ตอนที่ 593 สาวงามเพียบพร้อม!
จู่ๆ นักเลงหนุ่มก็ตะโกนออกมาเสียงหนึ่ง แล้วก้าวไปตรงหน้าฟ่านอวี่ “ผมนึกออกแล้ว ฟางจื่อบอกว่าเขาติดเงินใครบางคน อาจจะต้องไปกบดานที่บ้านญาติในต่างเมือง เขาอาจจะไม่ได้กลับบ้านเกิด แต่ไปบ้านญาติ!”
“งั้นบ้านญาติของเขาอยู่ที่ไหน ที่อยู่ล่ะ?”
“เอ่อ…ฟางจื่อไม่ให้บอก…” นักเลงหนุ่มอยากพูดแต่ก็หยุดไป
“ฉึก!” ฟ่านอวี่สะบัดมือ ทำให้มีดปอกผลไม้ในมือเสียบลงบนโต๊ะ
เขาไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร แต่กลับน่ากลัวกว่าการที่เขาพูดอะไรออกมาเสียอีก
นักเลงหนุ่มตัวสั่นไปทั้งตัว พูดโพล่งออกมา “ใกล้ๆ เมืองเอส ที่อยู่คือบ้านเลขที่ห้าสามเก้า ตรอกหวางจื่อบนถนนตะวันออก…”
เมื่อได้ยินที่อยู่นี้ ฟ่านอวี่ยังไม่ทันได้ออกคำสั่ง ผู้ช่วยก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาต่อสายอย่างรวดเร็ว เพื่อสั่งให้คนไปตามหาฟางจื่อตามที่อยู่ที่นกเลงหนุ่มบอก
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็มีข่าวมารายงาน
“คุณชายฟ่าน หาฟางจื่อเจอแล้วครับ เขาไปกบดานที่บ้านญาติจริงๆ ตอนที่คนของพวกเราไปหาเขา เจอคนที่มาเก็บหนี้พอดี ฟางจื่อบอกว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดของแหวนราชินี แต่นอกจากพวกเราจะสะสางหนี้ให้เขา ไม่อย่างนั้นให้ตายยังไงเขาก็จะไม่ปริปากพูดสักคำ”
“…” ฟ่านอวี่ตาเป็นประกายเล็กน้อย
บนใบหน้าอ่อนโยนปรากฏสีหน้าเฉยชา ก่อนจะขยับริมฝีปากบาง “คืนเงินแทนเขา ผมอยากเจอเขาทันที”
“…”
“อีกอย่าง จำไว้ว่าต้องบอกเขา ถ้าผมไม่ได้ยินข้อมูลที่มีประโยชน์สักนิดจากปากเขา ผมจะตัดลิ้นเขาทิ้ง!”
ทันทีที่ฟ่านอวี่พูดจบ ผู้ช่วยก็หายไปจากที่เดิม
สถานที่ที่ฟางจื่อกบดานอยู่นั้น อยู่ใกล้กับเมืองเอช และใกล้กับเมืองเอสมาก ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ก็พาตัวเขากลับมาได้แล้ว
เมื่อได้ยินว่าเจอฟางจื่อแล้ว ฟ่านอวี่ก็ผุดลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ แล้วสาวเท้าออกจากห้องรับแขก
หลังจากเดินไปถึงห้องหนังสือชั้นบน เขาพลันเปิดประตูออก ที่ว่างอันเงียบเชียบ เจือกลิ่นหนังสือหนาแน่น เข้ากับกลิ่นอายของสุภาพบุรุษบนตัวเขาอย่างยิ่ง
ชายหนุ่มเดินไปข้างหน้า หยิบไวน์แดงออกมาจากในตู้ไวน์ขวดหนึ่ง แล้วเทใส่แก้วให้ตัวเอง
จากนั้นเขาก็ถือแก้วไวน์เดินไปที่หน้าโต๊ะหนังสือ ลากเก้าอี้มานั่งลง
เขาส่ายไวน์แดงในมือเบาๆ ไม่ได้ดื่มเข้าไป เพียงแต่นำมาใกล้ใต้จมูก ราวกับมีเพียงทำอย่างนั้น ถึงจะสามารถข่มความรู้สึกฟุ้งซ่านของตัวเองได้
ทันใดนั้นเขาก็เลื่อนสายตาไปจากบนโต๊ะ จ้องเขม็งไปที่กรอบรูปตั้งโต๊ะ
กรอบรูปเก่ามากแล้ว วางอยู่บนโต๊ะหรูหราสะอาดสะอ้าน ดูไม่เข้ากันอย่างเห็นได้ชัด
ทว่าสายตาที่ฟ่านอวี่มองกรอบรูปกลับอบอุ่นเป็นพิเศษ
มือเรียวเห็นกระดูกชัดเจนค่อยๆ ยื่นออกไปหยิบกรอบรูปไว้ในมือ นิ้วยาวลูบผ่านรูปภาพในกรอบอย่างอ่อนโยน
บนรูปภาพมีเด็กหญิงอายุสิบสองสิบสามปีคนหนึ่ง
เธอมีเรือนผมยาวสีดำขลับกระจายอยู่บนบ่า เครื่องหน้าสะสวยสมกับเป็นสาวงามเพียบพร้อม!
ดวงตาสดใสของเธอเปล่งประกาย
เด็กหญิงสาวชุดกระโปรงเจ้าหญิงสีครีม กำลังนั่งอยู่บนม้านั่งในสวน จู่ๆ เธอพบว่ามีใครบางคนแอบถ่าน จึงหันกลับมาในทันที
เมื่อเห็นว่าเป็นคนที่เธอคุ้นเคย เด็กหญิงก็ยิ้มหวานทันใด…
เพียงแค่ชั่วขณะหนึ่ง กล้องจับภาพเธอไว้ได้
และเหมือนฟ่านอวี่จะจดจำไว้ในสมองได้เช่นกัน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว
ทันใดนั้น ประตูห้องหนังสือก็ดังขึ้น
ผู้ช่วยเปิดประตูเดินเข้ามาจากข้างนอก “คุณชายฟ่านครับ พาฟางจื่อกลับมาแล้ว”
เขาพูดจบ พลันมีผู้ช่วยหน้าตาจริงจังค่อยๆ เดินเข้ามาจากข้างนอก
ทันทีที่เห็นฟ่านอวี่นั่งอยู่หน้าโต๊ะหนังสือ เขาก็ตะลึงงันไป
จากนั้นเขาเห็นสิ่งของที่อยู่ในห้องหนังสือ สายตาเปลี่ยนเป็นคลุมเครือขึ้น
ฟางจื่อเดินเข้ามาเอ่ยปากเอง
“ผมเป็นคนขายแหวนราชินีให้ตลาดประมูลใต้ดิน คุณอยากรู้อะไร ขอแค่ให้เงินผม ผมจะบอกคุณทั้งหมด!”
ตอนที่ 594 ผมบอก! ผมจะบอก!
ฟ่านอวี่ ประธานบริษัทตระกูลฟ่านเพิ่งเข้ามาที่เมืองเอช ก็กล้าเป็นคู่ต่อสู้กับอวี๋เยว่หานเสียแล้ว
ชื่อเสียงของเขาในตอนนี้ เป็นรองเพียงคุณชายหานเท่านั้น
ฟางจื่อเพิ่งเจอเขาเป็นครั้งแรก ก็ไม่กล้าดูถูกโดยสิ้นเชิง
คุณชายฟ่านเปิดเผยตัวขนาดนี้ เพียงลงมือก็ใช้หนี้สูงถึงแสนหยวนให้เขาแล้ว ยืนยันได้ว่าเขาอยากรู้ข้อมูลของแหวนราชินีจริงๆ
โอกาสดีอย่างนี้ ฟางจื่อจะพลาดไปได้อย่างไร!
ตอนนี้เขามองฟ่านอวี่เหมือนตัวทำเงิน เป็นลูกแกะที่รอเชือด!
ดวงตาของฟางจื่อจ้องเขม็งไปที่ฟ่านอวี่ รออีกฝ่ายเอ่ยปาก
“คุณชื่อฟางจื่อเหรอ” ครั้นฟ่านอวี่ได้ยินคำพูดของฟงจื่อ เขาก็ช้อนดวงตาอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย สายตายังคงเดิม
เมื่อได้ยินคำถามของฟ่านอวี่ ฟางจื่อยังไม่ทันเอ่ยปากอะไร ผู้ช่วยที่พาเขาเข้ามาก็เตะขาเขาครั้งหนึ่งแล้ว
“อยู่ต่อหน้าคุณชายฟ่าน พูดให้มันดีๆ หน่อย ไม่งั้นพวกเราอาจจะเอาเงินที่ใช้หนี้นักเลงพวกนั้นคืนมาก็ได้ จะได้ส่งนายกลับไปอีกครั้ง!”
ทันทีที่ผู้ช่วยพูดจบ สีหน้าของฟ่านอวี่ก็เปลี่ยนไป
เขายืนตัวตรงต่อหน้าฟ่านอวี่ ท่าทางดูนอบน้อมขึ้น
“ตอบคุณชายฟ่าน ผมเอง ผมคือฟางจื่อ”
ฟางจื่อมีชื่อเรื่องปลิ้นปล้อน พูดจาจริงสามส่วน เท็จเจ็ดส่วนเสมอ ชอบหลอกเอาเงินไปทั่ว จนเคยเข้าตารางมาแล้วสองสามหน
หลังจากออกมา เขาก็ยังไม่ทำการทำงาน
เอาแต่เล่นพนันจนเป็นนิสัย ถึงแต่ติดหนี้มากมายจนต้องหนีไปกบดาน ถ้าไม่มีโชคดีที่นี่ ได้เจอคนของฟ่านอวี่ไปตามหาเขาพอดี เกรงว่าเขาคงถูกเจ้าหนี้ฉีกเป็นสองท่อนแล้ว
ตอนนี้ได้ยินว่าตัวเองอาจจะถูกส่งกลับไป จะไม่ให้กลัวได้อย่างไร
เขาอยากจะบอกสิ่งที่ตัวเองรู้ ให้ฟ่านอวี่ฟังใจจะขาดแล้ว
“แหวนราชินี คุณเป็นคนเอาไปขายในตลาดมืดใช่ไหม” ฟ่านอวี่พิจารณาฟางจื่อตั้งแต่หัวจรดเท้าครั้งหนึ่ง ก่อนจะขยับริมฝีปากบาง
“ผมเป็นคนขายเอง ตอนนั้นผมคิดว่ามันเป็นแหวนธรรมดา ดูเก่าๆ แต่อัญมณีด้านบนดูมีค่าอยู่บ้าง ก็เลยขายไปเป็นเงินไม่เท่าไหร่ คิดไม่ถึงเลย ว่ามันจะมีค่าขนาดนี้! ถ้าผมรู้อยู่ก่อนว่ามันมีค่าถึงร้อยล้าน ผมคงร่ำรวยไปนานแล้ว ไม่ตกต่ำถึงขั้นถูกตามทวงหนี้…”
ฟางจื่อนึกถึงแหวนราชินี ก็มีสีหน้าเป็นทุกข์ขึ้นมา อยากจะตบหน้าตัวเองสักทีหนึ่ง
สีหน้าเสียดาย ดูแล้วไม่เหมือนแกล้งทำ
เมื่อได้ยินดังนั้น ในที่สุดใบหน้าเรียบนิ่งของฟ่านอวี่ก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
สองมือของชายหนุ่มยันบนหน้าโต๊ะ ลูกตาสีน้ำตาลเข้มหรี่ลงทันใด “แหวนวงนั้น คุณได้มาจากที่ไหน”
ฟางจื่อตะลึงงันที่เขาถามอย่างนี้
จากนั้นฟางจื่อก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ หลบสายตา และฑุดอ้ำอึ้ง
“…เอ่อ มันเป็นแหวนที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ เป็นแหวนที่ตกทอดในตระกูล!”
“โครม”
ฟ่านอวี่วาดแขนกวาดเอกสารบนโต๊ะลงบนพื้น ก่อนจะผุดลุกขึ้นทันที แล้วยื่นมือไปดึงคอเสื้อของฟางจื่อขึ้น ดึงอีกฝ่ายมาตรงหน้า
ใบหน้าอ่อนโยนเย็นชาขึ้นอีกระดับ
ในดวงตาอ่อนโยนตอนนี้มีปรกายน่าหวาดหวั่น เขากล่าวชัดถ้อยชัดคำ “ผมเกลียดคนที่หลอกผมมากที่สุด ผมจะให้โอกาสคุณอีกแค่ครั้งเดียว ถ้าคุณอยากจะรนหาที่ตาย ผมรับประกันว่าคุณจะต้องเสียใจที่ได้เกิดมา!”
“…ผมบอก! ผมจะบอก!” ฟางจื่อกลัวดวงตามืดมนของคุณชายฟ่านจนสะดุ้งโหยง ครั้นเห็นผู้ช่วยเดินเข้ามาเขา เขาก็เปลี่ยนคำพูดโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
“ผมเก็บแหวนวงนั้นได้ ผมเก็บได้บนถนน!”
“เก็บได้?” ฟ่านอวี่ขมวดคิ้วมุ่น
“ใช่! วันนั้นผมเมามาก เก็บมันได้ตอนกำลังกลับบ้าน ผมเก็บมันได้จริงๆ ที่เมื่อกี้ผมไม่พูด ก็เพราะกลัวว่าคุณจะไม่เชื่อ…”