกลัวจริงๆ ว่าเจ้านายจะถูกภูตหมอไล่ออกมา!

แต่ตอนนี้ไม่ได้ยินเสียงข้างใน คงจะพักผ่อนกันหมดแล้ว อืม พักผ่อนเรียบร้อย วันคืนค่อยๆ ยาวนานขึ้น ทั้งหมดก็เป็นไปตามเหตุและผลแล้ว

………………………………………………….

ตอนที่ 542 อวี๋เหล่ามาเยี่ยมเยือน

เช้าตรู่วันต่อมา ไม่ว่าบนถนนใหญ่หรือภายในโรงเตี๊ยม ทุกอย่างเหมือนจะเป็นปกติ ในความเงียบสงบมีความคึกครื้น การต่อสู้บนถนนเมื่อคืนคล้ายเป็นเพียงภาพหลอน ไม่มีศพ ไม่มีเลือด

พ่อค้าหาบเร่เริ่มจัดแผงอีกครั้ง พร้อมตะโกนขายของ เริ่มทำงานในวันใหม่

ภายในเวลาประมาณชั่วยามหนึ่ง อวี๋เหล่าจากสมาคมนักปรุงยาและหัวหน้าสมาคมมาถึงโรงเตี๊ยมแห่งนี้ พวกเขาสอบถามเล็กน้อย ได้รู้ว่าเฟิ่งจิ่วพักอยู่โรงเตี๊ยมพรห้าประการ ดังนั้นวันนี้จึงเข้ามาแต่เช้าตรู่

เมื่อวานตอนออกจากการสอบประเมิน ผู้อาวุโสสูงสุดก็เรียกเขาไป แม้แต่หัวหน้าที่เก็บตัวปรุงยายังตกใจ ทั้งสามปรึกษาหารือกัน ยิ่งคิดว่าไม่อาจปล่อยนักปรุงยามากพรสวรรค์ที่อนาคตยาวไกลเช่นนี้หลุดลอยไปได้

ยากนักที่เขาจะมาสอบประเมินเหรียญตราถึงสมาคมนักปรุงยา สอบคราวนี้เป็นระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ ระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์อายุสิบหก หากผ่านไปอีกสองสามปีจะต้องยิ่งโดดเด่นแน่ ถ้าพวกเขาปล่อยผู้มีพรสวรรค์เช่นนี้ไป เกรงว่าวันหลังจะต้องเสียใจมากแน่นอน

ด้วยเหตุนี้หลังจากหารือกัน อวี๋เหล่ากับหัวหน้าสมาคมจึงมาเยือนด้วยตัวเอง คิดว่าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพูดโน้มน้าวเฟิ่งจิ่วให้มาเป็นผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์ของสมาคมนักปรุงยาให้ได้ พวกเขาเข้าใจแจ่มแจ้งนัก ใช้เวลาอีกไม่กี่ปี ความสำเร็จของเด็กหนุ่มจะยิ่งใหญ่กว่าเดิม ถึงเวลานั้นหากพวกเขาอยากผูกไมตรีกับคนผู้นี้จะยิ่งทำไม่ได้

“คุณชายทั้งสอง ทะ ท่านหัวหน้าสมาคมนักปรุงยามาหาคุณชายชุดแดงท่านนั้นขอรับ”

เถ้าแก่นำทางขึ้นมาด้วยตัวเอง หัวใจเต้นรัวโครมคราม เขาเปิดโรงเตี๊ยมมาตั้งหลายปีเพียงนี้ยังเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก หัวหน้าตลาดมืดมาเยี่ยมเยือนเอง แม้แต่หัวหน้าสมาคมนักปรุงยากับนักปรุงยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์แซ่อวี๋ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังยังมาพบคุณชายชุดแดงถึงโรงเตี๊ยมพวกเขา

ความจริงทุกปีล้วนมีเรื่องแปลก ปีนี้ยิ่งมีมากเป็นพิเศษ หัวใจเขารู้สึกว่าตั้งแต่พวกคุณชายชุดแดงเข้ามาพักก็ต้องเตรียมรับการปะทะตลอด หากยังมีเรื่องเช่นนี้อีกสองสามครั้ง เดาว่าคงได้ล้มป่วยจริงๆ แล้ว

ฮุยหลางกับอิ่งอีต่างไม่รู้จักหัวหน้าสมาคมนักปรุงยากับนักปรุงยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์แซ่อวี๋ ด้วยเหตุนี้ เมื่อได้ยินว่าคนที่มาหาเป็นหัวหน้าสมาคมนักปรุงยา จึงพินิจมองทั้งสองอย่างค่อนข้างแปลกใจ ไม่รู้ว่าเป็นคนไหน

ในขณะที่ฮุยหลางกับอิ่งอีพินิจมองคนทั้งสอง พวกเขาสองคนก็มองประเมินพวกเขา เห็นสองคนแม้แต่งกายเช่นทหารอารักขา แต่กลิ่นอายวรยุทธ์กลับน่าสะพรึงอย่างยิ่ง ในใจเลยแอบเสียขวัญโดยอย่างห้ามไม่อยู่

ใบหน้าอวี๋เหล่าเผยแววยิ้มออกมาอย่างไม่ชัดเจน บอกว่า “ข้าผู้เฒ่าแซ่อวี๋ ท่านนี้คือหัวหน้าสมาคมเรา วันนี้มาหาเสี่ยวจิ่วเพราะมีเรื่องอยากคุยด้วย สองท่านไปบอกต่อแทนทีเถอะ!”

ได้ยินเช่นนี้ ฮุยหลางสวนทันทีว่า “อ้อ ที่แท้ท่านคือ… นักปรุงยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์อวี๋เหล่า!” เดิมเขาจะพูดว่าที่แท้ท่านคือตาเฒ่าอวี๋ที่คุณชายจิ่วเคยพูดไว้! แต่คิดๆ แล้ว เมื่อคำพูดมาถึงปากก็เปลี่ยนไป

“เป็นข้าเอง” อวี๋เหล่าไม่รู้ความคิดเขา และไม่รู้ว่าหลังจากกลับมาเฟิ่งจิ่วตีโพยตีพายเพราะพลาดเสียผลประโยชน์ ยามนี้ยังคงเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้ม “ไม่ทราบว่าเสี่ยวจิ่วเขา…”

“คุณชายจิ่ว! เมื่อคืนเหมือนจะนอนค่อนข้างดึกจึงยังไม่ตื่นขอรับ” ฮุยหลางพูด “เช่นนั้นทั้งสองท่านไปนั่งชั้นล่างก่อนเถอะ ข้าจะไปรายงาน…”

ยังเอ่ยไม่ทันจบ ก็เห็นหลิงโม่หานในชุดคลุมสีดำไว้เคราหนาเดินออกมา ชำเลืองมองเหล่าคนนอกห้อง สายตาหยุดลงบนร่างอวี๋เหล่ากับหัวหน้าสมาคม ถามเสียงเข้มว่า “พวกเจ้ามาหานางเรื่องอะไร?”

“ใต้เท้าคือ?”

“เขาคือนายท่านของพวกเรา และเป็น…ของคุณชายจิ่ว…อืม…” ฮุยหลางพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ไม่รู้จะเอ่ยคำด้านหลังอย่างไร