ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 114 แสงเทียนห้องหอ
“เจ้าทานอาหารก่อน”

กู้โม่หานยังนึกว่า นางพูดแค่ให้เขาอยู่เป็นเพื่อนนางนานหน่อย

เขาติดค้างนาง แน่นอนว่าต้องอยู่กับนางบ้าง

ทานอาหาร?

หยุนอี่ว์โหรวตอนนี้ไม่มีอารมณ์กินข้าวต่อ

นางจับหน้าผากกะทันหันแกล้งทำเป็นหน้ามืดตามัว พูดอย่างไม่สบาย

“ท่านอ๋อง โหรวเอ๋อร์รู้สึกไม่ค่อยสบายกะทันหัน ท่านพยุงข้าไปบนเตียงได้หรือไม่?”

“ได้ ช้าๆหน่อย” กู้โม่หานไม่ได้คิดมาก พยุงตัวหยุนอี่ว์โหรวอย่างระมัดระวังไปที่เตียง

เขาไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าอันได้ใจที่เลื่อนผ่านบนหน้าของหยุนอี่ว์โหรว

นางแค่ต้มข้าวดิบกลายเป็นข้าวสุก แล้วตั้งครรภ์ลูกของกู้โม่หานตามขั้นตอน นางแพศยาอย่างหนานหว่านเยียน ก็อย่าคิดที่จะมีวันได้ดีเลย!

คิดแล้ว หยุนอี่ว์โหรวโยนผ้าเช็ดหน้าที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อลงพื้นอย่างเงียบๆ จากนั้นก็เหยียบขึ้นไป ขาลื่นก็ล้มลงบนเตียง

นางร้องอย่างตกใจ ดึงแขนเสื้อของกู้โม่หานด้วยสีหน้าตกใจซีด ดึงตัวเขาขึ้นไปบนเตียงด้วยกัน

เสื้อหยุนอี่ว์โหรวเปิดออกครึ่งตัว เป็นกระต่ายตื่นตกใจ ขอโทษอย่างเร่งรีบ “ขอโทษท่านอ๋อง โหรวเอ๋อร์ไม่ได้ตั้งใจ!”

กู้โม่หานเห็นเหตุการณ์สีหน้าก็ตะลึง ขมวดคิ้วโดยสัญชาตญาณ “ไม่เป็นไร ข้าพยุงเจ้าขึ้นมา”

เขาไม่ได้โกรธหยุนอี่ว์โหรว เพียงแค่รู้สึกท่าทางอ่อนโยนเย้ายวนของผู้หญิงทำให้เขาอึดอัดอย่างไร้เหตุ มิหนำซ้ำยังเป็น สภาพที่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย……

หยุนอี่ว์โหรวกัดริมฝีปาก น้ำตาคลอ ปฏิเสธการประคองของกู้โม่หาน แต่กลับยื่นมือคล้องคอของกู้โม่หานโดยตรง พูดด้วยเสียงอ่อนโยนอยู่ข้างหูเขา

“ท่านอ๋อง โหรวเอ๋อร์อยากทำ…….”

กู้โม่หานแววตาตะลึง แต่กลับไม่ได้ตื่นเต้นอย่างที่คิด

หยุนอี่ว์โหรวเห็นกู้โม่หานไม่ได้ปฏิเสธ คิดว่าเขาตอบรับแล้ว ทันใดนั้นในสายตาก็มีความดีใจ “ท่านอ๋อง ให้โหรวเอ๋อร์ปรนนิบัติท่าน”

ไม่ต้องพูดกู้โม่หานก็รู้ หยุนอี่ว์โหรวอยากร่วมหลับนอนแล้ว

ก็ใช่ เขาปล่อยหยุนอี่ว์โหรวเหงามานานแล้ว วันแต่งงานจนถึงตอนนี้ ทั้งสองคนยังไม่มีความสัมพันธ์สามีภรรยากันจริง

เขาเกร็งร่างกาย นึกว่าตัวเองสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว

แต่ว่าสมองของเขาก็มีภาพต่างๆนานาของหนานหว่านเยียนสามแม่ลูกขึ้นมา อย่างลี้ลับโดยไม่รู้ตัว หนานหว่านเยียนราศีว่องไว สองพี่น้องนี้ฉลาดเจ้าเล่ห์

เขาไม่มีความรู้สึกอะไรเลยกับหยุนอี่ว์โหรว

กู้โม่หานรู้สึกอึดอัดสุดทน

หยุนอี่ว์โหรวกำลังจะยื่นมือไปถอดเสื้อผ้าของเขา กู้โม่หานกลับผลักนางออกอย่างไร้เยื่อใย

มองเห็นสายตาอันสิ้นหวังและไม่อยากเชื่อของหยุนอี่ว์โหรว กู้โม่หานขมวดคิ้ว แต่กลับหมุนตัวพูด “วันนี้เจ้าร่างกายไม่สบาย อย่ารีบร้อนเลย เจ้ารักษาตัวดีๆหนึ่งคืน วันหลังข้าค่อยมาดูเจ้า”

พูดจบ กู้โม่หานก็จากไปโดยไม่หันกลับมามอง

นางร่างกายไม่สบาย?

วันหลังค่อยมา?!

หยุนอี่ว์โหรวล้มนอนอยู่บนเตียง มองหลังที่ห่างออกไปของกู้โม่หานอย่างไม่อยากเชื่อ

เมื่อกู้โม่หานไปไกลแล้ว นางถึงตอบสนองทัน จับหมอนขว้างไปที่ประตู ขนฟุ้งกระจายไปทั่ว

เชี่ยนปี้เข้ามาเห็นเหตุการณ์ในห้องก็ตกใจ ขมวดคิ้วขึ้นมา

“พระชายารอง”

หยุนอี่ว์โหรวโมโหจนร้องไห้ออกมา ริมฝีปากเพราะกัดไว้เป็นเวลานานค่อยๆซีดไร้สีเลือด นางมองไปที่เชี่ยนปี้กะทันหันอย่างไม่สบายใจ ตาสองข้างแดงก่ำและเต็มไปด้วยเส้นเลือด

“เชี่ยนปี้ เจ้าว่าข้าไร้แรงดึงดูดไปแล้วใช่ไหม? นางแพศยาหนานหว่านเยียนคนนั้นงามกว่าข้าใช่ไหม ท่านอ๋องไม่ยอมเตะต้องข้า?”

นี่เป็นครั้งแรกที่นางคับข้องใจขนาดนี้ เสมือนหลังจากจมน้ำ แล้วถูกคนบีบคอไว้แน่น เจ็บจนหายใจไม่ออก

เชี่ยนปี้รีบเข้าไปจับมือของหยุนอี่ว์โหรวไว้ “ไม่ใช่เลยพระชายารอง เท่าที่บ่าวดู ท่านก็คือคนที่งามที่สุดในแคว้นซีเหย่ ต้องเป็นหนานหว่านเยียนใช้วิธีอะไรไปแน่ ทำให้ท่านอ๋องลุ่มหลง น่าจะเป็นหนานหว่านเยียน ใช้เด็กนอกคอกสองคนนั้นทำอะไรไม่มี!”

หยุนอี่ว์โหรวผ่อนคลายลง ความโหดร้ายในสายตากระจ่างแจ้งโดยไม่ต้องพูด

น้ำเสียงอันแหบแห้งของนางพูดอย่างโมโห “ใช่! เป็นเพราะนางแพศยาหนานหว่านเยียนทำลายทั้งนั้น! เอาเด็กนอกคอกสกปรกสองคนออกมา แย่งท่านอ๋องไปจากข้างกายข้า!”

เชี่ยนปี้เห็นสายตาของหยุนอี่ว์โหรวเริ่มมีสติแล้ว ก็โล่งอก พูดปลอบโยนเสียงเบา “ท่านอ๋องอยู่จวนอ๋องนานขนาดนี้ ข้างกายไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ ยิ่งรักษาตัวเพื่อท่านมาห้าปี ท่านควรจะเชื่อท่านอ๋องถึงจะถูก”

“ถึงแม้บ่าวจะไม่เคยผ่านเรื่องราวมาก่อน แต่เคยฟังผู้ใหญ่ที่บ้านพูดว่า เรื่องการร่วมหอแบบนี้ ต้องเป็นเวลากลางคืนถึงจะมีความรู้สึก ท่านอ๋องไม่มีเรือนน้อย ก็ย่อมไร้อารมณ์เป็นเรื่องธรรมดา ท่านอย่าโกรธท่านอ๋องเลย”

หยุนอี่ว์โหรวถึงได้รู้สึกสบายใจขึ้นมา สายตาแดงก่ำ

“เจ้าพูดถูก เป็นข้าที่ใจร้อนเกินไป เรื่องสำคัญตอนนี้ของพวกเราคืนจัดการหนานหว่านเยียนผู้หญิงคนนี้ ท่านอ๋องต้องถูกปลุกปั่นถึงเป็นเช่นนี้แน่นอน ข้าจะให้เขาถูกปลุกปั่นอีกไม่ได้……..”

“พระชายารอง ท่านคิดวิธีออกแล้วหรือ?”

หยุนอี่ว์โหรวกัดฟันอย่างโมโห นิ้วมือเคาะอยู่บนที่นอน น้ำเสียงโหดร้าย

“ในเมื่อหนานหว่านเยียนชอบใช้ลูกมาล่อลวงท่านอ๋อง เช่นนั้นข้าก็มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้นาง!”

ยังไม่รู้ว่าเด็กนอกคอกนั้นเป็นของใครไม่ใช่หรือ? ตอนนี้นางก็ช่วยเด็กนอกคอกนั่นหาพ่อ!

ขอเพียงเด็กนอกคอกมีพ่อของตัวเอง ถึงแม้กู้โม่หานอยากยอมรับ นั่นก็ต้องดูว่าเขาจะขายหน้าตัวเองหรือไม่!

นายบ่าวสองคนมองหน้ากันหัวเราะ แผนการร้ายก็ปกคลุมในใจของทั้งสองคน…….

ตลอดทางที่ออกมาจากเรือนจู๋หลาน อารมณ์ของกู้โม่หานก็ไม่ค่อยดีตลอดทาง มุมปากมีความเย็นชา

เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ ตอนที่เผชิญต่อหยุนอี่ว์โหรว ทั้งใจและสายตาล้วนเป็นหนานหว่านเยียนและลูกทั้งสองคน

ผู้ชายอึดอัดอย่างไร้เหตุ ในใจอัดอั้นแรงมหาศาลระบายออกมาไม่ได้

สุดท้ายเขาให้คนเรียกพ่อบ้านกาวมา บอกว่ามีเรื่องให้เขาไปทำ

แต่พ่อบ้านกาวคุกเข่าอยู่ตอนนี้ครึ่งค่อนวันแล้ว แขนแก่อันชราก็ปวดเมื่อยจนทรมานตั้งนานแล้ว กูโม่หานยังคงเอามือค้ำคางครุ่นคิดอยู่

ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

ในที่สุด พ่อบ้านกาวทนไม่ไหว กลัวชีวิตตัวเองจะสิ้นสุดไป จึงพูดอย่างเคารพ “ท่านอ๋อง ท่านเรียกข้าน้อยมา เพราะเรื่องอะไรหรือ?”

กู้โม่หานถึงพบว่าพ่อบ้านกาวคุกเข่าอยู่นานมากแล้ว คิ้วคมก็ขมวดแน่นทันที “ลุกขึ้นพูด”

“เจ้าไปเชิญอาจารย์ดีๆมาในจวนกี่คน ส่งไปที่เรือนเซียงหลิน ยิ่งเร็วยิ่งดี”

พ่อบ้านกาวเข้าใจความคิดของกู้โม่หานในทันที แต่เขาก็ยังคงประหลาดใจอยู่บ้าง จึงรีบถาม “ท่านอ๋องอยากหาอาจารย์แบบไหน? สอนมารยาทให้พระชายา ข้าน้อยคิดว่าทางด้านทิศตะวันตกของเมืองใช้ได้”

“จะไปสอนยายหนูสองคน อาจารย์พวกนั้นก็ความประพฤติดีงาม ความรู้เลื่องลือ อย่าให้ข้าหาพวกนั้นที่โลภและเกียรติจอมปลอมมา!”

พ่อบ้านกาวหัวเราะเบิกบานทันที “ได้ ข้าน้อยไปจัดการเดี๋ยวนี้ ท่านอ๋องช่างใส่ใจต่อคุณหนูน้อยทั้งสองเหลือเกิน”

คิดไม่ถึงว่าพระชายาไม่สามารถปราบท่านอ๋องได้ แต่ยายหนูทั้งสองกลับทำได้อย่างง่ายดาย

ใครจะไปรู้ว่ากู้โม่หานได้ยินแล้วสีหน้าเย็นชา ปากแข็งไม่ยอมรับ

“ข้าแค่รู้สึกว่าหนานหว่านเยียนผู้หญิงคนนี้สอนได้ไม่ดี ข้าทนเห็นนางสองเด็กสองพี่น้องไม่ได้”

“มิหนำซ้ำเด็กดีๆ ถูกหนานหว่านเยียนสอนจนพฤติกรรมไม่เรียบร้อย แต่ละวันรู้แต่ก่อเรื่องเจ้าเล่ห์ ไม่รู้หลักการ ข้าไม่สามารถให้นางทำลายอนาคตของแคว้นซีเหย่ได้!”

พ่อบ้านกาวกลัดกลุ้ม

ทำไมท่านอ๋องถึงต้องปากแข็งเช่นนี้นะ

นี่ไม่ใช่หาเรื่องให้ตัวเองโมโหหรือ?

บทที่ 113 เขามีลูกสองคน

บทที่ 115 เสนอตัวเข้าหา