ซูฉิงสบตามองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า แล้วก็สูดลมหายใจเข้าปอด แล้วก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา”งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวจะสาย…..”
พอพูดจบ ซูฉิงก็รีบหันหลังเดินออกไปทางหน้าประตู
เธอกลัวว่าอยู่ต่ออีกเพียงวินาทีเดียวคงจะต้องอดที่จะตอบตกลงเขาไปแน่
แต่ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้
เธอยังไม่อยากตอบตกลงเขาเร็วขนาดนั้น
ฮ่อหยุนเฉิงมองเบื้องหลังอรชรของซูฉิงที่เดินไปแล้ว ก็ได้แต่ถอนหายใจ
จากนั้นก็ก้าวเท้ายาวๆ ตามออกไป
ทั้งสองลงมาถึงที่ลานจอดรถใต้ดิน ซูฉิงก็เข้าไปนั่งในรถของฮ่อหยุนเฉิง
ฮ่อหยุนเฉิงก็สตาร์ทรถขับออกไป ทางบริษัทสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์
ระหว่างทางทั้งสองไม่พูดจากัน จนทำให้บรรยากาศในรถประหม่าเล็กน้อย
ซูฉิงเหล่มองออกไปนอกหน้าต่างข้างทาง
แต่ก่อนคุณปู่พูดไว้คือสามเดือน ตอนนี้ก็เหลืออีกไม่กี่วันแล้ว
เมื่อถึงตอนนั้น เธอจะตอบคุณปู่ยังไงดีนะ
จะอยู่ที่เมือง A ต่อมั้ย หรือว่าจะไปเที่ยวรอบโลกกับคุณปู่ หรือจะกลับไปใช้ชีวิตอย่างอิสระเหมือนเมื่อก่อน
ตอนนี้ซูฉิงก็ยังให้คำตอบตัวเองไม่ได้เลย
ซูฉิงรู้สึกเหนื่อยจนต้องนวดขมับ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของฮ่อหยุนเฉิงดังขึ้น”ถึงแล้ว”
ซูฉิงที่กำลังจะลงจากรถ ฮ่อหยุนเฉิงก็ฉุดแขนเธอไว้ก่อน
“อะไรหรอ”ซูฉิงหันกลับไปมองแล้วถามฮ่อหยุนเฉิงอย่างแปลกใจ
แววตานิ่งของฮ่อหยุนเฉิงที่จดจ้องมองซูฉิงอย่างน่าสงสาร “ซูฉิง เธอจะไม่ตอบตกลงฉันจริงๆ หรอ”
ซูฉิงที่เห็นฮ่อหยุนเฉิงถามเรื่องเดิมไม่หยุด ก็ใจเต้น รีบควบคุมอารมณ์
คิดอยู่สักพัก ซูฉิงก็เอ่ยขึ้นว่า”รอให้คุณปู่ฮ่ออาการดีขึ้นก่อนเถอะ ค่อยคุยกัน”
พอพูดถึงคุณปู่ฮ่อ ฮ่อหยุนเฉิงก็หน้านิ่งขรึมลงแล้วก็พยักหน้าเบาๆ
“นายวางใจเถอะ คุณปู่ฮ่อต้องไม่เป็นอะไร” ซูฉิงรู้ว่าฮ่อหยุนเฉิงเป็นห่วงคุณปู่ฮ่อ เลยพูดปลอบต่อว่า”ฉันติดต่อกับคุณหมออีทุกวัน อาการของท่านยังทรงตัว ลุงฉีบอกว่า อีกไม่กี่วันก็จะฝังเข็มให้คุณปู่ฮ่อครั้งสุดท้ายแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นคุณปู่ฮ่อจะต้องฟื้นขึ้นมาแน่!”
“อืม “ฮ่อหยุนเฉิงที่คิ้วขมวดเป็นเส้นตรง ก็ผ่อนคลายลง
เขาเชื่อมั่นในตัวซูฉิง จะต้องรักษาคุณปู่ให้หายได้แน่
“งั้นฉันเข้าไปก่อนนะ”ซูฉิงยิ้มพูด
“ฉันจะเข้าไปด้วยกันกับเธอ”ฮ่อหยุนเฉิงก้าวเท้ายาวๆ ลงมาจากรถแล้วเดินตามเข้าไป
เขาคิดดีแล้วว่า จะไม่ยอมเปิดโอกาสให้ซูฉิงอยู่กับเฉินจุนเหยียนตามลำพัง
ซูฉิงเป็นของเขาเท่านั้น
ในสายตาของเขา ซูฉิงจะกล้าทำอะไรกับเฉินจุนเหยียนบ้าง
ซูฉิงรู้สึกหมดคำจะพูด
ฮ่อหยุนเฉิงที่วันๆ ยุ่งจนหัวหมุนแต่ทำไมวันนี้ถึงทำตัวเป็นว่างจังเลย
และก็มาร่วมงานพิธีเปิดกล้องที่ไม่เข้ากับเขาเอาเสียเลย
หลังจากที่เสร็จงานพิธีการเปิดกล้องไปแล้ว ตอนนี้สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ต่างก็รู้ว่าซูฉิงเป็นเจ้าของเอง
พอเห็นซูฉิงกับฮ่อหยุนเฉิงปรากฏตัวพร้อมกัน พนักงานของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ก็เอ่ยทักทายเธอ “คุณซู ประธานฮ่อ สวัสดีค่ะ/ครับ”
ซูฉิงที่ได้แต่ยิ้มบาง พยักหน้าเบาๆ แล้วเดินไปทางลิฟต์
พนักงานที่มองเบื้องหลังของซูฉิงกับฮ่อหยุนเฉิงที่เดินไปแล้วก็ต่างซุบซิบนินทากัน
“ไม่รู้ว่าเจ้านายของพวกเรากับประธานฮ่อนี่มีความสัมพันธ์อะไรกันยังไง”
“ไม่ใช่มีข่าวลือว่า ประธานฮ่อกำลังตามจีบคุณซูหรอ”
“และยังมีข่าวลืออีกว่าซุปตาร์ชื่อดังอย่างเฉินจุนเหยียนก็กำลังตามจีบคุณซูนะ! ฉันคิดว่าเฉินจุนเหยียนเหมาะกับคุณซูมากว่า เพราะทั้งหล่อทั้งรวย ทั้งยังเทคแคร์ดูแลคุณซูฉิงอย่างดี”
คำพูดพวกนี้ล้วนได้ยินไปถึงหูของฮ่อหยุนเฉิง
หน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขึ้นทันที
“ลิฟต์มาแล้ว”ซูฉิงที่สัมผัสได้ถึงว่าผู้ชายข้างๆ กำลังอารมณ์ไม่ดี เลยเม้มปากพูด
ทั้งสองขึ้นลิฟต์มาจนถึงชั้นบนสุด
“ซูฉิง เธอมาแล้ว”เฉินจุนเหยียนมารอซูฉิงตั้งนานแล้ว พอเห็นซูฉิงก็ยิ้มระรื่น
แต่พอเห็นฮ่อหยุนเฉิงที่เดินตามซูฉิงเข้ามาด้วยนั้น ใบหน้าของเขาก็นิ่งขรึมลง
“ฮ่อหยุนเฉิง นายกลับไปก่อนเถอะ ฉันต้องแต่งหน้า”ซูฉิงหันไปพูดกับฮ่อหยุนเฉิง จากนั้นก็เดินไปที่ห้องแต่งตัว
และตอนที่ซูฉิงเดินออกมาจากห้องแต่งตัวนั้น กลับพบฮ่อหยุนเฉิงยังคงยืนพิงประตูอยู่
ซูฉิงยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ทำไมนายยังไม่กลับไปอีกละ”
“มาเป็นผู้ช่วยเธอ”ฮ่อหยุนเฉิงพูดเสียงเรียบ
เมื่อมองไปที่ผู้หญิงที่ออร่าเปล่งประกายต่อหน้าเขา ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงก็ทอประกายอย่างทึ่ง
เห็นซูฉิงสวมชุดโบราณสีม่วงขับกับผิวสีขาวของเธอมาก ทำให้ผิวของเธอดูสวยเป็นพิเศษ ผมยาวของเธอถูกม้วนขึ้น มีผ้าคลุมไหล่เผยให้เห็นไหปลาร้าอันเซ็กซี่ของเธอ การออกแบบชายกระโปรงทำให้เห็นส่วนโค้งที่ละเอียดอ่อนและสง่างามของเธอสวยงามยิ่งขึ้น
นัยน์ตาคู่หนึ่งวาววับราวกับล้างด้วยน้ำใสสะอาด ส่วนคิ้วและตาทาสีเปลือกตาเล็กน้อย ดูดี สง่างามและความสามารถมาก
สวยจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบาย
ซูฉิงที่สัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมาของผู้ชายตรงหน้าก็ทำให้รู้สึกเขินจนต้องหันหน้าไปทางอื่น
และประจวบเหมาะกับที่เฉินจุนเหยียนก็เดินออกมาจากห้องแต่งตัวอีกห้องหนึ่ง
ซูฉิงยิ้มให้เขาแล้วพูด”เฉินจุนเหยียน ใกล้จะได้เวลาแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”
แววตาอ่อนโยนของเฉินจุนเหยียนมองไปที่ซูฉิงแล้วตอบ”โอเค”
ฮ่อหยุนเฉิงที่มองซูฉิงเดินเคียงไหล่ไปกับเฉินจุนเหยียนก็ใบหน้าเคร่งขรึม
งานพิธีเปิดกล้อง เป็นบริษัทสตาร์เอ็นเทนเมนท์เป็นผู้จัดที่ห้องงานเลี้ยง
และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ซูฉิงร่วมงานครั้งแรก
แต่หากหากมีงานเปิดกล้องละครใหม่ ก็จะให้เฉินจุนเหยียนเป็นคนจัดการเอง
และซูฉิงก็จะเป็นคนสั่งการที่อยู่เบื้องหลัง แค่อยากจะคอยช่วยอยู่เบื้องหลังก็เท่านั้น
แต่ว่าครั้งนี้ไม่เหมือนกัน
เพราะว่าเธอได้เผยตัวตนว่าตนเป็นบอสของสตาร์เอ็นเทนเมนท์แล้ว ตอนนี้ทุกคนล้วนรู้จักฐานะจริงของเธอ
อีกอย่าง การเข้าร่วมงานของซูฉิงก็เพื่อที่จะโฆษณาละครฟอร์มยักษ์อย่าง《โห้วกงเฟิงเยว่》
ด้วยเหตุนี้ งานพิธีเปิดกล้องละครเลยคึกคักมากเป็นพิเศษ
นอกจากนักแสดง ผู้กำกับ พนักงานในกองละคร《โห้วกงเฟิงเยว่》ทั้งหมดแล้ว ยังมีคนในแวดวงธุรกิจ สังคมไฮโซชั้นสูงก็เข้าร่วมด้วย
พวกนักข่าวก็รีบมาอย่างรวดเร็ว แล้วรีบจับจองที่ทำข่าว
ได้ข่าวว่างานพิธีเปิดกล้องละครมีบุคคลสำคัญเข้ามาร่วมงานมาก ไม่เพียงแต่ซุปตาร์ชื่อดังรางวัลสามสมัยอย่างเฉินจุนเหยียนแล้ว ยังมีผู้บริหารที่ทำตัวลึกลับอย่างคุณซูฉิง ด้วยเหตุนี้พวกนักข่าวต่างก็ต้องเตรียมพร้อม กลัวว่าจะพลาดข่าวใหม่ไป
การปรากฏตัวของซูฉิงกับเฉินจุนเหยียนทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมา
“นั่นคุณเฉินจุนเหยียนกับคุณซูนี่!”มีคนตะโกนเรียก
สายตาของทุกคนต่างหันไปมองทางซูฉิงกับเฉินจุนเหยียน
และทันใดนั้นเอง ไม่รู้ว่าใครร้องเรียกขึ้นมาอีกว่า”ประธานฮ่อ! ประธานฮ่อก็มาด้วย!”
สายตาของทุกคนก็หันไปตามเสียงที่ดังขึ้น ทางหน้าประตูห้องจัดเลี้ยง
ก็เห็นฮ่อหยุนเฉิงที่สูงเท่กำลังเดินก้าวเท้าเข้ามาอย่างมั่นคง เดินเข้ามาในงานจัดเลี้ยง
การปรากฏตัวของเขา เพียงแค่พริบตาก็ได้รับความสนใจจากทุกคน
ยิ่งพวกนักข่าวแล้วยิ่งตื่นเต้น
เฉินจุนเหยียนเป็นนักแสดงที่หล่อเหลาและเป็นที่นิยม และซูฉิงที่เจ้าของบริษัทที่สวยที่สุด
และบวกกับท่านประธานฮ่อประธานบริษัทผู้สูงส่งที่รูปร่างหน้าตาราวกับเทพเจ้าให้มา
ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนนั้นดูซับซ้อนมาก
ไม่ว่าจะเป็นเฉินจุนเหยียนหรือฮ่อหยุนเฉิงล้วนมีข่าวลือหนาหูกับซูฉิงไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม งานพิธีเปิดกล้องละครของวันนี้จะต้องสนุกแน่