บทที่ 282 ค่ำคืนแห่งการฆ่าฟันเริ่มต้นขึ้นแล้ว

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

อาชูร่าเป็นขุนพลเอกของตระกูลเซวียนเยวี๋ยน มีอายุประมาณสี่สิบปี รูปร่างไม่ได้สูงใหญ่น่ากลัว แต่กลับทำให้มือสังหารชั้นหนึ่งของตระกูลเซวียนเยวี๋ยนทั้งหมดหวาดกลัว เหมือนกับที่มือสังหารชุดดำคนนั้นพูด ความสามารถของอาชูร่าลึกล้ำไม่อาจคาดเดา มีคนไม่มากที่เคยเห็นเขาลงมือ คนคนนี้ก็คือคนที่นำพลังพิเศษอันแข็งแกร่งบีบอัดลงไปในจดหมายเล็กๆ ฉบับหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะเย่เทียนเฉินตื่นตัวขึ้นมา เกรงว่าไม่เพียงแต่ตระกูลเย่ของเขา กระทั่งเขตคฤหาสน์ที่พักก็คงถูกระเบิดจนปลิวขึ้นฟ้าและถูกทำลายจนราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว นี่เป็นผู้แข็งแกร่งที่แม้แต่เย่เทียนเฉินก็ต้องให้ความสนใจ

เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ใช้อำนาจบาตรใหญ่มาชั่วชีวิต ต่อให้ตอนนี้จะแก่จนใกล้จะลงโลงก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาที่เคยฆ่าคนเป็นผักปลา ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามมาดูหมิ่นอำนาจของตระกูลเซวียนเยวี๋ยนโดยเด็ดขาด ต่อให้ความผิดทุกอย่างจะเป็นของตระกูลเซวียนเยวี๋ยนก็ตาม ก็ไม่อนุญาตให้มีใครกล้ามาท้าทาย จะต้องฆ่าทิ้งให้หมด นี่คืออำนาจของตระกูลเซวียนเยวี๋ยน นี่คือความเย่อหยิ่งจนไม่เห็นหัวผู้ใดของเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่

“ฉันไม่กล้ารับรองว่าจะฆ่าเย่เทียนเฉินได้ แต่ฉันจะใช้ชีวิตของฉันคุ้มครองตระกูลเซวียนเยวี๋ยน นี่เป็นสิ่งที่ฉันจำเป็นต้องทำ!” อาชูร่าพูดอย่างเยือกเย็น

เมื่อได้ยินคำพูดของอาชูร่า เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึงอยู่ในใจ แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยเห็นท่าทางเยือกเย็นแบบนี้ของอาชูร่ามาก่อน เยือกเย็นจนผิดปกติ ก่อนหน้านี้ไม่ว่าตระกูลเซวียนเยวี๋ยนจะเจอกับศัตรูแบบใด ขอเพียงอาชูร่าลงมือ ก็จะต้องโจมตีฆ่าฟันศัตรูได้อย่างแน่นอน ความแข็งแกร่งของอาชูร่าไม่ใช่เพียงลมปาก เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่คิดมาตลอดว่า ถ้ามีอาชูร่าอยู่ ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนจะไร้เรื่องไร้กังวล

หลายปีก่อนหน้าที่จะปิดซ่อนตัวตน เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่เริ่มรับสมัครมือสังหารกลุ่มใหญ่ เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่เป็นคนที่โหดเหี้ยมคนหนึ่ง เขาคิดว่าถ้าจ้างบอดี้การ์ด ต่อให้เป็นบอดี้การ์ดชั้นหนึ่งก็สู้มือสังหารชั้นหนึ่งที่ปั่นป่วนแผ่นดินเหล่านั้นไม่ได้ มือสังหารมีใจคอโหดเหี้ยม ฆ่าฟันอย่างเด็ดขาด นี่เป็นสิ่งที่เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ต้องการ เห็นได้ว่าเขามีความโหดเหี้ยมมากขนาดไหน

ดังนั้นจึงพูดได้ว่า การคุ้มครองทั้งหมดบนเกาะทะเลทรายของตระกูลเซวียนเยวี๋ยน ไม่ใช่บอดี้การ์ดธรรมดาธรรมดาอะไรนั่น และไม่ใช่บอดี้การ์ดชั้นหนึ่งที่มีฝีมือไม่เลว แต่ทั้งหมดต่างก็เป็นนักฆ่าชั้นหนึ่ง มิน่าล่ะตอนกลางวันที่อู๋เสวี่ยและหวังเจี๋ยมาซ่อนตัวอยู่รอบๆ เกาะทะเลทรายและได้เห็นบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ไม่ไกลเหล่านั้นจึงมีความรู้สึกแปลกๆ ออกมา บนร่างของคนเหล่านั้นเต็มไปด้วยไอสังหาร ฝีมือของทุกคนต่างก็แข็งแกร่งมาก

“อาชูร่า ตั้งแต่เล็กแกก็เติบโตมาที่ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของฉัน ฉันปฏิบัติกับแกยังไง?” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่มองอาชูร่าแล้วเอ่ยถาม

“ใกล้ชิดเหมือนพ่อลูก!” อาชูร่าตอบ

“ในเมื่อแกรู้ งั้นตอนนี้ฉันก็อยากจะบอกแกว่า ฉันเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่โหดเหี้ยมมาชั่วชีวิตถึงมีตระกูลเซวียนเยวี๋ยนในวันนี้ได้ แต่ไหนแต่ไรก็มีแต่ฉันที่ฆ่าคนอื่น ไม่มีคนอื่นมาฆ่าฉัน หลายปีมานี้ ไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของฉันถึงประตูอย่างเด็ดขาด เย่เทียนเฉินเป็นคนแรก ฉันต้องการให้เขาตาย ต้องการให้ทุกคนที่มาโจมตีตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของฉันในครั้งนี้ไม่มีชีวิตกลับไป!” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ตะโกนเสียงต่ำอย่างเอาแต่ใจและทรงอำนาจ

“ฉันจะพยายามเต็มที่ แต่ฉันรู้สึกได้ว่าเย่เทียนเฉินแข็งแกร่งมาก!” อาชูร่ายังคงพูดน้อยและเยือกเย็นเช่นเดิม

“ฉันคิดว่าต่อให้มันจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็สู้แกไม่ได้ ก่อนหน้านี้ไม่นานแกเพิ่งจะทะลวงขอบเขตพลังพิเศษไป ความสามารถเหนือกว่าเมื่อก่อน ทั่วทั้งประเทศจีนนับว่าเป็นยอดฝีมืออันดับต้นๆ เย่เทียนเฉินอายุแค่ยี่สิบปี จะเป็นคู่มือแกได้ที่ไหนกัน?” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ไม่เชื่อคำพูดของอาชูร่า คิดว่าอาชูร่าแค่ถ่อมตัวหรือประเมินเย่เทียนเฉินสูงเกินไปเท่านั้น

“ไม่ว่าจะเป็นในหมู่พรรควรยุทธโบราณหรือโลกของผู้มีพลังพิเศษ ก็ไม่สามารถพิจารณาความสามารถจากอายุได้อย่างเด็ดขาด พูดได้แค่ว่าถ้าอายุมากสักหน่อย ก็อาจจะมีประสบการณ์การต่อสู้จริงมาขึ้นเท่านั้น แต่นี่ไม่ได้เกี่ยวพันกับการตัดสินแพ้ชนะในเรื่องความสามารถ โดยเฉพาะในโลกของผู้มีพลังพิเศษ มีบางคนที่เกิดมาก็มีพลังที่แข็งแกร่งเหนือระดับแล้ว ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าฝีมือห่างชั้น!” อาชูร่าพูดอย่างเรียบเฉย

“หึ ฉันไม่สนว่าจะเป็นพวกมีพลังแต่กำเนิดหรือปลุกพลังภายหลังอะไรนั่น ฉันต้องการให้แกฆ่าเย่เทียนเฉิน ฆ่าคนทั้งหมดที่มาโจมตีตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของฉันในครั้งนี้!” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่แค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่งแล้วพูดขึ้นเสียงต่ำ

“ฉันจะพยายามเต็มที่!” อาชูร่ายังคงพูดเช่นเดิม

“เอาล่ะ แกออกไปเถอะ ฉันหวังว่าจะได้ยินข่าวดีจากแก!” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่มองอาชูร่าแล้วพูดขึ้น

อาชูร่าไม่ได้พูดอะไรอีก หมุนตัวเดินออกไปจากห้องโถงแล้วเดินหายไปในความมืดบริเวณประตู เขาแข็งแกร่งมาก เป็นยอดฝีมือที่มีขอบเขตความสามารถอันแข็งแกร่งคนหนึ่ง ลมหายใจและบรรยากาศเช่นนั้น มีเพียงคนที่มาถึงขอบเขตนี้ได้ถึงจะแสดงออกมาได้ หากจะเสแสร้งแกล้งทำก็ไม่สามารถทำได้

หลังจากที่อาชูร่าจากไปแล้ว เซวียนเยวี๋ยนชิวก็รีบมาที่ห้องโถง เมื่อเห็นพ่อก็พูดว่า “พ่อครับ พ่อบอกให้อาชูร่าลงมือเต็มที่แล้วหรือเปล่า?”

“อืม อาชูร่าไม่ใช่คนโหดเหี้ยมอะไร ภารกิจหลายครั้งก็ถูกบีบบังคับให้ลงมือ ครั้งนี้ถ้าหากไม่บังคับให้เขาฆ่าทุกคนที่มาโจมตี ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของพวกเราคงมีปัญหาใหญ่แล้ว!” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่พูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา

“มีพวกเราพ่อลูกแสดงละครด้วยกัน อาชูร่าจะต้องไม่สงสัยแน่ จะต้องปกป้องตะกูลเซวียนเยวี๋ยนชิวของพวกเราด้วยชีวิตแน่นอน!” เซวียนเยวี๋ยนชิวพูดด้วยรอยยิ้มดุดันเช่นเดียวกัน

“อาชูร่าสาบานว่าต่อให้ตายก็จะปกป้องตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของพวกเรา ในจุดนี้ฉันไม่สงสัย เพียงแต่ฉันกลัวว่าเขาจะไม่ลงมือเต็มที่ ไม่ยอมฆ่าคน ถึงต้องให้แกกับฉันแสดงละครแบบนี้!” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่เองก็พูดด้วยรอยยิ้ม

“หึ เย่เทียนเฉินไอ้คนไม่รู้จักที่ตาย ขอเพียงอาชูร่าลงมือ เขาจะต้องตายโดยไม่ต้องสงสัย ทุกคนจะต้องตายทั้งหมด!” เซวียนเยวี๋ยนชิวเอ่ยปากพูดอย่างโหดเหี้ยม

ไม่รู้เลยว่า ในตอนที่เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่และเซวียนเยวี๋ยนชิวกำลังวางแผนกันอยู่นั้น อาชูร่ากำลังยืนอยู่บนหลังคาของห้องโถง ฟังทุกสิ่งทุกอย่างนี้อย่างเย็นชา ไม่มีอารมณ์บุ่มบ่ามแม้แต่ครึ่งส่วน พริบตาเดียวก็จากไป เขาต้องไปขัดขวางพวกเย่เทียนเฉินและฆ่าพวกเขา ต่อให้รู้ว่าเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่สองพ่อลูกกำลังวางแผนใส่เขา หลอกใช้เขา อาชูร่าก็ไม่มีทางเลือก

“แต่ไหนแต่ไรอาชูร่าก็ถูกตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของเราเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ทุกครั้งที่มีภารกิจ ต่อให้เขาไม่ยินยอมพร้อมใจก็จะต้องไปทำ เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึก สิ่งที่ฉันใช้ประโยชน์ก็คือส่วนนี้ของเขา!” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่พูดอย่างเย็นชา

สามสิบปีก่อนหน้านี้ มีชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง นำอาชูร่ามาบนเกาะทะเลทราย ตอนนั้นอาชูร่าเป็นเด็กที่อายุไม่ถึงสิบขวบ แต่ตอนนั้นเขาก็มีพลังพิเศษที่โดดเด่นแล้ว อย่างเช่นการจับสิ่งของในอากาศ ในจุดนี้ถูกเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่เห็นเข้า ในฐานะที่เป็นผู้นำตระกูลของตระกูลใหญ่ เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ย่อมรู้ว่าสิ่งที่อาชูร่าแสดงออกมาก็คือพลังพิเศษ ตอนนั้นเขาคิดว่า หากพลังพิเศษของอาชูร่าพัฒนาไม่หยุด สุดท้ายกลายเป็นแข็งแกร่งอย่างมาก จนตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของตนใช้ประโยชน์ได้ จะดีขนาดไหนกัน?

ตั้งแต่นั้นเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ก็ให้ชายวัยกลางคนผู้นั้นและอาชูร่าอยู่บนเกาะทะเลทราย ไม่นานเขาก็ส่งคนไปสังหารคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชายวัยกลางคนทั้งหมด เหลือเพียงอาชูร่าคนเดียว ทำให้อาชูร่าไม่มีที่ไป และต้องอยู่บนเกาะทะเลทรายเท่านั้น ตั้งแต่เล็กก็ให้คนมาฝึกฝนอาชูร่าอย่างโหดเหี้ยม ให้เขารู้ว่าการฆ่าคนง่ายเหมือนการหั่นแตงโม ต้องการเลี้ยงดูให้อาชูร่ากลายเป็นเครื่องมือฆ่าคนอย่างสมบูรณ์

แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จิตใจของอาชูร่าจึงดีงาม แต่อย่างไรถูกฝึกฝนและบีบบังคับเช่นนี้ทั้งวี่ทั้งวัน สุดท้ายจึงแสดงความเย็นชาออกมา และมีท่าทีเฉยชาเป็นอย่างมากมาโดยตลอด โชคดีที่ทุกครั้งมีศัตรูตัวฉกาจ เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ก็จะสั่งให้อาชูร่าลงมือ อาชูร่าเติบโตมาที่ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนตั้งแต่เล็ก เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่จึงมีบุญคุณที่เลี้ยงดูเขา ดังนั้นทุกครั้งเขาจำเป็นจะต้องลงมือฆ่าคน เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์มาก และรู้จักตอบแทนบุญคุณ

ตอนนี้เย่เทียนเฉินพาสิบสามจ้าวสวรรค์มาถึงชายขอบเกาะทะเลทรายแล้ว ในตอนที่ลงน้ำ เย่เทียนเฉินก็กางพลังเขตแดนปิดกั้น ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกลัวและปกปิด เรือสปีดโบ๊ททั้งสองลำพุ่งเข้าไปยังเกาะทะเลทรายโดยตรง

ปัง!

พริบตาเดียว มือสังหารที่ยืนอยู่รอบเกาะทะเลสาบทั้งหลายก็ต้องตื่นตะลึงอย่างหาใดเปรียบ ในขณะเดียวกันก็มีปฏิกิริยาอย่างว่องไว มีสไนเปอร์ยิงปืนมาที่พวกเย่เทียนเฉิน แต่ก็ถูกโลกพลังพิเศษของเย่เทียนเฉินป้องกันเอาไว้ ไม่มีผลอะไรแม้แต่น้อย

ซู่มๆ!

เรือสปีดโบ๊ททั้งสองลำหยุดอยู่ที่ชายฝั่งของเกาะทะเลทราย พวกเย่เทียนเฉินทั้งหมดบุกเข้าไปในเกาะอย่างรวดเร็ว หวังเจี๋ยพุ่งไปหน้าสุด ลมปราณนิ้วหนึ่งทะลวงออกไป ทะลุระหว่างคิ้วขอมือสังหารคนหนึ่งอย่างรุนแรง ทำให้เขาสิ้นชีพโดยไร้เสียง การลงมือของอู๋เสวี่ยก็ไม่เชื่องช้า หักคอมือสังหารไปคนหนึ่งแล้ว

“นอกจากคนแก่ ผู้หญิงและเด็ก คนอื่นฆ่าให้หมด วันนี้ฉันต้องการลบชื่อตระกูลเซวียนเยวี๋ยนออกจากโลกเบื้องหน้าเบื้องหลังทั้งหมด!” เย่เทียนเฉินพูดอย่างเย็นชา

“ครับ/ค่ะพี่ใหญ่!” สิบสามจ้าวสวรรค์ตอบรับ

“แยกย้าย!”

เย่เทียนเฉินโบกมือครั้งหนึ่ง สิบสามจ้าวสวรรค์ก็กระจายตัวกันออกไป เริ่มเคลื่อนไหวในตำแหน่งที่แตกต่างกัน มุ่งสังหารเข้าไปยังจุดศูนย์กลางของเกาะทะเลทราย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีบ้านตระกูลเซวียนเยวี๋ยนตั้งอยู่

ทุกที่เต็มไปด้วยเสียงแห่งการฆ่าฟัน เสียงกรีดร้อง เสียงปืน และเสียงระเบิด สิบสามจ้าวสวรรค์แต่ละคนต่างก็เป็นยอดฝีมือชั้นสูง ยิ่งไปกว่านั้นต่างก็เป็นพวกบ้าการต่อสู้ และรู้ว่านี่เป็นสงครามครั้งแรกของสิบสามจ้าวสวรรค์ ไม่อนุญาตให้พ่ายแพ้ง่ายๆ ทุกคนต่างก็แสดงความสามารถที่แท้จริงออกมา ถึงแม้มือสังหารที่อยู่บนเกาะทะเลทรายจะมีฝีมืออยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่คู่มือของสิบสามจ้าวสวรรค์

ตอนนี้เอง เย่เทียนเฉินรู้สึกได้ถึงลมหายใจอันแข็งแกร่ง มุมปากเผยรอยยิ้มขึ้นมา มือทั้งสองล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง เดินทอดน่องไปยังป่าที่อยู่ไม่ไกล ที่นั่นมีคนที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่งกำลังรอเขาอยู่ นั่นก็คืออาชูร่า

ความดึงดูดระหว่างยอดฝีมือกับยอดฝีมือนั้นแข็งแกร่งและแม่นยำเป็นอย่างมาก หลังจากที่อาชูร่าออกมาจากบ้านของตระกูลเซวียนเยวี๋ยน ก็เลือกป่าเล็กๆ แห่งนี้เพื่อรอเย่เทียนเฉินอยู่ที่นั่น ต้องการต่อสู้เป็นตายกับเย่เทียนเฉิน ตอบแทนบุญคุณของตระกูลเซวียนเยวี๋ยนที่เลี้ยงดูเขามาหลายปีเท่าที่จะทำได้

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

ในตอนที่เย่เทียนเฉินเพิ่งจะเดินไปเกือบถึงป่า พลันมีเงาร่างของคนสองคนพุ่งเข้ามาจากสองฝั่ง ทั้งคู่ต่างถือดาบเล่มใหญ่อยู่ในมือ ฟันลงมายังศีรษะของเย่เทียนเฉินโดยตรง!

ฉัวะ!

ใบดาบทั้งสองกระเด็นสู่อากาศ เย่เทียนเฉินหายไปในอากาศ มือสังหารของตระกูลเซวียนเยวี๋ยนทั้งสองตกตะลึง แต่ไม่นานก็ปรากฏเหงื่อเย็นๆ ไหลซึมออกมาจากหน้าผากของพวกเขา เนื่องจากเย่เทียนเฉินกำลังยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขา แขนทั้งสองบีบคอของเขาอยู่

……..