ตอนที่ 591 เชื่อมโยงกันแน่นหนา เผชิญหน้าด้วยไอคิว! / ตอนที่ 592 ผมนึกออกแล้ว!

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 591 เชื่อมโยงกันแน่นหนา เผชิญหน้าด้วยไอคิว!

 

 

“กล้องวงจรปิดของธนาคารล่ะ ตรวจสอบวิดีในนั้นแล้วหรือยัง”

 

 

“ตรวจสอบแล้วครับ แต่หลายปีก่อนเกิดอุบัติเหตุกับทางธนาคาร ทำให้คลิปกล้องวงจรปิดในตอนนั้นเสียหายไปทั้งหมด มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถยืนยันได้เลย ว่าคนที่ไปฝากรายงายนั้นใช่ตัวคุณเหนียนเองหรือเปล่า”

 

 

นั่นก็หมายความว่า เป็นไปได้ว่ารายงานดีเอ็นเอชุดนั้น มีคนอื่นใช้ชื่อของเหนียนเสี่ยวมู่ไปฝากไว้

 

 

แล้วก็บังเอิญทีเดียว เพราะเมื่อฝากรายงานฉบับนั้นแล้ว ธนาคารก็เกิดอุบัติเหตุพอดี

 

 

ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ หรือใครจงใจทำ เกรงว่าจะตัดสินได้ยาก

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋เยว่หานก็หรี่ตาสีดำลง แววตาฉายแววอันตราย…

 

 

เขาไม่สนว่าเหนียนเสี่ยวมู่เป็นใคร อย่างไรเขาก็จะจับมือผู้หญิงคนนี้ไปทั้งชีวิต

 

 

อดีตของเธอนั้น เขาไม่อยากไปสืบสาวแล้ว แต่ถ้าไม่ตรวจสอบให้ชัดเจน เขาก็ไม่มีทางรับประกันความปลอดภัยของทั้งสองแม่ลูกได้

 

 

นัยน์ตาสีดำของชายหนุ่มพลันมืดมน ก่อนจะขยับริมฝีปากบางอย่างเยือกเย็น “ตรวจสอบต่อไป ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน ว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด!”

 

 

“ครับ!”

 

 

ผู้ช่วยพยักหน้า ทว่ากำลังจะออกไป เขาก็หยุดฝีเท้า เพราะนึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้

 

 

“คุณชายหานครับ ได้ข่าวมาว่าคุณชายฟ่านเหมือนจะกำลังสืบข่าวของแหวนราชินี”

 

 

ที่นี่คือเมืองเอช เป็นอาณาเขตอำนาจของตระกูลอวี๋

 

 

ฟ่านอวี่สืบข่าวอยู่ในเมืองนี้อย่างหาญกล้า ไม่ปิดบังพวกเขาสักนิด

 

 

และฟ่านอวี่เหมือนจะร้อนใจมาก ถึงได้ทำเรื่องพวกนี้ โดยไม่สนใจจะปิดบังอะไรโดยสิ้นเชิง

 

 

เขากระทำเรื่องนี้เป็นการใหญ่โตจนเกินไป ไม่ใช่สไตล์ของเขาเลยจริงๆ

 

 

แถมการกระทำที่ผิดจากเดิมนี้ คงยากที่จะไม่ดึงดูดความสนใจของคนอื่น

 

 

มีคนไม่น้อยสนใจความเคลื่อนไหวของบริษัทตระกูลฟ่าน จึงพสกันคาดเดาอย่างลับๆ ว่าเป้าหมายที่ฟ่านอวี่สืบเรื่องแหวนราชินีคืออะไรกันแน่

 

 

“เขาสืบเรื่องแหวนไปทำอะไร” อวี๋เยว่หานตะลึงไปเล็กน้อย

 

 

สิ่งที่แวบเข้ามาในหัวของชายหนุ่ม คือภาพฟ่านอวี่แย่งประมูลแหวนราชินีกับเขา ในงานประมูลในตอนนั้น

 

 

ตอนนั้นเขารู้สึกแปลกใจมาก เพราะฟ่านอวี่เหมือนจะสนใจแหวนราชินีวงนี้มากทีเดียว

 

 

ไม่เพียงเพราะมูลค่าของแหวนวงนั้นสูงกว่าปกติ แต่เหมือนเขามีความรู้สึกพิเศษบางอย่างต่อแหวนวงนั้นอยู่แล้ว

 

 

ตอนนี้อีกฝ่ายรู้ดีอยู่แล้วว่าแหวนอยู่ในมือของเขา แต่กลับไปสืบข่าวของแหวนต่ออีก…

 

 

เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ ต้องการจะตามหาอะไร

 

 

“ได้ยินว่าคุณชายฟ่านอยากรู้ ว่าแหวนราชินีในงานประมูลมาจากที่ไหน” ผู้ช่วยรายงานข้อมูลที่สืบได้มาทั้งหมด

 

 

รวมถึงบอกว่าฟ่านอวี่ไปตลาดประมูลใต้ดินมาด้วย แถมยังไปหานักเลงหนุ่มมาสอบถามเรื่องราวอีกต่างหาก

 

 

ได้ยินว่าตอนนี้นักเลงหนุ่มคนนั้นอยู่ในคฤหาสน์ส่วนตัวของฟ่านอวี่ ยังไม่ได้ออกไปไหน

 

 

เล่ากันว่าบริษัทตระกูลฟ่านเข้ามาที่เมืองเอช ตอนนี้เป็นเวลาที่ฟ่านอวี่จะขยายธุรกิจแล้ว

 

 

แต่บังเอิญว่าเขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องของธุรกิจสักเท่าไหร่

 

 

กลับทำเรื่องแปลกๆ บางอย่างอยู่ตลอด

 

 

ไม่มีใครรู้ ว่าฟ่านอวี่มีเจตนาอะไรกันแน่…

 

 

“…”

 

 

เมื่อได้ฟังคำพูดของผู้ช่วยแล้ว อวี๋เยว่หานก็ตกอยู่ในความเงียบงัน

 

 

อาจจะเป็นเพราะภายนอกเห็นว่าฟ่านอวี่เป็นคนเดียว ที่พอจะมีสิทธิ์แข่งขันกับเขาได้

 

 

อวี๋เยว่หานเท้าคางด้วยมือข้างเดียว ลองคิดวิเคราะห์ในมุมของฟ่านอวี่ดู

 

 

หรือว่าเขา…

 

 

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ดวงตาสีดำของเขาก็เบิกโพลงเล็กน้อย

 

 

“ฟ่านอวี่อาจจะกำลังตามหาใครอยู่ และคนคนนั้นก็คือเจ้าของคนเก่าของแหวนราชินี!”

 

 

“…” ผู้ช่วยถึงกับตะลึงงัน

 

 

แต่ยังไม่ทันได้ดึงสติกลับมา อวี๋เยว่หานก็ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ “ไปสืบเดี๋ยวนี้! ว่าก่อนที่แหวนราชินีจะเข้ามาในงานประมูลของเมืองเอชอีกครั้ง ใครเป็นคนที่ครอบครองมัน!”

 

 

 

 

 

ตอนที่ 592 ผมนึกออกแล้ว!

 

 

ในคฤหาสน์ส่วนตัว

 

 

ผ่านไปสองวันแล้ว

 

 

คนที่ฟ่านอวี่ส่งไปยังคงหาฟางจื่อไม่พบ

 

 

ประตูห้องรับแขกเปิดออกอีกครั้ง

 

 

เงาร่างหล่อเหลาของฟ่านอวี่ค่อยๆ เดินเข้าไปในห้อง

 

 

พื้นที่โอ่โถงดูสบายและกว้างขวาง

 

 

ไม่เพียงสภาพแวดล้อมยอดเยี่ยม ยังมีอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งยังมีคนดูแล…

 

 

หากไม่มีคนคอยจับตามอง อยู่ที่นี่มีความสุขมากเหลือเกิน!

 

 

นักเลงที่นำข้อมูลมาให้ในทีแรก กำลังนอนอยู่บนเก้าอี้เอนตรงระเบียงอย่างสบายใจ ในมือถือเนื้อย่างไม้หนึ่ง กำลังกัดกินเข้าปากอย่างมีความสุข ทั้งยังฮัมเพลงเสียงเบาด้วย

 

 

ในหัวคิดว่าอยากให้มีสาวสวยคอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายในตอนนี้ด้วย อย่างนั้นเขาคงมีชีวิตเหมือนเทพเซียนก็ไม่ปาน…

 

 

“ปัง”

 

 

ฝันหวานของนักเลงหนุ่มยังไม่ทันเป็นจริง ถาดผลไม้ตรงหน้าก็ถูกเตะจนคว่ำแล้ว

 

 

หนุ่มนักเลงตกใจจนเด้งตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้เอน แล้วหันหลังกลับไปมองอย่างลุกลี้ลุกลน

 

 

ครั้นเห็นฟ่านอวี่เดินมาตรงหน้า เขาก็รีบยืนตัวตรงเรียบร้อย “คะ คุณชายฟ่านอวี่ ทำไมว่างมาได้ คุณกลัวผมโมโหไม่ใช่เหรอ คุณวางใจเถอะ ผมอยู่ที่นี่สบายมาก ขอแค่คุณไม่ไล่ผมไป ให้ผมอยู่ที่นี่อีกนานเท่าไหร่ก็ไม่มีปัญหา!”

 

 

“…”

 

 

“เจรจากันหน่อยดีไหม คุณบอกว่าคฤหาสน์ของคุณดีทุกอย่าง แต่คนน้อยไปน้อย อ้างว้างแปลกๆ ผู้หญิงก็น้อยมาก คุณชายหานเป็นผู้ชาย แถมยังหล่อเหลาเอาการ คุณน่าจะเข้าใจความหมายของผมนะ…”

 

 

นักเลงหนุ่มพูด เครื่องหน้าเจ้าเล่ห์ดูหยาบคายขึ้น พลางถูฝ่ามือรอให้ฟ่านอวี่เตรียมสาวสวยมารับใช้เขาสักสองสามคน!

 

 

“ชอบที่นี่เหรอ” ฟ่านอวี่ได้ยินอีกฝ่ายพูดแล้ว มุมปากพลันกระตุกยิ้ม

 

 

มองไม่ออกว่าดวงตาสีน้ำตาลเข้มรู้สึกอย่างไร

 

 

ใบหน้าที่อ่อนโยนเสมอ ทำให้เขาดูเหมือนคุณชายสุภาพบุรุษ ผู้อบอุ่นและมีมารยาท ไม่เคยมีความรุนแรงมาแต่ไหนแต่ไร

 

 

เขาถามอย่างนี้ ทำให้นักเลงหนุ่มคิดว่าเขาะจัดหาผู้หญิงมาให้ จึงลอบดีใจ รีบเดินเข้าไปใกล้

 

 

“ชอบๆ ผมชอบมากเลย! ถ้าคุณชายฟ่านขาดลูกน้อง ผมจะสมัครเป็นคนแรก!”

 

 

“…”

 

 

ฟ่านอวี่ชำเลืองมองอีกฝ่ายครั้งหนึ่ง ก่อนจะยิ้มอย่างเยือกเย็น

 

 

ชายหนุ่มกลับหลังหันนั่งลงฝั่งตรงข้ามนักเลงหนุ่ม แล้วหยิบมีดปอกผลไม้ที่ตกพื้นขึ้นมาเล่นในมือ

 

 

ผ่านไปนานทีเดียว เขาถึงจะเลิกคิ้วมองคนฝั่งตรงข้ามอย่างช้าๆ

 

 

“คุณรู้ไหม ว่าคนที่หลอกผมก่อนหน้านี้ ตอนนี้อยู่ที่ไหน”

 

 

“…” นักเลงหนุ่มตะลึงงัน เกร็งไปทั้งร่าง

 

 

แต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไร ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ คุณชายฟ่านก็เอ่ยปากอย่างเยียบเย็น “หญ้าบนหลุมศพสูงเมตรหนึ่งแล้ว ที่ว่างรกๆ ที่นายเห็นตอนผ่านสวนนั่นแหละ”

 

 

“ตุบ”

 

 

หนุ่มนักเลงเข่าอ่อน กลัวจนคุกเข่านั่งลงบนเก้าอี้เอน

 

 

ก่อนจะตกใจกลัวผุดลุกขึ้น หวาดหวั่นจนพูดไม่เป็นศัพท์

 

 

“คะ คุณชายฟ่าน ผมไม่เข้าใจ…ผมมีความกล้าเต็มเปี่ยม ไม่กล้าหลอกคุณหรอก…คำพูดที่ผมบอกคุณก่อนหน้านี้ เป็นความจริงทั้งหมด!”

 

 

ฟ่านอวี่ไม่ได้พูดอะไร กลับเป็นผู้ช่วยที่แค่นหัวเราะเสียงเย็น “จริงเหรอ แต่พวกเราสืบตามเบาะแสของนายแล้ว ยังหาฟางจื่อไม่เจอเลย ถ้านายไม่ได้ปิดบัง ทุกอย่างที่พูดก่อนหน้าก็เป็นเรื่องโกหกทั้งหมด…”

 

 

“ผมเปล่า!”

 

 

นักเลงหนุ่มปฏิเสธอย่างไม่คิด ก่อนจะยื่นมือไปเช็ดเหงื่อกาฬเย็นเฉียบที่ผุดออกมาจากบนหน้าผาก

 

 

ครั้นเห็นฟ่านอวี่เล่นมีดปอกผลไม้ในมือ เขาก็รู้สึกว่ามีดเล่มนั้นอาจจะปักลงบนคอของตัวเองได้ทุกเมื่อ

 

 

เขาตัวสั่นไปทั้งตัว รีบกล่าว “เรื่องของแหวนราชินี ฟางจื่อเป็นคนบอกผมจริงๆ เขาบอกผมจริงๆ ว่ามีธุระต้องกลับไปที่บ้านเกิด…จริงสิ! ผมนึกออกแล้ว!”