ตอนที่ 565 คุณอวี๋คนสวย / ตอนที่ 566 ลองชุดราตรี

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 565 คุณอวี๋คนสวย

 

 

“คิดเตรียมการซะที่ไหน เพราะอั่งเป่าฉันเลยพูดไปเรื่อย แค่อยากบอกว่าอยากเอาเงินอั่งเปาคืนมาเท่านั้น ตอนนี้ฉันยังไม่แก่ก็เลยพูดได้แค่งานแต่งงานไม่ใช่เหรอ”

 

 

“คุณพูดถูก”

 

 

ฟังจือหันทำหน้าเห็นด้วยแต่แววตากลับเจือรอยยิ้ม

 

 

อวี๋กานกานรู้ว่าเขาไม่เชื่อก็เลยปัดมือเขาแล้วเก็บบัตรเชิญเอาไว้ “เอาล่ะ หยุดแกล้งฉันได้แล้วคุณฟางสุดหล่อ คืนวันนั้นคุณยินดีไปเป็นคู่ควงฉันไหมล่ะคะ”

 

 

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณให้โอกาสนี้” ฟังจือหันหัวเราะ จูบหน้าผากเธออย่างอดใจไม่ไหว

 

 

“แต่ว่า…”

 

 

บทสนทนาแปรผัน

 

 

ฟังจือหันรู้สึกลำบากใจที่จะพูดเล็กน้อย “ผมลองดูเวลางานแล้วมันเป็นวันอังคารหน้าพอดีผมต้องไปทำธุระต่างจังหวัดวันอังคารหน้า ผมเดินทางตอนบ่ายแล้วจะกลับคืนวันพุธ ผมจึงไม่สามารถอยู่กับคุณ ผมต้องขอโทษด้วยนะคุณอวี๋คนสวย”

 

 

“อะไรนะ คุณไปธุระต่างจังหวัดงั้นเหรอ” อวี๋กานกานประหลาดใจ

 

 

เธอขมวดคิ้วด้วยความลังเล “งั้นฉันไปคนเดียวน่ะสิ ช่างเถอะฉันไม่ไปก็ได้…”

 

 

ฟังจือหันเอ่ยขัดคำพูดของเธอ “ไม่ค่อยดีมั้ง เขาจัดงานเลี้ยงแถมยังเชิญคุณแล้ว อีกอย่างคุณตาเป็นคนมาเชิญคุณกับตัว แสดงความจริงใจขนาดนี้คุณควรจะไปนะ”

 

 

อวี๋กานกานมองเขาออดอ้อนแสดงสีหน้าอย่างต้องการที่พึ่งพิง “แต่คุณไม่ได้ไปด้วยนี่”

 

 

ฟังจือหันยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “คุณเป็นถึงคุณหมออวี๋ ยังต้องกลัวอะไรอีก”

 

 

อวี๋กานกานลังเลครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ก็ได้ ฉันไปก็ได้”

 

 

ฟังจือหันลูบหัวเธอ “ไม่ต้องเป็นห่วง มีผมอยู่ทั้งคน”

 

 

อวี๋กานกานบ่นพึมพำ “มีผมอยู่ทั้งคนอะไร ไหนคุณบอกไม่ไป”

 

 

ฟังจือหันได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไร

 

 

 

 

ในตอนเช้าของงานเลี้ยงวันเกิด ฟังจือหันมอบกล่องของขวัญทรงสี่เหลี่ยมให้อวี๋กานกาน “นี่คือของขวัญที่คุณจะให้กับคุณตา”

 

 

อวี๋กานกานรับกล่องของขวัญและมองมันอย่างสงสัย “มันคืออะไรอ่ะ”

 

 

“ภาพวาด”

 

 

“คนแก่ชอบภาพวาดตัวอักษร คุณปู่คุณก็ชอบมากเหมือนกัน” อวี๋กานกานเก็บไว้ในอ้อมแขนแล้วเอ่ยถามเขา “แพงไหม”

 

 

“ไม่แพง” ฟังจือหันตอบ นิ้วเรียวลูบใบหน้าของเธอเลยไปถึงเส้นผมที่คลอเคลียข้างแก้ม “อย่าลืมแต่งตัวให้สวยๆ นะ”

 

 

“ต้องแต่งตัวด้วยเหรอ ไม่เห็นจำเป็นเลย” อวี๋กานกานคิดว่าจะแต่งตัวตามปกติไปร่วมงาน

 

 

“จำเป็นแน่นอน เขาจัดงานราตรี คุณให้เจียงฉี่พาคุณไปเลือกชุดราตรีด้วยก็ได้นะ” ฟังจือหันแนะนำ

 

 

“ยังต้องสวมชุดราตรีด้วยเหรอ” อวี๋กานกานวางกล่องใบยาวไว้บนโต๊ะข้างๆ จากนั้นหยิบบัตรเชิญในกระเป๋าขึ้นมาอ่านครู่หนึ่ง งานเลี้ยงเริ่มหกโมงเย็น เป็นงานราตรีจริงๆ ด้วย

 

 

เธอไม่ได้อ่านคำเชิญอย่างละเอียดมาก่อน แต่ตอนนี้เธอพบว่าที่อยู่ของงานเลี้ยงนั้นเป็นสถานที่ที่เธอไม่รู้จักเลย

 

 

“ดูเหมือนงานเลี้ยงจะไม่ได้จัดที่โรงแรม เหมือนจะจัดในบ้าน คุณรู้ไหมว่าที่นี่อยู่ที่ไหน” อวี๋กานกานถามฟังจือหัน

 

 

“เดี๋ยวให้คนขับรถไปส่งคุณ เขารู้ว่าอยู่ที่ไหน”

 

 

“อ๋อ”

 

 

ฟังจือหันรวบเอวอวี๋กานกานเข้ามากอดเบาๆ ในอ้อมแขนแล้วโน้มลงมาจูบใบหูของเธอ “แค่งานเลี้ยง คุณไปแบบอิสระจะดีกว่า หากมีเรื่องไม่เข้าใจตรงไหนก็โทรหาผม”

 

 

อวี๋กานกานยังคงมีความหวังในใจ บางทีฟังจือหันอาจจะไม่ไปธุระต่างจังหวัดเพราะเพื่อไปงานเลี้ยงเป็นเพื่อนเธอก็ได้

 

 

แววตามีหวังของเธอกะพริบตามองเขาอย่างน่าสงสาร

 

 

ส่งผลให้ฟังจือหันเหยียดริมฝีปาก เมื่ออธิบายทุกอย่างหมดสิ้นแล้วเขาก็ออกไปทันที ออกไปแล้ว! สีหน้าของอวี๋กานกานเต็มไปด้วยความหมดหวัง

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 566 ลองชุดราตรี

 

 

หลังจากที่ฟังจือหันไปแล้ว อวี๋กานกานก็เปิดตู้และเริ่มเลือกเสื้อผ้า เธอไม่อยากรบกวนเจียงฉี่เพียงเพื่อซื้อชุดราตรีใหม่ เพียงแต่คิดว่าเลือกในชุดของตัวเองมาสักชุดก็พอ

 

 

เมื่อมองหาชุดที่ดูเป็นทางการมากขึ้น อวี๋กานกานคิดว่ามันเกือบเป็นชุดราตรีได้เหมือนกัน

 

 

เมื่ออวี๋กานกานหยิบชุดเดรสมาสวมกำลังจะแต่งตัวเธอก็ได้รับโทรศัพท์จากเจียงฉี่

 

 

เจียงฉี่บอกว่าตอนนี้รออยู่ชั้นล่างของตึกให้อวี๋กานกานรีบลงมา

 

 

อวี๋กานกานตกใจ เธอไม่ได้โทรหาเจียงฉี่สักหน่อย เจียงฉี่มาหาเธอได้อย่างไร คิดไปคิดมาสงสัยฟังจือหันคงจัดการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว

 

 

ให้อภัยที่เขาไปงานเลี้ยงครบรอบเป็นเพื่อนเธอไม่ได้แล้ว ถึงอย่างไรสำหรับชายหนุ่มถือว่างานสำคัญกว่า

 

 

แต่เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าไปเพราะงานเลี้ยงแค่นี้ถึงกับต้องซื้อชุดใหม่ ดังนั้นเธอจึงขอคุยโทรศัพท์กับเจียงฉี่ก่อนให้หล่อนมาดูกระโปรงที่เธอจะใส่ “เสี่ยวฉี่ ฉันไม่ออกไปซื้อแล้ว ฉันคิดว่าจะใส่ชุดนี้ไปงาน”

 

 

เจียงฉี่หมุนรอบตัวอวี๋กานกาน จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “นี่มันเป็นแค่กระโปรงธรรมดาๆ จะใส่ไปงานราตรีได้ยังไงคะ”

 

 

อวี๋กานกานมองสำรวจชุดที่ตัวเองใส่ แล้วถามอย่างสงสัย “ไม่โอเคจริงๆ เหรอ”

 

 

“ไม่ได้แน่นอน ไปเถอะ เดี๋ยวฉันพาพี่ไปซื้อชุดราตรี”

 

 

เจียงฉี่ลากแขนอวี๋กานกานออกจากบ้าน จากนั้นพาเธอไปสตูดิโอชื่อดังของปักกิ่ง สตูดิโอนี้ทำตั้งแต่ทรงผมแต่งหน้ารวมไปถึงจัดเสื้อผ้าและรองเท้าแบบครบวงจร

 

 

สตูดิโอมีชุดราตรีงานประณีตมากมาย มีทั้งชุดสีแดง เหลือง ฟ้า เขียว ม่วงเยอะแยะหลากสีสันหลายรูปแบบ อวี๋กานกานมองจนตาลายไม่รู้ว่าจะเลือกชุดไหนดี

 

 

เจียงฉี่เดินตามอวี๋กานกานไปรอบๆ สตูดิโอ จากนั้นจึงชี้ไปยังชุดราตรียาวสีขาวที่อยู่ในตู้กระจกแล้วพูดกับอวี๋กานกาน “อาซ้อ ฉันว่าชุดนี้เหมาะกับพี่นะคะ”

 

 

มันคือชุดราตรีสีขาวยาวลากพื้น ตรงแขนเสื้อเป็นลูกไม้และใต้กระโปรงมีดอกไม้ขนาดเล็กทั้งดูสวยและสง่า ในขณะที่ขอบชุดตรงบริเวณหน้าอกปักด้วยคริสตัลสีสดใสซึ่งดูคลาสสิกและสง่างามเมื่อมองแวบแรก แต่ยังคงความละเอียดอ่อนและหรูหรา

 

 

สวยมาก ผู้หญิงทุกคนที่มองเห็นชุดราตรีชุดนี้จะต้องรู้สึกใจเต้นแล้วอยากได้ชุดนี้แน่ๆ

 

 

แต่เธอแค่ไปร่วมงานวันเกิดครบรอบเอง ชุดนี้สำหรับเธอมันดูอลังการเกินไป

 

 

อวี๋กานกานส่ายหน้า “ชุดนี้ไม่ค่อยเหมาะกับฉันหรอก…”

 

 

จากนั้นเธอจึงชี้ไปที่ชุดมินิเดรสสีดำดูเรียบง่ายมากๆ “เอาชุดนี้ดีกว่า ชุดนี้เหมาะกับฉันมากเลย”

 

 

เจียงฉี่หันสายตามองไปตามที่อวี๋กานกานชี้แล้วนำชุดมินิเดรสสีดำเรียบง่ายตัวนั้นออกมาดูครู่หนึ่ง “ชุดนี้เหรอ…ธรรมดาเกินไป อีกอย่างไม่ค่อยเหมาะกับพี่เท่าไหร่ พี่ใส่สีขาวจะดูขึ้นมากกว่านะคะ”

 

 

เธอยังคงยืนยันในชุดสีขาวตัวนั้น

 

 

อวี๋กานกานไม่คิดเหมือนเธอเลยสักนิดแล้วยืนยันความคิดของตัวเอง “แต่เธอไม่รู้สึกว่าชุดนั้นมันไม่เวอร์ไปหน่อยเหรอ เอาชุดมินิเดรสชุดนั้นดีกว่า”

 

 

เธอมองไปที่พนักงานขายและบอกเธออยากลองชุดมินิเดรสสีดำ

 

 

เจียงฉี่ยังคงตื๊อเธอไม่เลิก “ชุดสีขาวนั่นไม่เวอร์หรอกค่ะ ชุดราตรีก็แบบนี้แหละ พอพี่ลองใส่เดี๋ยวก็รู้เองว่ามันไม่ได้ดูประเจิดประเจ้อเลย งั้นเอาอย่างนี้ พี่ลองทั้งสองชุดแล้วดูว่าชุดไหนเหมาะกับพี่มากกว่ากัน”

 

 

“โอเค งั้นก็ลองทั้งสองชุดก็แล้วกัน”

 

 

ถึงแม่จะยอมลองใส่ดูแต่อวี๋กานกานตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกชุดมินิเดรสสีดำ

 

 

ดังนั้นเธอจึงเลือกลองชุดสีดำก่อน พอสวมแล้วส่องกระจกดูทั้งสวยเรียบง่ายสุภาพเรียบร้อยก็รู้สึกพอใจขึ้นมาทันที

 

 

มีคำตอบยืนยันในใจแล้วว่าต้องเอาชุดนี้นี่แหละ