เวลานี้มู่หรูเหยียนถูกมู่เฉียนซีโจมตีจนไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้ ส่วนอาจารย์ของนางกำลังสู้รบอยู่กับมู่อวู่ซวง ไม่มีเวลาละทางนั้นมาช่วยนางทางนี้ได้
พลังของมู่เฉียนซี ขณะนี้ฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว นางโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยกระบวนท่าที่สอง
“หลงเหยียนพิฆาต!”
— ตูม! ตูม! ตูม! —
“อ๊าย!”
กู่ที่อยู่บนร่างของมู่หรูเหยียนถูกพลังหลงเหยียนพิฆาตแผดเผาจนไหม้เกรียม กลิ่นไหม้ลอยคละคลุ้งไปทั่ว มู่หรูเหยียนสูดเข้าไป เวลาเดียวกันนางก็กระอักเลือดคำโตออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเห็นร่างของมู่เฉียนซีกำลังใกล้เข้ามา จึงรีบโบกมือและควบคุมกู่ให้บินเข้าโจมตีไปยังมู่เฉียนซี
ทว่าทั้งหมดนี้ไม่เป็นผล
— เพล้ง! —
มู่เฉียนซีบีบขวดยาในมือแตก เมื่อยาของนางระเบิดออกมา เหล่าบรรดากู่ที่พุ่งเข้าใส่นางต่างก็ถูกยากัดกร่อนไปทั้งหมด
มู่หรูเหยียนเห็นเช่นนี้ก็ตะลึงอึ้งค้างทั่วทั้งร่างสั่นเทิ้ม “เป็นไปไม่ได้! มันจะเป็นไปได้อย่างไร ?”
นางเรียนรู้วิธีการเลี้ยงและวิธีการควบคุมกู่มานานหลายปี ก็ยังไม่เคยเห็นยาที่สามารถกัดกร่อนกู่ให้ตายอย่างง่ายเช่นนี้มาก่อนเลย
มู่เฉียนซีกล่าวติดตลก “มู่หรูเหยียน เจ้าอย่าทำหน้าเหมือนเห็นผีเช่นนี้สิ ยังมีอีกหลายอย่างที่เจ้าไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เจ้าอยากเห็นไหมเล่า ? ฮ่า ๆ ๆ”
ในตอนนี้นั้นมู่เฉียนซีไปปรากฏตัวอยู่ตรงหน้ามู่หรูเหยียนแล้ว ในสายตาของมูเฉียนซี นางมั่นใจเต็มสิบส่วนว่าตนสามารถทำลายมู่หรูเหยียนที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างง่ายดายเหมือนทำลายกู่เหล่านั้น
มู่หรูเหยียนกล่าวอย่างรีบร้อน “มู่เฉียนซี เจ้าจะฆ่าข้าไม่ได้นะ เจ้ายังฆ่าข้าไม่ได้!”
“อ้อ… รึ ? เช่นนั้นเจ้าลองบอกข้ามาว่าเหตุใดข้าถึงยังฆ่าเจ้าไม่ได้ ?” มู่เฉียนซีมองนางด้วยสายตาขี้เล่น
มู่หรูเหยียนกล่าวว่า “ในร่างของข้ามีหมูกู่ที่ควบคุมองค์จักรพรรดินีอยู่ หากเจ้าฆ่าข้า องค์จักรพรรดินีก็จะต้องตายไปด้วย”
มู่เฉียนซี “มู่หรูเหยียน เจ้าเข้าใจอะไรผิดไปหรือไม่ ? หมูกู่มันอยู่กับอาจารย์ของเจ้าก็จริง แต่นางตายไปก็ดี แล้วเหตุใดข้าจะฆ่าเจ้าไม่ได้ล่ะ ? อีกอย่าง หากอาจารย์เจ้าตายไป ท่านอาของข้าก็จะได้ไม่เปลืองแรงต่อสู้”
มู่หรูเหยียนกล่าว “ฮ่องเต้ซวนหยวนจือ กู่ในร่างของฮ่องเต้ซวนหยวนจือเป็นกู่ที่ถ่ายทอดมาจากร่างของข้า ในร่างข้ามีหมูกู่อยู่ ข้าสามารถควบคุมความคิดและการกระทำของเขาได้ ขอเพียงแค่เจ้าไว้ชีวิตข้า ข้าก็จะยอมฟังคำสั่งเจ้าทุกอย่าง ต่อให้เจ้าอยากครองแผ่นดินจื่อเยี่ยนี้ ข้าก็จะควบคุมให้ซวนหยวนจือมอบบัลลังก์ให้แก่เจ้า”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าพอใจกับตำแหน่งผู้นำตระกูลมู่ที่ให้ความรู้สึกเป็นอิสระนี้ เจ้าคิดว่าข้าปรารถนาในตำแหน่งจักรพรรดินีบ้าบอนั่นรึ ?”
“เพียงแต่…”
มู่เฉียนซีเหลือบมอบซวนหยวนจือที่กำลังต่อสู่อยู่กับชิงอิ่ง และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาไม่ปกปิด “ซวนหยวนจือไม่ควรตาย แต่…”
— ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ! —
เข็มยาจำนวนไม่ถ้วนพุ่งแทงเข้าร่างมู่หรูเหยียน
“อ๊าย!” มู่หรูเหยียนส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น นางรู้สึกเสมือนว่ามีบางอย่างกระทบกับร่างของนางอย่างรุนแรง มันเจ็บ… เจ็บเหลือเกิน เจ็บจนนางต้องตะโกนถามดังลั่น “มู่เฉียนซี นี่เจ้าจะทำอะไร ?”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างช้า ๆ ชัด ๆ “เมื่อก่อน เจ้ากับมู่หรูอวิ๋นทำให้ข้าไม่ได้ฝึกฝนวิชา พวกเจ้าสบคบคิดหักหลังและแก้แค้นข้านับครั้งไม่ถ้วน วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มลองรสชาติของการเป็นคนไร้ประโยชน์นั้นดูบ้างอย่างไรเล่า!”
มู่หรูเหยียนรู้สึกได้ว่าพลังในร่างกายของตนเองค่อย ๆ ลดลง จนกระทั่งไม่สามารถรวบรวมพลังได้ และในท้ายที่สุด พลังของนางก็ไม่หลงเหลืออยู่อีก นางได้กลายเป็นสตรีผู้ไร้ประโยชน์ ไร้ซึ่งความสามารถอย่างเต็มตัวแล้ว
ต่อให้นางพ่ายแพ้ให้กับมู่เฉียนซี นางก็ยังมีพลังอยู่ และหากเทียบกับคนรุ่นเดียวกัน พลังของนางนั้นถือได้ว่าระดับอัจฉริยะเลยทีเดียว ทว่าในตอนนี้นางกลับไม่เหลืออะไรแล้ว ความรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นพุ่งเข้าครอบงำทั้งตัวและหัวใจของนาง
ขณะเดียวกันนั้น เสียงตะโกนเสียงหนึ่งดังก้องขึ้นว่า “มู่เฉียนซี เจ้ารีบคิดหาวิธีเร็วเข้า ข้าชักจะต้านไว้ไม่อยู่แล้ว!”
มู่เฉียนซีหันไปตามเสียงที่ดังขึ้นพลันพบว่าจวินโม่ซีกำลังถูกราชาไป๋กู่ต้อน เขาใกล้จนมุมเต็มที
จวินโม่ซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ราชาไป๋กู่มันฟื้นขึ้นมา ตอนนี้ข้ารับมือเอาไว้ไม่ไหวแล้ว!”
ทางด้านโอวหยางหว่านในตอนนี้นั้นไม่สามารถรับมือกับมู่อวู่ซวงได้อีกต่อไป นางจึงเรียกราชาไป๋กู่เพื่อให้ไปร่วมต่อสู้กับนาง
มู่เฉียนซีพุ่งไปอย่างรวดเร็วราวภาพกะพริบ นางไปหาจวินโม่ซีอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบก่อนจะกล่าวถามเสียงเครียด “เจ้าจวินจอมตะกละ เจ้าไม่มีวิธีอื่นแล้วรึ ?”
จวินโม่ซีกล่าว “ราชาไป๋กู่นี้ไม่เพียงแต่ทรงพลัง มันยังกลายพันธุ์ได้ ช่างต่อกรได้ยากยิ่ง ลำพังข้าคนเดียวรับมือไม่ไหว”
— ฟึ่บ! —
มู่เฉียนซีพยักหน้ารับรู้ ฉับพลันทันใดเข็มยานับไม่ถ้วนของนางพุ่งตรงไปที่เบ้าตาของราชาไป๋กู่
แต่ถึงอย่างไรแล้ว พลังของมู่เฉียนซียังนับว่าอยู่ในระดับต่ำมาก ต่อให้นางชักไพ่ที่ดีอย่างเข็มยาออกมา ราชาไป๋กู่ก็ยังคงสกัดกั้นเข็มยาของนางออกไปได้
จวินโม่ซีเป็นกังวล เขากล่าวว่า “มู่เฉียนซีสาวน้อย พลังจอมภูตระดับแปดนี้ของเจ้าเท่ากับเป็นอาหารให้ราชาไป๋กู่เสียแล้ว”
“ข้ารู้” มู่เฉียนซีกล่าวตอบพลางครุ่นคิด
เมื่อครู่พลังเพิ่งจะฟื้นกลับคืนมาได้ นางไม่อยากกินยาฟ้าดินซวนหวงที่ดัดแปลงใหม่ให้พลังลดลงไปอีก อีกอย่าง ยานั่นกินได้เพียงสามครั้งต่อเดือนถึงจะมีผล แต่ว่า… สถานการณ์ตรงหน้าในตอนนี้นั้นช่างบีบบังคับ นางจะลังเลใจไม่ได้
ไม่มีช่องว่างให้ลังเลใด ๆ ทั้งนั้น!
มู่เฉียนซีตัดสินใจยัดยาฟ้าดินซวนหวงที่ดัดแปลงใหม่เข้าปากอีกหนึ่งเม็ด เวลานี้เส้นลมปราณของนางเต็มไปด้วยพลังวิญญาณที่ทรงพลังยิ่งนัก
— ฟิ้ว! —
พลังของมู่เฉียนซีเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และเข็มยาของนางก็พุ่งตรงไปที่ดวงตาราชาไป๋กู่
— ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ! —
เข็มยาของมู่เฉียนซีแต่ละเข็มแทงเข้าดวงตาของราชาไป๋กู่อย่างรวดเร็ว
— ตูม! ตูม! ตูม! —
ราชาไป๋กู่ระเบิดความโกรธขึ้งประหนึ่งมันเป็นมนุษย์ ร่างของมันหมุนอย่างบ้าคลั่งราวกับว่ากระแสน้ำวนบริเวณรอบ ๆ นั้นมีกู่จำนวนนับไม่ถ้วนบินพุ่งไปทางมู่เฉียนซีพร้อมด้วยเข็มยาของนางที่ยังคงปักคาอยู่
มู่เฉียนซีรีบหลบกู่เหล่านั้น โชคดีที่พลังของนางแข็งแกร่งขึ้นแล้ว มิเช่นนั้นคงมิอาจหลบฝูงกู่พวกนี้ได้เป็นแน่แท้
จวินโม่ซีส่งเสียงกรีดร้องขึ้น “อ๊า! อ๊า! อ๊ายยยย! เจ้ากู่พวกนี้เหตุใดถึงน่าสะอิดสะเอียนเช่นนี้ อึ๋ย! ช่างน่ารังเกียจนัก!”
กว่าทั้งสองจะหลบการจู่โจมของกู่เหล่านี้ได้นั้นไม่ง่ายเลย ทันใดนั้นเหล่ากู่พิษพุ่งตรงไปที่มู่อวู่ซวง
มู่เฉียนซีเห็นเช่นนี้รีบเอากระสุนพิษ เข็มยาพิษ และดินปืนที่ติดตัวมาทั้งหมดขว้างออกไปเพื่อหวังว่าจะสกัดกั้นราชาไป๋กู่นี้เอาไว้ให้ได้
— ตูม! —
เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น ฝุ่นและก้อนหินแตกกระจาย ควันดำหนากระจัดกระจายไปทั่ว
ร่างสีขาวกะพริบไปที่ข้าง ๆ มู่เฉียนซี จวินโม่ซีกล่าวพลางยิ้ม “มู่เฉียนซีสาวน้อย ครั้งนี้คงจะทำให้มันบาดเจ็บไม่เบาเลยใช่หรือไม่ ?”
มู่เฉียนซีส่ายหน้า “ไม่แน่ แมลงตัวเขื่องเช่นนี้มิใช่ว่าจะรับมือได้ง่าย ๆ”
— ตูม! —
ทันใดนั้นเอง ราชาไป๋กู่ที่ถูกควันดำปกคลุม พุ่งออกมาจากกลุ่มควันพิษของมู่เฉียนซี
สีหน้าของจวินโม่ซีดขาวราวกระดาษ “ดูนั่น! เราคงถึงคราวซวยแล้ว ยาพิษของเจ้าใช้ไม่ได้ผล”
มู่เฉียนซีขมวดคิ้วเป็นปม ความรู้สึกหงุดหงิดเล็ก ๆ ก่อขึ้นในใจนาง “อืม! ยาพิษของข้าไม่ได้ผล ส่วนเจ้าก็รับมือกับมันไม่ได้ ความสามารถของเราก็พอ ๆ กันนั่นแหละ”
แต่ถึงอย่างไรแล้ว มู่เฉียนซีก็สามารถทำให้ราชาไป๋กู่โกรธขึ้งได้ ราชาไป๋กู่แทบอยากจะกลืนกินมู่เฉียนซีเต็มที ดูเหมือนมันจะลืมคำสั่งของโอวหยางหว่านไปเสียสิ้น
— ฉึก! —
โอวหยางหว่านโดนกระบี่วิญญาณพิฆาตของมู่อวู่ซวงฟาดฟัน อีกอย่าง กระบี่พิฆาตนั่นก็ฟันเฉี่ยวเข้าที่ใบหน้าของนางจนนางบาดเจ็บ
เมื่อเผชิญหน้ากับการไล่ฆ่าที่ดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ ของมู่อวู่ซวงเช่นนี้ โอวหยางหว่านร้อนรนใจนัก ‘ราชาไป๋กู่มัวทำอะไรอยู่ ? เหตุใดยังไม่รีบมาช่วยเจ้านายของมันอีก’
— ตึง! ตึง! ตึง! —
ราชาไป๋กู่ไล่ตามมู่เฉียนซี โชคดีที่ความเร็วของมู่เฉียนซีท้าทายฟ้าดิน นางรวดเร็วราวสายฟ้าฟาด มิเช่นนั้นแล้วมีหวังนางคงโดนราชาไป๋กู่กลืนเข้าท้องเป็นแน่
มู่เฉียนซีตะโกนลั่น “จวินโม่ซี ข้าได้เมือกพิษของมันมาแล้ว ให้เวลาข้าสักหน่อย ข้าอาจจะปรุงยาสูตรใหม่ขึ้นมาต่อกรกับมันได้ เจ้าช่วยถ่วงเวลาให้ข้าสักหนึ่งก้านธูปได้หรือไม่ ?”
.