บทที่ 66 เรือเหาะเหินวาย เร็วกว่าเสียง 100 เท่า!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

ตระกูลเย่ว

เมื่อเย่เทียนตามผู้คุ้มกันนักรบชั้นยอดมาถึงที่นี่และเห็นที่พักของตระกูลเย่วเขาก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา

ตระกูลเย่วครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่ มีอาคารสูงใหญ่มากมายภายใน และยังมีคฤหาสน์รูปแบบโบราณมีผู้ฝึกยุทธจํานวนมากเดินไปมาและพวกเขาล้วนแต่เป็นนักรบชั้นยอด

ตระกูลเย่วยังมีนักรบผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนที่สวมชุดเกราะถือหอกยาวที่กําลังลาดตระเวนเหมือนทหารในยุคโบราณถ้าไม่ใช่เพราะคําเชิญเย่เทียนคงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในตระกูลเย่ว

ตลอดทาง

เย่เทียนใช้พรสวรรค์ในการคัดลอกเพื่อดูพรสวรรค์ของคนตระกูลเย่ว คนเหล่านี้ส่วนใหญ่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับกลาง!

พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับกลาง!

พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับเริ่มต้น!

พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูง!

เย่เทียนมองสังเกตุอย่างละเอียดแน่นอนว่าตระกูลเย่วมีคนธรรมดาอยู่ไม่น้อย

สําหรับผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงตระกูลเย่วมีไม่มากนัก เห็นได้ชัดว่าพรสวรรค์ระดับสูงเป็นพรสวรรค์ที่ดีในตระกูลเย่ว แต่เย่เทียนกลับไม่เห็นแม้แต่อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงสุด

ไม่ใช่ว่าไม่มี เพียงแต่เขาไม่ได้เจอมัน

“คุณหนู เย่เทียน มาถึงแล้ว!”

ผู้คุ้มกันที่นําทางชี้ไปยังพื้นที่ว่างที่อยู่ไม่ไกลและกล่าว

ที่ตรงนั้นมีผู้คนกว่า 20 คนรวมตัวกันอยู่ มีชายหนุ่มมากกว่า 10 คน ชายวัยกลางคนอีก 6-7 คนและชายชราอีกคนหนึ่ง

“เย่เทียน คุณมาแล้ว!”

เย่วหลิงเดินเข้ามาและกล่าว

“อื้ม!”

เย่เทียนพยักหน้าเล็กน้อย

ในเวลานี้เขาสัมผัสได้ถึงสายตาที่ให้ความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์จ้องมองมายังเขา

เย่วหลิงสังเกตเห็นสายตาของเย่เทียน ดังนั้นเธอจึงเดินเข้ามาและกระซิบว่า”ฉันให้โควต้ากับคุณมันจึงทําให้สมาชิกในตระกูลหลายคนไม่พอใจเล็กน้อยแต่คุณไม่จําเป็นต้องสนใจพวกเขา”

เย่เทียนพยักหน้าเบาๆ

เพียงนักรบผู้เชี่ยวชาญไม่กี่คนเท่านั้น เย่เทียนไม่เห็นพวกมันอยู่ในสายตาเลย

นอกจากนี้ในหมู่พวกเขาคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดเป็นเพียงพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงเท่านั้นสําหรับพรสวรรค์พิเศษของคนเหล่านี้ค่อนข้างแย่พวกเขาต้อยกว่าเย่วหลิงมากหากเป็น พรสวรรค์ระดับหลุดพ้นเขาอาจจะให้ความสําคัญกับมันอยู่บ้าง

ในเวลาเดียวกันในเวลานี้ ชายชราก็มองไปยังทุกคนและกล่าวว่า

“ในเมื่อมากันครบแล้ว ก็เตรียมตัวออกเดินทางกันเถอะ!”

ตูม!!!!

เรือเหาะปรากฏขึ้นกลางอากาศ

ฉากนี้ทําให้เย่เทียนตกตะลึง

ชายหนุ่มจากตระกูลเย่วที่เห็นท่าทางของเยเทียนเขาเบ้ปากอย่างเหยืดหยามและกล่าวว่า”เจ้านกน้อยจากฐานขนาดเล็กคงไม่เคยเห็นเรือเหาะมาก่อนล่ะซิ?ตระกูลเย่วของเรามีเรือเหาะแบบทั้งหมด 10 ลํา”เมื่อถูกคนอื่นดูถูกเช่นนี้ถ้าเย่เทียนไม่ตอบโต้ล่ะก็ ไม่เท่ากับว่าเขาหวาดกลัวพวกมันหรอกหรือ?

“ตระกูลเย่วมีเรือเหาะ 10 ล่า แต่เจ้ามีหรือไม่? รอให้เจ้ามีมันเป็นของตัวเองค่อยพูดคํานี้ออกมามิเช่นนั้นก็หุบปากซะ!”

เย่เทียนถาม

คนที่กล่าวออกมาก่อนหน้านี้เมื่อได้ยินคําพูดของเย่เทียนเขาถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรให้เขาตอบว่าเรือเหาะพวกนี้เป็นของเขาอย่างนั้นหรือ?

เขากล้าพูดแบบนั้นไหม?

แน่นอนเขาไม่กล้า เพราะเรือเหาะเห็นวายุเป็นของตระกูลเย่ว ไม่ใช่ของเขา

“ฮั่ม เขตแดนลับนั้นง่ายต่อการเข้าไป แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะกลับออกมา ข้าไม่ต้องการให้พี่หลังเสียโควต้าไปโดยเปล่าประโยชน์!”

ชายคนนั้นพึมพําด้วยเสียงเบา

“วางใจเถอะ ใครจะตายก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ข้า!”

เย่เทียนหัวเราะ

“เอาล่ะ หนุ่มน้อยอย่าได้โกรธขนาดนั้นเลย!”

ชายชราจ้องมองเย่เทียนและชายหนุ่มคนนั้น ด้วยแรงกดดันที่แผ่ซ่านออกมา

ทันใดนั้น รุ่นเยาว์จากตระกูลเย่วก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก เย่เทียนก็เงียบลงเช่นกันดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

“ตาแก่นี่แข็งแกร่งมาก!”

เย่เทียนแอบตกใจ

เขาตรวจสอบข้อมูลของชายชราทันที

[มนุษย์: เย่วเฟิง

พรสวรรค์ในการบ่มเพาะ : สุดยอด

พรสวรรค์ด้านดาบ : ระดับเริ่มต้น]

ชายชราเย่วเฟิงมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสุดยอดและพรสวรรค์ด้านดาบระดับเริ่มต้นเมื่อพิจารณาจากอายุของเย่วเฟิง เขาคงฝึกฝนมาอย่างยาวนานบางทีเขาอาจอยู่ในจุดสูงสุดของ ระดับปรมาจารย์

พลังต่อสู้ของเขาคงจะไกลเกินกว่าจะจินตนาการ ไกลเกินกว่าที่เย่เทียนจะเทียบได้

“ขึ้นไป!”

เย่วเฟิงพูดเบาๆ

ครื้นนนน!

ประตูห้องโดยสารของเรือเหาะเหินวายุเปิดออก

ผู้ฝึกยุทธคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนอากาศและเข้าไปในเรือเหาะทันที

เย่เทียนและเย่วหลังก็ขึ้นตามไปพร้อมกัน

พื้นที่ภายในของเรือเหาะเหินวายุนั้นไม่เล็กเลย มีที่นั่งเพียงพอที่จะจุคนมากมายเย่เทียนและเย่วหลิงหาที่นั่งที่อยู่ติดกัน

“เย่วหลิง เรือเหาะเหินวายุน่าจะสร้างขึ้นมาด้วยข่ายอาคมใช่ไหม?”

เย่เทียนถามด้วยความสงสัย

“อืม! เรือเหาะเหินวายุถูกสร้างขึ้นจากค่ายกลลอยฟ้าและค่ายกลอื่นๆ วัสดุในการสร้างเรือเหาะวายุนั้นหายากมากดังนั้นราคาของเรือเหาะจึงแพงมากเช่นกันหากวัดค่าของมันด้วยเงินมันจะมีมูลค่าหลายหมื่นล้านหยวน!” เย่วหลิงอธิบาย

“ฟู”

เย่เทียนรู้สึกประหลาดใจกับราคาของเรือเหาะเหินวายุ

ในเวลาเดียวกันเย่วหลิงก็กล่าวต่อว่า “ในความเป็นจริงไม่มีใครอยากขายเรือเหาะวายุคุณรู้หรือไม่ว่าความเร็วสูงสุดของเรือเหาะวายนั้นเร็วขนาดไหน?”

“เท่าไหร่?”

เย่เทียนแสดงท่าทางอยากรู้

“เร็วกว่าความเร็วเสียง 100 เท่า!”

เย่วหลิงกล่าวอย่างจริงจัง

“เร็วกว่าความเร็วเสียง 100 เท่า!”

เย่เทียนตกตะลึง นี่มันเร็วเกินไปแล้ว! ในชาติที่แล้วเครื่องบินรบของกองทัพที่เรียกได้ว่ามีความเร็วเหนือเสียง หากเทียบกันแล้วมันเป็นเพียงแค่เศษสวะเมื่ออยู่ต่อหน้าเรือเหาะเห็นวายุ

“แน่นอน หากเปิดใช้งานความเร็วเหนือเสียง 100 เท่า มันมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ต้องใช้หินปราณซึ่งมีราคาแพงมาก!”

เย่วหลิงอธิบายหินปราณให้เย่เทียนฟัง

หินปราณถูกสร้างขึ้นจากการรวมตัวของปราณปฐมแห่งฟ้าดิน และต้องถูกหล่อเลี้ยงจากพลังปราณเป็นเวลากว่าร้อยปีดังนั้นจึงมีหินปราณไม่มากนักการจะหาหินปราณได้สักก้อนนั้นยากเย็นแสนเข็น ดังนั้นหินปราณจึงแทบจะหาซื้อไม่ได้ในตลาดทั่วไป

มันเป็นสิ่งของที่ล้ําค่ามากหากไม่มีมันเรือเหาะวายก็ไร้ประโยชน์ ต่อให้มันอาศัยพลังปราณจากสวรรค์และปฐพีความเร็วในการบินก็จะช้ามาก

ดังนั้นการใช้เรือเหาะวายุจึงเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรอย่างแท้จริง

แม้แต่ตระกูลเย่วก็ไม่กล้าเสียหินปราณเปิดใช้งานความเร็วเหนือเสียง 100 เท่า

และครั้งนี้ตระกูลเย่วใช้เรือเหาะวายุและเปิดใช้งานความเร็วเหนือเสียงเพียง 10 เท่าเท่านั้น 360

แต่ความเร็วแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะมันบินอยู่บนอากาศไร้ซึ่งอุปสรรคใดๆ สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างเต็มกําลังโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง

หากอยู่บนพื้นดิน แม้แต่จอมยุทธระดับปรมาจารย์ก็ไม่กล้าที่จะเพิ่มความเร็วให้ถึง 10 เท่าของความเร็วเสียงตามใจชอบเราะนั่นจะทําให้เกิดปัญหาตามา

ภายใต้ความเร็วของเรือเหาะเหินวายทําให้ถึงจุดหมายปลายทางอย่างรวดเร็ว

“ออกไปได้แล้ว!”

เสียงของเย่วเฟิงดังเข้ามาในหูของทุกคน

เมื่อประตูห้องโดยสารเปิดออก นักรบผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลเย่วก็กระโดดออกไปและเย่เทียนก็กระโดดออกไปเช่นกัน

ที่ด้านล่างเป็นภูเขาขนาดใหญ่ เย่เทียนและตระกูลเย่วกระโดดขึ้นไปบนที่ราบบริเวณหนึ่งของภูเขา !

ครื้นนน!

เรือเหาะเหินวายุขนาดใหญ่หายไปอย่างรวดเร็ว

ณ จุดนี้เอง

เย่เทียนเห็นชัดๆ ว่าเรือเหาะเหินวายหายไปในอากาศที่ว่างเปล่า

“เย่วเฟิงต้องมีอุปกรณ์เก็บของขนาดใหญ่อยู่ในมือแน่!”

เย่เทียนพึมพําด้วยความอิจฉา

เขาเองก็อยากได้ของสะดวกสบายเช่นนี้เหมือนกัน แต่เสียดายที่เขาไม่มีทางซื้อมันได้ในตอน

“เราควรจะถามเย่วหลังว่าเธอสามารถหาซื้อกระเป๋ามิติเก็บของให้เราได้หรือไม่?”

เย่เทียนแอบคิด

“คนอื่น ๆ ก็มาแล้ว!”

เย่วหลิงกล่าวเสียงเบา

เย่เทียนมองออกไป และเห็นผู้ฝึกยุทธคนหนึ่งลงมาจากเรือเหาะเห็นวายุบนยอดเขาในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเรือเหาะเหินวายุกว่า 40 ลําก็มาถึง

และมีนักรบผู้เชี่ยวชาญเกือบ 1,000 คน