ตอนที่ 537 การจู่โจมกลางค่ำคืน
ได้ยินคำพูดนี้ แม้เฟิ่งจิ่วจะหน้าหนา ยามนี้ก็เขินอายขึ้นมาเช่นกัน ใบหน้ารูปไข่งามลออแดงระเรื่อ เข้าคู่กับท่าทางขัดเขินเสียจนโกรธเคืองนั้น ในสายตาหลิงโม่หานนับเป็นภาพน่าหลงใหลที่เจริญตาเจริญใจ
หลิงโม่หานไม่ทำอะไรต่อ เพียงยกมุมปากเล็กน้อย เผยรอยยิ้มตรงริมฝีปาก เสียแต่เคราหนาเกินไปจึงมองไม่เห็น
“ข้าจะไปเดินเล่นตลาดกลางคืนในเมืองเป็นเพื่อนเจ้าแล้วกัน!” เขาจูงมือนางลุกยืนขึ้น พาเดินออกไปโดยไม่รอนางปฏิเสธ
สี่คนด้านหลังมองหน้ากัน ต่างยิ้มแย้มและตามออกไป
เหล่าแขกชั้นหนึ่งหัวเราะเสียงดัง เห็นของแปลกมามากมายเสียจนชินตาแล้ว หนำซ้ำตั้งแต่คนพวกนี้เข้ามาพักพวกเขาก็มองออกว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา ไม่ผิดคาด วันนี้เพิ่งจะได้รับการยืนยัน
ดูท่าทางสายตาพวกเขายังร้ายกาจอยู่มาก การหยอกเย้าทางสายตาระหว่างชายหนุ่มทั้งสองไม่มีทางหนีรอดสายตาพวกเขาไปได้
ตอนที่เฟิ่งจิ่วตื่นเย็นย่ำแล้ว ซ้ำยังใช้เวลาอยู่ชั้นหนึ่งอีกสักพัก ยามนี้ถูกเขาจูงออกจากโรงเตี๊ยม เห็นร้านค้าแผงลอยสองฝั่งด้านนอกแขวนโคมไฟสีแดง คนสัญจรบนถนนคึกคักยิ่ง จึงทิ้งเรื่องภายในโรงเตี๊ยมไว้เบื้องหลัง
แต่เมื่อเธอก้มหน้ามองมือที่ชายหนุ่มจับจูงไว้ สิบนิ้วสอดประสาน ทำไมถึงได้รู้สึกแปลกๆ?
“ท่านอา ท่านคิดจะพาข้าเดินเล่นเช่นนี้หรือ?” เธอยกๆ มือที่สิบนิ้วเกี่ยวกัน พร้อมยิ้มตาหยีจ้องเขา “นี่ท่านคิดจะดึงดูดสายตาคนทั้งตลาดหรือไร!”
เดาว่ามองไปทั่วตลาดกลางคืนก็หาคู่ที่เหมือนกับพวกเขาไม่ได้
เฮ้ยๆๆ! คู่อะไร? เธอไม่ได้คู่กับเขาเสียหน่อย
“ข้าไม่สนใจ เจ้าจะสนอะไร?” เขาชายตามองนาง ความรู้สึกกลับสุขใจนัก
ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดว่าเขาจะจูงมือผู้หญิงคนหนึ่ง สิบนิ้วประสานกับนางพลางเดินเล่นบนถนนใหญ่ช้าๆ เขารู้แต่ว่าความรู้สึกเช่นนี้วิเศษนัก ทำให้หัวใจเขาแสนสุขสม
หางตามองสาวน้อยข้างกายที่กำลังมองไปรอบๆ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย รู้สึกว่ามีนางข้างกายก็เหมือนมีโลกทั้งใบ ความรู้สึกอิ่มเอมและสุขใจเช่นนั้น คนอื่นๆ ไม่มีทางเข้าใจ
แต่คว้าตัวนางช่างง่ายดาย คว้าหัวใจกลับยากเย็น เขาต้องทำอย่างไรนางถึงจะรักเขาบ้าง?
ดูท่าเขาต้องคิดดีๆ เสียหน่อยว่าจะลองใช้แผนหนุ่มรูปงามดีหรือไม่
หลังจากสองคนเดินเล่นจนดึกดื่นและกินมื้อเย็นแล้วถึงจะกลับไป คนสัญจรบนถนนบางตาลง มีเพียงโคมไฟสีแดงที่แขวนสูงเหนือหน้าร้านค้าสองฝั่งแกว่งเบาๆ ท่ามกลางสายลมยามค่ำคืน ดูแล้วเงียบสงบอย่างยิ่ง
“เทียบกับของในเหลาสุราโรงเตี๊ยม ของว่างตามถนนมีเอกลักษณ์มากกว่าจริงๆ คืนนี้ข้ากินอิ่มมาก ถึงตอนนี้ก็ยังยัดไหว” ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยยิ้มอิ่มใจ
เห็นเธอพอใจง่ายดายเพียงนั้น นัยน์ตาหลิงโม่หานฉายแววยิ้มและอ่อนโยนเล็กน้อย “ในเมื่อเจ้าชอบ คราวหลังข้าจะพาเจ้าไปกินของว่างท้องถิ่นในทุกที่ที่ไป”
ได้ยินคำพูดนี้ หัวใจเธอสั่นไหวน้อยๆ สายตามองเขาที่ข้างกาย ความรู้สึกร้อยพันผสมปนเป ถึงขั้นรู้สึกปวดใจ
“เป็นอะไรไป?” หลิงโม่หานเอ่ยถาม เห็นนางก้มหน้าลงเล็กน้อย จึงแปลกใจกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไป
เฟิ่งจิ่วส่ายหน้า เพราะไม่รู้จะพูดอย่างไร ไม่รู้ว่าจะบอกเขาเช่นไร ไม่เข้าใจว่าต้องตอบรับความรู้สึกอย่างไร กลัวว่าจะตอบรับการทุ่มเทและความรักจากเขาไม่ได้
เห็นเช่นนี้ หลิงโม่หานกำลังจะเอ่ยปาก ทว่ากลิ่นอายทั่วร่างกลับเปลี่ยนไปทันใด ยื่นมือออกไปปกป้องเฟิ่งจิ่วไว้ในอ้อมแขน แววตาพลันเปลี่ยน สายตาดุร้ายมองไปยังจุดหนึ่ง
………………………………………………….
ตอนที่ 538 เขายิ้มแล้ว
เห็นเพียงบนถนนใหญ่ที่เดิมทีเหลือคนไม่กี่คน มีคนชุดดำหลายสิบคนโผล่ออกมาโดยพลัน บนร่างแต่ละคนต่างมีไอสังหารกระหายเลือดแผ่กระจาย มือถือกระบี่ยาวจู่โจมเข้ามาทางนี้ เพราะการปรากฏตัวของคนหลายสิบ เหล่าคนบนถนนที่เดิมทีกำลังเก็บร้านจึงตื่นตกใจ ต่างพากันทิ้งข้าวของหนีเอาชีวิตรอด
บรรยากาศทั่วท้องถนนพลันเปลี่ยนไปเพราะการปรากฏตัวของคนชุดดำหลายสิบคน กลิ่นอายและแรงกดดันกระหายเลือดเช่นนั้นปกคลุมบริเวณโดยรอบไว้ทันที ทำให้อากาศยิ่งหนาวเย็นขึ้น
เฟิ่งจิ่วที่รู้สึกผิดปกติถูกหลิงโม่หานคุ้มกันไว้ในอ้อมแขน ดวงตาฉายประกายเล็กน้อย ก่อนตบๆ แขนเขา “ปล่อยข้า” กำลังของคนพวกนี้ไม่ธรรมดาโดยสิ้นเชิง อย่างต่ำสุดก็มีวรยุทธ์ระดับหลอมแก่นพลัง หนำซ้ำในหมู่พวกนั้นยังมีหลายคนเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ!
ผู้แข็งแกร่งที่ลงมือเช่นนี้ไม่น่าจะพุ่งเป้ามาหาเธอแน่นอน แต่เป็นหลิงโม่หานต่างหาก
ไม่สิ อาจจะไม่ได้หมายหัวฐานะหลิงโม่หาน แต่เป็นฐานะที่แท้จริงของเขา! มิเช่นนั้นกลุ่มอำนาจไหนๆ ก็ไม่มีทางส่งผู้แข็งแกร่งมากมายเพียงนี้มาตามฆ่าในคราเดียว ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ลงมือ จะต้องคิดเอาชีวิตเขาเป็นแน่!
จริงด้วย คืนนี้เหมือนจะเป็นวันที่สิบห้า คนพวกนี้คล้ายจะชอบลงมือวันที่สิบห้า คิดแล้วคงนึกว่าร่างกายหลิงโม่หานในคืนที่สิบห้าอ่อนแอที่สุด เพราะไอเหมันต์พันปีในร่างจะออกฤทธิ์กระมัง!
แต่พวกเขาไม่รู้ว่ามียาเม็ดของเธอระงับอาการไว้ พิษเหมันต์พันปีแม้ไม่อาจแก้ได้ในตอนนี้ แต่ก็ไม่กำเริบแล้ว
บนร่างเธอมีอานุภาพกดดันจากสัตว์เทวะโบราณ ซ้ำยังมีหลิงโม่หานคุ้มครอง จึงไม่เกรงกลัวแรงกดดันและไอสังหารที่มาจากทุกทิศทาง ทว่าเหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาที่ตามมาด้านหลังกลับสีหน้าขาวซีดภายใต้แรงกดดันนี้ และกระอักเลือดออกมา
ฮุยหลางกับอิ่งอีขวางอยู่ด้านหน้านายทั้งสองในพริบตา ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณออกไป ระเบิดเบ่งบานกลางท้องฟ้ายามราตรีดุจดอกไม้ไฟ ทันใดนั้นคนชุดดำอีกหลายสิบปรากฏกายแล้วเข้าโจมตีคนชุดดำเบื้องหน้าจากทางด้านหลัง
“เหลิ่งซวงเหลิ่งหวาเข้ามานี่!” เธอตะโกนอย่างรวดเร็วให้ทั้งสองเข้ามาใกล้ ขณะเดียวกันก็แผ่กลิ่นอายเก่าแก่บนร่างออกมาก่อตัวเป็นเกราะกั้นพวกเขาจากแรงกดดันของผู้แข็งแกร่งโดยรอบ
เห็นภาพเช่นนี้ หลิงโม่หานก้มหน้ามอง แต่กลับไม่ปล่อยนางไป ยังคงโอบนางไว้ข้างกายและปกป้องในอ้อมแขน
กำลังของผู้มาเยือนต่ำที่สุดคือระดับหลอมแก่นพลัง แม้ฝีมือนางไม่เลว เขาก็ยังคงไม่วางใจให้นางออกห่างจากข้างกาย มีเพียงคุ้มกันไว้ในอ้อมแขน เขาถึงแน่ใจได้ว่านางจะไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
“คนพวกนี้มาตามล่าท่าน”
เฟิ่งจิ่วเอ่ยปากพร้อมขมวดคิ้ว “กำลังแข็งแกร่งมาก กลิ่นอายกระหายเลือดบนร่างแต่ละคนคละคลุ้งกว่านักฆ่าทั่วไป หนำซ้ำยังใช้วิธีสู้แบบไม่เสียดายชีวิต คู่ต่อสู้ท่านไม่ธรรมดาเลย!”
“กลัวแล้วรึ?” มุมปากเขายกขึ้นเล็กน้อย แววตาลึกล้ำหยุดลงบนใบหน้านาง
“กลัว?” เธอเลิกคิ้วขึ้นมองเขา ยิ้มตาหยีพลางถาม “หากข้าบอกว่ากลัว ท่านจะปล่อยมือหรือ?”
“ไม่มีทาง”
เขากอดนางแน่นขึ้น ดวงตาดำขลับจ้องมองนาง น้ำเสียงทุ้มต่ำที่มีแรงดึงดูดทั้งจริงจังและเอาแต่ใจ “สำหรับเจ้าข้าไม่มีวันปล่อยไป แต่เจ้าไม่ต้องกลัว แม้มีอันตรายข้าก็จะปกป้องเจ้า จะไม่ให้ใครทำร้ายเจ้าแม้แต่น้อยนิด”
ได้ยินคำพูดนี้ หัวใจเฟิ่งจิ่วสั่นสะท้านวูบหนึ่ง เต้นรัวตึกตักอย่างน่าผิดหวัง ท่ามกลางคมหอกคมดาบ เธอมองเขาอย่างตกใจ ก้นบึ้งหัวใจคล้ายมีเสียงหนึ่งกำลังบอกว่าอย่าลังเล ไม่ต้องหวาดกลัว ลองที่จะเชื่อ และลองที่จะรัก…
ทว่าคำพูดที่เปล่งออกไปกลับเป็น “เฮ้อ! ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าอยู่ใกล้กับท่านไม่มีเรื่องดี”
เห็นสาวน้อยมีสีหน้าจนใจทว่าไม่เกรงกลัว เขาก็ยิ้มออก
………………………………………………….