ตอนที่ 9 เธอเหมาะกับการเป็นผู้อาวุโสไหม

Mars เจ้าสงครามครองโลก

“แม่ อย่า”

หวางซีตกใจ นี่เป็นอันตรายถึงชีวิตเลยนะ เธอรีบรั้งไว้

เย่เซิ่งเทียนแอบถอนหายใจ พูดอย่างแน่วแน่ว่า “แม่ ผมกลับมาครั้งนี้ จะไม่กลับไปอีก เมื่อก่อนผมปกป้องประเทศกับประชาชนนับพันล้าน ครั้งนี้ผมจะปกป้องพวกเธอเท่านั้น”

“ถุย ใครต้องการให้คุณปกป้อง คุณเห็นลูกกำพร้ากับแม่หม้ายอย่างพวกเรา รังแกง่ายใช่ไหม!”

หลี่หลานดวงตาแดงก่ำ ใช้มีดหั่นผักชี้เย่เซิ่งเทียน แล้วก่นด่าว่า “คุณมันเดรัจฉาน กากเดน พาลูกสาวคุณไสหัวไปซะ คุณสร้างเรื่องให้ครอบครัวเราจนเป็นแบบนี้ จะให้ลูกสาวคุณมาสร้างหายนะให้เราอีกใช่ไหม”

ซือซือตกใจจนร้องไห้ออกมา เบะปากพูดอย่างน่าสงสาร “คุณยาย อย่าไล่ซือซือไป”

“แม่ ทำอะไรน่ะ อย่าทำให้เด็กตกใจสิ”

หวางซีแย่งมีดหั่นผักมาอย่างโมโห “อย่าพูดอะไรแบบนี้ต่อหน้าซือซือ หนูไม่ไล่เย่เซิ่งเทียนไป ซือซือต้องการพ่อ”

“ให้ตายเถอะ ชาติก่อนฉันทำบาปอะไรไว้”

หลี่หลานทรุดลงบนพื้น ทุบขาทั้งสองข้าง แล้วร้องออกมา

“เย่เซิ่งเทียน ถ้าคุณยังเป็นคน ก็พาลูกสาวคุณไสหัวไปซะ อย่ามาสร้างหายนะให้ครอบครัวเราอีก ลูกสาวฉันโดนคุณทำร้ายจนเป็นแบบนี้ สามีฉันโดนลูกสาวคุณฆ่าตาย คุณสองพ่อลูกทำลายครอบครัวเรา คุณยังจะทำลายชีวิตลูกสาวฉันทั้งชีวิตอีกเหรอ”

เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้วเบาๆ เขาได้ยินอะไรแปลกๆ จากคำพูดของแม่ยาย

“ซีเอ๋อร์ เกิดอะไรขึ้น”

หวางซีพูดอย่างเจ็บปวด “แม่ หนูขอร้องล่ะ อย่าพูดไร้สาระต่อหน้าเด็ก พ่อฉันช่วยซือซือ เลยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิต”

พ่อตาประสบอุบัติทางรถยนต์ จนเสียชีวิตอย่างนั้นเหรอ

เพื่อช่วยซือซืองั้นเหรอ

เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้ว เขาคิดไม่ถึงว่าในบ้าน จะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ขนาดนี้

แต่ถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่แค่ไหน สองสามปีมานี้ เขาแอบให้คนคอยสนับสนุนตระกูลหวาง ไม่น่าจะขาดแคลนขนาดนี้สิ

“ตั้งแต่ตอนไหน”

เย่เซิ่งเทียน สงสัยในใจเป็นอย่างมาก

“หนึ่งปีก่อน พ่อพาซือซือออกไปเล่น พ่อโดนรถชน เพราะปกป้องซือซือ ช่วยชีวิตไว้ไม่ได้ คนขับหนีไป จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เจอ”

หวางซีเศร้าใจ จะร้องไห้ออกมาอีก

“สมควรตาย”

เย่เซิ่งเทียนโมโหทันที พูดอย่างเย็นชาว่า “แม่ ซีเอ๋อร์ ผมจะหาฆาตกรมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้”

ช่วงเวลายุ่งวุ่นวาย ทางฝั่งตระกูลโทรมาหา

“หลี่หลาน ครอบครัวของเธอทั้งครอบครัว รีบไสหัวกลับมาซะ”

นายหญิงใหญ่ตระกูลหวาง ตวาดใส่โทรศัพท์อย่างโมโห

หลี่หลานมีสีหน้ากังวล ไม่สนใจเย่เซิ่งเทียน รีบถามว่า “ลูก ฝั่งตระกูลจ้าวเป็นยังไงบ้าง ได้การ์ดเชิญงานแต่งของเจ้าเทพหรือเปล่า นั่นเป็นทางรอดเดียวของบ้านเราเลยนะ”

หวางซีฝืนยิ้มแล้วส่ายหน้า พูดอย่างยากลำบากว่า “จ้าวเจิ้งจะข่มเหงหนู เย่เซิ่งเทียนมาทันเวลา และช่วยหนูไว้ อีกทั้งยังล่วงเกิน ฆ่าคนตระกูลจ้าว”

เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่หลานโมโหเป็นอย่างมาก ตบลงไปที่หน้าเย่เซิ่งเทียนทันที “ถ้าไม่ได้การ์ดเชิญ ลูกสาวฉันจะไม่มีงาน จะให้ครอบครัวเราอดตายเหรอ คุณยังกล้าล่วงเกินตระกูลจ้าว ได้ คุณเก่งมาก คุณเอาการ์ดเชิญมาสิ ถ้าเอามาไม่ได้ก็หย่ากับลูกสาวฉันซะ!”

เย่เซิ่งเทียนไม่ได้หลบ โดนตบอย่างรู้สึกผิด จากนั้นเอาการ์ดเชิญสีม่วงออกมา พูดว่า “แม่ นี่เป็นการ์ดเชิญงานแต่งของเจ้าเทพ มีการ์ดเชิญใบนี้ ฝั่งตระกูลคงไม่โทษแม่แล้ว”

“คุณมีการ์ดเชิญงานแต่งของเจ้าเทพได้ยังไง”

หวางซีมองเย่เซิ่งเทียนอย่างประหลาดใจ “เมื่อกี้ตอนจ้าวเจิ้งขู่ฉัน เขาบอกว่างานแต่งกับพิธีรับตำแหน่งของเจ้าเทพ เปลี่ยนเป็นพรุ่งนี้ ตอนนี้มีเพียงตระกูลจ้าวกับตระกูลหมิง ที่มีการ์ดเชิญนี้ คุณเอามาได้ยังไง”

ตระกูลหมิงเหรอ

เหอะๆ ฉันจะไปคิดบัญชีกับพวกคุณ!

สำหรับตระกูลจ้าว ไม่เห็นมีค่าอะไร!

ความเย็นชาฉายขึ้นมาในตาเย่เซิ่งเทียน เขาอธิบายว่า “เมื่อก่อนเกาเจี๋ยเป็นสหายร่วมรบกับผม เขาให้ข้ามา บอกว่าเป็นการไถ่โทษให้คุณ ผมว่าคุณใช้ประโยชน์ได้ เลยรับไว้”

หลี่หลานแย่งการ์ดเชิญมาดูอย่างโมโห เริ่มหายโมโห “ไปตระกูล เอาการ์ดเชิญไปให้นายหญิงใหญ่”

ขอแค่ได้การ์ดเชิญ นายหญิงใหญ่ก็ไม่ไล่เธอสองแม่ลูกออกจากตระกูลแล้ว

……

“พอไปถึงข้างใน อย่าพูดอะไรมั่วซั่ว ไม่งั้นคุณเจอดีแน่”

หลี่หลานกำชับเย่เซิ่งเทียนอย่างหงุดหงิด

คฤหาสน์สไตล์หรูหราของตระกูลหวาง ทำให้สองแม่ลูกยิ่งดูต๊อกต๋อย

“หวางซี เธอกล้าดีมาก คุณย่าให้เธอไปอยู่เป็นเพื่อนคุณชายรอง ขอการ์ดเชิญงานแต่งของเจ้าเทพ แต่เธอกลับล่วงเกินตระกูลจ้าว เธอยังไม่คุกเข่ารับผิดอีก!”

เมื่อเข้ามาในห้องโถง ลูกพี่ลูกน้องอย่างหวางเอี๋ยนสร้างความลำบากใจให้ทันที

บีบบังคับให้หวางซีคุกเข่า

เย่เซิ่งเทียนจ้องเธอ ความอาฆาตไหลเวียน

นี่คือหวางเอี๋ยน คนที่บอกให้หวางฟางทำร้ายซือซือ!

โทษไม่อาจให้อภัยได้

หลี่หลานรีบอธิบายว่า “ลูกสาวฉัน……”

หวางเอี๋ยนดูหมิ่นอย่างไม่เกรงใจ “ลูกสาวเธอทำไม ตอนนั้นไปนอนกับชายอื่น จนเกิดเด็กสารเลวออกมา ทำให้ตระกูลอับอาย วันนี้ยังขัดขืนคำสั่งคุณย่าอีก เธอยังมีหน้ามาอธิบายอีกเหรอ”

“คนเน่าๆ จะมียางอายอะไรอีกล่ะ ร่วมนอนกับใครก็ไม่รู้”

“พรุ่งนี้เป็นงานแต่งของเจ้าเทพ เอาการ์ดเชิญมาไม่ได้ เราจะเข้าไปได้ยังไง! สองแม่ลูกต่ำตมอย่างพวกเธอ รอโดนไล่ออกจากตระกูลเถอะ!”

เย่เซิ่งเทียนหรี่ตาลง จะเข้าไป แต่โดนหวางซีรั้งเอาไว้

หวางซีกัดฟันพูดว่า “หวางเอี๋ยน เรื่องของฉัน เธอไม่ต้องมายุ่ง”

คนตระกูลหวางที่เหลือไม่พอใจ หวางซียังกล้าเถียง แตกหักกันจริงๆ แล้ว

“ถังขยะที่โดนขอทานใช้แล้ว คิดว่าตัวเองสำคัญเหรอ”

“หวางซี เธอกล้ามากจริงๆ ไม่ได้การ์ดเชิญงานแต่งของเจ้าเทพ ยังกล้ากลับมาอีกเหรอ อย่าลืมสัญญาที่เธอให้กับคุณย่าสิ ไม่มีการ์ดเชิญ บ้านของพวกเธอ จะโดนเอาคืนมา”

น้องชายหวางเปียวพูดอย่างมีเลศนัย “หวางซี ฉันว่าเธอคงลืมภาพตอนท้อง แล้วโดนเดินประจาน ในตอนนั้นไปแล้วสินะ”

“พูดพอหรือยัง”

เย่เซิ่งเทียนโมโหจนอดไม่ไหว เขาเดินเข้ามา จ้องหวางเปียวด้วยแววตาเย็นชา

ท้องแล้วโดนเดินประจานอย่างนั้นเหรอ!

หัวใจเย่เซิ่งเทียนเจ็บจนเลือดหยด

เขาไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยสักนิด

เดิมทีหวางเปียวจะดูหมิ่นหวางซีต่อ แต่แววตาอันน่ากลัวของเย่เซิ่งเทียน ทำให้เขาสะดุ้งโหยง ขนลุกซู่ อดหวาดกลัวไม่ได้

หวางซีจับมือเย่เซิ่งเทียนแน่น กลัวว่าเขาจะลงมือ

“คุณคือเย่เซิ่งเทียนเหรอ”

หวางเอี๋ยนพูดเย้ยหยันเสียงดัง “ทำเป็นเก่งไปทำไม ตอนหวางซีโดนเราสั่งให้เดินประจานตอนท้อง ทำไมคุณไม่ออกมาล่ะ ในเมื่อคุณกลับมาแล้ว ก็ดูไว้ให้ดี ว่าเราลงโทษคนหน้าไม่อายอย่างหวางซียังไง”

“คุณก็หนีไม่รอด ถ้าอยากรอด ก็คุกเข่าเห่าเหมือนหมา เลียรองเท้าฉันให้สะอาด ฉันจะไว้ชีวิตต่ำๆ ของพวกคุณ”

“ฉันจะเลี้ยงลูกสาวเธออย่างดี ต่อไปจะได้เป็นสาวสังคม ถือว่าสร้างประโยชน์ให้ตระกูลหวาง”

คนตระกูลหวางไม่เห็นสองแม่ลูกเป็นคนในครอบครัว คำพูดรุนแรงมาก

หลี่หลานโดนบังคับจนตาแดงก่ำ เหมือนแม่ไก่หวงลูก เธอกัดฟันพูดว่า “ตระกูลหวางมีวันนี้ได้ แปดสิบเปอร์เซ็นต์ เป็นเพราะน้ำพักน้ำแรงของสามีฉัน ตอนนี้สามีฉันตายไปแล้ว พวกเธอมารังแกลูกกำพร้าพ่อ กับแม่หม้ายอย่างฉันงั้นเหรอ ถ้าวันนี้พวกเธอกล้าแตะต้องลูกสาวฉัน ฉันจะตายที่นี่”

“ตึก”

ขณะนั้น

นายหญิงใหญ่ผมสีดอกเลา ค้ำไม้เท้าหัวมังกรออกมา อำนาจสูงส่ง ราวกับซูสีไทเฮา มีคนคอยคุ้มกันอยู่หน้าหลัง

“อยากตายก็ตายสิ ไม่มีใครรั้งไว้”

เมื่อนายหญิงใหญ่หวางออกมา จู่ๆ ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา หลี่หลานก็ไม่กล้าโวยวาย

เธอนั่งลงช้าๆ ไม้เท้าหัวมังกรค้ำลงบนพื้น พูดช้าๆ ว่า “ไม่ได้การ์ดเชิญงานแต่งเจ้าเทพ ยังกล้ากลับมา หวางซี เธอรู้ความผิดหรือเปล่า คุกเข่าลง!”

เย่เซิ่งเทียนปกป้องหวางซี พูดเนิบๆ ว่า “คุกเข่าเหรอ เธอมีสิทธิ์เหรอ”

กล้าพูดกับนายหญิงใหญ่แบบนี้!

คนตระกูลหวางมองเย่เซิ่งเทียนด้วยแววตาเห็นใจ

นายหญิงใหญ่หวางมองเย่เซิ่งเทียน ด้วยความอาฆาตพลุ่งพล่าน “คุณก็คือผู้ชายสารเลว ที่หวางซีแอบลักลอบด้วยสินะ กล้ามาก ทำลายชื่อเสียงของตระกูลหวาง ยังกล้ามาที่นี่อีก ไม่รู้ที่เป็นที่ตาย วันนี้จะให้คุณตายไม่มีที่ฝัง”

เย่เซิ่งเทียนหรี่ตาลง พูดอย่างสะอิดสะเอียน “คนเป็นแม่ เธอแอบวางแผนชิงธุรกิจของลูกชาย รังแกเมียของลูกชาย เธอสมควรเป็นผู้อาวุโสไหม”