ในคืนที่มืดมิดก็มีเสียงฟู่ดังมาจากพุ่มหญ้า

กู้ชูหน่วนและคนอื่นหันกลับไปมอง ก็เห็นว่าเหล่างูพิษที่แลบลิ้นอยู่พุ่งเข้ามาหาพวกเขาทั่วทุกทิศ จึงอดมิได้ที่จะตกใจ

งูพันธุ์นี้แตกต่างจากพันธุ์อื่น มันมีหลากหลายสีรวมเข้าอยู่ด้วยกันราวกับพุ่งมาอย่างมีเป้าหมายอย่างไรอย่างนั้น

ทุกคนในที่นี้ล้วนมีทักษะในการมอง รู้ได้ทันทีว่างูที่มานั้นเป็นงูที่มีพิษร้ายแรงทุกตัว หากถูกมันกัดเข้าชีวิตของพวกเขาก็จะสิ้นไปเช่นกัน

“เหตุใดจึงมีงูเยอะเพียงนี้?”ท่ามกลางหมู่คนมิรู้ว่าใครตะโกนออกมา

ฝูกวงกล่าวเสียงทุ้มต่ำ “นายท่าน คาดว่าเป็นผู้อาวุโสตงแห่งเผ่าเพลิงฟ้าพ่ะย่ะค่ะ นางเชี่ยวชาญเรื่องควบคุมสัตว์มีพิษมากที่สุด”

“มีวิธีจัดการหรือไม่?”

“นอกเสียจากฆ่าผู้อาวุโสตงเสียหรือเอาชนะผู้อาวุโสตงให้จงได้พ่ะย่ะค่ะ แต่ทว่าโดยทั่วไปแล้วนางมักจะอยู่ที่ไกลโพ้นและควบคุมด้วยไสยศาสตร์ มิอาจรู้ตำแหน่งแน่ชัดของนางได้”

เขาเองก็มิกล้าห่างจากนายท่านมากนัก เกรงว่านายท่านจะมีอันตราย

ฝูงงูเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ เหล่าทหารอารักขาป้องกันกู้ชูหน่วนและคนอื่นไว้ตรงกลาง จากนั้นก็มีคนหนึ่งชักดาบออกมาฟันไปทางฝูงงู

แต่ทว่างูพิษมีมากนัก ฟันไปหนึ่งตัวก็พุ่งมาอีกหลายตัว มีมากเช่นนี้ฟันมิสิ้นสุดอย่างแน่นอน

เข็มเงินของกู้ชูหน่วนยิงออกไปอย่างถี่ ๆ ทุกเข็มเงินล้วนยิงโดนงูพิษอย่างไม่มีพลาด แม้นจะเป็นเช่นนี้ก็มิสามารถจัดการปัญหานี้ได้

กำลังภายในของฝูกวงหลอมรวมไว้บนคมดาบ จากนั้นก็วาดดาบขึ้นมาหลายดาบและพุ่งเข้าไปทางฝูงงูในคราวเดียว

ฝูงงูปลิวออกไปด้วยคมคาบของฝูกวง แต่ละตัวแยกออกเป็นเสี่ยง ๆ ทั่วหุบเขาเต็มไปด้วยซากงู

เหตุการณ์วิกฤตคลี่คลายไปครู่หนึ่ง สักพักก็มีฝูงงูพุ่งเข้ามาอีกครั้ง เป็นวังวนเช่นนี้ซ้ำ ๆ ฆ่าพวกมันอย่างไม่สิ้นสุด

ใบหน้าของฝูกวงชุ่มไปด้วยเหงื่อการหายใจเริ่มถี่ขึ้น คาดว่าเสียกำลังภายในไปไม่น้อยเลย

“ให้ตาย เหตุใดไอ้โรคจิตนั่นถึงได้เรียกงูพิษมาเยอะเพียงนี้ มิได้การละต้องคิดหาวิธีให้จงได้ มิเช่นนั้นกำลังภายในของเจ้าจะเสียจนสิ้นชีพได้”

“พระชายา ข้าน้อยจะเปิดทางเส้นหนึ่งส่งท่านออกไปเสียก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

กล่าวจบก็ปฏิบัติการทันที เหล่าทหารอารักขาเปลี่ยนแนวแถว พยายามต่อสู้เพื่อออกจากการถูกล้อม และฟันดาบเพื่อเปิดทางเส้นหนึ่ง

กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างเย็นชา “อย่าแยกจากกันเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะเกิดเรื่องได้ง่าย”

นางพลางกล่าวพลางหาของในแหวนเก็บสะสม และหยิบยาออกมาไม่น้อย มีเพียงกำมะถันแดงเท่านั้นที่หามิพบ สุดท้ายทำได้เพียงหยิบขวดยาสีเหลืองออกมา

“ใช้พิษแก้พิษ สู้ตาย พวกเจ้าทุกคนใช้แขนเสื้อปิดปากตนเองไว้ และห้ามเหยียบผงยาโดยเด็ดขาด”

นางโรยผงยาไว้รอบ ๆ ผู้คน เพื่อหลีกเลี่ยงงูพิษเหล่านั้น

เมื่อฝูงงูกำลังเลื้อยเข้าไปรอบวงกลมนั้น พวกมันแต่ละตัวก็ล้มลงกับพื้นราวกับถูกวางยา ร้เรี่ยวแรงและมิสามารถเลื้อยไปข้างหน้าอีกได้

ทุกคนต่างถอนหายใจ

ฝูกวงกล่าวอย่างขำขัน “นายท่าน นั่นเป็นยาอันใดงั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ เหตุใดจึงได้ผลเพียงนี้”

“นี่หรือ…ยาครอบจักรวาล” กู้ชูหน่วนกระพริบตา ยิ้มและไม่ตอบอันใด

เมื่อเห็นสายตาของนาง ในใจของฝูกวงก็ตกใจไปครู่หนึ่ง

คงมิใช่ยาที่ใช้สำหรับชายหนุ่มหรอกนะ?

“พระชายา มิรู้ว่ายาของท่านยังมีมากเพียงใด ณ ที่นี้ยังมิปลอดภัย ข้าน้อยจะคอยคุ้มกันและส่งท่านออกจากหุบเขาพิศวิญญาณเสียก่อน”

สีหน้าของกู้ชูหน่วนหนักแน่นและจ้องไปยังบนฟ้า ทันใดนั้น สีหน้าของนางก็เปลี่ยนกะทันหันและตะโกนเสียงดัง “มิทันการแล้ว หมอบลง หมอบลงบัดเดี๋ยวนี้”

แม้นคนอื่นจะมิรู้ว่านางหมายความว่าอย่างไร แต่ก็ยังคงหมอบลงตามคำสั่งโดยทันที

ขณะที่พวกเขากำลังหมอบลงนั้น ก็มีค้างคาวฝูงหนึ่งบินเข้ามา

มิรู้ว่าค้างคาวเหล่านี้ถูกกลายพันธุ์หรือไม่ พวกมันแต่ละตัวมีปากที่ใหญ่และมีเขี้ยวแหลมคม พุ่งเข้าไปทางพวกเขา

บางคนที่หมอบลงช้าไปก็ถูกกัดไปเสียอย่างนั้นเลย

ฝูกวงหมอบลงกับพิ้นเงยหน้าสู่ท้องฟ้า รวบรวมกำลังภายในไว้ที่ฝ่ามือ และฟาดไปยังค้างคาวให้พวกมันกระจายออก

แม้นกำลังภายในของคนคนหนึ่งจะยิ่งใหญ่มากเพียงใด ก็มิอาจต้านทานค้างคาวนับหมื่นตัวเช่นนี้ได้