ตอนที่ 521 ถูกเปิดโปงแล้ว
ซุนซั่วหรันมองหลินเยียนที่ใบหน้าประดับรอยยิ้มบาง หน้าผากมีเหงื่อเย็นซึมออกมา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็นึกไม่ถึงว่าอาจารย์เยวาของตัวเองกลับมาอยู่ในงานเลี้ยงแบบนี้ด้วย
ขณะนี้ทุกคนที่อยู่ในงานต่างมองซุนซั่วหรันด้วยความสงสัยเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“หลินเยียน ที่แท้เธอ…”
เว่ยสวีเฟิงจ้องมองหลินเยียน อย่างไรก็ตามเว่ยสวีเฟิงพูดยังไม่ทันจบ ซุนซั่วหรันกลับส่ายหน้าพร้อมเอ่ยว่า “มะ…ไม่ใช่…”
“ไม่ใช่?”
หลังจากที่คำพูดของซุนซั่วหรันหลุดออกมา ทั้งงานตกอยู่ในความเงียบสงัดอย่างน่าประหลาด เงียบเสียจนเหมือนจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นของคนที่อยู่ด้านข้าง
คำพูดนี้ของซุนซั่วหรันหมายความว่าอย่างไรกันแน่
“ซุนซั่วหรัน?”
เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น ตัวปลอมก็ขมวดคิ้วมุ่น มองไปทางซุนซั่วหรัน ความประหลาดใจฉายวาบภายในดวงตา
คนอื่นไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าฉีเซ่าหยวนกลับรู้อยู่แก่ใจ
ฉีเซ่าหยวนจ้องมองพร้อมหัวเราะให้ซุนซั่วหรันทันที
เกรงว่าซุนซั่วหรันคงคาดไม่ถึงว่าจะมาเจอเยวาตัวจริงที่นี่
“คุณซุนซั่วหรัน ที่คุณพูดเมื่อกี้มันหมายความว่ายังไงครับ?” อันเดย์มองซุนซั่วหรัน รู้สึกไม่เข้าใจอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตามซุนซั่วหรันในตอนนี้จะมีอารมณ์ไปสนใจคนอื่นที่ไหน จิตใจกระวนกระวายปั่นป่วนจะแย่อยู่แล้ว
“ตามฉันมา”
หลินเยียนเดินออกจากห้องโถงไปโดยไม่แม้จะหันหน้ากลับมามอง
สิ่งที่ทำให้ทุกคนเหลือเชื่อก็คือซุนซั่วหรันกลับตามหลินเยียนออกไปที่ห้องโถงจริงๆ
เดิมทีพวกทีมเควันกับอันเดย์ก็คิดจะตามไปด้วย แต่กลับถูกฉีเซ่าหยวนขวางทางเอาไว้
“คุณชายฉี นี่คุณ?” หัวหน้าทีมเควันคนหนึ่งเอ่ยปากถามด้วยความประหลาดใจ
“คนเขามีธุระจะคุยกัน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกคุณด้วย หรือว่าคิดจะแอบฟังคนอื่นคุยกัน?” ฉีเซ่าหยวนพูดเย้ยหยัน
หัวหน้าทีมเควันรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้อีก
…
“หัวหน้า น่าแปลกมากเลยนะครับ คุณหลินเยียนกับซุนซั่วหรันกลับรู้จักกันด้วย…แถมดูจากท่าที ซุนซั่วหรันเหมือนจะแปลกๆ นะครับ…” มู่มู่เดินมาถึงด้านข้างก็อดซีพลางเอ่ยปากพูดเบาๆ
เมื่อได้ยินก็อดซีก็ผงกศีรษะ มู่มู่พูดถูก เขาสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างซุนซั่วหรันกับหลินเยียนมากเช่นกัน
“อย่าถามเลย แอบตามไปดูกันเถอะ”
ก็อดซีตอบกลับเบาๆ อย่างรวดเร็ว
“ครับ” มู่มู่ผงกศีรษะ
เมื่อเห็นว่าฉีเซ่าหยวนกำลังทะเลาะอยู่กับคนอื่น มู่มู่กับก็อดซีจึงใช้โอกาสที่ราตรีมืดมิด แอบออกไปท่ามกลางความมืด
…
ภายในห้องโถง หลินเยียนนั่งอยู่บนโซฟา จ้องมองซุนซั่วหรันด้วยท่าทีคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
ตอนนี้ซุนซั่วหรันยืนอยู่ด้านข้างหลินเยียน ก้มศีรษะที่เคยเชิดสูงลงต่ำมาตั้งแต่แรก ประหนึ่งเด็กน้อยที่ทำความผิดมากำลังรอการลงโทษจากผู้ปกครอง
“ซุนซั่วหรัน ไม่มีอะไรจะพูดอย่างงั้นเหรอ” หลินเยียนจ้องมองซุนซั่วหรัน จากนั้นก็เอ่ยปากพูดหลังจากผ่านไปเนิ่นนาน
ครั้นได้ยินซุนซั่วหรันก็ร่างสั่นสะท้าน ขมวดคิ้วมุ่นมากยิ่งกว่าเดิม “อาจารย์…ผม…”
“อาจารย์?” หลินเยียนยิ้มเล็กน้อย “ผู้หญิงคนเมื่อกี้น่าจะเป็นอาจารย์ของนายมากกว่านะ”
“ไม่ครับ…อาจารย์ ผมมีความลำบากใจ อาจารย์ฟังผมอธิบายก่อนได้รึเปล่าครับ ไม่ใช่อย่างที่อาจารย์คิดแบบนั้นแน่ๆ ” ซุนซั่วหรันกระวนกระวายเล็กน้อย
“ได้ ฉันจะฟังนายแก้ตัว” หลินเยียนตอบ
“อาจารย์ ไม่ใช่แก้ตัว อธิบายครับ…ผมรู้ว่าผมทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง แต่…อาจารย์ ผู้หญิงคนนั้นเริ่มแอบอ้างเป็นอาจารย์ตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อนแล้ว ถูกผมเปิดโปงได้ตั้งแต่ครั้งแรก…” ซุนซั่วหรันถอนหายใจ เริ่มอธิบายให้หลินเยียนฟัง
อย่างไรก็ตามก็อดซีกับมู่มู่ที่หลบซ่อนตัวอยู่นอกประตูขณะนี้พลันตะลึงงันอยู่กับที่ แววตาแห่งความตื่นตะลึงและเหลือเชื่อฉายวาบภายในดวงตาคนทั้งสอง
ตอนที่ 522 อาจารย์ ละเว้นผมเถอะนะครับ
ภายในห้องโถงใหญ่ หลินเยียนนั่งอยู่บนโซฟาพลางฟังคำอธิบายของซุนซั่วหรัน และไม่ได้เปล่งเสียงขัดการอธิบาย
หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน เมื่อซุนซั่วหรันเล่าจบ หลินเยียนถึงช้อนดวงตาขึ้นมองซุนซั่วหรันอีกครั้งหนึ่ง “สรุปแล้วความหมายของนายก็คือตอนที่ผู้หญิงคนนั้นแอบอ้างเป็นฉันครั้งแรกก็ถูกนายจับได้ แถมผลกลับกลายเป็นว่า…นายยังชอบเธอด้วย?”
เรื่องนี้กลับทำให้หลินเยียนรู้สึกเหนือความคาดหมายอยู่บ้าง นี่มันฝีมือของเทพเซียนองค์ไหนเนี่ย
“อาจารย์…เฮ้อ…ผมหมดหนทางจริงๆ ครับ” ซุนซั่วหรันถอนหายใจ “ก่อนหน้านี้ผมเคยเตือนเธอแล้วว่าห้ามหลอกลวงต่อไป และยิ่งแอบอ้างเป็นอาจารย์ไม่ได้ด้วย แต่…คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้เธอกลับทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีก…เธอโทรบอกผมว่าตัวเองหลอกลวงอีกแล้ว ฐานะถูกเปิดโปง กำลังอยู่ในอันตรายอย่างมาก ผมไม่ทันคิดให้รอบคอบ เลยมาช่วยเธอโกหกด้วยความรู้สึกส่วนตัวครับ…”
“แล้วรถแข่งสีเงินคันก่อนหน้านี้…” หลินเยียนจ้องมองซุนซั่วหรันเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“เป็นผมเองครับ พอเกิดเรื่องเธอก็ขับรถหนีไป จากนั้นก็โทรหาผม…เผอิญว่าผมอยู่ประเทศจีนพอดี อยู่ไม่ไกลจากเธอ ผมเลยรีบหาเธอและช่วยคิดหาวิธีการรับมือ และเป็นผมที่เล่นลูกไม้กับรถคันนั้นเหมือนกันครับ ดังนั้นตอนตรวจสอบรถถึงพบว่าระบบเบรกเสีย พวงมาลัยเสีย…ส่วนอาการบาดเจ็บที่ขา นั่นเดิมทีก็มีอยู่แล้วล่ะครับ” ซุนซั่วหรันอธิบาย
“มิน่าล่ะ” หลินเยียนผงกศีรษะ
ถ้าซุนซั่วหรันออกหน้าช่วยเหลือ เช่นนั้นก็อธิบายได้ทุกอย่างแล้ว
มิน่าเจ้าตัวปลอมถึงกล้าไปแล้วก็กลับมา แถมยังมีความมั่นใจมากขนาดนี้ ที่แท้ไพ่ตายกลับไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นซุนซั่วหรันคนนี้นี่เอง
“อาจารย์ ผมขอร้องนะครับ คราวนี้คุณให้อภัยผมสักครั้งเถอะ…” ซุนซั่วหรันเห็นหลินเยียนเงียบมาตลอดก็มีสีหน้าร้อนรนเล็กน้อย ช
ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป เขาจะไปสู้หน้าศิษย์พี่ศิษย์น้องพวกนั้นได้อย่างไรกัน
ช่วยผู้หญิงคนอื่นแอบอ้างเป็นอาจารย์ของพวกเขาหลอกลวงไปทั่ว เขาไม่ต้องอยู่ในวงการแล้วเหมือนกัน
“นายชอบเธอจริงเหรอ” หลินเยียนประหลาดใจเล็กน้อย “ฉันจำได้ว่านายไม่ชอบผู้หญิงประเภทราชินีผู้เย็นชานี่นา?”
ซุนซั่วหรัน “…”
“กะ…ก็ไม่เชิงครับ ที่จริงคือรู้สึกดี เธอไม่รู้ว่าผมชอบเธอ เธอนึกว่าผมขาดเงินด้วยซ้ำ เธอยังรับปากว่าจะแบ่งเงินที่หลอกมาได้ให้ผมครึ่งหนึ่ง…อาจารย์ คุณก็รู้ ผมไม่ขาดเงินเลยสักนิด…ผมก็แค่…เฮ้อ…” ใบหน้าซุนซั่วหรันเต็มไปด้วยความจนใจ
หลินเยียนกลับไม่รู้จะพูดอะไรกับเรื่องทำนองนี้เหมือนกัน ซุนซั่วหรันพูดมาจนถึงขั้นนี้แล้ว เธอยังจะพูดอะไรได้อีกเล่า
“แค่ครั้งนี้เท่านั้น ไม่มีครั้งหน้า ถ้าให้ฉันจับได้อีก…” หลินเยียนมองซุนซั่วหรันแฝงความนัยลึกซึ้ง
“อาจารย์วางใจได้เลยครับ คุณไม่มีทางรู้แน่!” ซุนซั่วหรันสาบานจากใจจริง
“อะไรนะ” เมื่อได้ยิน หลินเยียนก็มีสีหน้าเย็นชา
“ไม่ใช่สิ…อาจารย์ครับ ความหมายของผมก็คือไม่มีทางมีครั้งหน้าแน่ ดังนั้นอาจารย์เลยไม่มีทางรู้ครับ” ซุนซั่วหรันรีบอธิบาย
“นี่ก็ยังพอใช้ได้” หลินเยียนผงกศีรษะ
“อาจารย์ คุณไม่โกรธผมแล้วใช่ไหมครับ” เมื่อเห็นหลินเยียนมีสีหน้าอ่อนโยนลงไปมาก ซุนซั่วหรันจึงรวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยถาม
“เห็นแก่ที่เมื่อก่อนนายกตัญญูมาตลอด ครั้งนี้ให้ช่างมัน แต่ก็เหมือนอย่างที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ ถ้าให้ฉันเจออีกเป็นครั้งที่สอง ฉันจะให้นายวิ่งหางจุกตูดกลับไปเลย” หลินเยียนกล่าวระคนหัวเราะ
“ขอบคุณครับอาจารย์…จริงสิ…อาจารย์ ผะ…ผู้หญิงคนนั้น…” ซุนซั่วหรันจ้องมองหลินเยียนด้วยดวงตาวาวโรจน์
“เห็นแก่หน้านาย ครั้งนี้ฉันจะไม่เอาเรื่องเหมือนกัน นายออกไปอธิบายสถานะที่แท้จริงของเธอให้ทุกคนฟัง จากนั้นก็พาเธอไปซะ” หลินเยียนครุ่นคิด จากนั้นจึงตอบกลับไป