Ch.79 – ให้ค่ามากกว่าเพื่อน

Translator : Muntra / Author

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.79 – ให้ค่ามากกว่าเพื่อน

 

อาชญากรสามคน หนึ่งถูกยิงเสียชีวิต อีกสองสูญสิ้นความสามารถในการต่อสู้ โจวฮ่าวส่งภารกิจผ่านเครือข่ายนักล่าด้วยความตื่นเต้น

 

ไม่นาน จางฮั่วหยางก็เดินทางมาถึงพร้อมกับคนของเขา

 

เดิมที การรับตัวอาชญากรผู้ใช้พลังในเลเวล G3 มันไม่จำเป็นต้องถึงมือหัวหน้าสาขาอย่างเขา แต่เนื่องจากสามพี่น้องตระกูลหลิวได้ก่ออาชญากรรมเอาไว้มากมาย ไหนจะลักพาตัวคนหนุ่มสาวที่ร่ำรวยและมั่งคั่ง แม้จะรีดไถเงินจำนวนไม่มากก็ตาม แต่มันก็ทำให้ผู้เสียหายโกรธแค้น และยอมทุ่มเงินตั้งค่าหัวทั้งสามไว้สูงลิ่ว

 

บางคนช่วยเสนอเงินรางวัลเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก บางคนก็เสนอน้อยๆ แต่รวมๆกันแล้ว ค่าหัวของทั้งสามพี่น้องพุ่งทะยานไปกว่า 20 ล้าน!

 

เมื่อจางฮั่วหยางเห็นฉินเฟิง เขาก็ฝืนยิ้มออกมา “ที่แท้ก็เป็นเธอนี่เอง ฉินเฟิง รับทรัพย์ก้อนใหญ่เลยนะครั้งนี้”

 

“ผมก็แค่โชคดีน่ะครับ” ฉินเฟิงหัวเราะ ในหัวพลางคิดว่าคนของเครือข่ายนักล่าเงินรางวัล ก็ไม่ได้ทำเงินได้เสมอไป เมื่อมองไปยังใบหน้าขมขื่นของจางฮั่วหยางที่พลาดเงินก้อนนี้ไปอย่างน่าเสียดาย เขาก็อดรู้สึกตลกไม่ได้

 

จางฮั่วหยางสั่งการคนของเขาเก็บกวาดสถานที่ เมื่อส่งภารกิจเสร็จสมบูรณ์ ก็มอบเงินให้กับฉินเฟิงและโจวฮ่าวคนละครึ่ง เป็นจำนวนคนละ 10 ล้าน

 

“ฉินเฟิง ฉันจะโอนเงิน 5 ล้านเพิ่มให้กับนายนะ” โจวฮ่าวกล่าว

 

-จางฮั่วหยางรับฟังก็ไม่ว่าอะไร เพราะเขารู้ดีว่าคงไม่พ้นฉินเฟิงที่มีส่วนร่วมมากที่สุดในวันนี้ หากไม่มีฉินเฟิง อีกคนคงไม่กล้าลงมือเพียงลำพัง

 

ในความเป็นจริง ไม่น่าสงสัยเลย ที่จางฮั่วหยางรู้สึกประหลาดใจกับฉินเฟิง เพราะเขาคล้ายรู้สึกว่า สำหรับฉินเฟิงแล้ว โลกมันแคบจริงๆ ไปที่ไหนก็เจอเหยื่อในประกาศจับ ขณะที่เขาเป็นนักล่าเงินรางวัลเต็มตัวแท้ๆ ฐานก็อยู่ใกล้ๆ แต่กลับไม่ค่อยจะได้พบกับเป้าหมายเลย

 

“ไม่ต้องหรอก นายเก็บไว้เถอะ แล้วพรุ่งนี้ก็นำเงินที่ได้มาไปซื้อรถศึกซะ!” ฉินเฟิงกล่าว

 

โจวฮ่าวผงะ “ว่าไงนะ นายจะให้ฉันซื้อรถศึกงั้นหรอ ทำไมกัน!?”

 

ฉินเฟิงชี้มาทางเสี่ยวไป๋ ที่อยู่บนไหล่เขา ไม่ได้ขยับเขยื้อนเลยทั้งวัน “เพราะบนรถฉัน นายนั่งทับที่ของเสี่ยวไป๋ แย่งที่นั่งไปจากมัน มันอารมณ์เสียมากเลยนะรู้ไหม”

 

ในความเป็นจริงแล้ว เหตุผลไม่ใช่แค่ที่พูดไป เดิมกิจวัตรของเสี่ยวไป๋หลังจากกลายเป็นราชันย์สัตว์ร้าย คือเปลี่ยนร่างเป็นจิ้งจอกในช่วงเช้า ติดตามฉินเฟิงไปโรงเรียน หลังจากช่วงเย็น เลิกเรียนมันก็จะเปลี่ยนไปเป็นร่างมนุษย์ เพราะต้องการสวมใส่เสื้อผ้าสวยๆงามๆ

 

แต่ผลลัพธ์ในวันนี้ กลับกลายเป็นว่าโจวฮ่าวตามฉินเฟิงมาด้วย มันเลยไม่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ แถมยังไม่ได้นั่งที่ประจำของตัวเอง

 

เมื่อถูกคนอื่นเข้ามาแทนที่ ราชันย์สัตว์ร้ายเสี่ยวไป๋ก็เริ่มรู้สึกเดือดปุดๆในจิตใจ หากทั้งวันไม่มีฉินเฟิงคอยห้ามไว้ เกรงว่าเสี่ยวไป๋คงใช้โจวฮ่าวเป็นที่ฝนเล็บไปแล้ว!

 

โจวฮ่าวอ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำอธิบายของฉินเฟิง

 

“ไอ้บ้าเอ๊ย! พวกเราไม่ใช่พี่น้องกันรึไง? นี่สถานะของฉันเทียบไม่ได้กับเสี่ยวไป๋เลยหรอ?”

 

ฉินเฟิงคิดอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายตอบคำทำร้ายเสียดแทงจิตใจ “ก็เทียบกันไม่ได้จริงๆนั่นแหละ”

 

ต้องไม่ลืมนะว่า สถานะของเสี่ยวไป๋ในตอนนี้ คือแฟนของฉินเฟิง!

 

นับตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว ผู้คนมักจะให้ความสำคัญเรื่องสาวมากกว่าสหาย ดังนั้นโจวฮ่าวจะสำคัญกว่าเสี่ยวไป๋ได้อย่างไร!

 

ฉินเฟิงหัวเราะเบาๆ คำตอบก่อนหน้านี้เขาเพียงล้อเล่นโจวฮ่าวเท่านั้น

 

เสี่ยวไป๋กับโจวฮ่าว แน่นอนว่าทั้งสองย่อมมีความสำคัญไม่แพ้กัน

 

 

โจวฮ่าวเหมือนจะรู้ว่าถูกแซว แต่ก็อดโกรธไม่ได้

 

“เออ งั้นฉันเดินกลับเองก็ได้!”

 

ฉินเฟิงไม่รั้งตัวสหายแต่อย่างใด พยักหน้าตกลง หันหลังขึ้นรถและขับออกไป โจวฮ่าวมองตามพลางกลอกตามองบน

 

อย่างไรก็ตาม วันต่อมา โจวฮ่าวก็ไปซื้อรถศึกจริงๆ รถคันนี้แพงกว่าของฉินเฟิงด้วยซ้ำ แม้รูปลักษณ์มันจะดูไม่เท่มากเท่าไหร่ แต่ก็คงไว้ซึ่งลักษณะรถออฟโรดแบบบุกตะลุย อันที่จริงมันมีระบบล่องเวหาเช่นกัน ส่วนราคาอยู่ที่ 9 ล้าน

 

บางที อาจเป็นเพราะจำฝังใจกับคำพูดของฉินเฟิงก่อนหน้านี้ รถของโจวฮ่าวเลยเป็นแบบ 5 ที่นั่ง และยังมีที่ว่างมากมายสำหรับใช้ขนสิ่งของ

 

“เป็นยังไงบ้าง? รถคันนี้ฉันกับพ่อช่วยกันเลือกด้วยตัวเองเลยนา มันคือรถศึกบึกบึน! เหมาะสมกับชายชาตรี!” โจวฮ่าวกล่าว

 

ฉินเฟิงพยักหน้า “สายตาของคุณลุงไม่เลวเลย ยังไงก็ตาม อย่าลืมมอบเงินจำนวนหนึ่งให้คุณลุงด้วย ท่านจะได้ไปสร้างบ้านสวยๆ หรือทำอะไรสักอย่างที่อยากทำ”

 

“รู้หรอกน่า เอาไว้ถ้าทำเงินได้อีก ฉันจะมอบให้พ่อมากกว่านี้”

 

แม้ว่าย่านที่โจวฮ่าวอาศัยอยู่จะเป็นพื้นที่พลเรือน แต่มันก็อยู่ใกล้กับสลัมมากเกินไป กล่าวได้ว่ายังมีอันตรายอยู่มาก

 

ยังไงก็ตาม ไม่ใช่ว่าโจวฮ่าวมีเงินแล้วจะเพิกเฉยต่อครอบครัว นอกจากเงินค่ารถแล้ว ส่วนที่เหลือโจวฮ่าวโอนให้พ่อแม่ของตนทั้งหมด

 

การต่อสู้เมื่อวานนี้ ทำให้เขารู้สึกประทับใจมาก

 

‘บางที ฉันอาจจะตายในทุ่งล่าเมื่อไหร่ก็ได้ ฉะนั้น ฉันควรจะรีบหาเงินให้ได้เยอะๆ แล้วทิ้งไว้ให้กับพ่อแม่!’

 

แน่นอน คำเหล่านี้เขาไม่ได้เอ่ยกับฉินเฟิง เพราะหากเอ่ยมันไป นั่นไม่เท่ากับว่าเขาไม่ไว้ใจในตัวฉินเฟิงหรอกหรือ?

 

หลังเลิกเรียน ทั้งสองคนก็ขับรถออกสู่ทุ่งล่า

 

 

บนรถล่องเวหา ไป๋หลีหันไปมองรอบๆ เฝ้ามองสิ่งปลูกสร้างที่ค่อยๆลับสายตาไป มันไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป แปลงกายตนเป็นมนุษย์ทันใด

 

ฉินเฟิงกำพวงมาลัยแน่น เจ้าตัวเกือบจะเสียหลักขับรถตกลงไปในคลองข้างๆ

 

“นายท่าน หนูใส่ชุดนี้ดีไหม หรือว่าอันนี้ และอันนี้?”

 

ไป๋หลีนาบชุดลงกับตัว

 

ฉินเฟิง “จะใส่ตัวไหนก็ใส่ไปเถอะน่า แกกำลังจะไปประกวดนางงามรึไง?”

 

“ประกวดนางงามคืออะไร? มันมีไว้ประชันเสน่ห์ใช่ไหม? งั้นคนที่ชนะเลิศคงไม่พ้นหนู!”

 

ไป๋หลีเชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ

 

“รีบๆใส่มันซักทีเถอะ!”

 

ฉินเฟิงยกมือขึ้นกุมหน้าผากของเขา

 

ไป๋หลีโยนเสื้อผ้าไปมาสักพัก สุดท้ายก็ได้ที่ถูกใจ เธอเริ่มสวมใส่มัน พร้อมกับรองเท้าส้นสูงคู่หนึ่ง

 

เมื่อมาถึงเหมืองฉิงซาน ฉินเฟิงกับไป๋หลีก็ลงจากรถ โจวฮ่าวที่ขับตามมาข้างหลัง นึกว่าตัวเองตาฝาดเห็นผี!

 

“ฉินเฟิง ทำไมถึงมีอีกคนอยู่ในรถของนายกัน? นายไปรับเธอมาจากที่ไหน” โจวฮ่าวชี้ไปทางไป๋หลี แต่ก็รู้สึกตัวว่าการกระทำของตนไม่สุภาพ รีบถอนนิ้วกลับและหัวเราะแห้ง

 

“สวัสดีคนสวย!”

 

“ฮึ!”

 

ไป๋หลีไม่รับคำทักทายของโจวฮ่าว เพราะเขาคือคนที่เคยแย่งที่นั่งของมัน

 

“อย่าไปสร้างปัญหาให้เธอเลยนี่ เด็กคนนี้ก็คือเสี่ยวไป๋ไง แต่นับจากนี้ไปให้เรียกว่าไป๋หลีนะ” ฉินเฟิงโน้มตัวมาใกล้ๆโจวฮ่าว กระซิบบางเพิ่มเติม “เธอเป็นถึงราชันย์สัตว์ร้าย มีทักษะในการเปลี่ยนรูป ระมัดระวังให้ดี ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง ฉันช่วยนายไม่ได้แล้วนะ!”

 

โจวฮ่าวเบิกตากว้าง ปรากฏชัดถึงความไม่อยากจะเชื่อในแววตา เขามองไปทางไป๋หลี

 

สัตว์ร้ายในร่างมนุษย์อย่างงั้นหรอ?

 

ไม่คาดคิดเลย ว่าเสี่ยวไป๋จะมีความแข็งแกร่งถึงขั้นสามารถเปลี่ยนรูปได้แบบนี้

 

อันที่จริง สัตว์ร้ายในร่างมนุษย์ก็ใช่ว่าจะไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังจากการเกิดขึ้นของรอยแยกมิติ ถือว่ามีกรณีแบบเดียวกันเกิดขึ้นมากซะด้วยซ้ำ สัตว์ร้ายเหล่านี้จะอาศัยอยู่ท่ามกลางฝูงชน บ้างก็ก่อเหตุนองเลือด บ้างก็คอยสอนสั่งผู้คน สร้างสรรค์ผู้มีพรสวรรค์ขึ้นมากมาย

 

ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคงไม่พ้น ‘มังกรน้ำเงินบาร์ท’ เป็นสัตว์ร้ายที่มีรูปลักษณ์เป็นมนุษย์วัยกลางคนที่อ่อนโยน คอยสอนอบิลิตี้น้ำและกระบวนท่าวรยุทธของมังกรแก่ผู้คน!

 

แน่นอน ว่ายังมีอีกเช่นสัตว์ร้ายร่างมนุษย์ ‘งูเอเวอร์กรีน’ มันรูปลักษณ์เป็นหญิงสาวทรงเสน่ห์ เชี่ยวชาญในการยั่วยวนและล่อลวงผู้ชาย เมื่อเสร็จกิจก็จะกลืนกินพวกเขา เหตุการณ์เหล่านี้ ภายหลังเป็นเรื่องน่าหวาดกลัวเกินกว่าจะเอ่ยถึง

 

ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนแข็งแกร่ง จึงไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไมสัตว์ร้ายที่ครอบครองพลังในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างนั้น ทั้งหมดถึงล้วนอยู่ในระดับราชันย์

 

“ไอ้เพื่อนยาก นายโชคดีโคตรๆเลย ฉันอิจฉาแทบตายแล้ว!” โจวฮ่าวสรรรเสริญ

 

“ก็ฉันมันคนวาสนาดีนี่นา!” ฉินเฟิงยิ้มมุมปากและหัวเราะ

 

ก็ถ้าไม่มีโชคแล้ว เขาจะกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งได้อย่างไร? จะมีพื้นฐานที่มั่นคงอย่างที่เป็นอยู่ได้อย่างไร?

 

ทั้งสามเดินเข้าไปในเหมืองฉิงซาน เริ่มต้นภารกิจล่าสังหารอีกครั้ง

 

โจวฮ่าวแข็งแกร่งกว่าเมื่อวานมาก พละกำลังของเขาก็เพิ่มพูนยิ่งกว่าเดิมเช่นกัน

 

นี่ต้องขอบคุณโลหิตที่เขาเก็บรวบรวมมาเมื่อวานนี้

 

โลหิตหัวใจ คือสิ่งที่อัดกันแน่นจนกลายเป็นเลือดเพียงหยดสองหยด มันมักจะอยู่ตรงกลางใจของค้างคาวยักษ์ มีลักษณะเหนียวนืดเหมือนกับเยลลี่ จึงสามารถสกัดได้ง่าย เมื่อวานนี้ หลังจากกลับบ้าน โจวฮ่าวก็ลงไปแช่ในอ่างน้ำที่หยดโลหิตหัวใจเจือจางลงไป ส่งผลให้พละกำลังของเขาเพิ่มพูนขึ้นกว่าเดิมมาก

 

ด้วยเหตุนี้เอง มันเลยเป็นธรรมดาที่กำลังรบของโจวฮ่าวจะก้าวกระโดดยิ่งกว่าวันก่อน

 

“เข้าไปลึกกว่านี้กันเถอะ!” โจวฮ่าวกระตือรือร้นสุดๆ ในเวลานี้ เขาอยากจะเข้าไปลึกกว่าเมื่อวาน เพราะเส้นทางที่ผ่านมา มันไม่มีค้างคาวยักษ์หลงเหลืออยู่อีกแล้ว!

 

“นั่นสินะ ไปกันเถอะ”

 

ฉินเฟิงพยักหน้า

 

ทว่าหลังจากเดินเข้าไปไกลกว่าเดิมได้เพียง 100 เมตร ดวงตาของเสี่ยวไป๋ก็พลันสว่างวาบ

 

“หนูเจอของดีบางอย่าง!”