ตอนที่ 5 เจอกันอีกแล้วนะ

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

“เออ… ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลยล่ะ” คังเจี้ยนเอาศอกถองแขนอันซย่าซย่า 

 

 

อันซย่าซย่าเสียจริตจนพูดไม่ออก เธอรู้สึกประหนึ่งว่ากำลังฝันอยู่ 

 

 

เด็กสาวหยิกคังเจี้ยนทีหนึ่ง อีกฝ่ายสะดุ้งไปเพราะเจ็บจนน้ำตาเล็ด 

 

 

“มาหยิกฉันทำไมเนี่ย โอ๊ยตายแล้ว เจ็บมากเลย” คังเจี้ยนบ่นพลางถูแขนป้อยๆ ทำทีเป็นเจ็บเหลือเกิน 

 

 

“ไม่ได้ฝัน…” อันซย่าซย่าพึมพำกับตัวเอง 

 

 

คังเจี้ยนเห็นเธอทำท่างงๆ ก็กระซิบเบาๆ “สามคนนั้นใคร ทำไมถึงดูคุ้นๆ นะ” 

 

 

คุณครูผู้มีผมดัดเป็นลอนแน่นซึ่งเพิ่งบ่นว่าทั้งสองอยู่เมื่อครู่นี้ หันขวับมาหาโดยฉับพลัน พลางจีบปากจีบคออธิบายให้คังเจี้ยนฟัง “นี่เธอไม่รู้จักวงสตาร์รี่ไนต์หรือยังไง วงนี้น่ะดังสุดๆ ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเลยนะ เซิ่งอี่เจ๋อหล่อในแบบสันโดษ เขาเล่นเปียโนได้ หนำซ้ำยังแต่งเพลงเองอีกด้วย! แล้วก็มือกีตาร์ชื่อเหอ จยาอวี๋ที่ทั้งอ่อนโยนและจิตใจดี เสียงร้องของเขาก็ช่างไพเราะชวนหลงใหล เป็นผู้ชายที่อบอุ่นเสียเหลือเกิน และก็ยังมีมือกลองฉือหยวนเฟิง หนุ่มน้อยหล่อเหลาผู้ทรงเสน่ห์แต่ก็น่ารักในเวลาเดียวกัน โฆษณาและรายการของพวกเขาออนแอร์แทบทุกช่อง ดังนั้นก็ไม่แปลกหรอกที่พวกเธอจะรู้สึกคุ้นหน้าน่ะ” 

 

 

เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางคลั่งไคล้ในตัวครูผู้ซึ่งอายุอานามก็น่าจะไม่ต่ำกว่าสามสิบเช่นนั้นแล้ว คังเจี้ยนก็อดสะท้านไม่ได้ 

 

 

โดยสรุปแล้ว การไล่ตามดารานักร้องนี่เป็นอะไรที่ผู้หญิงเขาทำกันโดยไม่เว้นวัยเลยสินะ 

 

 

น่ากลัวจัง น่ากลัวเกินไปแล้ว!  

 

 

“เอ้อ ฉันจำได้แล้ว นี่มันกลุ่มที่เธอตามจิกกัดมาตลอดไม่ใช่หรือไง” คังเจี้ยนร่าเริงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเขานึกถึงความจริงขอนี้ได้ แต่แล้วก็หันไปเห็นอันซย่าซย่ากำลังยืนนิ่งกัดริมฝีปากตัวเองอยู่ 

 

 

เขาค่อนข้างจะตกใจทีเดียว อยากจะถามว่าเด็กสาวเป็นอะไร แต่อยู่ๆ น้ำเสียงทุ้มลึกชวนหลงใหลก็ดังขึ้นบนเวที “ผมเซิ่งอี่เจ๋อ ยินดีที่ได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนตลอดสามปีข้างหน้านี้ครับ” 

 

 

“อ๊ายยย” ฝูงชนข้างล่างเวทีพากันระเบิดเสียงกรีดร้องและโห่เชียร์ดังก้อง 

 

 

“ผมเหอจยาอวี๋” 

 

 

“ฉือหยวนเฟิง” 

 

 

สองคนที่เหลือเพียงแค่แนะนำชื่อตัวเองเฉยๆ แต่ก็เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดได้อีกระลอก 

 

 

อันซย่าซย่ารู้สึกได้เลยพื้นสนามทั้งโรงเรียนสั่นสะเทือนไปตามเสียงโห่นั้น 

 

 

ผู้อำนวยการกล่าว “เงียบก่อน” ใส่ไมโครโฟนอยู่หลายครั้งก่อนที่ฝูงชนจะสงบลงได้ในที่สุด แต่ก็ด้วยความยากลำบาก จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วมาทางอันซย่าซย่าก่อนพูด “สำหรับพิธีปฐมนิเทศในวันนี้นั้น อาจารย์ต้องการย้ำถึงการกระทำของนักเรียนทั้งสองคนเมื่อกี้อีกครั้ง ว่าสิ่งที่พวกเขาได้กระทำนั้นผิดกฎของโรงเรียน! ตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนมัธยมฉีซย่ามาหกสิบปี ไม่เคยมีนักเรียนคนไหนกล้าปีนข้ามกำแพงโรงเรียนเพื่อมาเข้าพิธีปฐมนิเทศเลยสักคน! อาจารย์หวังว่านักเรียนทุกคนจะรับฟังคำเตือนนี้และเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้า การกระทำแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก!” 

 

 

นาทีนั้นเอง ทุกสายตาล้วนจับจ้องมายังอันซย่าซย่าและคังเจี้ยน 

 

 

เด็กสาวก้มหน้างุดด้วยความอับอาย รู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาเสียจริงๆ แต่ก็ร้องไม่ออก เธอรู้สึกได้เลยว่าเธอจะกลายเป็นคนดังเช่นเดียวกับวงสตาร์รี่ไนต์ที่โรงเรียนมัธยมฉีซย่าแห่งนี้ ต่างกันเพียงแค่ว่าฝ่ายหลังนั้นมีชื่อเสียงและมีแฟนเพลงมากมายส่วนเธอกับคังเจี้ยน เอ่อ…นอกจากขายหน้ากับดูไม่เอาไหนแล้ว เธอกับเด็กหนุ่มก็ดูไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง 

 

 

ไม่สิ ไม่ พวกเธอยังมีจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้! เมื่อคิดได้อย่างนั้น กำลังใจของเด็กสาวก็ดีขึ้นเล็กน้อย แต่พอเงยหน้าขึ้นกลับพบว่าเพื่อนนักเรียนหลายคนต่างก็ชี้มือชี้ไม้มาที่เธอ พากันซุบซิบด้วยสายตาตัดสินโทษซึ่งทำให้เธอรู้สึกห่อเ**่ยวเกินจะบรรยาย 

 

 

แต่ทันใดนั้นเอง เด็กสาวก็รู้สึกถึงแววตาพิเศษคู่หนึ่งทอดมาที่เธอ และก็อดหันไปมองไม่ได้ 

 

 

เธอรู้สึกงงงัน 

 

 

ไอดอลระดับชาติในตำนานคนนั้นกำลังจ้องมองตรงมาที่เธอจากบนเวที 

 

 

และจากพื้นข้างล่างนี้ อันซย่าซย่ากำลังยืนอยู่ในจุดที่เด่นสะดุดตาที่สุดเพราะกำลังถูกหัวเราะเยาะใส่ ซึ่งยิ่งทำให้เธออับอายขายหน้าและรู้สึกแย่มากๆ 

 

 

แวบหนึ่งนั้นเอง เธอเห็นชายหนุ่มบนเวทีขยับปากบุ้ยใบ้อะไรสักอย่างกับเธอ 

 

 

“เจอกันอีกแล้วนะ” 

 

 

เด็กสาวใบหน้าร้อนฉ่า เขาจำเธอได้!