บทที่ 249 การปะทุของสงครามกิลด์อย่างกะทันหัน
“มีข่าวใหม่! อาณาเขตหมอกดำที่แต่เดิมปกคลุมเมืองแห่งความโศกเศร้าจู่ ๆ ก็ขยายขึ้น 10 เท่า! และในหมอกดำก็มีอันเดดโซลเลเวลสูงนับไม่ถ้วนเกิดออกมาด้วย! ท่านช่วยไปตรวจสอบเหล่าอันเดดโซลที่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาได้ไหม? ดูว่าพวกมันเกิดมาโดยธรรมชาติหรือเกี่ยวข้องกับกองทัพมืดกันแน่”
กัปตันโบลตันพูดอย่างจริงจัง ในขณะเดียวกัน เซียวเฟิงก็ได้รับแจ้งเตือนจากระบบ
[ติ้ง! คุณจะรับภารกิจหลัก – ความเปลี่ยนแปลงของเมืองแห่งความเศร้าโศกหรือไม่?]
“รับ”
เอาล่ะ… มันไม่เป็นการดีที่จะปล่อยให้ภารกิจหลักล้าหลังไปไกลนัก มันจะเป็นอันตรายต่อพัฒนาการในเกม ดังนั้นเซียวเฟิงจึงรับภารกิจ หลังจากบอกลากัปตันโบลตัน เขาก็เตรียมที่จะไปตรวจสอบ
แต่นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว เขาไม่รีบ หลังจากไปที่โฮลี่ซิตี้เพื่อไปหาเสี่ยวไป๋ สักพักเขาก็ออกจากระบบ
ระหว่างกินข้าวกลางวัน เซียวเฟิงคิดว่าตอนนี้มันควรจะมีชีวิตชีวาขึ้นเล็กน้อยแล้ว เพราะว่าหกห้องในวิลล่าก็เต็มแล้ว แต่ในห้องอาหารก็ยังคงว่างเปล่า เซียวหลิงและหนิงเคอเค่ออยู่ด้วย แต่หลิวเฉียงเหว่ยและเฉียนโตวโตวยังไม่กลับมา ส่วนซือเยี่ยจิ๋งยังคงอยู่ในห้องของตัวเองโดยไม่ออกจากระบบ
เซียวเฟิงเดาว่าอาจมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับกิลด์มิดซัมเมอร์ เลยไม่เข้าไปที่ห้องของเธอเพื่อกดปุ่มเรียก เขาแค่กินข้าวกลางวันง่าย ๆ กับเซียวหลิง
“พี่ชาย ได้เวลาซื้อเครื่องเกมใหม่ให้ฉันแล้ว”
เซียวหลิงดูมีความสุขมาก และหวังว่าจะไม่มีผู้หญิงคนอื่นมาปรากฏตัวตอนนี้เธอนั่งบนเก้าอี้และแกว่งขาของตัวเองพลางพูดกับเซียวเฟิง
“อืม”
เซียวเฟิงพยักหน้า เขาก็ค่อนข้างตามใจเซียวหลิงในเรื่องนี้ด้วย
“น่าเสียดายที่มิธยังไม่ได้ปลดระบบป้องกันเด็กและเยาวชน ไม่งั้นฉันก็จะได้เล่นเกมนี้ไปแล้ว” จากนั้นเซียวหลิงก็ถอนหายใจด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ “และเพราะการมาของมิธ บริษัทเกมชื่อดังหลายแห่งทั้งในและต่างประเทศก็ปิดตัวลง ฉันต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการซื้อเครื่องเกมด้วย”
เซียวหลิงวางตะเกียบของเธอลง และเธอก็ปัดผมยาวสีบลอนด์สว่างไสวอย่างเกียจคร้าน ผมของเธอสั่นเบา ๆ
“อย่าจดจ่อแต่กับการเล่นเกมสิ ใช้เวลากับการเรียนของเธอให้มากกว่านี้” เซียวเฟิงกล่าว
“เจ้าพี่โง่ ลืมไปหรือเปล่าว่านี่มันเป็นปิดเทอมฤดูร้อน? ท่านเซียวหลิงก็จะพักร้อนด้วย” เซียวหลิงมองเซียวเฟิงอย่างดูถูกและต่อว่า
“เธอโดดเรียนออกบ่อย แต่เธอไม่เคยพลาดช่วงปิดเทอมเลยนะ” ข้ออ้างของเซียวหลิงนั้นสมเหตุสมผลจนทำให้เซียวเฟิงพูดไม่ออก
“นายพูดมากไปแล้ว!” เซียวหลิงพูดด้วยความโกรธ เธอพึมพำว่า ‘คนโง่’ หรืออะไรทำนองนั้น
หนิงเคอเค่อที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เซียวหลิงก็ก้มหน้าลงและไม่กล้าขัดจังหวะเลย เธอไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง เมื่อใดก็ตามที่เซียวหลิงขึ้นเสียงแม้เพียงเล็กน้อย หนิงเคอเค่อก็จะตัวสั่นราวกับว่าเธอทำอะไรผิด…
ในไม่ช้าเซียวเฟิงก็เข้าสู่ระบบอีกครั้ง แต่เมื่อชายหนุ่มปรากฏตัวในเมืองเทียนหลง เขาก็ได้ยินประกาศที่ไม่คาดคิด
“ประกาศระดับภูมิภาค! กิลด์กลอรี่ประกาศสงครามกับกิลด์มิดซัมเมอร์! สงครามกิลด์จะคงอยู่นาน 12 ชั่วโมง! ภายใน 12 ชั่วโมง หากฐานที่ตั้งของกิลด์มิดซัมเมอร์ถูกทำลาย จะถือว่าพ่ายแพ้ หากสามารถปกป้องฐานที่ตั้งกิลด์ได้สำเร็จ จะถือว่าได้ชัยชนะ! หลังจากสิ้นสุดสงครามกิลด์ ฝ่ายที่พ่ายแพ้จะได้รับการลงโทษจากระบบ เลเวลกิลด์จะลดลง 1 เลเวล ถ้าเลเวลกิลด์เป็นเพียงเลเวล 1 กิลด์ก็จะถูกยุบ! ฝ่ายที่ได้ชัยชนะจะได้รับรางวัลจากระบบและรับค่าประสบการณ์กิลด์ตามจำนวนกิลด์ที่พ่ายแพ้สูญเสียไป! ในช่วงสงครามกิลด์ เมื่อผู้เล่นทั้งสองฝ่ายฆ่ากัน จะไม่มีการคิดค่าบาป!”
เนื่องจากฐานที่ตั้งของกิลด์มิดซัมเมอร์อยู่ในอาณาเขตของเมืองเทียนหลง ผู้เล่นทุกคนในเมืองก็เลยได้ยินการประกาศสงครามกิลด์
อีกทั้งเมืองเทียนหลงก็เป็นเมืองหลักที่มีผู้เล่นมากที่สุด ข่าวจึงกระจายไปทั่วทั้งเขตฮัวเซียภายในไม่กี่นาที
“อะไรนะ? สงครามกิลด์? กิลด์กลอรี่ประกาศสงครามกับกิลด์มิดซัมเมอร์เหรอ?”
“มีความบาดหมางกันระหว่างกิลด์กลอรี่และกิลด์มิดซัมเมอร์หรือเปล่า? ทำไมถึงประกาศสงครามกันในช่วงพัฒนาล่ะ! พวกเขาเป็นอะไรกัน?”
“เร็วเข้า! ส่งคนไปที่เมืองเทียนหลงเพื่อตรวจสอบสถานการณ์เดี๋ยวนี้!”
…
การเปิดสงครามกิลด์อย่างกะทันหัน ทำให้ทั้งเขตฮัวเซียตกตะลึง โดยเฉพาะกิลด์ใหญ่ ๆ ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก
ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่กิลด์ใหญ่ ๆ ในเขตฮัวเซียพัฒนาตัวเองกันอย่างคึกคัก สงครามป้องกันฐานที่ตั้งในทุกส่วนของเขตฮัวเซียเกิดขึ้นเกือบจะตลอดเวลา
ในรายชื่อกิลด์ของเขตฮัวเซีย ตำแหน่ง 100 อันดับแรกถูกยึดครองไปแล้ว ซึ่งหมายความว่ามีกิลด์มากกว่าหนึ่งร้อยกิลด์ที่ก่อตั้งขึ้นในเขตฮัวเซีย
ในบรรดากิลด์เหล่านี้ มีกิลด์อย่างน้อยหนึ่งในสามหรือมากกว่า 30 กิลด์ที่ป้องกันการรุกรานของมอนสเตอร์ได้สำเร็จและก่อตั้งฐานที่ตั้งกิลด์ได้สำเร็จ
กิลด์ทั้งหมดเหล่านี้เป็นกิลด์ที่มีชื่อเสียงในเขตฮัวเซีย ในเมืองที่กำลังพัฒนาแต่ละแห่ง พวกเขาเป็นกลุ่มผู้นำโลก และไม่มีใครสามารถท้าทายอำนาจของพวกเขาได้
เฉพาะเมื่อกิลด์ชนะในสงครามป้องกันฐานที่ตั้งและครอบครองฐานที่ตั้งของพวกเขา พวกเขาถึงจะมีคุณสมบัติในการประกาศสงครามกับกิลด์อื่นที่มีฐานที่ตั้งอยู่ด้วย และนั่นก็คือสงครามกิลด์
อย่างไรก็ตาม สงครามกิลด์ก็ปะทุขึ้นอย่างกะทันหันตอนที่ทุกคนไม่ได้ตั้งตัว และทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นกิลด์ที่มีชื่อเสียงในเขตฮัวเซีย!
สำหรับกิลด์กลอรี่ที่เป็นฝ่ายประกาศสงคราม กิลด์นี้เป็นที่รู้จักมาตลอดว่าเป็นกิลด์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด กิลด์กลอรี่สามารถเทียบกับกิลด์ไดนัสตี้ได้ และมีศักยภาพที่จะกลายเป็นกิลด์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเขตฮัวเซีย!
หลังจากก่อตั้งมันก็เป็นกิลด์ที่มีอำนาจมากที่สุดของเผ่าเอลฟ์ และเกือบจะผูกขาดทรัพยากรทั้งหมดของเผ่าเอลฟ์ เมืองหลักมากกว่าสิบเมืองถูกครอบครองโดยกิลด์นี้ แนวโน้มที่จะเป็นผู้นำที่ร่ำรวยก็ชัดเจนมาก แม้ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนจะมีความขัดแย้งกับเจ้าแห่งฮีลเลอร์ซึ่งเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งของเขตฮัวเซีย และพ่ายแพ้ให้กับเจ้าแห่งฮีลเลอร์ซึ่งทำให้ชื่อเสียงลดลงเล็กน้อย แต่มันก็ไม่กระทบกับตำแหน่งที่โดดเด่นเลย!
อีกด้านหนึ่ง กิลด์มิดซัมเมอร์ กิลด์ขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากก่อตั้งก็ทำเรื่องที่โดดเด่นมากมาย เช่นโทเคนกิลด์ราคามหาศาล สงครามป้องกันฐานที่ตั้งครั้งแรกในเซิร์ฟเวอร์และอื่น ๆ เรื่องเหล่านี้ทำให้ชื่อเสียงของกิลด์มิดซัมเมอร์เหนือกว่ากิลด์อื่น ๆ ทั้งหมด แม้ว่าพลังของกิลด์มิดซัมเมอร์จะด้อยกว่ากิลด์อันดับหนึ่ง แต่ชื่อเสียงของกิลด์ก็เป็นหนึ่งในกิลด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ในฐานะกิลด์แรกที่ตั้งฐานกิลด์สำเร็จในเขตฮัวเซีย มันยังเป็นอันดับสองในรายชื่อกิลด์ของเขตฮัวเซียด้วย และมันก็เพียงพอแล้วที่จะให้ผู้คนเห็นถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของกิลด์มิดซัมเมอร์ ด้วยมันมีแนวโน้มสูงที่จะได้รับตำแหน่งกิลด์อันดับหนึ่ง!
สงครามระหว่างทั้งสองกิลด์ก็เพียงพอที่จะดึงดูดกิลด์ใหญ่ ๆ ทั้งหมดในเขตฮัวเซียให้มารับชม!
แน่นอนว่า สงครามกิลด์ใด ๆ ในช่วงนี้ก็สามารถสร้างความตื่นเต้นได้ เพราะกิลด์ที่มีคุณสมบัติในการทำสงครามกิลด์คือกิลด์ที่มีฐานที่ตั้ง และแต่ละกิลด์ก็ล้วนแต่เป็นกิลด์ขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง
เซียวเฟิงอยู่ในจุดเทเลพอร์ตของเมืองเทียนหลง เมื่อวินาทีที่แล้ว จุดเทเลพอร์ตยังคงเงียบและว่างเปล่า เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากการประกาศระดับภูมิภาค ลานจุดเทเลพอร์ตขนาดใหญ่ก็สว่างไสวราวกับแสงอาทิตย์!
แสงสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นพร้อมกันในทันที จากนั้นผู้เล่นที่หนาแน่นก็ปรากฏตัวขึ้น
ในชั่วพริบตา บริเวณนี้ก็กลายเป็นสถานที่แออัด ในบรรดาผู้เล่นที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น ส่วนใหญ่เป็นเอลฟ์ โดยมีชื่อกิลด์กลอรี่อยู่บนหัว นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นจากกิลด์มิดซัมเมอร์และกิลด์อื่น ๆ ด้วย
เซียวเฟิงเกือบถูกฝูงชนกลุ่มใหญ่พัดพาไป เขารีบเทเลพอร์ตหนีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
การเกิดสงครามกิลด์อย่างกะทันหันเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มไม่คาดคิด แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้ เซียวเฟิงไม่สนใจมากนัก มันขึ้นอยู่กับว่าหลิวเฉียงเหว่ยจะสามารถต้านทานได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม กิลด์มิดซัมเมอร์ผู้ถูกท้าทายก็มีความได้เปรียบในการป้องกัน พวกเขาเพียงแค่ต้องปกป้องฐานจากการถูกทำลายให้ได้ 12 ชั่วโมงเท่านั้น…
ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะกิลด์แรกที่ตั้งฐานกิลด์ในเขตฮัวเซียได้เร็วที่สุด เลเวลของฐานจึงได้รับการยกระดับแล้ว มันไม่ใช่หมู่บ้านที่มีพุ่มไม้โทรม ๆ อีกต่อไป หากกิลด์กลอรี่ต้องการทำลายมัน มันก็เป็นเรื่องยากจริง ๆ
ท้ายที่สุดความแข็งแกร่งของมิดซัมเมอร์ก็มีความสำคัญ บางทีมันอาจจะไม่สามารถต่อสู้กับกลอรี่ได้โดยตรง แต่ก็ไม่มีทางด้อยในการป้องกันแน่นอน
ดังนั้นเซียวเฟิงจึงยังคงทำภารกิจหลักของเขาต่อไป หลังจากที่ตัวเองเทเลพอร์ตไปยังเมืองพระอาทิตย์ตก เขาก็เรียกเสี่ยวเสวียออกมาเพื่อวิ่งไปยังแดนทมิฬ
ก่อนที่จะเข้าใกล้แดนทมิฬ เซียวเฟิงก็เห็นความเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำราวกับเป็นกลางคืน ทว่า ความเข้มข้นของหมอกสีดำนั้นไม่เข้มข้นเท่ากับหมอกดำ ดูเหมือนว่าจะบางกว่าซึ่งน่าจะเกิดจากการแพร่กระจายของหมอกดำ
-1!
-1!
-1!
…
เซียวเฟิงพยายามก้าวเข้าไป และตามที่คาดไว้ ตัวเลขความเสียหายพลันพุ่งขึ้นบนหัวของตัวเองทันที ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า นี่เป็นหมอกที่กระจายตัวมาจากหมอกดำ
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขความเสียหายไม่สูงนัก มันแค่ 1 หน่วยต่อวินาที ซึ่งเซียวเฟิงสามารถทนมันได้สบาย ๆ ดังนั้นจึงไม่รีรอที่จะพุ่งเข้าไปในแดนทมิฬ
“แกรก แกรก!”
วิสัยทัศน์ของชายหนุ่มมืดลงราวกับว่าเขาอยู่ในกลางคืนที่มืดมิด เสียงแตกดังมาจากพื้นแข็ง ๆ เซียวเฟิงรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของพื้นดินทันทีที่เขาเข้าสู่แดนทมิฬ มอนสเตอร์โครงกระดูกต่างพากันผุดออกมาจากผืนดิน
เซียวเฟิงคุ้นหน้ามัน แต่สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มประหลาดใจก็คือ มอนสเตอร์โครงกระดูกนี้เป็น ‘คนรู้จักเก่า!’
มันเป็นโครงกระดูกเลเวล 20 ที่เซียวเฟิงฆ่าไปนับไม่ถ้วนในภูเขาเขากระดูก ชุดเซ็ตโครงกระดูกที่ตัวเองสวมอยู่ชุดนี้ก็ดร็อปมาจากมอนสเตอร์โครงกระดูก
ในแง่ของจำนวนมอนสเตอร์โครงกระดูกที่ถูกชายหนุ่มฆ่า หากมอนสเตอร์โครงกระดูกพวกนี้มีความเกลียดชังได้ พวกมันก็จะมีความบาดหมางฝังลึกกับเซียวเฟิง
ดังนั้นในแม้จะอยู่ในแดนทมิฬ แต่การที่จู่ ๆ ก็มีมอนสเตอร์โครงกระดูกปรากฏขึ้นมาก็ทำเซียวเฟิงรู้สึกค่อนข้างอุ่นใจได้ว่าตนคงไม่เป็นไร
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ต้องต่อสู้กับมัน คทานักปราชญ์ที่เสียหายถูกเหวี่ยงออกไปราวกับแท่งไม้ ด้วยการหวดธรรมดาสองครั้ง มอนสเตอร์โครงกระดูกก็ถูกทุบจนกลายกองกระดูกแตกหัก ซึ่งก็กลายเป็นค่าประสบการณ์ และมอนสเตอร์โครงกระดูกก็ดร็อปของสวมใส่เลเวล 20 ด้วย เซียวเฟิงเก็บมันทันทีโดยไม่ลังเลและเก็บไว้เป็นวัตถุดิบสำหรับเพิ่มค่าความชำนาญสกิลหลอม
เพราะเซียวเฟิงมีความสามารถในการกวาดล้างมอนสเตอร์แบบโจมตีวงกว้างที่น่ากลัว เขาจึงสามารถหาของสวมใส่ระดับธรรมดาได้มากมาย หากคนอื่นต้องการฝึกฝนความชำนาญสกิลหลอม ก็จะต้องล้มละลายแน่นอน มีเพียงกิลด์ใหญ่เท่านั้นที่สามารถจ่ายค่าฝึกฝนอาชีพรองเช่นนี้ได้!