ตอนที่ 527 แฟนของอาจารย์นายจะหึง
หลินเยียนมองลูกศิษย์คนเล็กตรงหน้าด้วยหน้าตาถมึงทึง
ในบรรดาศิษย์ทุกคนของเธอ ซุนซั่วหรันอ่อนแอมากที่สุด มิหนำซ้ำยังมีนิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่ง คือถูกผู้หญิงหลอกง่ายเป็นพิเศษ
เธอจำไม่ได้แล้วว่าเจ้าเด็กบ้าคนนี้ถูกผู้หญิงหลอกมาแล้วกี่ครั้ง ทำเอาหมดตัวบ้านแตกสาแหรกขาด แต่กลับไม่รู้จักจำแม้แต่น้อย
คราวนี้ยิ่งกว่าเดิม กลับบ้ากามจนไร้สติทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้…
เพียงแต่ฝีมือในการเลียของเจ้าเด็กบ้าคนนี้กลับยอดเยี่ยม ทั้งปากหวานทั้งรู้จักเอาอกเอาใจ แถมอายุก็ยังน้อย นี่เป็นลูกศิษย์ที่หลินเยียนทำอะไรไม่ได้มากที่สุดเช่นกัน
เมื่อเจอลูกศิษย์แบบนี้ พูดกันตามความจริง บางครั้งหลินเยียนก็ลำเอียงอยู่บ้างจริงๆ และทำให้ศิษย์คนอื่นมีอคติต่อซุนซั่วหรัน
ก็อย่างที่ซุนซั่วหรันพูด ถ้าศิษย์คนอื่นรู้ว่าซุนซั่วหรันทำเรื่องแบบนี้ต้องอัดเขาจนตายแน่
“อาจารย์! ครั้งนี้ผมสำนึกผิดแล้ว! ผมขอสาบาน! วันหลังผมจะไม่เชื่อผู้หญิงง่ายๆ อีกแล้วล่ะครับ! ไม่สิ ผมสาบานว่าชาตินี้จะไม่คบผู้หญิงอีกแล้ว! ผมจะอยู่ข้างอาจารย์ทั้งชาติ!”
หลินเยียนได้ยินแล้วก็หน้าตาบึ้งตึง “เหอะ คิดว่าแค่นี้แล้วจะจบเหรอ นายอย่าเลยดีกว่า…”
เมื่อซุนซั่วหรันได้ยินคำพูดนี้ก็หน้าซีดเผือดโดยพลัน ราวกับได้รับความสะเทือนใจครั้งใหญ่ “เพราะอะไรครับ…อาจารย์…คุณ…คุณไม่ต้องการผมแล้วเหรอ…”
หลินเยียนกลอกตาค้อน ตัดบทซุนซั่วหรันที่กำลังจะร้องไห้คร่ำครวญต่อไปอย่างเหลือทน “ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกนะ เพราะแฟนของอาจารย์นายจะหึงเอาน่ะ”
ซุนซั่วหรันนิ่งอึ้งเป็นอันดับแรก จากนั้นก็เบิกตาโพลงทันที “แม่เจ้าโว้ย! อาจารย์มีแฟนแล้วเหรอครับ???”
“ทำไม? ฉันมีแฟนมันน่าตกใจมากขนาดนี้เลยรึไง?” หลินเยียนพูดไม่ออก
ช่วงที่เธอคบหากับหันอี้เซวียนก่อนหน้านี้ทำตัวเงียบๆ มาตลอด คนที่รู้มีจำนวนน้อยมาก บวกกับเธอแสดงออกกับโลกภายนอกว่าเป็นพวกบ้างานมาตลอด ดังนั้นเรื่อง ‘มีความรัก’ จึงออกจะไม่ใช่เธออยู่บ้าง
กระทั่งว่าก่อนหน้านี้เคยมีสื่อคาดเดาเอาว่าเยวาอุทิศชีวิตให้กับการแข่งรถไปแล้ว ไม่มีวันมีความรักและแต่งงานแน่
ซุนซั่วหรันพอได้ยินก็กระแอมเบาๆ ครั้งหนึ่ง จากนั้นก็รีบโบกมือพร้อมพูดว่า “ไม่ใช่ๆ ครับ! ผมหมายความว่าศิษย์จินตนาการไม่ออกเลยว่าผู้ชายแบบไหนถึงคู่ควรกับอาจารย์ที่เป็นเหมือนเทพธิดาของผม! นี่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยนะครับ!”
“บะ…บอส…มีแฟนแล้วเหรอครับ!!!” แฟนพันธุ์แท้อย่างฉีเซ่าหยวนพอได้รู้ข่าวสารนี้ก็เหมือนถูกสายฟ้าฟาดทันที
เทพธิดาของเขากลับมีแฟนแล้วอย่างนั้นเหรอ!
เขาไม่เชื่อ!
เพียงแต่พอนึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นแฟนคลับที่ได้รู้ความลับของบอสเป็นคนแรก ส่วนเจ้าโง่เว่ยสวีเฟิงนั่นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าบอสเป็นใคร ก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้างอย่างน่าประหลาด
ฉีเซ่าหยวนพูดสำทับอย่างต่อเนื่องเช่นกัน “ถูกต้องๆ รู้สึกว่าไม่มีผู้ชายคนไหนคู่ควรกับบอสเลยนะครับ!”
หลินเยียนนวดหัวคิ้ว จากนั้นจึงมองซุนซั่วหรันทันที “ถ้าไม่ลุกขึ้นมาอีก นายต้องไสหัวออกไปจากสำนักจริงๆ แล้วนะ”
เมื่อซุนซั่วหรันได้ยิน ดวงตาก็วาวโรจน์ ตะกุยร่างขึ้นมาทันที “อาจารย์ คุณไม่ไล่ผมออกจริงๆ นะครับ…”
ฉีเซ่าหยวนเห็นว่าสองศิษย์อาจารย์คงไม่ได้เจอกันมานานจะต้องมีเรื่องคุยกันแน่ จึงบอกกล่าวหลินเยียนว่าขอตัวออกไปก่อนอย่างรู้ความ เพื่อให้ทั้งสองอยู่กันตามลำพัง
“บอสพวกคุณคุยกันไปนะครับ ผมไปก่อนล่ะ!”
“ได้ เดินทางดีๆ นะ รีบกลับไปพักผ่อนให้เร็วหน่อย”
เมื่อฉีเซ่าหยวนจากไปแล้ว ซุนซั่วหรันก็ล้อมหน้าล้อมหลังหลินเยียนด้วยความตื่นเต้นทันที “อาจารย์ๆ คุณรู้ไหมว่าพอคุณไปแล้ว พวกศิษย์พี่คิดถึงคุณมากแค่ไหน! นี่ผมจะโทรหาพวกเขาเดี๋ยวนี้ พวกเขาต้องรีบมาหาแน่นอน!”
ตอนที่ 528 ไม่มีคำว่าพ่ายแพ้ มีแต่คำว่าสู้ตาย
หลินเยียนพอได้ยินก็มีสีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย “ไม่ได้ อย่าบอกข่าวของฉันกับใครทั้งนั้น”
ซุนซั่วหรันได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยถาม “ทำไมล่ะครับ หรือเพราะ…เรื่องที่ถูกห้ามแข่ง? มีใครไม่รู้บ้างว่านั่นมีคนวางแผนให้ร้ายคุณน่ะ!
คุณไม่เคยแพ้ใครบนสนามแข่งมาก่อนเลย แล้วต้องกินยาแบบนั้นด้วยเหรอ เจ้าโง่พวกนั้นก็รู้เหมือนกันว่าพูดออกไปแล้วก็ไม่มีใครเชื่อ ดังนั้นเลยไม่กล้าประกาศเรื่องนี้สู่โลกภายนอก! พวกมันแค่อยากใช้เรื่องนี้บีบให้คุณออกจากวงการแข่งรถเท่านั้นเอง!”
หลินเยียนย่อมรู้ความร้ายแรงของเรื่องนี้ดี
เธอยึดครองสนามแข่งมานานเกินไป เป็นหนามตำตาในสายตาใครหลายๆ คน กว่าจะคว้าโอกาสแบบนี้มาได้ แล้วคนพวกนั้นจะปล่อยไปได้อย่างไร
“อาจารย์ ขอเพียงคุณออกมาพูดให้ชัดเจน ทุกคนต้องเชื่อคุณแน่…” ซุนซั่วหรันเอ่ยปากด้วยความร้อนใจ
หลินเยียนถอนหายใจเบาๆ ครั้งหนึ่ง “ซั่วหรัน นายคิดเรื่องนี้ง่ายเกินไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเรื่องที่ฉันใช้ยาก็เป็นความจริง พวกเขาแค่พูดทำงานตามกฎที่กำหนดเอาไว้ก็ ก็อุดข้อสงสัยทุกอย่างได้แล้ว”
ซุนซั่วหรันกำหมัดแน่น “ต่อให้เป็นแบบนี้…อาจารย์หักใจทิ้งพวกเราโดยไม่สนใจได้เหรอครับ…ทุกคนคิดถึงคุณมาก…อยากให้คุณกลับมา…”
หลินเยียนยิ้มแย้มพลางมองศิษย์คนเล็ก “ซั่วหรัน สิ่งที่ฉันสอนได้ก็สอนไปหมดแล้ว พวกนายเผชิญหน้าเพียงลำพังได้นานแล้ว และต่อจากนี้มันคือการต่อสู้ของฉัน ต้องให้ฉันเป็นคนเดินต่อไปเอง”
ซุนซั่วหรันมองหลินเยียนด้วยท่าทางคล้ายเข้าใจคล้ายไม่เข้าใจ “อาจารย์ ความหมายของคุณคือ…”
หลินเยียนผงกศีรษะเล็กน้อย มองท้องฟ้าเหนือศีรษะพร้อมกล่าวอย่างแช่มช้า “ก่อนหน้านี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย ตอนนั้นฉันท้อแท้หมดหวัง เคยคิดถอนตัวออกจากวงการนี้ไปเลยจริงๆ…
เพียงแต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนความคิดแล้ว”
หลินเยียนมองศิษย์คนเล็กที่อยู่ด้านข้างพร้อมกล่าวระคนยิ้ม “วางใจเถอะ ต้องมีสักวันที่ฉันจะกลับไปเจอพวกนายที่สนามกรังด์ปรีซ์อีกครั้งแน่”
ในพจนานุกรมของเยวาไม่มีคำว่าพ่ายแพ้ มีแต่คำว่าสู้ตาย
ซุนซั่วหรันเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ พลันปรากฏประกายเพลิงดวงเล็กสว่างวาบขึ้นภายในดวงตา “จริงเหรอครับ! ดีเหลือเกิน ผมจะต้องพยายาม ไม่เอาแต่เล่นอีกแล้ว ผมจะไปแข่งที่สนามกรังด์ปรีซ์กับคุณครับ!”
หลินเยียนเหล่มองศิษย์คนเล็กพร้อมถอนหายใจ “ถ้านายรู้จักคิดไม่ถูกหลอกอีก ฉันก็ขอบคุณฟ้าดินแล้วล่ะ…”
ซุนซั่วหรันเริ่มน้ำตาคลอเบ้าอีกครั้ง “อาจารย์ ผมขอสาบาน หลังจากนี้ผมจะไม่เข้าใกล้ผู้หญิงอีกแล้ว จะรักษาพรหมจรรย์เพื่อคุณครับ!”
หลินเยียน “…”
ขอร้องล่ะ ช่วยเลือกคำหน่อยได้ไหม ทำไมถึงพูดว่า ‘รักษาพรหมจรรย์’ เพื่อฉันล่ะ
อาจารย์นายยังอยากมีชีวิตอยู่อีกหลายปีนะ!
ขณะที่หลินเยียนกำลังจะเอ่ยปากพูด ขณะนี้เองเสียงแจ้งข้อความเข้าของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมา เธอได้รับข้อความมาข้อความหนึ่ง
กลับส่งมาจากเผยอวี้เฉิงที่ติดต่อกับเธอน้อยยิ่งนัก [ฉันมีเอกสารฉบับหนึ่งหลงอยู่ในลิ้นชักชั้นที่สองในห้องหนังสือ ช่วยเอาไปส่งที่บริษัทให้ฉันได้หรือเปล่า]
……
ขณะเดียวกัน ภายในคฤหาสน์
แขกเหรื่อแยกย้ายไปกันหมดแล้ว ฉีเซ่าหยวนรีบสั่งให้คนไปตามจับตัวปลอมคนนั้น ส่วนหลินซูหย่าก็กำลังสิ้นเปลืองคารมเพื่อขอโทษขอโพยคนอื่นอยู่
คนที่มาในวันนี้ต่างเป็นบุคคลสำคัญในวงการ เพราะเจ้าตัวปลอมนั่น ทำให้เธออับอายขายหน้าจนหมดสิ้น
เดิมทีทางหนึ่งหลินซูหย่าคิดจะสร้างสายสัมพันธ์ ส่วนอีกทางก็คิดที่จะรับบทเยวาเพราะเรื่องนี้
ทว่าตอนนี้กลับผิดใจกับบุคคลสำคัญทั้งวงการรถแข่ง แม้แต่อันเดย์ เธอก็ผิดใจไปด้วย
แม้เว่ยสวีเฟิงจะไม่ได้พูดอะไร แต่ก่อนจากไปสีหน้าก็ย่ำแย่ผิดปกติ
ตอนนี้เมื่อสงบจิตใจลง เธอยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องราวมันแปลกๆ
ท่าทีก่อนและหลังของซุนซั่วหรันมันแปลกมาก…
ผู้หญิงคนนั้นรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองเป็นตัวปลอม แต่ทำไมถึงยังกล้าเรียกซุนซั่วหรันมาถึงที่ นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายอย่างนั้นเหรอ
ที่น่าแปลกยิ่งกว่าก็คือหลินเยียน เธอแน่ใจว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นตัวปลอมมากขนาดนี้ได้อย่างไร
กระทั่งว่ายังกล้าพูดอย่างอุกอาจอีกว่า “ฉันบอกว่าเธอคือตัวปลอม เธอก็คือตัวปลอม”
ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้เธอทำได้แค่พยายามหาทางประนีประนอม ไม่ให้แขกพูดเรื่องนี้ออกไปเท่านั้น โชคยังดีที่แขกพวกนั้นก็ไม่อยากให้คนนอกรู้เรื่องนี้เช่นเดียวกัน
จ่ายเงินไปมหาศาล ผลกลายเป็นว่ากลับได้ตัวปลอมมาคนหนึ่ง พูดออกไปแล้วจะไม่กลายเป็นเจ้าโง่ที่เสียเงินฟรีอย่างนั้นเหรอ…