ตอนที่ 539 ท่านมาทำไม? + ตอนที่ 540 สวยหรือไม่?

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า

ตอนที่ 539 ท่านมาทำไม?

เฟิ่งจิ่วกลับกลอกตาอย่างไม่ไว้หน้า เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “มีคนจะฆ่าท่านนะ! ยังยิ้มได้อีก” น้ำเสียงชะงักไป จากนั้นสายตาหยุดลงบนร่างคนชุดดำพวกนั้น สีหน้าแปลกใจ “ทำไมข้าไม่รู้ว่ามุมมืดยังมียอดฝีมือมากมายเพียงนี้คอยอารักขา?”

แต่ละคนไม่ใช่ระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุดก็เป็นกำเนิดวิญญาณ รู้สึกเหมือนเป็นสิ่งที่หาได้ถมเถ เจ้าคนนี้มาจากที่ไหนกันแน่? กลุ่มอำนาจเช่นนี้ ต่อให้เป็นตระกูลชั้นสูงสุดก็ยังไม่มีทางเทียบได้!

หนำซ้ำที่ผ่านมา การระแวดระวังภัยของเธอไม่ได้ด้อย! คนมากมายเพียงนี้คุ้มกันอยู่ในมุมมืด นึกไม่ถึงว่าตลอดทางล้วนไม่ทันสังเกตพบ? การระวังภัยของเธอแย่ลง หรือฝีมือในการเก็บซ่อนกลิ่นอายของคนพวกนี้ยอดเยี่ยมกันแน่?

“เจ้าไม่รู้จักพวกเขา แต่พวกเขารู้จักเจ้า” หลิงโม่หานกล่าว แล้วมองเหล่าคนตรงหน้าที่กำลังต่อสู้กัน โอบเอวนางไว้พลางเอ่ย “ที่นี่ยกให้พวกเขาจัดการ พวกเรากลับกันก่อนเถอะ”

ได้ยินแล้วเฟิ่งจิ่วมองเหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวา มีเธอคอยขวางกั้นแรงกดดันให้พวกเขา ยามนี้สีหน้าของสองคนจึงค่อยยังชั่วขึ้นมาก แต่กลิ่นอายการต่อสู้ที่นี่แข็งแกร่งเกินไป ด้วยกำลังพวกเขาคงรับไม่ไหวจริง ดังนั้นจึงพยักหน้าลง

“ได้ พวกเรากลับไปกันก่อนเถอะ!”

ฮุยหลางกับอิ่งอีคุ้มกันพวกเขาออกไป ส่วนคนชุดดำพวกนั้นที่ออกมาจู่โจมก็ถูกคนของหลิงโม่หานล้อมโจมตี…

โชคดีที่บนถนนยามดึกไม่มีชาวบ้าน ส่วนร้านค้าสองฝั่งก็ปิดประตูหน้าต่างซ่อนตัวนานแล้ว ภาพการต่อสู้นี้เริ่มขึ้นกลางดึก และจบลงกลางดึก

ครั้นกลับถึงโรงเตี๊ยม เฟิ่งจิ่วสั่งคนเตรียมน้ำอาบ หลังจากเช็ดผมจนแห้งก็สวมชุดซับในออกมา เรียกเหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาด้านนอกมาหา “พวกเจ้าสองคนเข้ามา”

“นายท่าน” คนทั้งสองเข้าห้องแล้วมายังเบื้องหน้าเฟิ่งจิ่ว

เฟิ่งจิ่วมองสองคนที่แม้กลิ่นอายจะผ่อนคลายลง แต่สีหน้ายังคงขาวซีดเล็กน้อย หยิบขวดยาสองใบจากในห้วงมิติออกมา “ยาสองขวดนี้พวกเจ้าดื่มคนละขวด คืนนี้ก็พักผ่อนแต่หัวค่ำแล้วกัน!”

สองคนไม่รับ แต่ก้มหน้าลงต่ำ “นายท่าน ขออภัยด้วย”

เวลานี้พวกเขาถึงจะรู้ ในราชวงศ์เฟิ่งหวงพวกเขาอาจคุ้มกันอยู่เบื้องหน้านายท่านได้ แต่เมื่อมาข้างนอก ด้วยกำลังของพวกเขา หากพบกับผู้แข็งแกร่งเข้า แม้แต่ตัวเองพวกเขายังดูแลไม่ได้ด้วยซ้ำ

ทว่าเฟิ่งจิ่วกลับยิ้มน้อยๆ พูดเสียงเบาว่า “กำลังของคนพวกนั้นต่ำสุดยังอยู่ระดับหลอมแก่นพลัง เอะอะก็ใช้ผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณหลายคนจัดการ ที่มาพวกเขาต้องไม่ธรรมดาแน่ ไม่ต้องพูดถึงพวกเจ้าหรอก หากข้ากับหงส์ไฟน้อยไม่มีพันธสัญญาณกันก็ขวางแรงกดดันจากผู้แข็งแกร่งเช่นนั้นไม่ไหว”

“อีกอย่าง พวกนั้นล้วนเป็นตัวประหลาดเฒ่าที่มีอายุ พวกเจ้าอายุยังน้อย ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ ฝึกบำเพ็ญไปย่อมมีสักวันที่จะแข็งแกร่งขึ้นแน่” ขณะที่เอ่ยคำพูดนี้ จู่ๆ เธอก็นึกขึ้นได้ คนพวกนั้นเป็นตัวประหลาดเฒ่ามีอายุ เช่นนั้นหลิงโม่หานเล่า? วรยุทธ์เขาลึกซึ้งไม่อาจประมาณ อายุยี่สิบห้า ทำไมถึงมีบุคคลพิสดารผิดธรรมชาติเช่นนั้นอยู่ได้?

เมื่อได้ยินคำพูดนาง สองคนพี่น้องก็มองหน้ากัน ในใจมีกระแสธารอุ่นแวบผ่าน นายท่านยังปลอบโยนและให้กำลังใจพวกเขาในเวลาเช่นนี้ พวกเขาจะทำให้นางผิดหวังได้อย่างไร?

“ขอบคุณนายท่านมาก พวกเราทราบแล้ว” ทั้งสองคนคารวะด้วยความเคารพ หลังจากรับยามาถึงจะออกจากห้องไป

อีกด้านหนึ่ง หลังจากสั่งการฮุยหลางกับอิ่งอีให้เตรียมการบางอย่าง หลิงโม่หานก็มาที่ห้องของเฟิ่งจิ่ว เห็นนางเท้าแก้มนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงโต๊ะ จึงเอ่ยถาม “กำลังคิดอะไร?”

เฟิ่งจิ่วเหลือบมองเขา ถามว่า “ท่านมาทำไม?”

………………………………………………….

ตอนที่ 540 สวยหรือไม่?

หลิงโม่หานเห็นนางสวมแค่ชุดซับใน ตรงคอเสื้อยังหลวมโพรก แววตาจึงอดวูบไหวเล็กน้อยไม่ได้ “เจ้าบอกไม่ใช่หรือว่าไม่มีข้าอยู่ข้างกายแล้วนอนไม่หลับ?”

เขามานั่งลงข้างโต๊ะ สายตากวาดมองและหยุดลงตรงเนินอกนั้นโดยไม่รู้ตัว “ดังนั้นข้าจึงเข้ามา”

เห็นดวงตาเขามองคอเสื้อเธอตลอด เฟิ่งจิ่วก้มหน้ามอง เธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จไม่ได้รัดหน้าอก เสื้อซับในหลวมเล็กน้อย ตรงคอเสื้อจึงเห็นเนินอกวับๆ แวมๆ อันที่จริงก็เห็นเพียงผิวขาวราวหิมะ ซ้ำยังมองไม่เห็นอย่างอื่นจริงๆ

แต่ดวงตาของชายคนนั้น ตั้งแต่เข้ามาสักพักหนึ่งก็มองตรงคอเสื้อเธอถึงสองรอบแล้ว หรือว่าผู้ชายเป็นเช่นนี้กันหมด? เห็นภาพเนินอกงดงามก็จะลอบมองโดยไม่รู้ตัว?

“สวยหรือไม่?” มุมปากเธอโค้งขึ้นเล็กน้อย เอ่ยถามอย่างยิ้มแย้ม

“อะแฮ่ม” หลิงโม่หานกระแอมไอ ละสายตาออกไปอย่างขัดเขิน มีความกระอักกระอ่วนที่แอบมองแล้วถูกจับได้คาตา

“เช่นนี้เล่า?” เธอดึงๆ เสื้อซับในตัวหลวม เผยให้เห็นหัวไหล่กลมมนขาวเนียนเกลี้ยงเกลา ไม่ทันไรก็ขยิบตาให้เขาอีก

หลิงโม่หานที่เดิมทีละสายตาไปอย่างเก้อกระดาก ยามนี้มองไปทางนางอีกตามสัญชาตญาณ สายตาหยุดลงบนหัวไหล่น่าเย้ายวน แววตาลึกซึ้งและมีความเร่าร้อน ถามด้วยเสียงแหบพร่าว่า “นี่เจ้ากำลังยั่วยวนข้ารึ?”

“หึ! ไม่ได้เรื่อง”

เฟิ่งจิ่วหลุดหัวเราะพลางชำเลืองมองเขาอย่างขบขัน ดึงชุดซับในให้เรียบร้อย “คุมตัวเองได้แค่นี้ยังกล้าวิ่งมาห้องข้ากลางค่ำกลางคืนอีก?”

เขาสงบจิตสงบใจลงเมื่อได้ยิน ชายตามองนาง “ตั้งแต่พบเจ้าข้าก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ ดังนั้นเจ้าอย่าพยายามยั่วยวนข้าจะดีที่สุด มิเช่นนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจะโทษข้าไม่ได้”

“จัดการคนพวกนั้นแล้วหรือ?” นางมองเขาพลางรินน้ำให้

หลิงโม่หานรับน้ำไปจิบเพื่อระงับไฟในใจ “อืม จัดการหมดแล้ว” ท่าทางเขาสงบนิ่งนัก น้ำเสียงกระทั่งว่าไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ชัดเจนว่าเรื่องเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก และคุ้นเคยจนกลายเป็นเรื่องปกตินานแล้ว

“คืนนี้เป็นวันที่สิบห้า เหมือนจะชอบเลือกลงมือคืนที่สิบห้า” มือหนึ่งของเธอเท้าแก้ม มองเขาพลางถาม “ยาท่านยังเหลืออีกเท่าไร กินแล้วคงไม่มีปฏิกิริยาอะไรกระมัง?”

“แม้เป็นยาทิพย์ธาตุไฟที่ล้ำค่าก็ยังระงับไอเหมันต์พันปีในร่างข้าไม่ได้ เจ้าคงใช้เลือดหงส์ไฟในตำนานสินะ!” ชัดเจนว่าเป็นคำถาม แต่ความหมายในคำพูดกลับมั่นใจยิ่งนัก

“อืม ฉลาดมาก” เธอแย้มยิ้ม แววตาพลันเปลี่ยน น้ำเสียงมีความภูมิใจเล็กน้อย “เพราะอย่างนั้น เรื่องที่ข้าขโมยโสมพันปีและยังมีเรื่องที่โกงเงินท่าน เทียบแล้วถือว่ามากพอกัน ต้องรู้ไว้ว่ายาของข้าขอไม่ได้ง่ายๆ”

ได้ยินคำพูดนี้ หลิงโม่หานหลุดยิ้มโดยพลัน บอกว่า “ทีหลังเจ้าต้องการสิ่งใดก็เอ่ยปากบอกข้าตรงๆ เถอะ”

“บอกแล้วท่านจะให้หรือ?” เธอขบคิดในใจ ถามพลางหยีตายิ้ม

“ใช่ ของของข้าจะเป็นของเจ้าทั้งหมด” กล่าวจบ เขามองนางอย่างลึกซึ้ง “แม้แต่ข้าก็ยังเป็นของเจ้า”

“เหอะๆ ไม่ต้องหรอกท่าน!”

เธอยิ้มอย่างกระดาก แม้หื่นกามแต่ก็ไม่มีความกล้าจะกระโจนหาเขา แค่นึกภาพว่าเขาถูกเธอกดไว้บนร่าง เอ่อ ภาพเช่นนั้นงดงามยิ่ง ไม่มีทางจินตนาการได้…

หลังจากดื่มน้ำ หลิงโม่หานวางแก้วในมือลง แววตาลึกล้ำหยุดลงบนร่างนางแล้วลุกยืนขึ้นทันใด ยื่นมือออกไปอุ้มร่างนางขึ้นมา เฟิ่งจิ่วตกใจจนร้องเบาๆ “ท่านทำอะไร? ดึกดื่นมืดค่ำ รีบวางข้าลง”