ตอนที่ 577 เซอร์ไพรส์ งานหมั้น (6)
อวี๋กานกานคิดว่าชื่อซ้ำจริงๆ เป็นผลให้แสงไฟตกลงมาที่เธอและฟังจือหันอีกครั้ง
ฉะนั้นฟังจือหันที่คุณท่านพูดถึงก็คือฟังจือหันแฟนหนุ่มของเธอเอง
เขาเป็นหลานของคุณท่านได้ยังไง
จริงสิ ฟังจือหันมีคุณตาคนหนึ่ง
เขาเลยเปลี่ยนมาใช้นามสกุลฟัง ดังนั้นเขาไม่ใช่หลานนอกไส้แต่เป็นหลานชายแท้ๆ
คุณตาของฟังจือหัน…คุณท่านคนนี้เป็นตาของฟังจือหัน ฟังจือหันก็เลยเอาภาพวาดให้เธอ คุณท่านถึงได้มอบกำไลราคาสูงเสียดฟ้าเป็นของขวัญกลับมา
เธอไม่รู้ว่าคุณท่านเป็นใคร ดังนั้นคุณท่านต้องรู้ว่าเธอเป็นใคร ทำไมถึงไม่อธิบายให้เข้าใจ
แล้วเรื่องที่ฟังจือหันไปทำธุระต่างจังหวัดก็โกหกอย่างนั้นสิ ทำไมถึงไม่บอกเธอก่อน อย่างน้อยก็ให้เธอเตรียมใจไว้บ้าง
เธอได้พบกับครอบครัวของแฟนหนุ่มอีกครั้งภายใต้สถานการณ์ที่ไม่รู้จัก พระเจ้า!
นี่คือเซอร์ไพรส์เหรอ
ตกใจหมดเลย
เธอสามารถโกรธแล้วเตะขาฟังจือหัน แล้วถ้าเธอเลิกกับเขาล่ะ โดยทั่วไปในละครโทรทัศน์ก็มักจะทำแบบนี้
ถ้าทำแบบนั้นจริงๆ เธอรู้สึกว่าดูร้ายกาจไปหน่อย
แต่เมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้นมันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ต้องสอนบทเรียนให้เขาเล็กน้อยเพื่อที่เขาจะไม่ทำแบบนี้อีกในอนาคต
มีเรื่องอะไรให้พูดกันตรงๆ ถึงจะดี
ฟังจือหันที่อยู่ข้างๆ ราวกับสุภาพบุรุษที่งอแขนตัวเองเอาไว้
ไม่ว่าจะมีคำถามกี่ข้อก็ตามไม่ควรถามในตอนนี้ อวี๋กานกานสูดลมหายใจในใจระงับความคิดที่ยุ่งเหยิง เม้มริมฝีปากและยิ้มอย่างสงวนท่าที จากนั้นจับแขนของฟังจือหัน เขาเดินนำไปยังข้างๆ คุณท่าน
เหมือนกับงานแต่งงานที่มีคนถือแหวนมาข้างหน้า
มีเพียงแหวนวงเดียวเท่านั้น เนื่องจากเป็นงานหมั้นตามธรรมเนียมที่นี่ ดังนั้นจึงมีแหวนของหญิงสาวเพียงวงเดียว
ฟังจือหันหยิบแหวนขึ้นมาแล้วสวมเบาๆ ที่นิ้วของกานกาน จากนั้นก็จูบที่หน้าผากของเธอและเสียงปรบมือก็ดังขึ้น
“ในนามหลานชายของฉันและคู่หมั้นของเขาฉัน ขอขอบคุณทุกคนมากๆ หลังจากที่กำหนดวันแล้วฉันเรียนเชิญร่วมงานแต่งงานของพวกเขาด้วยนะ”
หลังจากที่ชายชราพูดจบ เสียงอวยพรขอให้พวกเขามีชีวิตแต่งงานที่มีความสุข อวยพรให้รีบแต่งงานกันไวๆ ขอให้ครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุขดังขึ้นรอบทิศทาง
อวี๋กานกานเป็นผู้หญิงที่รักสงบมาโดยตลอดและตอนนี้เธอรู้สึกตัวเบาเหมือนกำลังจะลอยขึ้นเล็กน้อย
จู่ๆ ก็ได้หมั้นหมายกับคนที่รักโดยไม่ทันตั้งตัว
และผู้คนในงานเลี้ยงนี้ทำให้เธอเข้าใจชัดเจนว่ามันหมายถึงอะไร
แค่คุณปู่เจียงคนเดียวก็ทำให้เธอกับฟังจือหันรู้สึกห่างไกลแสนแปดลี้แล้ว
ตอนนี้มีคุณท่านฟังอีกคน ยิ่งถูกแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิงราวกับอยู่กันคนละกาแล็กซีซึ่งเป็นระยะทางที่ไม่สามารถเอื้อมถึงได้
หลิงนีตกใจที่สุด ใบหน้าของเธอบึ้งตึงราวกับว่าถูกสาดด้วยหมึก
จางอี๋เสวี่ยที่อยู่ข้างๆ ก็ตกใจอย่างมากเช่นกัน “เป็นไปได้ยังไง ฟังจือหันจะหมั้นกับหมอคนนี้ได้ยังไง”
ในน้ำเสียงไม่อยากเชื่อแฝงไปด้วยความอิจฉาและริษยา
ใครๆ ต่างก็รู้หากฟังจือหันไม่ยอมก็ไม่มีใครบังคับเขาได้
ทุกคนภายในห้องจัดเลี้ยงต่างเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณท่านถึงมอบกำไลหยกเขียวจักรพรรดิให้กับคุณอวี๋คืนกลับไป ผู้หญิงหลายคนที่มางานวันนี้ต่างก็หวังในใจว่าจะได้ดองเป็นทองแผ่นเดียวกันกับตระกูลฟังที่เพียบพร้อมและลึกลับ อยากคบกับคุณชายที่ไม่สุงสิงกับใคร
ไม่คิดก็มีชื่อเสียงอยู่แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นสายตาที่ชื่นชมก็ไม่สามารถซ่อนไว้ได้มิด
หลิงนีก้าวถอยหลัง ถอยไปจนเกือบไม่มีใครเห็น ดวงตาแดงก่ำ จิกเล็กแน่นราวกับจะจิกเข้าไปในเนื้อ
งานครบรอบวันเกิดของคุณปู่และยังเป็นงานหมั้นระหว่างฟังจือหันกับหมอคนนั้น
ไม่!
นี่ต้องฝันไปแน่ๆ
ตอนที่ 578 ระหว่างที่ลูกแมวกำลังโมโห…
อวี๋กานกานอยู่กับฟังจือหันและชายแก่ตลอดช่วงงานเลี้ยง ใบหน้ายิ้มจนเกร็งไปหมดแล้ว
ดื่มอวยพรเสร็จไปหนึ่งรอบ แขกที่ค่อนข้างสำคัญบางส่วนต่างก็ลุกขึ้นขอตัวกลับไปแล้ว พวกเขาไปกันหมด คนที่เหลือก็เริ่มทยอยกลับไปด้วย
อวี๋กานกานดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่มาก แม้จะดื่มรอบวงไปหนึ่งรอบ เหล้าในแก้วก็ยังดื่มไม่หมดแต่ก็ทำให้ดวงหน้าแดงก่ำ
ภายในห้องรับรอง พออวี๋กานกานโยนกระเป๋าถือไป นั่งแผ่ลงบนโซฟาพลางถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า เหนื่อยกว่าเธอทำงานทั้งวันจริงๆ เลย
ฟังจือหันนั่งข้างตัวเธอ
มองมือของเธอที่กำลังนวดไปตามขาของตนเองจึงยื่นมือไปช่วยอย่างรวดเร็ว อยากจะยกขาเธอมาวางบนขาของตนเอง “ผมช่วย…”
แต่กลับถูกอวี๋กานกานดันออกแทน
อวี๋กานกานหันไปมองเขารวมกับน้ำเสียงเข้ม “ไม่ต้อง!”
จากนั้นใช้มือของเธอดันเขาออก
ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ดวงตาที่ทั้งโตทั้งประกายช่างขึงขังปรากฏการณ์เตือนอย่างชัดเจน แต่ว่าให้ความรู้สึกราวกับแมวน้อยตัวหนึ่ง แมวน้อยหนึ่งตัวที่ไม่มีกรงเล็บ ท่าทางดุและน่ารักนี้ไม่ต้องพูดเลยว่าน่ารักขนาดไหน
นัยน์ตาของฟังจือหันฉายแววขบขัน เอื้อมมือออกไปจะลูบศีรษะของเธอ
โดนอวี๋กานกานหลบอีกครั้ง ใช้หลังมือตีไปที่มือเขา จ้องเขาพร้อมกับเอ่ย “ไม่ให้แตะตัวฉัน!” เธอยังโกรธอยู่ สนใจเขาไม่ได้เด็ดขาด
ใบหน้าของฟังจือหันเอ็นดูอีกทั้งยิ้มอย่างจนปัญญา…
ชายแก่อยู่ตรงประตูเห็นฉากนี้เข้าพอดี กำมือกระแอมเบาๆ ไม่กี่ที
สามารถดุฟังจือหันได้ แต่อวี๋กานกานกลับไม่กล้าดุชายแก่ อีกทั้งโดนเห็นฉากที่เธอดุฟังจือหันเข้าจึงลุกขึ้นยืนด้วยความเก้อเขินชั่วขณะ
ฟังจือหันก็ลุกขึ้นตามเธอ “คุณตา…”
ชายแก่เอามือไพล่หลังพร้อมกับเดินเข้ามา พูดกับฟังจือหัน “วันนี้แกเป็นตัวเอกเชียว แอบอู้ไม่ได้เด็ดขาด”
ฟังจือหันรู้ความหมายของชายแก่ เขามีคำพูดที่จะพูดกับอวี๋กานกานตามลำพัง มองอวี๋กานกานอย่างลึกซึ้ง กุมมือเธอครู่หนึ่งราวกับปลอบใจแล้วจึงออกไป
ในห้องรับรองเหลือแค่ตนเองกับชายแก่ อวี๋กานกานรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก มือเท้าไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหน
ชายแก่นั่งลงบนโซฟา หลังจากผายมือให้อวี๋กานกานมานั่งตรงข้ามก็เอ่ยถาม “เหนื่อยไหม”
อวี๋กานกานตอบอย่างใจเย็น “พอไหวค่ะ”
ยังคงไม่สบายใจ นิ้วมือไขว้กันโดยไม่รู้ตัว “ทำไมท่านถึงได้…”
“ฉันรู้ว่าเธอจะพูดอะไร” ชายแก่ยิ้มบางๆ พร้อมกับอธิบาย “เป็นฉันที่ไม่ให้เขาบอกเธอเอง ถ้าสถานการณ์แบบในวันนี้เธอยังรับมือไม่ไหว งั้นฉันก็คงให้พวกเธอคบกันไม่ได้จริงๆ ไม่ได้หวังว่าภรรยาในอนาคตของเขาจะมาช่วยเขาได้ แต่ว่าอย่ามาฉุดรั้งเขาเอาไว้อย่างเด็ดขาด!”
ครู่หนึ่งอวี๋กานกานไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีเลยจริงๆ
คำพูดนี้ของชายแก่ไม่ผิดไปเลยสักนิด
ถึงแม้จะจริงจังแต่กลับไม่ได้ทำให้รู้สึกไม่สบายใจเลย
เป็นเหตุผลหนึ่งที่คล้ายกับอาจารย์เหม่ยเหรินของเธอบอกว่าเด็กสาวที่เขาเลี้ยงมาจนโตไม่มีทางให้ซักผ้า ทำกับข้าวให้ผู้ชายคนอื่นอย่างเด็ดขาด
“คุณปู่คะ ฟังจือหันเป็นคนเอาแต่ใจแบบนั้น ฉันอยากจะฉุดรั้งเขาเอาไว้ก็รั้งไม่อยู่หรอก” อวี๋กานกานพูดพลางเลียนแบบสีหน้าของฟังจือหัน กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เรื่องที่ผมตัดสินใจคุณไม่จำเป็นต้องยื่นมือเข้ามา วันนี้ผมไม่ได้ขอความคิดเห็นจากคุณ ผมมาแจ้งให้คุณทราบ!”
เลียนเสียงในตอนท้ายทำให้มุมปากของชายแก่เกิดรอยยิ้มขึ้นมาในทันที
“ฉันก็ไม่ได้เป็นคนที่แนวคิดเรื่องครอบครัวเข้มงวดมาก แต่ว่าตอนนี้จือหันเป็นญาติคนเดียวในตระกูลฟัง ไม่ว่าเขาจะมีความสามารถสักเท่าไหร่ก็พูดได้ว่าอำนาจน้อยกำลังน้อย ถ้าเป็นไปได้ฉันก็ไม่อยากเลือกเธอที่ไม่มีพื้นเพอะไร”