ตอนที่ 563 นอกจากหลงแล้วยังรักด้วย / ตอนที่ 564 คุณฟังสุดหล่อ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 563 นอกจากหลงแล้วยังรักด้วย

 

 

ฟังจือหันเอ่ยตอบเฉื่อยชา “มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเหมือนกัน”

 

 

“จริงเหรอ”

 

 

“เขาจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของเรา”

 

 

เพราะคำๆ นี้ อวี๋กานกานจึงยิ้มไม่หุบ

 

 

ชายหนุ่มที่มักจะเย็นชาเคร่งขรึมกำลังจะบอกเธอหากลู่เสวี่ยเฉินคิดอะไรกับเขา เขาจะไม่สนใจไยดีลู่เสวี่ยเฉินเลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่คบค้าสมาคมกับเขาด้วย

 

 

รู้สึกชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก

 

 

เธอยันกายเล็กน้อย มือทั้งสองข้างโอบรอบลำคอฟังจือหันจากทางด้านหลังแล้วนอนคว่ำทับตัวเขา “งั้นลู่เสวี่ยเฉินเป็นไม้ป่าเดียวกันคือเรื่องปกติใช่ไหม”

 

 

ฟังจือหันฉุดมือเธอให้พลิกขึ้นมานั่งบนตักเขา โอบแขนกักกอดในอ้อมแขนจากนั้นก็ละเลียดจูบริมฝีปากของเธอ การบดจูบที่ดูดันทำเอาอวี๋กานกานแทบขาดอากาศหายใจ เขาถึงได้ผละออกจากเธออย่างอ้อยอิ่ง

 

 

เสียงหายใจหอบถี่ระหว่างสองคน ใบหน้าที่พร่ามัวดูเหมือนถูกแต่งแต้มด้วยความปรารถนา โดยเฉพาะดวงตาพราวน้ำของอวี๋กานกานและแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อ

 

 

ปลายจมูกของฟังจือหันถูไถกับเธอ ดวงตาคมหรี่เล็กน้อยมุมปากยกยิ้มอย่างสื่อความหมายราวกับกำลังมีความสุขแล้วเรียกชื่อเธอ “ปลาน้อย”

 

 

น้ำเสียงทุ้มและนุ่มนวลราวกับสัมผัสได้ราวกับไวน์ที่อร่อยที่สุดนุ่มนวลและเป็นเหมือนละอองฝนในฤดูใบไม้ผลิที่กำลังหล่อเลี้ยงหัวใจ

 

 

“อืม” หลังจากอวี๋กานกานรู้สึกตัวก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “ทำไม่คุณไม่เรียกฉันว่ายัยบ๊องแล้วล่ะ”

 

 

ฟังจือหันสบตาเธอแล้วขมวดคิ้วถาม “คุณชอบให้ผมเรียกว่ายัยบ๊องเหรอ”

 

 

อวี๋กานกานรีบปฏิเสธทันควัน “ไม่!”

 

 

เธอกลอกสายตาถามติดตลก “คุณบอกว่าฉันเป็นเด็กดื้อของคุณต่างหาก!”

 

 

ฟังจือหันกลับพยักหน้าจริงจัง “อืม คุณเป็นเด็กดื้อของผม”

 

 

อวี๋กานานยิ้มตาหยีเหมือนพระจันทร์เสี้ยวแล้วเอ่ยขำ “คนดี เด็กดื้อจะหลงคุณให้มากๆ”

 

 

ฟังจือหันจ้องเธอ “แค่หลงเหรอ”

 

 

อวี๋กานกานพยักหน้าอย่างเขินอาย “ยังรักด้วย” เธอขยับหน้าเข้าหาแล้วจูบเขา “ฉันรักคุณ”

 

 

ฟังจือหันกกระหยิ่มยิ้มพอใจ หากไร้ซึ่งความเย็นชาและความเย่อหยิ่งแบบเมื่อก่อน เขารู้สึกตื่นเต้นเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งเริ่มหัดรัก

 

 

มือเล็กๆ ของเธอกอบกุมมือหนาของเขาเอาไว้ “แม้คุณจะดูเย็นชาแต่มือคุณอบอุ่นมาก มือฉันมักจะเย็นอยู่ตลอดเวลา พอกุมมือคุณเอาไว้แบบนี้ก็รู้สึกอุ่นขึ้นมากเลย”

 

 

ความในใจของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากด้วยความลึกซึ้ง

 

 

บรรยากาศที่อบอุ่นดูเหมือนแต่งแต้มอบอวลไปทั่วทั้งห้อง รอยเท้าเล็กๆ แสนจะเย่อหยิ่งของเจ้ายาจุดกันยุงเดินเข้ามาหาด้วยท่วงท่าสง่า รอยเท้าสวยงามเหยียบย่ำบนโต๊ะรับแขกแล้วส่งเสียงร้องเหมียวๆ ให้กับบุคคลทั้งสอง

 

 

อวี๋กานกานเอื้อมแขนอยากจะอุ้มเจ้ายาจุดกันยุงสักหน่อย แต่ถูกฟังจือหันรวบเอวเข้าไว้ “พอเห็นเจ้ายาจุดกันยุงคุณก็อุ้มแล้ว คุณรักผมมากกว่าหรือรักมันมากกว่า”

 

 

“ก็ต้องเป็นคุณอยู่แล้ว ฉันชอบเจ้ายากันยุงเพราะมันเป็นของคุณ”

 

 

“อ๋อ” ฟังจือหันดวงตาเป็นประกายราวกับดวงดาว ครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถาม “แล้วระหว่างผมกับอาจารย์ของคุณล่ะ”

 

 

อวี๋กานกานยิ้มเจื่อนๆ ทำหน้าไม่ถูก “คุณแน่นอน อาจารย์เหม่ยเหรินเป็นรักแบบญาติ ส่วนความรักของฉันก็คือคุณ”

 

 

ผู้ชายคนนี้ขี้ระแวงเกินไปแล้ว

 

 

หากมีความระแวงเกิดขึ้นในความสัมพันธ์ควรจะเกิดจากฝ่ายหญิงไม่ใช่เหรอ นี่เธอกับฟังจือหันพลิกบทบาทกันแล้วเหรอ

 

 

แต่นี่ก็ถือเป็นการพิสูจน์แล้วว่าฟังจือหันชอบเธอมากจริงๆ

 

 

มือหนาของชายหนุ่มกอบกุมมือหญิงสาวเอาไว้แน่น ไม่เพียงแต่กดจูบริมฝีปากให้แนบสนิท อีกทั้งยังบดเบียดเธอแนบโซฟามอบบทรักอันเร่าร้อน…

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 564 คุณฟังสุดหล่อ

 

 

อวี๋กานกานหน้าแดงช้อนสายตามองชายหนุ่มที่เพิ่งถึงฝั่งฝัน “ทำไมฉันถึงมา…ที่ห้องนั่งเล่น”

 

 

ฟังจือหันก้มหน้ามองแล้วเกาะเอวเธอเอาไว้ “เราคิดซะว่าเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วไปเริ่มต้นใหม่ที่ห้องนอนก็ได้…”

 

 

ไม่รอให้เขาพูดจบอวี๋กานกานก็ลุกนั่งลงโซฟา ตอนที่ขาเหยียบพื้นกลับอ่อนลงแล้วนั่งลงไปอีกครั้ง

 

 

ฟังจือหันเอื้อมมือประคองแขนเอเอาไว้แล้วลุกขึ้นนั่ง “เป็นอะไร เจ็บเหรอ”

 

 

“เพราะคุณนั่นแหละ…” อวี๋กานกานหน้าแดงสะบัดแขนฟังจือหันแล้วรีบหยิบเสื้อผ้าวิ่งเข้าห้องน้ำอาบน้ำทันที

 

 

หลังผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงเธอก็ออกมาจากห้องน้ำ ฟังจือหันเปลือยกายนั่งบนเตียงสายตาจับจ้องไปที่ร่างของเธอไม่กระดิก

 

 

อวี๋กานกานทาครีมบำรุงผิวเสร็จสรรพแล้วหันมามองเขาแล้วเอ่ยถามอย่างสงสัย “คุณจ้องฉันตลอดเวลาทำไมคะ ทำไมถึงยังไม่ไปอาบน้ำ”

 

 

“มองคุณสวยดี”

 

 

ฟังจือหันตอบเสียงเรียบจากนั้นจึงเปิดตู้หยิบเสื้อผ้าแล้วเข้าห้องน้ำ

 

 

อวี๋กานกานลูบหน้าตัวเองไปมาแล้วยิ้มเขิน รู้สึกอารมณ์ดีราวกับดอกไม้ไฟเบ่งบาน

 

 

ทั้งสดใสและสวยงาม

 

 

ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ชอบให้คนเอ่ยชม โดยเฉพาะกับผู้ชายที่ตัวเองรัก

 

 

อวี๋กานกานมักจะชอบเล่นโทรศัพท์ก่อนนอน

 

 

หลังจากจัดเก็บอะไรเรียบร้อยแล้วจึงลงไปหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าที่ชั้นล่าง

 

 

เมื่อเปิดกระเป๋าหยิบมือถือก็เจอบัตรเชิญงานครบรอบวันเกิดคุณตาคนนั้นพอดี

 

 

เธอหยิบมือถือแล้วเอาบัตรเชิญในกระเป๋าขึ้นไปด้วย

 

 

รอจนกระทั่งอาบน้ำเสร็จออกมาจึงเอาบัตรเชิญให้เขาดู “เป็นของคนไข้คนหนึ่งของฉันเอง ดูท่าทางเป็นคนไข้ที่แปลกไปหน่อย”

 

 

สายตาของฟังจือหันมองบัตรเชิญใบนั้นด้วยสายตามืดหม่น ชื่อและที่อยู่บนบัตรเชิญทำให้เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

 

ดูเหมือนเขาจะกระตุกมุมปากเล็กน้อย

 

 

“ฉันไม่ค่อยคุ้นเคยกับคนไข้คนนี้ เขาให้ฉันไปตรวจตอนอยู่ไป๋หยาง มาวันนี้กลับเชิญฉันไปดื่มเหล้าฉลองครบรอบวันเกิดเจ็ดสิบปีของคุณตา คุณว่าฉันควรไปดีไหม” อวี๋กานกานมองเขาอย่างคิดไม่ตก

 

 

เมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของเธอไม่รู้ว่าอยู่ในอารมณ์ไหน ฟังจือหันจึงยกยิ้มให้เธอเล็กน้อย “ทำไมไม่ไปล่ะ เขาเชิญคุณไปดื่มเหล้าฉลองอายุยืนครบเจ็ดสิบปีเชียวนะ เห็นได้ว่าเขาคงอยากขอบคุณและชอบคุณจากใจจริง คุณต้องไปอย่างแน่นอน หากไม่รู้จะให้อะไร ผมจะเตรียมของขวัญให้คุณหนึ่งชิ้น”

 

 

“ต้องให้ของขวัญด้วยเหรอ” เห็นชัดๆ เพื่อเป็นการขอบคุณเธอถึงได้ชวนไปดื่มเหล้ามงคล ถึงแม้จะเป็นเพียงแขก ดูเหมือนจะไปมือเปล่าก็คงไม่เหมาะสมจริงๆ

 

 

เธอพยักหน้าเห็นด้วย “ก็ได้ ถ้าไปดื่มเหล้าแล้วไม่เตรียมของขวัญ ยังไงก็ต้องให้อั่งเปา คุณตาเชิญฉันไปดื่มเหล้าคงไม่สนใจของขวัญของฉันเท่าไหร่ งั้นให้อั่งเปาดีไหม”

 

 

อวี๋กานกานแค่ล้อเล่นแต่คิดไม่ถึงว่าฟังจือหันจะพยักหน้า “อาจเป็นไปได้”

 

 

เขาทำท่าจริงจังจนอวี๋กานกานหัวเราะร่วนกะพริบตามองเขาอย่างออดอ้อน “ฉันจนมาก”

 

 

“ผมเตรียมของขวัญไว้ให้คุณแล้ว”

 

 

“เกรงใจจังเลยค่ะ ถึงยังไงก็เป็นเงินที่คุณลำบากหามา ต่อไปหากเราจัดงานแต่งต้องเชิญคุณตามาให้ได้นะคะ ต้องเอาเงินอั่งเปาคืนมา” “อวี๋กานกานชูกำปั้น แสดงสีหน้าขี้งกไม่ยอมเสียเปรียบเด็ดขาด

 

 

ฟังจือหันทำหน้าหยอกล้อ จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้น “ที่แท้ที่คุณอยากแต่งงานกับผมขนาดนี้เลยเหรอ แม้กระทั่งงานแต่งก็คิดเตรียมการไว้หมดแล้ว”

 

 

อวี๋กานกานอึ้งไปชั่วขณะ เขินจนหน้าแดง “คิดเตรียมการซะที่ไหน เพราะอั่งเป่าฉันเลยพูดไปเรื่อย แค่อยากบอกว่าอยากเอาเงินอั่งเปาคืนมาเท่านั้น ตอนนี้ฉันยังไม่แก่ก็เลยพูดได้แค่งานแต่งงานไม่ใช่เหรอ”