ตอนที่ 541 ศัตรูหัวใจกลายเป็นคู่รัก
ป๋อจิ่งชวนชำเลืองไปมองทางเขานิ่งๆ แวบหนึ่ง “ คุณเดินทางมาไกลเป็นพันลี้เพื่อหาเรื่องโดนต่อยงั้นเหรอ”
เผยอวิ๋นเจ๋อเลิกคิ้ว “คุณบ้าไปแล้วหรือไง ผมมาจีบเธอต่างหาก เชื่อว่าเธอจะซาบซึ้งใจกับความจริงใจนี้ของผม”
คิ้วของป๋อจิ่งชวนขมวดมุ่นในทันที พลันหันไปมองทางเฉินฝานซิงปราดหนึ่ง
เฉินฝานซิงรีบเบนหน้าไปอีกทาง
ผู้คนได้เห็นป๋อจิ่งชวนและเผยอวิ๋นเจ๋อพูดคุยกันทันทีหลังจากที่นั่งลง ความสงสัยในใจก็คลี่คลายหายไปในพริบตา
คิดว่าประธานป๋อกับเฉินฝานซิงมีความสัมพันธ์ลับๆ อะไรกันเสียอีก ที่แท้ก็คุยกับผู้บริหารกิจการเผยซื่อถูกคอนี่เอง
นั่นสิ ลือกันไปทั่วว่าผู้บริหารป๋อซื่อไม่สนใจผู้หญิง เรื่องนี้ถึงแม้จะเป็นแค่ข่าวลือ แต่ตอนนี้ดูเหมือนชักน่าสนใจขึ้นมาแล้ว
แต่ว่าสิ่งที่พวกเขาสงสัยก็คือ คุณชายเผยกับคุณชายป๋อนี่ สรุปว่าใครอยู่บนใครอยู่ล่างกันแน่ ข้องใจจริงๆ
แต่ว่าคู่นี้ช่างเป็นอาหารตาที่ดีจริงๆ หากจะผลัดกันรุกด้วยกันทั้งคู่ก็ไม่ติดเลยนะ
ทั้งสองคนไม่รู้เลยสักนิดว่า ทั้งๆ ที่เป็นศัตรูหัวใจตัวฉกาจกันแท้ๆ แต่ในสายตาของผู้คนกลับโดนจับคู่ด้วยกันเสียได้
ส่วนเฉินฝานซิงกลายเป็นสาวตัวประกอบที่เทียบไม่ได้แม้แต่กับละอองฝุ่นล่องลอยระหว่างคนคู่นี้
ระหว่างเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ มีเพียงแค่ซูเหิงที่เกิดความรู้สึกสับสนจนยากจะบรรยายอยู่ภายในใจ
ในขณะที่เขากำลังคิดตรึกตรองอยู่นั้น จู่ๆ ฝ่ามือของเขาก็มีมือเล็กๆ ที่แสนอ่อนนุ่มสอดเข้ามา
เขาเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เจอสีหน้าแววตาที่ดูกังวลและรู้สึกไม่ปลอดภัยของเฉินเชียนโหรว
“พี่เหิง ไม่เป็นไรใช่ไหม”
ซูเหิงมองเธออย่างอึ้งๆ ภายในใจมีความรู้สึกผิดผุดขึ้นมาลางๆ
เฉินเชียนโหรวกัดริมฝีปาก ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ ดูซีดขาวไร้เรี่ยวแรง
“พี่เหิง พี่มีเรื่องอะไรอยากพูดก็บอกฉันมาให้หมดได้ไหม พรุ่งนี้พวกเราก็จะแต่งงานกันแล้ว…แต่ฉันมักรู้สึกเหมือนนับวันพี่ก็ยิ่งห่างจากฉันไกลออกไปเรื่อยๆ พี่เหิง ฉันกลัวมาก ฉันกลัวมากจริงๆ …พี่…เสียใจที่มาคบกับฉันหรือเปล่า…”
เมื่อได้ยินเฉินเชียนโหรวพูดแบบนี้ ความรู้สึกผิดในใจของซูเหิงก็เพิ่มทวีขึ้น
เขาเองก็รู้ดีว่าช่วงนี้ตนปฏิบัติต่อเฉินเชียนโหรวอย่างละเลย อีกทั้งเธอก็ยังถูกโจมตีจากหลายเรื่องอย่างไม่ขาดสาย
เดิมทีก็รู้สึกแย่มากพออยู่แล้ว ยังต้องคอยนึกถึงจิตใจของเขาอีก ทำให้เธอร้อนใจขนาดนี้ นี่มันช่าง…
เขากุมมืองของเฉินเชียนโหรวไว้แน่น แล้วยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน
“จะเป็นไปได้ไง กว่าพวกเราจะคบกันอย่างเปิดเผยแบบนี้ได้มันไม่ง่ายเลย ฉันจะเสียใจได้ยังไง เธออย่าคิดมากไปเลย”
สายตาของเฉินเชียนโหรวเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง ส่งยิ้มพร้อมกับพยักหน้าตอบรับทั้งน้ำตา ท่าทางแบบนี้ยิ่งทำให้คนรู้สึกสงสารเอ็นดู
เห็นเธอเป็นแบบนี้แล้ว ซูเหิงก็แอบสูดหายใจเข้าฟอดใหญ่ ความรู้สึกภายในใจพลันหนักแน่นขึ้นมา
ใช่แล้ว เขากับเชียนโหรวกว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ได้ไม่ง่ายเลย เชียนโหรวอ่อนแอบอบบางขนาดนี้ สิ่งที่ต้องการก็คือความเชื่อมั่นและการปกป้องจากเขา
“ชอบอะไร เดี๋ยวจะประมูลให้เธอเอง” ซูเหิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เฉินเชียนโหรวนึกนึกถึงคำพูดของฟ่านหรูอวิ๋นที่พูดก่อนหน้านี้ไม่นานว่าซูเหิงจะประมูลของที่ได้ชื่อว่า “หนึ่งเดียว” มาเป็นของหมั้นให้เธอจึงส่ายหน้า
“ฉันไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น ขอแค่พี่เหิงอยู่ข้างกายฉัน ฉันก็พอใจแล้ว”
ซูเหิงยกมือของเธอขึ้นมาวางตรงริมฝีปากแล้วประทับจูบเบาๆ ด้วยความหลงใหลเอ็นดู
“เด็กโง่”
นานๆ ทีจะได้รับการปฎิบัติด้วยความเอ็นดูและอ่อนโยนแบบนี้ ทำให้เฉินเชียนโหรวรู้สึกมีความสุขจนหน้าแดงระเรื่อ
ขณะนั้นเอง ฟ่านหรูอวิ๋นก็ขยับเข้ามาใกล้จากด้านหลังของพวกเขา “พวกคุณจะทรมานพวกเราให้ตายเลยหรือไง พรุ่งนี้ก็จะแต่งงานแล้ว ยังจะมาหวานออกสื่อขนาดนี้อีก”
เฉินเชียนโหรวถลึงตาใส่ฟ่านหรูอวิ๋นด้วยท่าทางเคอะเขิน ก่อนจะด้วยพูดน้ำเสียงขุ่นเคือง
“ที่ไหนกัน เวลาแบบนี้เธอยังจะมาแกล้งแซวฉันอีก”
“แกล้งแซวที่ไหนกัน ความจริงทั้งนั้นแหละ เฮ้อ คุณชายซู คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่คุณกับเชียนโหรวจะโสดแล้วนะ คุณจะไม่แสดงออกให้เฉินเชียนโหรวภูมิใจหน่อยเหรอ”
ตอนที่ 542 พวกคุณกำลังมีแผนอะไรอยู่
ซูเหิงหันไปมองเฉินเชียนโหรววับหนึ่งก็เห็นเฉินเชียนโหรวกำลังกัดริมฝีปากด้วยท่าทางเขินอายจึงผุดยิ้มออกมาน้อยๆ
ฟ่านหรูอวิ๋นที่เห็นท่าทางเคอะเขินของเฉินเชียนโหรวแบบนั้น ดวงตาก็ฉายประกายก่อนจะพูดยิ้มๆ
“ทุกครั้งที่ทำงานการกุศลก็เพื่อจะระดมทุนเป็นหลัก แต่การสร้างบรรยากาศให้มีชีวิตชีวาก็สำคัญนะ คืนนี้มีศิลปินดารามากมายมาพร้อมรายการโทรทัศน์ ทั้งยังมีช่วงให้เกิดปฏิสัมพันธ์กันไม่น้อยเลย นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงออกแล้วนะ คุณชายซู”
ระหว่างที่พูด เธอกันหันไปขยิบตาให้ซูเหิงด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูมีลับลมคมใน
ซูเหิงเหลือบมองฟ่านหรูอวิ๋นอย่างจนปัญญา ดูเหมือนฟ่านหรูอวิ๋นจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาจึงยกมือขึ้นปิดปากด้วยท่าทางเกินจริง
เฉินเชียนโหรวรู้สึกงุงนงงไปกับท่าทางลึกลับของพวกเขา “พวกเธอสองคน กำลังแอบวางแผนอะไรลับลังฉันอยู่หรือเปล่า”
ฟ่านหรูอวิ๋นเอามือปิดปากพลางกะพริบตาปริบๆ ท่าทางดูมีเลศนัยขึ้นเรื่อยๆ
แต่ว่าในขณะที่เห็นท่าทางแบบนั้นของฟ่านหรูอวิ๋น ลึกในใจของเฉินเชียนโหรวก็รู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังขึ้นมาเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าคืนนี้ซูเหิงน่าจะมีเซอร์ไพรส์อย่างอื่นให้เธอด้วย
ยังไม่ทันที่เธอจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ พิธีกรดำเนินรายการก็ขึ้นไปยังบนเวที พลันประกาศเริ่มงานประมูลในคืนนี้ขึ้นอย่างเป็นทางการ
ของที่เริ่มประมูลหลายชิ้นแรกๆ ที่จริงแล้วเป็นของที่ฝ่ายเจ้าภาพจัดงานแอบใส่ของตัวเองเข้าไป ใครก็รู้ดีว่างานประมูลในช่วงเริ่มเป็นเพียงแค่การอุ่นเครื่องเท่านั้น หากจะจัดของที่ผู้อื่นเป็นคนบริจาคให้มาก็คงจะเป็นการไม่สมควร
หลังจากที่สองชิ้นแรกประมูลออกไปเรียบร้อยแล้ว ผู้คนเริ่มกระตือรือร้นขึ้นมาบ้าง ถึงจะค่อยๆ ให้ความสนใจกับของบริจาคจากแขกผู้มีเกียรติ
ถึงแม้ว่าจะเป็นการกุศล เฉินฝานซิงก็ไม่ได้คิดจะตระหนี่ถี่เหนียวอะไร หลังจากที่ประมูลสิ่งของผ่านไปอีกสองชิ้น ชิ้นต่อไปคืองานศิลปะโบราณชิ้นหนึ่ง
แจกันหูคู่แบบเคลือบสีเพี้ยนในเตาที่มีสีสันที่สวยงามตระการตามาก อีกทั้งผู้ดำเนินรายการยังบอกอีกว่านี่เป็นผลงานทีทำขึ้นในสมัยจักพรรดิเฉียนหลงในราชวงศ์ชิง ทั้งยังมีหนังสือรับรองจากผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย
งานศิลปะโบราณแบบนี้ปรากฏขึ้นในงานเลี้ยงการกุศล ช่างเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายจริงๆ
เมื่อของชิ้นนี้ออกมาก็สร้างความฮือฮาขึ้นมาได้ไม่น้อย
ภายในงานล้วนแต่เป็นศิลปินวัยรุ่นที่เป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้ หรือไม่ก็เป็นคุณหนูคุณชายจากตระกูลเศรษฐี ความจริงแล้วความสนใจที่จะสะสมของประเภทนี้ก็ไม่ได้มีมากนัก
เพียงแต่ เพื่อที่จะเอาอกเอาใจเหล่าคนมีอายุในบ้าน ดังนั้นการแข่งขันการประมูลของชิ้นนี้นับว่ายังพอมีอยู่บ้าง
ราคาประมูลเริ่มต้นที่หนึ่งล้านแปดแสน เฉินฝานซิงดูเหมือนจะสนใจแจกันหูคู่แบบเคลือบสีเพี้ยนในเตาชิ้นนี้มาก เธอเองก็ยกป้ายเข้าร่วมการเสนอราคาในครั้งนี้เช่นกัน
ตอนที่เฉินฝานซิงเรียกราคาสองล้าน เฉินเชียนโหรวก็ยกป้ายขึ้นโดยที่แทบจะไม่รู้ตัว
“สองล้านสามแสน”
การกระทำของเธอเกิดขึ้นอย่างปุบปับโดยที่ไม่มีวี่แววมาก่อน ทำให้ซูเหิงต้องรีบเหลือบไปมองทันที
เฉินเชียนโหรวเองก็เพิ่งจะรู้สึกตัว ดูเหมือนว่าจะแก่งแย่งช่วงชิงกับเฉินฝานซิงจนกลายเป็นนิสัยไปแล้ว
เมื่อเห็นสายตาที่จ้องมองมาของซูเหิง เฉินเชียนโหรวก็กระอักกระอ่วน ก่อนจะคิดอะไรบางอย่างออกแล้วรีบพูดออกมา
“พี่เหิง คุณปู่ซูไม่ใช่ว่าชอบสะสมของโบราณพวกนี้มาตลอดเหรอคะ พวกเรามาเจอของแบบนี้ในสถานที่แบบนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ ฉันอยากจะประมูลมันมาให้คุณปู่ซูค่ะ…”
ได้ยินเฉินเชียนโหรวพูดแบบนี้ สีหน้าของซูเหิงก็ผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ดวงตาฉายแววความอบอุ่นราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่าน
“สองล้านสามแสนห้าหมื่น”
ขณะนั้นเอง คนอื่นๆ ก็พากันเสนอราคาขึ้นมา
“สองล้านสามแสนแปดหมื่น”
ที่จริงแล้ว นี่ก็ถือเป็นการแข่งขันที่ยุติธรรม เพียงแต่ว่าหลังจากที่เฉินฝานซิงเสนอราคา พฤติกรรมที่เฉินเชียนโหรวตะโกนเสนอนราคาตามขึ้นมาทันทีนั้นก็ทำให้เฉินฝานซิงรู้สึกอึดอัดใจอยู่ไม่น้อย
อารมณ์ของเฉินฝานซิงได้รับผลกระทบ สีหน้าของป๋อจิ่งชวนก็ดูเคร่งเครียดตามไปด้วย
“สองล้านสี่แสน”
เฉินฝานซิงยกป้ายเสนอราคาต่อ