คอนที่ 204 ซย่าซย่าคนขี้เมา (1) / ตอนที่ 205 ซย่าซย่าคนขี้เมา (2)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

คอนที่ 204 ซย่าซย่าคนขี้เมา (1)  

 

 

อันซย่าซย่ากลับมาถึงบ้านพร้อมกับขอบตาอันแดงก่ำ แล้วคนทั้งบ้านก็พากันสรุปได้ว่ามันเป็นผลมาจากการออกเดตที่จบไม่สวย 

 

 

ป่าป๊าอันชงชานมให้ลูกสาวตัวน้อยอย่างเงียบๆ ส่วนอันอี้เป่ยก็ไม่ได้เยาะเย้ยเธอเหมือนเคย ซึ่งหาได้ยากมาก เขาทำแม้กระทั่งกระแอมและโปรยปรายคำพูดให้กำลังใจ “ซย่าซย่า อย่าเก็บเอามาใส่ใจเลย น้องยังเด็กเดี๋ยวก็มีผู้ชายดีๆ มาให้เลือกอีกในอนาคต ลืมเจ้าผู้ชายเส็งเคร็งนั่นเสีย พยายามตั้งใจเรียนเข้าและหลังจากเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว เดี๋ยวผู้ชายหนุ่มๆ หล่อๆ ก็จะดาหน้ามารอให้เลือก! ไอ้ตาต่ำคนไหนที่ไม่ชอบน้องก็ไล่มันไปลงนรกซะ!” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเพิ่งกลับมาถึงบ้านด้วยแท็กซี่และกำลังเดินขึ้นบันไดเมื่อเขาได้ยินการสนทนา เขาแทบจะสะดุดตกบันได 

 

 

ในโลกนี้มันมีความรักอยู่จริงไหมนี่! 

 

 

อันซย่าซย่าถามอย่างใสซื่อ “พี่ ไหนเคยบอกว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายไวเกินไปไม่ใช่หรือไง” 

 

 

อันอี้เป่ยคิดว่าปฏิกิริยาของเธอคือการต่อต้านจึงถอนหายใจ “ไม่ต้องห่วงหรอกนะ คนเราทุกคนก็มักจะมีเรื่องรักกุ๊กกิ๊กตั้งแต่ยังหนุ่มสาวทั้งนั้นล่ะ ซย่าซย่า พี่ไม่โทษน้องหรอกเรื่องนี้ เอ้า ไปล้างหน้าล้างตาซะแล้วก็พักผ่อนให้สบายใจ…” เขาลูบผมอันซย่าซย่าราวกับพี่ชายที่รักใคร่น้องสาวอย่างแท้จริง แต่แล้วก็พลันนึกได้ว่ายัยเด็กขี้เกียจคนนี้ไม่ได้สระผมมาสองวันแล้ว เขารั้งมือกลับราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นและเช็ดมือกับผ้าเปียกอย่างเยือกเย็น 

 

 

อันซย่าซย่าถูกทำร้ายความรู้สึก “หนูไม่ได้สระผมมาสองวันแล้วยังไง พี่เป็นพี่ชายหนูนะ! ทำสีหน้ารังเกียจชัดเจนขนาดนั้นเลยหรือ” 

 

 

“ซย่าซย่าเด็กดี พี่ชายรักเธอนะ” อันอี้เป่ยฉอเลาะอย่างสะบัดสะบิ้งโดยไม่แม้แต่จะสบตา 

 

 

“ถ้าพี่รักหนูก็เอาเงินค่าขนมมา!” อันซย่าซย่าแบฝ่ามือขาวๆ ของเธอตรงหน้าอันอี้เป่ย 

 

 

พี่ชายปรายตามองหน้า มือก็หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาโดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็หยิบแบงก์ร้อยหยวนออกมาสองสามใบส่งให้เธอ 

 

 

อันซย่าซย่าไม่พอใจเลยกับเงินค่าขนมเท่านี้ 

 

 

“นี่… ความรักที่พี่มีต่อหนูมัน… มีค่าไม่ถึงห้าร้อยหยวนเลยเหรอ…” น้ำเสียงเด็กสาวดูเจ็บปวด 

 

 

อันอี้เป่ยพูดเนือยๆ “อ๋อ มันลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์อยู่น่ะ นั่นคือความรักทั้งหมดที่พี่มีต่อเธอ” 

 

 

จากนั้นเขาก็หยิบถ้วยกาแฟแล้วเดินกลับไปยังห้องของตัวเองพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า 

 

 

อันซย่าซย่านับนิ้วตัวเองแล้วก็นึกอยากร้องไห้ 

 

 

 

 

 

หญิงสาวเดินกลับมายังห้องนอนแล้วก็ปะทะเข้ากับเซิ่งอี่เจ๋อซึ่งกำลังเดินขึ้นบันได 

 

 

ดวงตาของทั้งคู่สบกัน แต่ไม่มีถ้อยคำใดพูดออกมา 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเองก็อยู่ในสภาพไม่ดีเลยเหมือนกัน 

 

 

ไม่ว่าเขาจะชอบอันซย่าซย่ามากแค่ไหน แต่เขาก็ยังมีศักดิ์ศรีของเขา 

 

 

ความนับถือตัวเองและความรู้สึกของชายคนหนึ่งกำลังบอกเขาว่า หากอันซย่าซย่าไม่ชอบเขา ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะบังคับเธอ 

 

 

ยัยซื่อบื้อนี่! เขาจะเปิดสงครามความเงียบกับเธอเสียเลย! 

 

 

หึ! 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยังไม่รู้ตัวว่าความคิดของเขานั้นเด็กน้อยและเอาแต่ใจแค่ไหน อันซย่าซย่าก็เบะปากเหมือนกัน และก็ดูอารมณ์ไม่ดีพอๆ กันกับเขา 

 

 

ทั้งสองหันหลังให้กัน ขณะที่อันซย่าซย่าจะเดินกลับไปที่ห้องของเธอ และเซิ่งอี่เจ๋อกำลังจะก้าวขึ้นบันได 

 

 

อยู่ๆ ไฟในบ้านก็กะพริบปริบๆ จากนั้นก็ดับมืดหมดทั้งหลัง 

 

 

ด้วยความที่ยังไม่หายตกใจจากบ้านผีสิง อันซย่าซย่าสะดุ้ง คิดว่าบ้านของตัวเองก็หลอนเหมือนบ้านผีสิงด้วยเช่นกัน 

 

 

แขนยาวๆ คู่หนึ่งโอบกอดเธอเอาไว้อย่างไม่เต็มใจ 

 

 

ตึ่ก— 

 

 

เขาไม่ขยับแม้ว่าชานมในแก้วจะหกใส่เสื้อผ้าของเขา 

 

 

อันซย่าซย่าถามอย่างประหม่า “เซิ่งอี่เจ๋อ…บ้านเรามีผีหรือเปล่า” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะหึเย้ยๆ “ก็แค่ไฟดับเอง ยัยไก่ขี้ตื่น!” 

 

 

อันซย่าซย่ารู้สึกเขิน เธอกลัวความมืดมาตลอด แต่อย่างไรก็ตามเมื่อถูกโอบไว้ภายในอ้อมแขนของเซิ่งอี่เจ๋อ เธอกลับรู้สึกปลอดภัยยิ่งกว่าที่เคย 

 

 

เขาสูงกว่าเธอมาก และแก้มของอันซย่าซย่าก็ถูกกดแนบอยู่กับแผ่นอกของเขา 

 

 

เสียงหัวใจที่แข็งแรงและเต้นระทึกดังอยู่ในหูของเธอ 

 

 

อันซย่าซย่ารู้สึกว่าแก้มเริ่มร้อนขึ้น 

 

 

“เอ่อ…เซิ่งอี่เจ๋อ” 

 

 

“หืม เธอมีอะไรจะบอกฉันเหรอ” ในความมืดนั้น น้ำเสียงของเขาก็อ่อนโยนลงเช่นเดียวกัน 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 205 ซย่าซย่าคนขี้เมา (2)  

 

 

“ขอโทษที่ทำเสื้อนายเลอะนะ…” อันซย่าซย่าขอโทษอย่างอ้อยอิ่ง 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบมาเบาๆ 

 

 

เขาไม่ควรคาดหวังอะไร 

 

 

ตอนที่ไฟดับ ปฏิกิริยาแรกของเธอก็คือบ้านนี้น่าหวาดผวาระหว่างที่เขาก็ต้องปกป้องเธอ 

 

 

การตกหลุมรักคนความรู้สึกช้านี่ช่างเป็นประสบการณ์อันแสนทรมานเหลือเกิน 

 

 

อันซย่าซย่ากำลังจะพูดอย่างอื่นต่อเมื่ออยู่ๆ เขาก็รีบผลักเธอออกห่าง หญิงสาวโงนเงนจนเกือบจะล้ม 

 

 

และแล้วแสงจ้าก็ส่องมายังทั้งสอง เสียงอันอี้เป่ยดังขึ้นมา มีความเป็นห่วงเป็นใยเจืออยู่ในน้ำเสียงเมินเฉยของเขา “ซย่าซย่าเป็นอะไรหรือเปล่า” 

 

 

“หนูไม่เป็นไร” 

 

 

เมื่อเห็นว่าน้องสาวตัวน้อยไม่เป็นอะไร รอยย่นระหว่างคิ้วของอันอี้เป่ยก็คลายลงเล็กน้อย 

 

 

“ทำไมอยู่ๆ ไฟก็ดับล่ะ” อันซย่าซย่าถาม 

 

 

“ดูเหมือนจะเกิดไฟไหม้ที่ไหนสักแห่งแถวนี้ ถนนทั้งเส้นดับหมดเลย” อันอี้เป่ยอธิบาย “พ่อบอกว่าให้ขึ้นไปที่ดาดฟ้า ไปปิ้งบาร์บีคิวกัน” 

 

 

“ฮูเร่!” อันซย่าซย่าลืมความกลัวทั้งหมดเมื่อคิดถึงเนื้อสัตว์ จากนั้นเธอก็เดินตามอันอี้เป่ยไปพร้อมกับดวงตาอันเป็นประกาย 

 

 

อันอี้เป่ยกราดตามองเซิ่งอี่เจ๋อผู้ยืนอยู่ในเงามืด แล้วใบหน้าเขาก็เครียดตึง 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเบ้ปากทว่าไม่ได้ตอบโต้อะไร 

 

 

ดาดฟ้าของบ้านครอบครัวอันนั้นค่อนข้างกว้างขวางมาก ป๊ะป๋าอันตั้งเตาปิ้งและก่อไฟเอาไว้เรียบร้อยแล้วและกำลังย่างอาหารหลากหลายชนิดอยู่อย่างชำนิชำนาญ 

 

 

โต๊ะอาหารสองตัวถูกจัดไว้ข้างๆ มีทั้งเนื้อสัตว์และผักต่างๆ บนโต๊ะตัวหนึ่ง ส่วนอีกตัวหนึ่งมีเทียนและไฟฉายวางตั้งอยู่ บรรยากาศสบายๆ บนดาดฟ้านำความอบอุ่นมาสู่ค่ำคืนต้นฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี 

 

 

อันซย่าซย่าน้ำลายสอพลางจ้องมองเนื้อย่างตาไม่กะพริบ เซิ่งอี่เจ๋ออดถอนหายใจไม่ได้กับใบหน้านี่น่ารักน่าชังของเธอ 

 

 

ป๊ะป๋าอันปิ้งย่างอาหารจานใหญ่เสร็จในไม่ช้าก่อนจะนำมาเสิร์ฟ ซึ่งก็หมดไปในทันที 

 

 

ด้วยไม่รู้จะทำอะไรที่ดีกว่านั้น ฉือหยวนเฟิงจึงลงไปข้างล่างพร้อมกับไฟฉายและกลับขึ้นมาพร้อมกีตาร์ เสนอตัวเล่นให้ทุกคนฟัง 

 

 

เขานั่งลงอย่างเท่ๆ นิ้ววางทาบสายกีตาร์ แล้วเสียงเพลงสนุกสนานก็ลื่นไหลออกมาจากปลายนิ้วของนิ้ว 

 

 

คนอื่นๆ พากันตบมือไปตามจังหวะเพลงขณะที่เขาเล่น 

 

 

หลังจากผ่านไปสองสามเพลง ฉือหยวนเฟิงก็ส่งต่อให้เหอจยาอวี๋ อีกฝ่ายพยายามปฏิเสธแต่ก็ไม่สำเร็จ เลยต้องหยิบกีตาร์ขึ้นมาแล้วร้องเพลงรักซึ่งเป็นที่รู้จักของวงสตาร์รี่ไนต์ 

 

 

อันซย่าซย่าหยิบโทรศัพท์ของเธออกมาและถ่ายคลิปที่เหอจยาอวี๋แสดงเอาไว้ 

 

 

เธอจะเอาคลิปนี้ไปให้ซูเสี่ยวมั่ว และเธอจะต้องเลี้ยงข้าวกลางวันเธอแน่ๆ ฮ่าๆๆ 

 

 

เพลงรักยิ่งซึ้งกินใจสุดๆ เมื่อเหอจยาอวี๋ร้องมันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนของเขา เมื่อเขาร้องจบ แม้แต่อันอี้เป่ย— ซึ่งเป็นคนจู้จี้และฝีปากคม—ก็ยังต้องปรบมือให้ 

 

 

“พี่อี่เจ๋อ ตาพี่แล้ว!” ฉือหยวนเฟิงตะโกน 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อนิ่วหน้าและกำลังจะปฏิเสธ เมื่อน้ำเสียงไพเราะราวกับดนตรีของอันซย่าซย่าดังขึ้น “เอาเลย! เอาเลย!” 

 

 

เขาปรายตามองเธอแล้วก็ยิ้มนิดๆ จากนั้นก็รับกีตาร์มา 

 

 

หลังจากท่อนนำเพราะๆ แล้ว เขาก็กระแอมในลำคอแล้วก็เริ่มร้องเพลง 

 

 

อันซย่าซย่าตกตะลึงในทันทีที่เขาเปิดปาก 

 

 

มันช่างเพราะพริ้ง เพราะอะไรอย่างนี้ 

 

 

เขากำลังร้องเพลงภาษาอังกฤษซึ่งช้าและอ่อนโยนที่อันซย่าซย่าไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไรนัก เธอแค่รู้ว่ามันฟังดูไพเราะมากเท่านั้นเอง 

 

 

แต่อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเธอก็รู้สึกตัวว่ามีอะไรแปลกๆ 

 

 

ทำไมทุกคนถึงหันมาทางเธอ 

 

 

“ฉันมีอะไรติดอยู่ที่หน้าเหรอ” อันซย่าซย่ากระซิบถามเหอจยาอวี๋ซึ่งนั่งอยู่ใกล้เธอที่สุด 

 

 

เหอจยาอวี๋ไม่ทันตั้งตัว จากนั้นก็หัวเราะโพล่งออกมา 

 

 

อันอี้เป่ยร้องฮึอย่างไม่พอใจ ระหว่างที่ฉือหยวนเฟิงเริ่มจะประท้วง 

 

 

แม้แต่ป๊ะป๋าอันก็ยิ้มอย่างรู้ทันมาที่เธอ 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยังคงสบตากับเธอ แม้ท้องฟ้าจะมืดมิดและมีแสงสลัวๆ นัยน์ตาเขากลับสุกสกาวราวกับหมู่ดาว 

 

 

อ๊า! 

 

 

อันซย่าซย่าอยากจะคลั่ง เซิ่งอี่เจ๋อกำลังร้องเพลงอะไรกันเนี่ย!