ตอนที่ 557 พบเจอ + ตอนที่ 558 แอบฟัง

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า

ตอนที่ 557 พบเจอ

เห็นท่าทางนางตกตะลึง มุมปากเขายกขึ้นเล็กน้อย “ดังนั้นเจ้าต้องแกร่งขึ้น มีเพียงแข็งแกร่งขึ้นถึงจะสามารถจับมือข้ารับมือพายุฝนในอนาคต เป็นผู้หญิงของข้าจะอ่อนแอเกินไปไม่ได้”

เฟิ่งจิ่วขยับปาก พูดอะไรออกมาไม่ได้สักพัก รู้สึกเพียงว่าเหลือเชื่อ นึกไม่ถึงว่าคนตรงหน้าจะมาจากตระกูลเชื้อพระวงศ์ของแปดจักรวรรดิใหญ่! ต้องรู้ไว้ว่า สถานที่และกลุ่มอำนาจเช่นนั้น ไม่ต้องพูดถึงแคว้นเล็กระดับเก้าอย่างพวกเขาเลย แม้แต่แคว้นระดับหนึ่งยังต้องแหงนหน้ามอง

“ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดกับเจ้า เรื่องพวกนี้อีกหน่อยเจ้าจะค่อยๆ รู้เอง” ระหว่างพูดเขาสะบัดแขนเสื้อ ถอนเขตอาคมออกไป แล้วหยิบตะเกียบคีบอาหารให้นางอีก “มา กินเยอะๆ หน่อย”

เฟิ่งจิ่วมองเขา ยกชามข้าวขึ้นกินพลางย่อยข้อมูลนี้ เรื่องนี้ทำให้เธอตะลึงยิ่งกว่ารู้ว่าท่านปู่มีความหลังรักๆ ใคร่ๆ เช่นนั้นอีก แปดจักรวรรดิใหญ่ สถานที่เหมือนตำนานนั้นเป็นที่ที่ผู้ฝึกบำเพ็ญมากมายอยากจะสัมผัสก็ทำไม่ได้ แต่กลับมีคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าเธอ

ซ้ำยังเป็นเชื้อพระวงศ์ เซวียนหยวนโม่เจ๋อ ข้อมูลจากนามนี้จะมากเกินไปแล้ว

“นายท่าน นั่นเหมือนจะ เหมือนจะเป็นท่านผู้เฒ่า?”

เสียงของเหลิ่งหวาพลันดังมาอย่างแปลกใจ เฟิ่งจิ่วมองไป เห็นสายตาเขาหยุดอยู่บนถนนใหญ่ เธอมองตามสายตาเขาไป นัยน์ตาก็เผยความประหลาดใจระคนยินดี “เป็นท่านปู่จริงๆ ด้วย!”

เฟิ่งจิ่ววางชามข้าวในมือลง หมอบลงมองตรงหน้าต่างอย่างอยากรู้อยากเห็น เพราะตอนนี้ท่านปู่กำลังเดินตามอยู่ข้างกายหญิงสวมชุดกระโปรงสีเขียวอ่อนอย่างเป็นสงบเสงี่ยม ซ้ำยังจงใจตามหลังอยู่ครึ่งก้าว คล้ายคิดจะทิ้งระยะห่าง ทว่าถูกหญิงคนนั้นยื่นมือไปรั้งไว้และลากกลับมาข้างกาย

“หรือว่าคนนั้นเป็นท่านน้าซู่ซี?” เธอกะพริบตาด้วยความสงสัย ในดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“น่าจะใช่”

สายตาเซวียนหยวนโม่เจ๋อมองไปทางสองคนบนถนนใหญ่ หยุดลงบนร่างสองคนที่ภายนอกต่างกันยิ่งนัก บอกว่า “ผู้หญิงคนนั้นจริงใจกับปู่เจ้าแน่นอน”

หญิงตระกูลคนหนึ่ง ทั้งครอบครัวและความประพฤติล้วนเพียบพร้อม กลับมาหลงรักเพียงตาเฒ่าอายุมากคนเดียว หากไม่ใช่รักแท้จะไล่ตามเขาทำไม?

“อือ ข้าก็คิดเช่นนั้น” เฟิ่งจิ่วพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “แม้รู้ว่าสองคนอายุต่างกันไม่มาก แต่แม่นางซู่ซีรักษาตัวดีถึงเพียงนี้ ท่านปู่เดินด้วยกันกับนาง แรงกดดันมากเกินไปจริงๆ”

เขามองทางนาง ดวงตาดำลึกล้ำฉายแววยิ้มแย้ม “เจ้าจะปรุงกลั่นยาคืนรูปไม่ใช่หรือ? ทำไม? จะถอยเสียแล้ว?”

“ได้อย่างไรกัน?” เธอเอ่ยเสียงสูงขึ้นเล็กน้อย “ข้าแค่กำลังคิดว่าเรื่องนี้ระดับความยากอาจจะมากนัก โดยเฉพาะเมื่อฝีมือด้านยาเซียนข้ายังสู้ยาทั่วไปไม่ได้ หากคิดจะพัฒนายาเซียนเช่นนั้นออกมาเอง มีแต่ข้าต้องเจาะลึกด้านยาเซียนต่อไป และขึ้นไปอีกขั้นได้ มิเช่นนั้นก็ยากเย็นจริงๆ”

“ข้าจำได้ว่าครั้งก่อนเจ้าไม่ได้พูดเช่นนี้” เขาเอ่ยอย่างขบขันอยู่บ้าง

เธอไม่เขินอายสักนิด สองตากลับมีรอยยิ้มและประกายสดใส “ใช่แล้ว! ถึงคุยโม้โอ้อวด แต่ข้ามีความคิดเช่นนั้นจริงๆ และจะทดลองอย่างแน่นอน เพียงแต่ก่อนหน้านี้เทียบกับการพัฒนายาคืนรูปแล้ว ช่วยท่านปู่บรรลุขั้นอีกครั้งยังดีเสียกว่า แม้ผู้ฝึกพลังเร้นลับจะไม่อาจเทียบผู้ฝึกพลังวิญญาณ แต่ขอแค่ระดับวรยุทธ์มั่นคงแน่นอน เขาก็สามารถหนุ่มขึ้นได้!”

วิธีนี้เธอคิดหลายครั้งแล้ว ตอนนี้ท่านปู่อยู่ระดับบรรพชนนักรบขั้นสูงสุด หากเธอปรุงยามาช่วยเขาบรรลุขั้น เช่นนั้นจะยิ่งเร็วกว่าพัฒนายาคืนรูป ด้วยเหตุนี้เธอจึงมีความคิดเช่นนี้

………………………………………………….

ตอนที่ 558 แอบฟัง

“วิธีนี้สำหรับคนอื่นยากนัก สำหรับเจ้ากลับง่ายดายยิ่ง” เซวียนหยวนโม่เจ๋อยิ้มเรียบๆ มองไปทางสองคนบนถนนใหญ่ “คนอื่นต้องการยาบรรลุขั้นสักขวด ต่อให้จ่ายราคาเท่าฟ้ายังยากจะได้รับมา แต่เจ้ากลับปรุงออกมาได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้การช่วยเขาบรรลุขึ้นจึงไม่ยากเย็นอะไร”

ยามนี้สายตาเฟิ่งจิ่วจับจ้องบนร่างสองคนบนถนนใหญ่ ดวงตาทั้งเป็นประกายและเจ้าเล่ห์ “เทียบกับเรื่องนี้แล้ว ตอนนี้ข้าว่าพวกเราตามไปดูเสียหน่อยจะน่าสนใจกว่า ท่านปู่เดินเล่นเป็นเพื่อนสตรี! ภาพเช่นนี้ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ”

เห็นเช่นนี้ เขาส่ายหน้าอย่างกลั้นไม่อยู่ “จะตามไปดู? เจ้าไปเถอะ! ข้าไม่ไปหรอก” เขาไม่มีนิสัยชอบสะกดรอยตามคน ต่อให้มีก็สนใจเพียงแค่นาง

“ได้ เช่นนั้นท่านก็อยู่พักผ่อนที่โรงเตี๊ยมแล้วกัน! ข้าจะตามไปดูพวกเขาเสียหน่อย” เธอลุกขึ้นยืนทันที เรียกเหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาตามออกจากโรงเตี๊ยมไปยังถนนใหญ่

ยามนี้ ผู้เฒ่าเฟิ่งที่ถูกซู่ซีดึงไว้บนถนนใบหน้าชราแดงขึ้นเล็กน้อย ถามนางที่อยู่ข้างกายเสียงเบาว่า “ซะ ซู่ซี พวกเราจะไปไหนกัน?”

“ท่านบอกว่าจะออกมาเดินเล่นซื้อของเป็นเพื่อนข้าไม่ใช่หรือ” ซู่ซีเอ่ยไป “พี่ใหญ่เพิ่งบอกไว้แล้ว อีกสองวันจะส่งท่านกลับไป แต่ท่านต้องจำคำที่เคยพูดไว้ด้วย หลังจากกลับไปจะให้คนเข้ามาขอหมั้นข้า อย่าได้ไปแล้วไม่มีข่าวคราว”

“ไม่มีทางๆ” ผู้เฒ่าเฟิ่งพูดพลางโบกมือรัวๆ

เฟิ่งจิ่วทางด้านหลังไม่ไกลพาเหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาตามมา เดินๆ หยุดๆ บางครั้งจะหยุดดูของบนแผงลอยข้างทาง ความจริงกลับเงี่ยหูแอบฟังสองคนด้านหน้าคุยกัน

เมื่อได้ยินท่านน้าซู่ซีบอกว่าหลังจากกลับไปต้องให้คนมาขอหมั้น เธอพูดไม่ออกอย่างอดไม่ได้ ท่านปูกับท่านน้าซู่ซีพัฒนาความสัมพันธ์กันรวดเร็วเพียงนี้เชียว? แม้แต่เรื่องแต่งงานยังคุยกันแล้ว?

ในใจนึกสงสัย ฟังต่อไปอีกก็ได้ยินข่าวที่ทำให้เธอไม่ค่อยสงบใจเท่าไร

“เจ้าต้องจำไว้ ข้าเป็นคนของท่านแล้ว อย่าให้ข้ารอนานเกินไป”

ผู้เฒ่าเฟิ่งได้ยินแล้วแม้แต่ใบหูยังแดงก่ำ เอ่ยเสียงเบาว่า “ซู่ซี นี่มันบนถนนใหญ่นะ!”

“บนถนนใหญ่แล้วอย่างไร? สิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริง”

“ใช่ๆๆ ข้ารู้แล้วๆ” เขาเช็ดเหงื่อ แอบคิดว่า ‘โชคดีที่ไม่มีคนรู้จัก มิเช่นนั้นคงรักษาหน้าแก่ๆ ไว้ไม่อยู่แล้ว’

เฟิ่งจิ่วถือพัดปิดปากที่อ้าค้างด้วยความตกใจ มองแม่นางน้อยตรงหน้าที่ขายพัดอยู่อย่างนั้น มองเสียจนแม่นางน้อยหน้าแดงไปหมด

“คะ คุณชาย ท่านชอบพัดอันนี้หรือเจ้าคะ?”

ผ่านไปสักพัก เฟิ่งจิ่วถึงคืนสติกลับมา สงบจิตสงบใจยิ้มให้สาวน้อยคนนั้น “ชอบสิ ข้าซื้อพัดอันนี้แหละ” พลางให้สัญญาณเหลิ่งหวาจ่ายเงิน

เธอมองสองคนที่ค่อยๆ เดินไกลออกไป แต่กลับไม่ตามต่อ เพียงรู้สึกว่าวันนี้รู้ข่าวใหญ่สองเรื่องติดกัน หัวใจดวงนี้ทนรับไม่ไหวแล้ว ยามนี้ยังเต้นรัวตึกตัก เธอมองร่างของท่านน้าซู่ซี แอบชื่นชมอย่างอดไม่ได้

ท่านน้าซู่ซีคนนี้ไม่ธรรมดาเลย! ร้ายกาจเหลือเกิน! เธอต้องใช้คำว่ายอมรับตัวใหญ่เลย ต้องยอมรับนางจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะจัดการท่านปู่ได้รวดเร็วเพียงนี้?

ดูจากท่าทางของท่านปู่ อนาคตสองคนแต่งงานกันไป เป็นไปได้มากว่าจะกลายเป็นคนกลัวภรรยา

“นายท่าน พวกเขาเดินไปไกลแล้ว” เหลิ่งหวาเห็นนางนิ่งเหม่อ จึงกล่าวเตือนเสียงเบา

“ไม่ต้องตามแล้วๆ ข้าต้องหาที่พักเสียหน่อย” เธอถอนหายใจเบาๆ เอ่ยพลางตบๆ หน้าอก

“ทางนั้นมีร้านน้ำชาเล็กๆ อยู่ นายท่านจะไปนั่งหน่อยไหมขอรับ?” เหลิ่งหวามองเจ้านายพลางชี้ร้านน้ำชาตรงมุมถนน

………………………………………………….