ตอนที่ 545 สิบนิ้วสอดประสาน
“พวกเธออย่าทำตัวน่าขายหน้านักสิ นี่จะไปนับอะไร สำหรับคุณชายซูแล้ว ไม่ควรค่าพอให้พูดถึงด้วยซ้ำ”
“ใช่ ใช่ ใช่ กิจการครอบครัวของคุณชายซูใหญ่โต เงินแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก ใช่ไหม”
ขณะนั้นเอง เฉินเชียนโหรวกลับพูดขึ้นมาว่า “เงินทุกหยวนล้วนแต่ได้มาอย่างยากลำบาก พี่เหิง พี่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เพื่อฉัน เก็บเงินไว้ใช้ในสิ่งที่จำเป็นจะดีกว่า”
ได้ฟังคำกริยาวาจาแสนจิตใจดีและรู้เดียงสาของเฉินเชียนโหรว ซูเหิงยิ่งใจอ่อนขึ้นกว่าเดิม
“สำหรับฉันแล้ว เงินทุกหยวนที่ใช้ไปกับเรื่องของเธอล้วนแต่คุ้มค่าทั้งนั้นแหละ”
“หม รีบเอาน้ำมาให้ฉันดื่มเร็ว ฉันใกล้จะสำลักความหวานตายอยู่แล้ว”
ทั้งหมดต่างก็พากันยกมือป้องปากส่งเสียงหัวเราะคิกคัก ขณะนั้น สายตาของฟ่านหรูอวิ๋นและเฉินเชียนโหรวเหลือบไปมองทางเฉินฝานซิงอีกครั้ง
ท่าทางเยาะเย้ย ได้ใจ แสดงออกมาไม่หยุดอย่างชัดเจน
เฉินฝานซิงแสยะหัวเราะเบาๆ ภายในใจอัดอั้นไปด้วยความเอือมระอาและประชดประชันที่พูดไม่ออก
ทว่าในระหว่างที่ผู้ตั้งประมูลกำลังเอ่ยถามเป็นครั้งที่สาม ป๋อจิ่งชวนที่ดูไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งนี้เลยมาตลอดก็ค่อยๆ ยกป้ายขึ้นช้าๆ ด้วยสายตาเฉยชา
“สองล้าน”
ใบหน้าที่หันมาส่งรอยยิ้มให้กันและกันของเฉินเชียนโหรวและซูเหิงเปลี่ยนไปทันที พลันหันไปมองทางป๋อจิ่งชวนพร้อมกัน
แต่ป๋อจิ่งชวนกลับไม่ชายตามองพวกเขาเลยแม้แต่น้อย เขานั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสุขุมเยือกเย็น ดูสูงส่ง สง่าผ่าเผย ท่าทางดูเหมือนจะถ่อมตนแต่ก็เคร่งขรึม ทั้งอ่อนโยนและแข็งแกร่ง…
เฉินฝานซิงหันไปมองป๋อจิ่งชวนด้วยความตกใจ นี่…
จี้อี้รีบเปลี่ยนที่พัลวันด้วยความตื่นเต้น ฉากสวีทแบบนี้ทำเธออิ่มอกอิ่มใจสุดๆ…
เฉินฝานซิงจ้องมองใบหน้าด้านข้างของป๋อจิ่งชวน พลันยกยิ้มมุมปากขึ้นน้อยๆ จากนั้นก็ยกป้ายขึ้นช้าๆ
ผู้คนต่างพากันมองมาทางเฉินฝานซิงด้วยความตกตะลึง วิธีการแบบนี้ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วหรือยังไง ถึงกับกล้าแย่งของของผู้บริหารกิจการเครือป๋อซื่อเลยเหรอ
แม้แต่ป๋อจิ่งชวนเองก็หันมามองเฉินฝานซิงเช่นกัน
ป้ายถูกยกขึ้นมา เฉินฝานซิงมองไปที่ผู้ตั้งประมูลพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม
“สองล้านหนึ่งหยวน”
“…”
“…”
“…”
สิ้นเสียงพูดของเฉินฝานซิง ผู้คนทั้งงานต่างก็ตกใจจนอ้าปากค้าง
นี่มันอะไรกัน
สองล้านหนึ่งหยวนงั้นเหรอ
มีการเรียกราคาแบบนี้ด้วยเหรอ
แม้แต่ผู้ตั้งประมูลเองก็อึ้งไปครู่ใหญ่ ทำงานในสายอาชีพนี้มาสิบกว่าปี เขาไม่เคยเห็นวิธีการเสนอราคาแบบนี้มาก่อน
จากนั้น เฉินฝานซิงก็หันไปมองทางป๋อจิ่งชวน สายตาคู่นั้นมองดูเรียบเฉยแต่ก็ลึกล้ำฉายประกายสุกใสออกมา นานๆ ทีจะมีแววตาเจ้าเล่ห์แบบนี้ปรากฏขึ้นให้เห็น
ดวงตาดำขลับของป๋อจิ่งชวนกลับฉายประกายแห่งความมืดดำไปชั่วขณะ ตาคู่นั้นจ้องมองเธอ จากนั้นมุมปากพลันยกขึ้นเล็กน้อยจนยากจะสังเกตเห็นได้
ก่อนจะก้มมองลงด้านล่าง สายตาหยุดอยู่บนแขนเก้าอี้ของเธอ เขาเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ แล้วค่อยๆ ขยับฝ่ามือเล็กน้อยเพื่อห่อหุ้มมือของเฉินฝานซิงไว้ในฝ่ามืออบอุ่นของเขา
เฉินฝานซิงตะลึงงันอีกครั้ง จิตใต้สำนึกสั่งให้หลบโดยอัตโนมัติ ผลปรากฏว่าหลังจากที่ขัดขืนไปอยู่หลายครั้ง นิ้วทั้งห้าของป๋อจิ่งชวนก็สอดประสานแนบแน่นกับนิ้วมือทั้งห้าของเธอ เฉินฝานซิงขยับไม่ได้อีกต่อไป
หลังจากที่มองดูรอบๆ แล้วเห็นว่าไม่มีใครจับสังเกตได้ เธอจึงเลิกขัดขืนไปเฉยๆ แล้วจับมือประสานกับเขาอย่างเชื่อฟัง ไม่ได้ขยับอีก
ถึงแม้คนด้านหลังจะมองไม่เห็นท่าทางเล็กๆ ของพวกเขา แต่ผู้ตั้งประมูลด้านหน้ากลับนิ่งอึ้งจนเรียกสติกลับมาไม่ได้พักใหญ่
สุดท้ายได้เห็นสายตาที่ทั้งๆ ที่ดูเรียบเฉยแต่กลับเหมือนเป็นการตักเตือนของป๋อจิ่งชวนเข้าจังๆ เขาถึงกับกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก แล้วบังคับสติตัวเองให้กลับมาอยู่ประจำตำแหน่งหน้าที่อีกครั้ง
ตอนที่ 546 แบบนี้ก็ได้เหรอ
“สองล้านหนึ่งหยวนครั้งที่หนึ่ง…”
“สองล้านหนึ่งหยวนครั้งที่สอง…”
“สองล้านหนึ่งหยวนครั้งที่สาม…”
“ปึง” เสียงค้อนทุบลงบนโต๊ะประมูล ก่อนจะมีเสียงผู้ตั้งประมูลตามมา “ปิดประมูล” จากนั้น เหล่าผู้คนถึงจะดึงสติกลับมาได้
“หา แบบนี้ก็ได้เหรอ”
ผู้ตั้งประมูลปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นบนใบหน้า เมื่อกี้ตอนที่สบตากับคุณป๋อรู้สึกเหนื่อยกว่าการที่ยืนอยู่บนเวทีติดต่อกันแปดชั่วโมงเสียอีก
ได้
ทำไมจะไม่ได้
เดิมทีก็เป็นของของเขาอยู่แล้ว เพื่อการกุศลยังเพิ่มเงินให้อีกหนึ่งหยวน
แบบนี้จะไม่ได้เหรอ
แวบแรก เหล่าผู้คนต่างก็รู้สึกงุนงงกับเรื่องนี้เช่นกัน สายตาพลันมองไปที่เบื้องหลังของป๋อจิ่งชวนและเฉินฝานซิง
ถูกแย่งของไป นี่คุณป๋อไม่โกรธจริงเหรอ
ให้ราคาสูงกว่าเขามาเพียงแค่หยวนเดียว การกระทำแบบนี้ มันหมายความว่ายังไงกันแน่
หรือจะบอกว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ อย่างหนึ่ง
มีคนเกาหัวแกรกๆ อุบัติเหตุของใครจะพิลึกขนาดนี้
มีเพียงแค่เฉินเชียนโหรวที่โกรธจนกัดฟันกรอด
ไม่ว่าอย่างไร นี่ก็เป็นของที่เธอถูกใจมาตั้งแต่แรก ปรากฏว่ากลับตกไปอยู่ในมือของเฉินฝานซิงอีกแล้ว
แถมยังใช้วิธีการที่ทำให้ใครๆ ต่างก็รู้สึกรังเกียจแบบนี้อีก
“น่าไม่อายจริงๆ ใช้วิธีแบบนี้ตีสนิทกับประธานป๋อ”
“นั่นสิ ออกนอกหน้าไปแล้ว เห็นท่าทางเรียบร้อยแบบนั้น ไม่คิดเลยว่าจะมีลูกไม้อ่อยผู้ชายเป็นชุดขนาดนี้”
“เชอะ คุณป๋อเป็นใคร ครั้งนี้เป็นเพราะเขามีความอดทน มีมารยาท ไม่สนใจพวกไร้ยางอายหรอก รอเดี๋ยวถ้าขืนถึงยังได้คืบจะเอาศอกอีก เธอต้องได้อับอายแน่”
ถึงแม้ใครๆ จะพากันพูดแบบนี้ แต่ก็มีเพียงซูเหิงที่หันไปมองเฉินฝานซิงด้วยสายตากังวลปราดหนึ่ง
หลังจากนั้น ก็คืออกุญแจอายุยืนชิ้นนั้น เพราะว่าเกี่ยวข้องกับลูกน้อยในอนาคตของเธอ เฉินเชียนโหรวคาดหวังที่จะได้มันมามาก มือที่เกาะแขนของซูเหิงไว้ออกแรงแน่นขึ้น
ซูเหิงรับรู้ได้ถึงความเขินอายและคาดหวังของเธอ เขามองไปยังของที่ถูกจัดวางอยู่บนเวที บนหน้าจอใหญ่ปรากฏให้เห็นภาพรายละเอียดของกุญแจอายุยืน เขาจึงบีบมือน้อยๆ ที่แสนนุ่มนวลของเฉินเชียนโหรวเบาๆ
บนหน้าจอมีการแนะนำประวัติความเป็นมาของกุญแจอายุยืน กล่าวว่าเป็นงานฝีมือแท้ที่สืบทอดต่อกันมาเรื่อยๆ เป็นร้อยปีของตระกูลช่างเงินฝีมือดีชื่อดัง ผลงานทุกชิ้นล้วนเสมือนจริงราวกับมีชีวิต ลายเส้นที่สลักลงไปทุกเส้น นอกจากจะมีความประณีตแล้ว ยังล้วนแต่แฝงไว้ซึ่งความหมายอันเป็นสิริมงคลอีกด้วย
รูปแบบคลาสสิกของกุญแจอายุยืน มีกระดิ่งเงินน่ารักละเมียดละไม จินตนาการออกได้เลยว่าถ้าอยู่บนตัวของทารกน้อยที่มีผิวดุจดั่งหยกชมพู แล้วสั่นไปมาตามท่าทางเดียงสาของหนูน้อยนั้นจะส่งเสียงไพเราะเสนาะหูออกมาอย่างไร
ในระหว่างที่มองกุญแจอายุยืน ใจของเฉินฝานซิงก็รู้สึกอ่อนระทวยตามไปด้วย
เธอตั้งตารอของชิ้นนี้มาก…
มือที่ถูกมือของป๋อจิ่งชวนประสานไว้ออกแรงบีบแน่นโดยไม่รู้ตัว
ป๋อจิ่งชวนรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติของเธอ จึงหันมามองเธอเล็กน้อย แต่กลับเห็นว่าสายตาของเธอยังคงมองไปด้านหน้า ดวงตาคู่นั้นจดจ้องไปที่กุญแจอายุยืนบนเวทีโดยไม่ละสายตา ริมฝีปากเม้มเกร็ง แววตาฉายให้เห็นถึงความตื้นตันและปรารถนาอย่างไม่อาจปกปิดไว้ได้
เขาหันกลับมาด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ทอดมองไปยังกุญแจอายุยืนชิ้นนั้นอีกครั้ง ในขณะนั้นเอง ภายในใจก็รู้สึกโอนอ่อนขึ้นมาเช่นกัน
หลังจากที่แนะนำความเป็นมาและบรรยายความหมายคร่าวๆ ของกุญแจอายุยืนแล้ว ก็เข้าสู่ช่วงการแข่งขันประมูลราคาทันที
ราคาเปิดประมูลเริ่มที่หกหมื่นหก
ท่ามกลางตระกูลดังมีหน้ามีตา สิ่งที่ให้ความสำคัญที่สุดก็คือปัญหาทายาทสืบสกุล
หลายคนรู้สึกซาบซึ้งใจไปกับคำพูดก่อนหน้านี้ของพิธีกรจึงพากันยกป้ายเสนอราคากันถ้วนหน้า
ไม่นานนัก ราคาก็พุ่งขึ้นมาถึงหกแสน คนที่ประมูลน้อยลงเรื่อยๆ
สำหรับเครื่องเงินธรรมดาชิ้นหนึ่ง นี่นับว่าเป็นราคาที่เหนือความคาดหมายมากแล้ว
แต่อย่างไรเสีย ก็มีคนที่ให้ค่าความสำคัญกับของชิ้นนี้ไว้สูงยิ่งนัก