พวกนักข่าวต่างก็เข้าไปรุมล้อมฮ่อหยุนเฉิง แล้วก็รุมถามคำถามเขา
“ประธานฮ่อ ขอถามหน่อยที่คุณมาร่วมงานพิธีเปิดกล้องของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ หมายความว่าตระกูลฮ่อกรุ๊ปจะเข้ามาทำธุรกิจด้านบันเทิงหรอ”
“ประธานฮ่อ มีข่าวลือว่าคุณตามจีบคุณซูอีกครั้ง ขอถามหน่อยว่าเป็นความจริงมั้ยคะ”
“ประธานฮ่อ ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าคุณกับคุณซูได้ยกเลิกงานหมั้นกันเพราะว่าเธอเป็นคนบ้านนอก ฐานะต่ำต้อยไม่เหมาะสมกับตระกูลฮ่อ แต่ตอนนี้ความเป็นจริงแล้วคุณซูเป็นคนมีฐานะร่ำรวย และยังเป็นceo ของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์อีก นี่คือสาเหตุที่คุณกลับมาตามจีบคุณซูฉิงอีกครั้งมั้ย”
ฮ่อหยุนเฉิงคิ้วขมวด เอ่ยเสียงเรียบ”หลบหน่อย ผมไม่พร้อมให้สัมภาษณ์”
รังสีความเย็นเยือกแผ่ออกมาจากตัวเขา ทำให้พวกนักข่าวต่างก็กลัวจนตัวสั่น แล้วก็หลบให้ ไม่กล้าเข้าไปถามอีก
ฮ่อหยุนเฉิงเดินไปนั่งตรงมุมมุมหนึ่ง
และพอถึงว่าเวลาบ่ายสองโมง พิธีเปิดกล้องก็เริ่มขึ้น
พิธีกรได้โค้งคำนับส่งเสียงเรียกความสนใจ “สวัสดีค่ะ ทุกท่าน วันนี้เป็นงานพิธีเปิดกล้องละคร《โห้วกงเฟิงเยว่》 ดิฉันขอประกาศว่า งานพิธีเปิดกล้องละครได้เริ่มขึ้นณ บัดนี้! ขอเสียงปรบมือจากทุกท่านด้วยค่ะ และยินดีต้อนรับซุปตาร์ชื่อดังคุณเฉินจุนเหยียนกับคุณซูฉิงขึ้นมากล่าว”
เสียงปรบมือดังกระหึ่ม เฉินจุนเหยียนกับซูฉิงก็เดินขึ้นไปบนเวทีด้วยกัน
เฉินจุนเหยียนกระแอมคอแล้วเอ่ย”ยินดีต้อนรับทุกท่านที่เป็นเกียรติมาร่วมงานพิธีเปิดกล้องละคร《โห้วกงเฟิงเยว่》
ละครเรื่อง《โห้วกงเฟิงเยว่》นี้เป็นละครย้อนยุคฟอร์มยักษ์ที่เป็นการต่อสู้ภายในวังหลัง ทางสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ได้ลงทุนไปสองพันล้าน และอีกครึ่งปีนี้จะได้เห็นผลงานใหม่
ดังนั้นนักแสดงทุกคนมีฝีมือที่แข็งแกร่ง พระเอกเป็นดาราที่โด่งดังที่สุดในวงการบันเทิง นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญที่เป็นมิตรอย่างคุณซูฉิงที่เป็นceoของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ของเรา ฉันเชื่อว่ามันจะทำให้ดวงตาของทุกคนเปล่งประกายและนำพาคุณไป สัมผัสกับภาพที่สวยงาม”
“ขอให้ทุกท่านให้การสนับสนุนด้วยนะคะ”ซูฉิงพูดพร้อมกับยิ้ม
เสียงปรบมือดังขึ้นทั้งห้องงานจัดเลี้ยงอยู่นานไม่หยุดทำให้บรรยากาศครึกครื้น
และในทันใดนั้นเอง ก็มีหญิงสาววัยรุ่นสองคนถือดอกไม้สดเข้ามาแล้วเดินไปทางเวทีแล้วได้ขึ้นไปบนเวที
และข้างๆ ก็มีพนักงานรักษาความปลอดภัยรีบเดินเข้าไปขวางพวกเธอไว้ “ขอโทษด้วย คุณผู้หญิงทั้งสองท่าน ขอให้กลับไปที่นั่งด้วยครับ”
“เฉินจุนเหยียน พวกเราเป็นแฟนคลับของคุณ พวกเราก็แค่เอาดอกไม่มาแสดงความยินดีกับคุณก็เท่านั้น”หญิงสาวทั้งสองคนตะโกนเรียกคุยกับเฉินจุนเหยียน
มีแฟนคลับนำดอกไม้มาให้ก็ถือเป็นเรื่องปกติ เฉินจุนเหยียนก็ไม่ได้ถือสา
เขาก็พยักหน้าให้พนักงานรักษาความปลอดภัยเบาๆ ให้เขาปล่อยพวกเธอมา
หญิงสาวสองคนล้วนมีช่อดอกไม้อยู่ในมือคนละช่อ เดินไปทางเฉินจุนเหยียนกับซูฉิง
“คุณเฉิน ฉันเป็นแฟนละครของคุณ เรื่องที่คุณเล่นทั้งหมดฉันล้วนดูแล้วหลายรอบ ฉันรักคุณมาก!”หนึ่งในหญิงสาวพูดอย่างดีใจ แล้วก็ยื่นช่อดอกไม้ให้กับเฉินจุนเหยียน
เฉินจุนเหยียนยื่นมือรับช่อดอกไม้มาแล้วเอ่ยตอบอย่างมีมารยาท”ขอบคุณครับ”
“คุณซู คุณสวยกว่าในทีวีอีกนะคะ “หญิงสาวอีกคนเดินมาตรงหน้าซูฉิงมองซูฉิงด้วยสายตาชื่นชม
เธอที่ทั้งพูดพร้อมกับยื่นช่อดอกไม้สดให้กับซูฉิง “คุณซู มอบให้คุณค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ซูฉิงที่จะยื่นมือรับช่อดอกไม้มา แต่ทว่าหญิงสาวคนนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร อยู่ดีๆ ก็เท้าสะดุด ล้มไปหาซูฉิ
ช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือของเธอก็ชนเข้ากับหน้า ไหล่และเนินอกของซูฉิง …….จากนั้นก็ร่วงลงพื้น
“ขอโทษ ขอโทษด้วยค่ะ คุณซู เมื่อกี้ฉันไม่ทันระวังทำให้เท้าลื่น “หญิงสาวพูดขอโทษอย่างประหม่า
ซูฉิงยิ้ม “ไม่เป็นไรค่ะ”
หลังจากที่หญิงสาวทั้งสองมอบชั่วดอกไม้เสร็จแล้ว เพียงไม่นานก็เป็นรอบให้นักข่าวสัมภาษณ์
พวกนักข่าวล้วนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ต่างก็ยื้อแย่งกันถามคำถาม
“คุณซู วันนี้เป็นครั้งแรกที่คุณเข้าร่วมงานเลี้ยงพิธีเปิดกล้องในฐานะceoอย่างเปิดเผย ขอถามหน่อยคุณรู้สึกยังไงบ้างคะ” นักข่าวบันเทิงคนหนึ่งชิงถามขึ้นก่อน
ซูฉิงยังคงทำหน้ายิ้มแย้ม พูดด้วยน้ำเสียงดูดี”ความรู้สึกของฉันตอนนี้ แน่นอนว่ามีความสุขมาก สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ของเราผลิตผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมาไม่หยุด เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ชมทุกคน หวังว่าทุกท่านจะให้การชื่นชม”
“คุณซู ได้ข่าวว่านี่คือการถ่ายละครครั้งแรกของคุณ สำหรับการแสดงละคร คุณคิดว่ามีความยากมั้ย”นักข่าวยังคงถามต่อ
“แน่นอนค่ะว่ามีความยาก แต่ก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ”ซูฉิงตอบ
“ได้ข่าวว่าคุณซูกับคุณเฉินจุนเหยียนแสดงเป็นคู่รักกัน ขอถามหน่อยพวกคุณจะทำให้เรื่องแสดงเป็นเรื่องจริงได้มั้ย “มีนักข่าวคนหนึ่งเอ่ยถาม
“แน่นอน……”
ซูฉิงพูดยังไม่ทันจบ เฉินจุนเหยียนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พูดแทรกเธอขึ้นมาว่า “แน่นอนว่ามีความอาจจะเป็นไปได้ก็ได้”
มีความอาจจะความเป็นไปได้ได้งั้นหรอ
ฮ่อหยุนเฉิงที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของเวที ที่เดิมทีทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่แล้ว ทันใดนั้นก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นหน้าเคร่งขรึมยิ่งกว่าเดิม
ซูฉิงก็ไม่โต้แย้ง นี่ยอมรับหรอ?
มันน่านัก!
ฮ่อหยุนเฉิงอยากจะขึ้นไปบนเวทีแล้วลากเฉินจุนเหยียนลงมาแล้วเปลี่ยนเป็นตัวเอง
ซูฉิงที่ยืนอยู่บนเวที รู้สึกได้ถึงแววตาเย็นเยือกมองมาทางเธอ
เธอหันไปมองทางฮ่อหยุนเฉิง และก็สบตาเย็นชากับเขาโดยบังเอิญ
แม้จะอยู่ไกล แต่ซูฉิงก็มองแววตานั้นออกว่า ผู้ชายคนนี้กำลังโกรธอยู่
“ว๊าว ดูท่าคุณซูกับคุณเฉินจุนเหยียรอาจจะมีโอกาสพัฒนาก็ได้นะ!”นักข่าวเอ่ยอย่างดีใจ แล้วก็เปลี่ยนไมค์ไปหาซูฉิง”คุณซู มีข่าวว่าคุณกับประธานฮ่ออาจเกิดถ่านไฟเก่าคุ ขอถามหน่อยค่ะว่าจริงมั้ย”
ซูฉิงที่ฉีกยิ้ม กำลังคิดจะพูด ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกคันที่ใบหน้า
เธอเลยยื่นมือนวดที่ขมับ
และพอนวด ไม่เพียงแค่ใบหน้า แม้แต่ไหล่ เนินอกล้วนเกิดอาการคันขึ้นมา
เหมือนกับมีมดหลายร้อยตัวคอยกัดตามตัวของเธอทั้งแสบทั้งคัน
ความรู้สึกนี้…..เหมือนจะเป็นอาการแพ้
ซูฉิงคิ้วขมวดเป็นปม
เธอแพ้ทองคำขาว ดังนั้นปกติเธอจะระวังมาก ไม่รับของจากใครง่ายๆ
นอกจากทองคำขาวแล้ว ซูฉิงก็ไม่ได้แพ้อะไรอีก
ตอนนี้ความรู้สึกที่คันไปทั้งตัว เธอคาดไม่ผิดแน่ว่าเป็นอาการแพ้
แต่น่าแปลกใจ วันนี้เธอไม่ได้สัมผัสกับทองคำขาวเลยนะ แล้วทำไมถึงได้เกิดอาการแพ้ได้ละ
อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างนี้ด้วย
เพียงแค่ผิวของเธอสัมผัสกับทองคำขาว เพียงไม่กี่นาทีก็จะเกิดอาการแพ้บวมขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ เธอน่าจะสัมผัสทองคำขาวภายในสิบนาทีนี้
แต่ตอนที่เธออยู่บนเวทีก็ครึ่งชั่วโมงแล้ว จะไปสัมผัสทองคำขาวได้ยังไง
ซูฉิงคิดอย่างไม่เข้าใน ก้มหน้าลง แววตามองดูช่อดอกไม้ที่อยู่บนพื้น
ในหัวของเธอก็ส่งสว่างขึ้นมา
ตอนที่หญิงสามเมื่อกี้ไม่ทันระวังสะดุดเท้าทำให้ช่อดอกไม้มาโดนแก้ม ไหล่และเนินอกของเธอ
อีกทั้งตอนนี้ ก็ยังเป็นส่วนที่เกิดอาการแพ้อีก
หรือว่าช่อดอกไม้นั้นจะมีปัญหา
“คุณซู……”เห็นซูฉิงเงียบไม่พูดจา มีสีหน้าแปลกไป นักข่าวก็ถามต่อ แต่กลับพบว่าตอนนี้ซูฉิงมีอาการแปลกๆ
ใบหน้าของซูฉิง ตัวของเธอล้วนบวมเป่ง และก็มีตุ่มเล็กๆ ขึ้นมาด้วย