ตอนที่ 547 สองคนนี้ มีความสัมพันธ์ส่วนตัว
“หกแสนหกหมื่น” ซูเหิงยกป้ายประมูลขึ้นท่ามกลางสายตาตื่นเต้นและคาดหวังของเฉินเชียนโหรว
จนถึงตอนนี้ ราคาสูงขึ้นจากราคาเปิดประมูลสิบเท่าพอดี
เวลานี้ความถี่ของการประมูลไม่มากเท่ากับก่อนหน้า ตรงกลางก็มีช่วงเว้นว่างที่ยาวมาก
เฉินเชียนโหรวภาวนาด้วยความตื่นเต้น ขออย่าให้มีใครประมูลต่อ แต่ฟ้ากลับไม่เป็นดั่งหวัง
ยังมีคนประมูลแข่ง
ราคายังเพิ่มขึ้นไปถึงหนึ่งล้านหกแสน
เมื่อเห็นว่ากำลังจะปิดประมูลที่หนึ่งล้านหกแสน ซูเหิงพินิจอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะยกป้ายขึ้นอีกครั้ง
“หนึ่งล้านแปดแสน”
เฉินเชียนโหรวถึงกับสูดหายใจฟอดใหญ่
ของที่เกือบจะตกลงราคาที่หนึ่งล้านหกแสน ตอนนี้หนึ่งล้านแปดแสนน่าจะได้มาในครอบครองแล้วสิ
“ขอบคุณค่ะ พี่เหิง...”
ทว่ายังไม่ทันที่ซูเหิงจะได้ตอบ น้ำเสียงเย็นชาแต่ช็อกคนทั้งงานได้ก็ดังขึ้นอย่างไม่รีบร้อน
“สิบล้าน”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินเชียนโหรวชะงักไปในทันที มือที่จับมือของซูเหิงไว้ออกแรงแน่นขึ้น เธอหันไปมองด้วยใบหน้านิ่งขรึม ป๋อจิ่งชวนอีกแล้ว
ดวงตาสั่นเครือ ไม่รอให้เธอได้คิดอะไรมากนัก สายตาของเธอก็เห็นมุมปากของเฉินฝานซิงที่ยกขึ้นอย่างชัดเจน
ผู้ตั้งประมูลบนเวทีตกตะลึงไปเล็กน้อย สายตาไปหยุดอยู่บนตัวของเฉินฝานซิงโดยไม่รู้ตัว
เป็นอย่างที่คิด ไม่นานนัก เขาก็เห็นเฉินฝานซิงมีท่าทีบางอย่าง
เธอเพียงแค่ใช้มือขวายกป้ายขึ้นมาอย่างช้าๆ อมยิ้มพลางมองไปที่ผู้ตั้งประมูล ก่อนจะพูดเสียงใส
“สิบล้าน…หนึ่งหยวน”
สายตาของผู้ตั้งประมูลหันไปมองที่ใบหน้าของป๋อจิ่งชวนอย่างรวดเร็ว แต่กลับเห็นเพียงแค่ใบหน้างดงามเยือกเย็นที่ดูเหมือนว่าจะไม่เคยมีสีหน้าอะไรมาโดยตลอดนั้นของเขา ไม่เพียงแต่รอยยิ้มที่ริมฝีปากเผยให้เห็นเด่นชัด แต่ดวงตาดำขลับคู่นั้นก็ฉายประกายของความหลงใหลเอ็นดูอย่างชัดเจน
เขากลืนน้ำลายอึกหนึ่ง ก่อนที่สายตาจะหันไปทางเฉินฝานซิงอีกครั้ง ภายในใจแอบคิดอยู่คนเดียว
ผู้หญิงคนนี้ ชาติที่แล้วกอบกู้ระบบสุริยะจักรวาลเอาไว้เหรอ
แม้แต่ผู้บริหารป๋อซื่อที่ไม่มองหญิงในตำนานก็คว้าเอามาไว้ได้
“สิบล้านหนึ่งหยวนครั้งที่หนึ่ง…”
“สิบล้านหนึ่งหยวนครั้งที่สอง…”
“สิบล้านหนึ่งหยวนครั้งที่สาม…ปิดประมูล”
เสียงค้อนให้สัญญาณ
ระหว่างนี้ ความเร็วในการพูดของผู้ตั้งประมูลเร็วกว่าปกติ ในขณะที่แทบจะยังไม่มีใครตั้งสติได้ เขาก็รีบทุบค้อนปิดประมูล
เฉินฝานซิงหันไปมองป๋อจิ่งชวนแล้วยิ้มด้วยความดีใจ
มือที่จับมือของป๋อจิ่งชวนเอาไว้ก็แกว่งไปมาด้วยความตื่นเต้นยินดีด้วย
ป๋อจิ่งชวนหันมามองเธอ นัยน์ตาดำสนิทคู่นั้นเต็มไปด้วยความลุ่มหลงเอ็นดูที่อ่อนโยน
“โธ่เอ๋ย ดูคนเขาโชว์สวีทกันสะใจจริงๆ เลย”
อินรุ่ยเจวี๋ยที่อยู่ข้างๆ อดแขวะออกมาไม่ได้ คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็ช่างเถอะ แต่คนที่รู้เรื่องอยู่ตรงนี้กำลังจะถูกทรมานตายอยู่แล้ว แข่งโชว์หวานกันออกสื่อที่ทรมานคนโสดขั้นสุด
จี้อี้กลับรู้สึกชื่นมื่นที่ได้เห็นแบบนี้ เธอหันไปมองอินรุ่ยเจวี๋ยด้วยความอารมณ์ดี
“มีอะไรไม่ดีเหรอ ยังไงก็ดีกว่าคู่อื่นที่โชว์หวานนั่นแหละ”
“เชอะ ไม่มีสไตล์เอาซะเลย” อินรุ่ยเจวี๋ยพึมพำเบาๆ ก่อนจะประชิดตัวเข้ามาใกล้จี้อี้ ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความร้ายกาจเจ้าเล่ห์ “มัวแต่ดูคนอื่นโชว์หวานกันจะไปมีอะไรดี โชว์หวานซะเองเลย คิดว่ายังไง จะร่วมมือโชว์หวานด้วยกันไหม”
จี้อี้ขมวดคิ้วมุ่นพลางผละตัวถอยห่ายจากเขาเล็กน้อย “ใครอยากจะไปโชว์หวานกับคุณกัน”
“หึ ฉันหน้าตาหล่อเหลามีเสน่ห์ มีความสามารถรอบด้าน ใครเห็นใครก็รัก เธอยังกล้ารังเกียจฉันอีก…”
“คุณหยุดคิดซะเถอะ ฉันว่าคุณเจอใครก็รักคนนั้นมากกว่า ชอบพอกับใครเขาไปทั่ว”
อินรุ่ยเจวี๋ยกัดฟันกรอด “ฉันว่าเธอเนี่ย ไม่มีใครอบรมสั่งสอนเอาซะเลย”
จี้อี้เหลือบตามองเขาด้วยท่าทีรังเกียจปราดหนึ่ง ก่อนจะหันหน้ากลับมาไม่สนใจเขาอีก
เป็นอีกครั้งที่แย่งของจากป๋อจิ่งชวนมาได้ด้วยเงิน “หนึ่งหยวน” ป๋อจิ่งชวนยังคงไม่มีท่าทีโมโห อีกทั้งยังมีท่าทางสมยอมเต็มใจอีกด้วย นี่แทบจะทำให้ทุกคนตกตะลึงไปตามๆ กัน
สุดท้าย ข้อสรุปที่เป็นหนึ่งเดียวกันก็คือ
ป๋อจิ่งชวนและเฉินฝานซิง สองคนนี้ จะต้องมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกันอย่างแน่นอน
ตอนที่ 548 เธอ สนใจเหรอ
“น่าโมโหจริงๆ เฉินฝานซิงยั่วยวนคุณป๋อออกนอกหน้าขนาดนี้ เขาไม่รู้สึกเลยเหรอ”
“คุณป๋อมีความอดทน ควบคุมอารมณ์ได้ดีจริงๆ”
“ปฏิบัติต่อคนไร้ยางอาย ต้องแยกด้วยเหรอว่าควรควบคุมอารมณ์หรือไม่ควรน่ะ”
คนบางคนก็เป็นประเภทแบบที่เห็นคนอื่นได้ดีไม่ได้ ที่จริงแล้วเดิมทีพวกเธอก็ไม่ได้รู้สึกเป็นศัตรูกับเฉินฝานซิงมากขนาดนั้น เพียงแค่จะเอาอกเอาใจเฉินเชียนโหรวก็เท่านั้น
ตอนนี้เรียกได้ว่าอิจฉาตาร้อนขึ้นมาจริงๆ แล้ว
หลังจากที่ป๋อจิ่งชวนมีท่าทียินยอมให้เฉินฝานซิง
ขณะนั้นเอง เฉินเชียนโหรวก็มองไปที่เฉินฝานซิงด้วยสายตาเคียดแค้นวูบหนึ่ง ลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น แววตาที่ฉายออกมาราวกับชุ่มฉ่ำไปด้วยยาพิษ
“พอแล้ว พอแล้ว พวกเธอก็เลิกอิจฉาได้แล้ว ไม่ได้ดูเอาเสียเลยว่าคุณป๋อเขาอยู่ในสถานะอะไร ถ้ามาไม่ถึงพวกเธอ ก็แน่นอนว่าไม่มีทางไปถึงเฉินฝานซิงได้หรอก ตอนนี้ปล่อยให้เธอได้ใจไปเถอะ ต่อให้เธอคิดอยากจะมีตัวตนยังไง คืนนี้ก็ไม่ใช่คืนของเธอ หลังจากนี้ต่ากหากถึงจะเป็นไฮไลท์สำคัญ”
จากนั้น หลังจากที่การประมูลดำเนินไปได้ครึ่งทาง บรรยากาศภายในงานแน่นอนว่าต้องเริ่มคึกคักเป็นธรรมดา
เต้นรำ ดนตรี อีกทั้งศิลปินทอล์กโชว์ มีการเตรียมการเอาไว้อย่างหลากหลาย
หลังจากผ่านไปหลายบทเพลง ฟ่านหรูอวิ๋นก็ถูกเชิญขึ้นเวทีในฐานะแขกรับเชิญที่มาแสดง
ฟ่านหรูอวิ๋นอยู่ในชุดราตรีเลื่อมสีขาวทรงหางปลา ส่องแสงระยิบระยับภายใต้แสงไฟ รูปร่างโค้งเว้าได้สัดส่วน ท่าทางอ่อนช้อยงดงาม ในมือของเธอถือไวโอลินเครื่องหนึ่งเอาไว้ กำลังยืนอยู่บริเวณขอบเวที
ตำแหน่งที่ยืนนี้ ทำให้เฉินฝานซิงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ช่วงนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นช่วงที่เตรียมการขึ้นเป็นพิเศษ
บนหน้าจอใหญ่ปรากฏของประมูลชิ้นต่อไป
“สิ่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากกั๋วจี้หลิงต้งจิวเวอรี่ คือ มายควีน แหวนแห่งราชินี เป็นแหวนที่ออกแบบให้มีการผสมผสานระหว่างคอลเลคชั่นมายควีนรูปหัวใจและแหวนเพชร Blue frame เพชรหนักห้ากะรัต แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากตอนที่กษัตริย์แห่งเบลีซเข้าพิธีราชาภิเษกได้จุมพิตราชีนีเบาๆ รูปทรงของมายควีนงอเข้าตามธรรมชาติ เค้าโครงรูปหัวใจและเพชรรูปหัวใจเป็นการจับคู่ที่โรแมนติกและสูงสง่าที่สุด เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักที่ไม่มีสิ้นสุด ใจส่งถึงกัน คุณคือราชินีเพียงหนึ่งเดียวในใจของฉัน”
หลังจากที่พิธีกรพูดจบพร้อมลงจากเวทีไปด้วยรอยยิ้มสมบูรณ์แบบ เสียงไวโอลินที่ทั้งโรแมนติกและนุ่มทุ้มของฟ่านหรูอวิ๋นก็ดังต่อขึ้นทันที
ท่วงท่าในการสีไวโอลินของฟ่านหรูอวิ๋นสง่างาม ในระหว่างที่โยกย้ายช่วงเอว สายตาก็มองมาที่เฉินเชียนโหรว บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แฝงไว้ซึ่งความหมายลึกซึ้ง
“หนึ่งล้าน”
“สองล้าน”
“สามล้าน”
“…”
ผู้หญิงรักอัญมณีมากที่สุด ผู้ชายรักผู้หญิงมากที่สุด
เมื่อของสิ่งนี้ออกมา พร้อมกับเพิ่มความหมายของความโรแมนติกเข้าไป คุณค่าจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“หกล้าน” ซูเหิงยกป้ายประมูล
เสียงไวโอลินของฟ่านหรูอวิ๋นเปลี่ยนอย่างกะทันหัน กลายเป็นทำนองที่สนุกสนานมีความสุข
เฉินฝานซิงเหลือบตาลงเล็กน้อยด้วยสีหน้าครุ่นคิด พอจะทายความตั้งใจของซูเหิงในค่ำคืนนี้ออกได้ประมาณหนึ่งแล้ว
ตอนนี้ ยังยกป้ายประมูลเรียกราคาหกล้านโดยไม่ตระหนี่ถี่เหนียวและไม่สะทกสะท้านอะไรเลย ดูเหมือนสิ่งที่ซูเหิงจะต้องครอบครองให้ได้ ไม่ได้มีเพียงแค่ “หนึ่งเดียว” ที่เป็นของประมูลชิ้นสุดท้าย
เหอะ…
ขณะนั้นเอง ราคาหกล้านไม่มีใครประมูลต่อไปแล้ว เฉินฝานซิงแอบแสยะหัวเราะในใจเบาๆ จากนั้นก็ยกป้ายขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“สิบล้าน”
สิ้นเสียงเยือกเย็นของเธอ ฟ่านหรูอวิ๋นที่อยู่บนเวทีก็คิ้วขมวดมุ่น เสียงไวโอลินเปลี่ยนไปอีกครั้ง กลายเป็นดนตรีราวกับตอนที่แม่มดเปิดตัวในนิทาน
เฉินเชียนโหรวขมวดคิ้วเล็กน้อย ในใจทั้งโกรธแค้นและสะใจ
โกรธแค้นที่เฉินฝานซิงลอบกัดกันซึ่งๆ หน้า สะใจที่เฉินฝานซิงท้ายที่สุดแล้วเธอก็ยังสนใจซูเหิงอยู่ ตอนนี้ทนไม่ไหวแล้วใช่ไหม
สำหรับซูเหิง แน่นอนว่าเขาหวังว่าเฉินฝานซิงเฉินยิ่งสนใจก็ยิ่งดี เฉินฝานซิงยิ่งสนใจ เขาถึงจะยิ่งรู้สึกว่าตัวเองนั้นอยู่เหนือกว่า
ถึงจะมีความรู้สึกที่ว่าเธอคือผู้แพ้ที่อยู่ภายใต้เขา
การกระทำครั้งนี้ของเฉินฝานซิง ทำให้ผู้คนนึกถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ระหว่างเธอและซูเหิงได้สำเร็จ…
ในส่วนของซูเหิง ก็รู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย
เธอ สนใจด้วยเหรอ