ชายชุดขาวยืนอยู่เงียบๆ ข้างทางเดินด้วยสายตาลึกล้ำ
“หรูปิง…” เสียงแผ่วเบาดังเข้าหูชายชุดขาว สายตาของชายชุดขาวหรี่ลงเล็กน้อยและหันกลับไปช้าๆ เพื่อพบกับจินเหยียนที่เคร่งขรึม
“ที่แท้เจ้าก็จำทุกอย่างได้นานแล้ว จำได้ด้วยว่าเจ้าคือเหลิ่งหลิงยวิ๋นและหรูปิง… ” เสียงของจินเหยียนแผ่วเบา แต่พูดด้วยความมั่นใจมาก
“เจ้าเป็นคนอ่อนไหวและน่ารำคาญอยู่เสมอเลยนะ” ชายชุดขาวเยาะเย้ยและเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย
“ท่าทางแบบเมื่อกี้คือตัวตนที่แท้จริงของเจ้าหรือ?” จินเหยียนหรี่ตาเล็กน้อยและถาม
“คนที่ฉลาดเกินไปจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน จินเหยียน เจ้าก็จำไว้หน่อย” ชายชุดขาวยิ้มและเดินผ่านจินเหยียนไป
จินเหยียนหันไปมองร่างของชายชุดขาวที่เดินห่างออกไปด้วยความรู้สึกซับซ้อนยากอธิบาย
ไม่กี่วันต่อมา อาการบาดเจ็บของราชาอี้ก็เกือบจะหายเป็นปกติแล้ว ทุกคนตัดสินใจไปที่ปราสาทของราชาสวรรค์ ชีอ้าวชวางนิ่งเงียบมานาน และจิตวิญญาณของนางก็เฉื่อยชามาก ส่วนเฟิงอี้เซวียนก็มักจะอยู่ข้างนางอย่างเงียบๆ เสมอ ชายชุดขาวอยู่ข้างๆ ราชาอี้ แต่สายตาของเขากลับมองไปทางชีอ้าวชวาและเฟิงอี้เซวียนอยู่บ่อยครั้ง
บนหลังสัตว์พาหนะของมิเชลนั้นกว้างขวางมาก ขนาดมีคนนั่งอยู่มากขนาดนี้มก็ยังดูกว้างขวางอย่างเห็นได้ชัด ทะเลสงบ มีสายลมพัดผ่านใบหน้าของทุกคนเบาๆ ทำให้ได้รสเค็มของทะเลเล็กน้อย บนท้องฟ้าไร้เมฆไม่มีนกทะเลบินอยู่สักตัว
สัตว์พาหนะของมิเชลบินผ่านทะเลไปยังปราสาทของราชาสวรรค์อย่างมั่นคง ทุกคนนิ่งเงียบ ต่างครุ่นคิดในใจ
หลังจากบินไปไม่นาน บางอย่างก็เกิดขึ้น
“ลมทะเลพัด ลมทะเลพัด เจ้าคิดถึงใคร…”
ทันใดนั้น บทเพลงไพเราะก็ดังมาจากทะเล มันเป็นเพลงของชาวทะเล
ไม่ทุกข์ ไม่สุข ไม่เศร้า…
“รีบไปเร็ว!” ใบหน้าของจินเหยียนนิ่งลงทันที เขาตะโกนด้วยเสียงต่ำ
สีหน้าของไรลี่ย์ก็เปลี่ยนไป นางเพิ่งได้ยินเพลงนี้เมื่อคืนนี้ ดังนั้นนางจึงรู้ดีว่ามันทรงพลังขนาดไหน
เสียงเพลงเริ่มต้นด้วยเสียงเดียวก่อนจะเพิ่มเป็นหลายเสียงประสาน ชาวเผ่าทะเลที่ร้องเพลงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสียงร้องดังขึ้นเรื่อยๆ และห้อมล้อมอยู่รอบตัวพวกเขาอย่างทรงพลัง
ราชาอี้ประหลาดใจ นางรู้สถานการณ์ของมหาสมุทรสีครามดีที่สุดในหมู่ทุกคน ชาวทะเลในมหาสมุทรสีครามนั้นไม่เคยมายุ่งเกี่ยวกับโลกเลย พวกเขามักจะซุ่มซ่อนอยู่ในทะเลอย่างเงียบๆ บางครั้ง ชาวทะเลบางคนที่ทนความเหงาไม่ได้ก็จะร้องเพลง แต่นั่นเป็นเพียงคนเดียว วันนี้มันแปลกมาก มีชาวทะเลขับร้องกันมากมาย พวกเขาทั้งหมดมารวมกันที่นี่คล้ายจะบอกว่าพวกเขาโดนกักขังไว้ ณ ที่แห่งนี้ แต่ละคนต่างถือบางอย่างไว้
“ชิงฮวา…” ดวงตาของชีอ้าวชวางค่อยๆ เลือนลางและค่อยๆ ลุกขึ้นยืนเดินไปยังขอบของสัตว์พาหนะ
“อ้าวชวาง กลับมา!” เฟิงอี้เซวียนยื่นมือออกมาดึงชีอ้าวชวาง ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น กำแพงน้ำแข็งกลางอากาศปิดกั้นมือของเฟิงอี้เซวียนไว้ เฟิงอี้เซวียนหันไปด้วยความประหลาดใจ และก็เห็นว่าใบหน้าของชายชุดขาวดูไม่แยแส เมื่อกี้เป็นฝีมือมือของเขา
“เหลิ่งหลิงยวิ๋น?!” เมื่อเห็นท่าทีที่ไม่แยแสของชายชุดขาว หัวใจของเฟิงอี้เซวียนก็ทรุดลงทันที ลางสังหรณ์ไม่ดีก่อตัวขึ้นมา “เจ้า ฟื้นความจำได้แล้วหรือ?”
ชายชุดขาวยิ้มแปลกๆ และไม่สนใจเฟิงอี้เซวียนแต่มองขึ้นไปที่ชีอ้าวชวาง เห็นได้ชัดว่าการกระทำของเขามีนัยชัดเจนว่าเขาฟื้นความทรงจำแล้ว
เสียงกรีดร้องจากไรลี่ย์ทำให้เฟิงอี้เซวียนหันไปเห็นท่าทีที่สงบของชีอ้าวชวาง นางกางแขนออกช้าๆ และทิ้งตัวลงสู่ผืนทะเล
ทุกคนบนสัตว์พาหนะต่างก็เคลื่อนไหว จินเหยียนและเฟิงอี้เซวียนตอบสนองเร็วที่สุด พวกเขาติดตามไปทันที แต่ในเวลานี้ เหลิ่งหลิงยวิ๋นกลับทำในสิ่งที่ไม่มีใครคิด เขาขยับออกจากพาหนะ ฝ่ามือของเขาประสานอยู่ที่หน้าอก ความเย็นรุนแรงพัดผ่านเขาและแช่แข็งทุกคน ทั้งหมดถูกแช่แข็งเป็นก้อนน้ำแข็งก้อนใหญ่อยู่บนสัตว์พาหนะจนขยับไม่ได้
หลังจากที่เหลิ่งหลิงยวิ๋นทิ้งรอยยิ้มประหลาดไว้ เขาก็ตามชีอ้าวชวางไปยังทะเลลึกโดยไม่มองกลับไปอีก
เมื่อ ‘ชีอ้าวชวาง’ ตกลงสู่ผืนทะเล ผู้คนในตระกูลชาวทะเลทั้งหมดก็รวมตัวกันรอบๆ ชาวทะเลเหล่านี้ล้วนมีผมหยิกยาวสีเขียว ลำตัวสวย มีหางปลา มีทั้งตัวผู้และตัวเมีย แต่ที่แปลกคือพวกเขาทั้งหมดมีใบหน้า ตา จมูกและคิ้วสวยเหมือนกันหมด ราวกับแกะสลักจากแม่พิมพ์เดียวกัน ‘ชีอ้าวชวาง’ กระโจนลงทะเลและพุ่งตรงไปไม่หันหลังกลับเลย คนตระกูลชาวทะเลทั้งหมดก็ตามไป เหลิ่งหลิงยวิ๋นก็ติดตามอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
ความลึกของมหาสมุทรทำให้มืดลงเรื่อยๆ ฝูงปลาจำนวนนับไม่ถ้วนก็หนีไปเมื่อเห็นพวกเขาอยู่ไกลๆ ผู้คนในตระกูลชาวทะเลโอบล้อม ‘ชีอ้าวชวาง’ ไว้ยามดำน้ำลึก ข้างหน้าค่อยๆ มืดลง ในขณะนี้ ครีบหางของชาวทะเลที่รายล้อมเป็นสีเขียวสว่างไสวไปตามทางข้างหน้า ดูเหมือนว่า ‘ชีอ้าวชวาง’ จะไม่จำเป็นต้องหายใจ ใบหน้าของนางเย็นชาและก็ดำดิ่งลงไปเงียบๆ
ปราสาทอันงดงามค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้า ทั้งหมดทำมาจากเปลือกหอยสีขาวนวลทอแสงสีขาว ไม่มีน้ำทะเลในปราสาทนั้นเลย เห็นได้ชัดว่ามีการใช้เวทมนตร์เพื่อแยกน้ำทะเลออกไป มองจากไกลๆ เห็นผู้หญิงในชุดสีเขียวยืนอยู่ที่ประตู ดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง นางยืนด้วยเท้าเปล่าเปลือยงดงามซึ่งแตกต่างจากชาวทะเลโดยสิ้นเชิง
‘ชีอ้าวชวาง’ แหวกว่ายไปเรื่อยๆ จนไปยืนอยู่ที่ประตูปราสาท ผู้หญิงในชุดสีเขียวนั้นมีใบหน้าที่สวยงามและรูปลักษณ์โดดเด่นมาก แต่ใบหน้าที่สวยงามของนางก็เหมือนกับของชาวทะเล พอชาวทะเลเห็นผู้หญิงชุดเขียว ทุกคนก็คุกเข่าแสดงความเคารพทันที
“นายท่าน ในที่สุดท่านก็มาถึงแล้ว” ผู้หญิงชุดเขียวคุกเข่าลงตรงหน้า ‘ชีอ้าวชวาง’ ด้วยใบหน้าเคารพศรัทธาและก้มหน้าลง
เหลิ่งหลิงยวิ๋นตามมาและยืนอยู่ข้างหลัง ‘ชีอ้าวชวาง’ ผู้หญิงชุดเขียวไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง แต่ก็พูดด้วยความเคารพ “ท่านหรูปิง ท่านก็มาแล้วเช่นกัน”
“ชิงฮวา เจ้าทำงานหนักมากเลย”
เสียงของ ‘ชีอ้าวชวาง’ เย็นชามาก ไม่มีความอ่อนโยนในนั้นเลย
“ไม่ค่ะ นี่คือภารกิจของข้า” หญิงชุดเขียวชื่อชิงฮวาคุกเข่าลงที่พื้นด้วยความเคารพและนิ่งอยู่อย่างนั้น
“ลุกขึ้นเถอะ”
‘ชีอ้าวชวาง’ พูดอย่างเย็นชา
ชิงฮวาเงยหน้าและค่อยๆ ลุกขึ้น
“อยู่ที่ไหน?”
‘ชีอ้าวชวาง’ ถามเรียบๆ
“อยู่ในร่างของข้าค่ะ” ชิงฮวาพูด
ท่าทีของ ‘ชีอ้าวชวาง’ ไม่เปลี่ยนแปลงและยื่นมือออกไปเพื่อจะล้วงเข้าไปในร่างกายของชิงฮวา
“เดี๋ยว!” เหลิ่งหลิงยวิ๋นรีบหยุดไว้ทันที
“หืม?”
‘ชีอ้าวชวาง’ เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและหันไปมองเหลิ่งหลิงยวิ๋น
“ข้าไม่อยากให้นางหายไป” เหลิ่งหลิงยวิ๋นมอง ‘ชีอ้าวชวาง’ และพูดอย่างชัดเจน
‘ชีอ้าวชวาง’ ค่อยๆ หันกลับมามองเหลิ่งหลิงยวิ๋น สายตาของนางดูเย็นชา คำว่า ‘นาง’ ที่เหลิ่งหลิงยวิ๋นพูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึงชิงฮวา แต่เป็นชีอ้าวชวางตัวจริง
‘ชีอ้าวชวาง’ มองเหลิ่งหลิงยวิ๋นอย่างเย็นชาและตรงเข้าหา สายตาของเหลิ่งหลิงยวิ๋นก็ไม่ได้หลบเลี่ยง ดังนั้นเขาจึงเผชิญหน้ากับ ‘ชีอ้าวชวาง’ อย่างนั้น
ทันใดนั้น ‘ชีอ้าวชวาง’ ก็ยกมือขึ้นตบหน้าเหลิ่งหลิงยวิ๋นอย่างแรง เลือดสีแดงค่อยๆ ไหลออกมาจากมุมปากของเหลิ่งหลิงยวิ๋นอย่างน่าตกใจ แต่เหลิ่งหลิงยวิ๋นก็ยังคงไม่หลบ เขามองไปที่ ‘ชีอ้าวชวาง’ อย่างแน่วแน่
“เจ้าก็ตกหลุมรักนางหรือ?”
ใบหน้าของ ‘ชีอ้าวชวาง’ มืดมนและน่ากลัวทันที
เหลิ่งหลิงยวิ๋นไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นและมองไปที่ ‘ชีอ้าวชวาง’ อย่างเงียบๆ แต่แววตาของเขานั้นทั้งมั่นคงและแน่วแน่
“เจ้า!”
‘ชีอ้าวชวาง’ โกรธและยกมือขึ้นจะลงมืออีกครั้ง
ใบหน้าของชิงฮวาเคร่งเครียดและหัวใจก็เต้นรัว
เหลิ่งหลิงยวิ๋นไม่ได้หลบหรือหลีกเลี่ยงอะไร เขาเพียงแค่ยืนตัวตรงอยู่แบบนั้น
“ดี ดีมาก ยอดเยี่ยมเลย”
จู่ๆ ‘ชีอ้าวชวาง’ ก็หัวเราะออกมาด้วยความโกรธ นางวางมือลงแล้วพูดอย่างเย็นชา “ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้า หากพวกเจ้าล้มเหลวในการทดสอบนี้ จะมาโทษข้าไม่ได้นะ!”
“ขอบคุณ” ครั้งนี้เหลิ่งหลิงยวิ๋นผ่อนคลายลงได้จริงๆ แล้ว จากนั้นก็ตอบอย่างโล่งอก
“หึ! อย่าพูดขอบคุณเร็วนัก! ข้าตามใจพวกเจ้ามากไปแล้ว ตอนนี้เอาหัวใจพวกเจ้าคืนไม่ได้แล้ว”
‘ชีอ้าวชวาง’ ส่งสายตาเย็นชา นางโกรธจริงๆ
เหลิ่งหลิงยวิ๋นไม่พูดอะไรแล้วก้มหน้ายืนอยู่ข้างหลัง
“ชิงฮวา เจ้าติดตามพวกเขาไปชั่วคราวนะ ปกป้องพวกเขาอย่างทั่วถึงด้วย”
หลังจากที่ ‘ชีอ้าวชวาง’ พูดอย่างเย็นชาแล้ว นางก็หลับตาลงและค่อยๆ ล้มลงช้าๆ เหลิ่งหลิงยวิ๋นก้าวไปรับชีอ้าวชวางไว้ในอ้อมแขนของเขาทันที
“ท่านหรูปิง ท่านไม่ควรขัดนายท่านเลย ความรักที่นายท่านมีให้กับท่านทั้งสองไม่มีใครเทียบได้” ชิงฮว่ามองท่าทางกังวลใจของเหลิ่งหลิงยวิ๋นและพูดอย่างจริงใจ
เหลิ่งหลิงยวิ๋นทำเพียงแค่มองลงไปยังคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาและไม่พูดอะไร
“ท่านหรูปิง เพราะการหายตัวไปของพวกท่านนายท่านเลยทำผิดพลาดครั้งใหญ่ สถานการณ์ในตอนนี้เลยเปลี่ยนเป็นแบบนี้ ท่านหรูปิงโปรดคิดให้ดีๆ” ชิงฮวายังคงปลอบโยนอย่างขมขื่น
“นายท่านของเจ้าน่ะ ดูเหมือนว่านางจะสั่งไว้แค่ว่าให้เจ้าไปปกป้องพวกเราโดยรอบคอบนะ ไม่ได้สั่งให้เจ้าพูดมากนี่?” สายตาของเหลิ่งหลิงยวิ๋นเรียบนิ่งและพูดออกมาอย่างเย็นชา
ชิงฮวาตะลึง นางมองเหลิ่งหลิงยวิ๋นที่เย็นชาและพูดอะไรไม่ออกเลย
ชีอ้าวชวางที่อยู่ในอ้อมแขนของเหลิ่งหลิงยวิ๋นตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ และพบกับใบหน้าของเหลิ่งหลิงยวิ๋น พอนางตื่นขึ้น ความกังวลในสายตาของเหลิ่งหลิงยวิ๋นก็ค่อยๆ หายไป
“หลิงยวิ๋น...” ชีอ้าวชวางยื่นมือออกไปเช็ดเลือดที่มุมปากของเหลิ่งหลิงยวิ๋นเบาๆ
“อ้าวชวาง ข้าจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องกับเจ้าหรอก” เหลิ่งหลิงยวิ๋นยิ้มอย่างอบอุ่น
“ที่แท้เจ้าก็จำทุกอย่างได้แล้ว…” สายตาของชีอ้าวชวางเศร้าและซาบซึ้ง “ทำไมเจ้าถึงทำเช่นนี้ เจ้าจะละทิ้งนางเพื่อข้า ทำได้หรือ? มันคุ้มค่าหรือ?”
“ได้ มันคุ้มค่า” เหลิ่งหลิงยวิ๋นยิ้มและจับมือชีอ้าวชวาง ”ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าหายไปแน่นอน ไม่มีทาง”
ชีอ้าวชวางยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นดูขมขื่นเล็กน้อย
ชิงฮวามองฉากนี้เงียบๆ แล้วกำหมัดแน่น รอยยิ้มของท่านหรูปิงควรเป็นของนายท่าน! เขาไม่รู้จักวิธีถนอมความรักที่นายท่านมีต่อเขาหรือ?
*ชื่อนางเอกที่เป็น ‘ชีอ้าวชวาง’ หมายถึงอีกตัวตนหนึ่งที่ไม่ใช่ตัวนางเอก ตัวตนที่เย็นชา ดุร้าย