ตอนที่ 1364 ที่อยู่ของอวิ๋นเซียว (9) / ตอนที่ 1365 ที่อยู่ของอวิ๋นเซียว (10)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1364 ที่อยู่ของอวิ๋นเซียว (9)  

 

 

เขาไม่รู้ว่าจะปลอบหลินรั่วไป๋อย่างไรดี… 

 

 

“เสี่ยวไป๋” อวิ๋นลั่วเฟิงเดินไปหาหลินรั่วไป๋แล้วใช้มือลูบศีรษะนางเบาๆ ก่อนพูดอย่างอ่อนโยนว่า “โลกนี้เป็นโลกที่คนอ่อนแอเป็นเหยื่อของคนแข็งแกร่ง ถ้าเจ้าไม่ฆ่า เจ้าก็จะถูกฆ่า ดังนั้นในอนาคตถ้ามีคนมารังแกเจ้าเจ้าก็สามารถสังหารเขาได้ตามที่เจ้าต้องการ แล้วข้าจะจัดการที่เหลือเอง” 

 

 

“จริงหรือเจ้าคะ” หลินรั่วไป๋เงยหน้ามองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา “อาจารย์พูดถูกแล้ว! ถ้าใครรังแกข้า ข้าก็จะสังหารเขา” 

 

 

เด็กดีต้องเชื่อฟังอาจารย์ ในเมื่ออาจารย์บอกว่าการสังหารเป็นสิ่งที่ถูกต้องถ้านางฆ่าพวกเขาก็คงไม่เป็นอะไร 

 

 

“อาจารย์ พวกเขาก็หลอกข้าด้วยเหมือนกัน” หลินรั่วไป๋ชี้นิ้วไปที่ผู้คุ้มกันที่ยืนตัวสั่นอยู่ “พวกเขาหลอกพาข้ามาที่นี่แล้วพยายามจะถอดเสื้อผ้าข้า ข้าสังหารพวกเขาได้หรือไม่” 

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงพยักหน้า “ได้สิ” 

 

 

“ถ้าอย่างนั้น…ข้าจะฆ่าพวกเขา” หลินรั่วไป๋ยิ้ม รอยยิ้มของนางดูเจิดจ้า ใสซื่อและไร้เดียงสา 

 

 

ไม่มีใครคิดว่าคำพูดโหดร้ายพวกนี้จะออกมาจากของเด็กน้อยหน้าตาใสซื่อแบบนี้ 

 

 

“หยุด!” หลิงลี่โมโหขึ้นมาทันที เขาไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะกล้าสังหารคนของเขาต่อหน้าต่อตาแบบนี้! เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ก็รีบพุ่งเข้าไปหาหลินรั่วไป๋พร้อมทั้งปล่อยกลิ่นอายคลุมร่างกายจนเกิดเสียงดังสะนั่น 

 

 

ปัง!  

 

 

ทันใดนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงก็ขยับมาขวางหน้าหลินรั่วไป๋แล้วยกมือขึ้นรับการโจมตีของหลิงลี่ 

 

 

แล้วพลังฌานจำนวนมากก็ไหลแทรกซึมเข้าร่างนาง ทำให่นางถอยหลังไปหลายก้าวจนเกือบจะกระอักเลือดออกมา แต่นางก็ฝืนกลืนเลือดลงไป 

 

 

“อวิ๋นลั่วเฟิง” หงหลวนตะโกน 

 

 

“นายหญิง!” สีหน้าของเสี่ยวโม่และหั่วหั่วเปลี่ยนไปโดยไม่ตั้งใจ 

 

 

การโจมตีของหลิงลี่รวดเร็วมากและอวิ๋นลั่วเฟิงเองก็ว่องไวเหมือนกันจนทำให้คนที่เหลือตอบสนองไม่ทัน 

 

 

เมื่อเทียบกับความกังวลที่คนอื่นมีแล้ว สายตาของหลิงลี่ฉายแววตกใจ “เป็นไปไม่ได้ นางเป็นแค่ผู้ฝึกณานขั้นราชันปราชญ์ระดับต่ำ นางควรจะตายทันทีที่โดนข้าโจมตี แต่ทำไมนางถึงแค่ถอยหลังไปสองสามก้าวเท่านั้น เป็นไปไม่ได้!” 

 

 

ตอนนั้นเองหลังจากที่หลินรั่วไป๋หดกำปั้นที่ย้อมไปด้วยเลือดกลับมาอย่างไม่รีบร้อน แล้วก็มีรูปปรากฏขึ้นที่หน้าอกของผู้คุ้มกัน นางแลบลิ้นเล็กๆ ออกมาเลียเลือดที่มือ ทำให้รูปลักษณ์ของนางดูชั่วร้ายมาก ไม่เหลือร่องรอยความไร้เดียงสาเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว 

 

 

“อาจารย์?” ทันทีที่หลินรั่วไป๋หันหลังกลับมาก็เห็นใบหน้าซีดเซียวของอวิ๋นลั่วเฟิง สายตานางว่างเปล่าไปชั่วครู่นางก็รีบเดินมายืนข้างอวิ๋นลั่วเฟิง “อาจารย์ ท่านบาดเจ็บหรือเจ้าคะ” 

 

 

“ข้าไม่เป็นไร” อวิ๋นลั่วเฟิงส่ายหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย 

 

 

ดวงตาสีดำของหลินรั่วไป๋ค่อยๆ ถูกย้อมไปสีแดงสดดั่งเลือด นางกำมือเล็กๆ ของแน่นขณะที่มองหลิงลี่อย่างเย็นเยียบ 

 

 

“เจ้าทำร้ายอาจารย์ของข้า ข้าไม่ปล่อยเจ้าไป!” 

 

 

“เสี่ยวไป๋!” เมื่อเสี่ยวโม่เห็นท่าทางของเสี่ยวไป๋ เขาก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีแล้วรีบพุ่งเข้ามากอดร่างนางไว้แน่น 

 

 

“วิญญาณเจ้ายังฟื้นฟูไม่สมบูรณ์ เจ้าไม่สามารถใช้พลังเกินขอบเขตได้ ไม่อย่างนั้นเจ้าจะถูกปีศาจร้ายควบคุม!” 

 

 

“ปล่อยข้านะ!” 

 

 

ตูม!  

 

 

หลินรั่วไป๋ระเบิดพลังออกจากร่างจนทำให้เสี่ยวโม่ถอยหลังไปไกล อาจเป็นเพราะเสี่ยวโม่ไม่คิดว่าหลินรั่วไป๋จะทรงพลังขนาดนี้จนทำให้เขามองนางอย่างสับสน 

 

 

“พลังจากสายเลือดนาง…แข็งแกร่งขนาดนี้เลยหรือ โชคดีที่นางเป็นศิษย์ของนายหญิง ไม่อย่างนั้นนางต้องกลายเป็นศัตรูที่น่ากลัวแน่นอน” เสี่ยวโม่รู้สึกดีที่อวิ๋นลั่วเฟิงรับหลินรั่วไป๋เป็นศิษย์ 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1365 ที่อยู่ของอวิ๋นเซียว (10)  

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้วแล้วออกคำสั่ง “เสี่ยวไป๋ ถอยออกมา” นางรู้ว่าถ้าหลินรั่วไป๋ฝืนใช้พลัง ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร 

 

 

หลินรั่วไป๋ชะงักแล้วรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง “อาจารย์…” 

 

 

“เสี่ยวไป๋ วิญญาณของเจ้ายังไม่สมบูรณ์ จำคำของข้าไว้ว่าในอนาคตเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พลังเกินขีดจำกัด” 

 

 

เสี่ยวไป๋เป็นเด็กที่เชื่อฟัง โดยเฉพาะคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิง ถึงแม้ว่านางจะยังโมโหและต้องการสังหารคนพวกนี้อยู่ นางก็จำต้องดึงพลังกลับมาแล้วกลับมายืนข้างอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยความเสียใจ 

 

 

“หลิงลี่ วันนี้เจ้าทำร้ายสหายของข้า วันหนึ่งข้าจะกลับชำระหนี้แค้นครั้งนี้!” หงหลวนจ้องหลิงลี่ด้วยสายตาเย็นเยียบ นางเดินไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วพยุงนางขึ้น “อีกอย่าง ข้าจะบอกท่านพ่อให้จัดการชำระหนี้กับเจ้าเร็วๆ นี้! อวิ๋นลั่วเฟิง ให้ข้าช่วยพาเจ้ากลับไปรักษา” 

 

 

ถ้าเป็นเมื่อก่อนหงหลวนคงพุ่งเข้าไปแก้แค้นหลิงลี่ด้วยความเดือดาลแล้ว แต่ตอนนี้นางใจเย็นขึ้นมาก นางรู้ว่าทั้งนางและอวิ๋นลั่วเฟิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงลี่ เพราะฉะนั้นอยู่ที่นี่ไปก็เปล่าประโยชน์ เป็นเรื่องดีกว่าถ้านางกลับไปขอความช่วยเหลือจากบิดา! 

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้พูดอะไรแล้วปล่อยให้หงหลวนพยุงนางจากไป หลังจากนางเดินออกมาจากสวนแล้วก็ออกคำสั่ง “หั่วหั่ว เจ้ากลับไปพร้อมเสี่ยวซู่และเสี่ยวไป๋ก่อน” 

 

 

“เจ้าค่ะ” หั่วหั่วพยักหน้าแล้วมองอวิ๋นลั่วเฟิง จากนั้นนางก็อุ้มเสี่ยวซู่แล้วดึงมือหลินรั่วไป๋ก่อนจะถีบร่างตัวเองพุ่งขึ้นฟ้า 

 

 

ตอนนั้นไม่มีใครสังเกตเห็นดวงตาดำมืดที่ลุกเป็นไฟของเสี่ยวซู่ สีหน้าของเขาเหมือนผู้ใหญ่มากกว่าเด็กตัวเล็กๆ อย่างที่ตัวเองเป็น 

 

 

“นายหญิง ท่านใช้พลังของมิติคัมภีร์เซียนอีกครั้งแล้ว” เสี่ยวโม่ทำปากยื่นแล้วพูดขึ้น 

 

 

พลังนี้แตกต่างจากพลังที่อวิ๋นลั่วเฟิงใช้ช่วยอวิ๋นเซียว ตอนนั้นนางฝืนผ่านด่านเพื่อช่วยอวิ๋นเซียวทำให้ผลกระทบร้ายแรง ครั้งนี้ถึงแม้นางใช้เพื่อเพิ่มพลังตัวเองเหมือนกันแต่ไม่ได้ใช้เพื่อผ่านด่าน ทำให้วิญญาณของนางอยู่ในภาวะอ่อนแอไปอีกสิบวันถึงครึ่งเดือน 

 

 

“พรูด!” เลือดที่อวิ๋นลั่วเฟิงฟื้นกลืนลงคอก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไปจนนางกระอักเลือดออกมา 

 

 

นางยิ้มบาง “นี่เป็นพลังของเจ้าเมืองแต่ละเมืองงั้นหรือ สักวันหนึ่งข้าจะอยู่เหนือพวกเขา!” 

 

 

“นายหญิง!” เสี่ยวโม่ตะโกนอย่างโกรธเคือง 

 

 

“เสี่ยวโม่ ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วง” อวิ๋นลั่วเฟิงเลื่อนสายตาไปที่เด็กหนุ่ม “แต่ข้าไม่เสียใจในสิ่งที่ข้าทำไปแล้ว! ตราบใดที่เสี่ยวไป๋มีความสุข ข้าก็ไม่เสียใจ!” 

 

 

ถ้านางไม่ใช้พลังของคัมภีร์เซียน นางก็ไม่มีทางป้องกันการโจมตีของหลิงลี่ได้ ถึงแม้ว่าเสี่ยวไป๋จะรอดพ้นความตายมาได้เพราะโชคช่วย นางต้องบาดเจ็บสาหัสมาก! 

 

 

“เสี่ยวโม่ อย่าบอกเรื่องนี้ใเสี่ยวไป๋รู้ ถึงแม้ว่านางจะยังไม่บรรลุภาวะ นางก็ไม่ได้โง่ ข้าไม่อยากให้นางกังวลมากเกินไป” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “ที่สำคัญ อย่าลืมว่าข้าเป็นแพทย์คนหนึ่ง อีกไม่นานภาวะอ่อนแอนี้ก็จะหาย” 

 

 

บทสนทนานี้เกิดขึ้นผ่านจิตวิญญาณของพวกเขาสองคน ดังนั้นหงหลวนที่ยืนอยู่ข้างๆ จึงไม่รู้เรื่องที่พวกเขาคุยกัน 

 

 

“ใช่แล้ว” หงหลวนนึกอะไรขึ้นมาได้ “ข้าไม่เจอเรื่องอะไรเกี่ยวกับเด็กที่อยู่กับหูหลีเลย ดังนั้นเขาไม่น่าจะใช่คนเมืองบูรพา ส่วนเรื่องจักรพรรดิปีศาจ…ข้าเจอที่อยู่เขาแล้ว” 

 

 

ดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงว่างเปล่าแล้วหยุดเดิน นางหันมาหงหลวน “เขาอยู่ที่ไหน” 

 

 

“มณฑลคูหลงในเมืองหลวง!” 

 

 

“มณฑลคูหลงในเมืองหลวงงั้นหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงเงียบไปชั่วครู่ “เมื่อกลับไปแล้ว พวกเราจะเก็บของแล้วออกเดินทางพรุ่งนี้” 

 

 

“ไม่ได้” หงหลวนขมวดคิ้ว “เจ้าบาดเจ็บไม่หายพวกเราออกเดินทางพรุ่งนี้ไม่ได้!”