“ตูม……”

เป็นอีกหนึ่งฝ่ามือที่พลาด สวีซานเหนียงอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างดุดัน “เจ้าหลบเช่นนี้ นอกจากถ่วงเวลาแล้ว เจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีพ้นหรือ?”

“อย่างน้อยก็รักษาชีวิตตัวเองไว้ได้”

กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะเย้ย

เมื่อหัตถ์โลหิตของสวีซานเนียงซัดเข้ามา คราวนี้นางไม่ถอย แต่กลับก้าวไปข้างหน้า

“ตูม……”

ฝ่ามือทั้งสองปะทะกัน

ร่างของกู้ชูหน่วนลอยออกไปเหมือนว่าวที่เชือกขาด นางกระอักเลือดและอวัยวะภายในปั่นป่วนอย่างรุนแรง

ในทางกลับกัน สวีซานเหนียงไม่ระคายเคืองใด ๆ นางเพียงแค่มองไปที่กู้ชูหน่วนอย่างภาคภูมิใจ

“เจ้าเด็กโสโครก ผู้ที่ถูกหัตถ์โลหิตของข้า ไม่เคยมีใครมีชีวิตรอด”

กู้ชูหน่วนกระอักเลือดออกมา นางกัดฟันและยืนขึ้นอย่างโซซัดโซเซ

นางยังคงเย่อหยิ่ง เกรี้ยวกราดและไม่ยอมแพ้

“งั้นหรือ แต่ข้ากู้ชูหน่วนชอบแหกกฎมาแต่ไหนแต่ไร อีกอย่างหากท่านตายแล้ว ข้าก็ไม่ต้องตาย”

นางนวดนิ้วมือ นางรู้สึกร้อนมากจนเจ็บปวด

ในโลกนี้ หากใครไม่มีกำลังภายในช่างเสียเปรียบจริง ๆ

ทุกคนต่างมองไปที่นางด้วยความประหลาดใจ

หัตถ์โลหิตของสวีซานเหนียงมีพิษ และร้อนมากพอที่จะละลายทุกอย่างได้ หากถูกร่างกาย ไม่ตายก็ต้องพิการ

กู้ชูหน่วนไม่มีกำลังภายใน แต่ทำไมนางถึงยืนหยัดได้จนถึงตอนนี้?

หรือว่าร่างกายของนางมีความลับอะไรซ่อนอยู่?

สวีซานเหนียงกล่าวด้วยความตกใจ “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

“ท่านลองดูฝ่ามือของตนเองสิ”

สวีซานเหนียงก้มลงมองฝ่ามือของตนเอง มีเข็มเงินปักอยู่บนฝ่ามือของนาง และเป็นเข็มเงินที่บางและเล็กมาก มีหมอกสีดำเป็นวงกลมอยู่รอบ ๆ เข็มเงิน และสามารถที่จะดูออกได้ว่าเข็มเงินเล่มนั้นมีพิษร้ายแรง

นางโกรธจัด กำลังภายในของนางควบแน่นและต้องการที่จะฆ่ากู้ชูหน่วน

แต่นางไม่คิดว่าไม่เพียงแต่นางจะไม่สามารถรวบรวมกำลังภายในได้ แต่นางยังรู้สึกเจ็บปวดตั้งแต่แขนไปจนถึงหัวใจ และแทบจะหายใจไม่ออก

เมื่อสวีเจิ้นเห็นเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวอย่างโกรธเคือง “ยาถอนพิษล่ะ เอายาถอนพิษออกมา”

“หากต้องการยาถอนพิษ ไม่ใช่ว่าไม่ได้ แต่ให้บุรุษต่ำช้าผู้นั้นปล่อยเยี่ยเฟิงเดี๋ยวนี้”

กู้ชูหน่วนถูกพวกเขาสามคนล้อมไว้ และเดิมทีไม่สามารถที่จะช่วยเยี่ยได้ สวรรค์รู้ว่านางเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องทนเห็นเยี่ยเฟิงถูกเหยียดหยาม

“เจ้ากล้าด่าเขาว่าต่ำช้า?รนหาที่ตาย?”

“หากท่านฆ่าข้า สวีซานเหนียงก็จะถูกฝังไปพร้อมกับข้าด้วย ข้าเป็นคนวางยาพิษ นอกจากข้าแล้ว ในโลกนี้ไม่มีใครสามารถถอนพิษนี้ได้”

ผู้นำกองธงกล้วยไม้ถูกเรื่องนี้รบกวนใจ เขาจึงปล่อยเยี่ยเฟิง และวางแผนที่จะยุติข้อตกลงกับกู้ชูหน่วน ก่อนที่จะแก้ไขกับเยี่ยเฟิง

เยี่ยเฟิงตัวสั่นสะท้าน เขาหยิบเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งขึ้นมาจากพื้นแล้วพันรอบตัว เพื่อปกปิดความน่าอับอายของเขา

กู้ชูหน่วนถอนหายใจด้วยความโล่งอก

อีกนิดเดียว

อีกนิดเดียวเท่านั้นที่เยี่ยเฟิงถูกข่มเหง

ประมุขวิญญาณมืดและผู้นำกองธงกล้วยไม้มองไปที่พิษของสวีซานเนียง และพยายามถอนพิษให้นาง แต่ก็ไม่สามารถทำได้

สีหน้าของกู้ชูหน่วนซีดเซียวและยืนไม่ค่อยอยู่ แต่ก็ฝืนเหยียดหลังตรงและแสดงท่าทีสงบ

“ปล่อยเยี่ยเฟิงกับท่านยายเยี่ยไป แล้วข้าจะให้ยาถอนพิษกับนาง อีกทั้งยอมไปกับพวกท่าน ว่าอย่างไร?”

“พี่ใหญ่ หญิงผู้นี้เจ้าเล่ห์ ท่านฆ่านางเสียก่อน จะได้ไม่เป็นภัยในภายหลัง ข้าไม่เชื่อว่าใต้หล้านี้ จะไม่มีใครที่สามารถถอนพิษให้ข้าได้”

กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ รอยยิ้มบนใบหน้าของนางดูมั่นใจ

“นอกจากข้าแล้ว ไม่มีใครสามารถถอนพิษให้ท่านได้ และท่านก็มีเวลาอีกเพียงหนึ่งชั่วยามเท่านั้น หากไม่สามารถถอนพิษได้ภายในหนึ่งชั่วยาม ท่านก็รอไปพบพญายมเถอะ”

“เจ้าสามจับตัวนางไว้ ค้นตัวนาง”

“จับตัวข้าไว้ก็ไร้ประโยชน์ ที่ตัวของข้าไม่มียาถอนพิษ พิษชนิดนี้ร้ายแรง ข้าจะพกยาถอนพิษติดตัวมาได้อย่างไร”

ฉ่า…..

ผู้นำกองธงกล้วยไม้ใช้ฝ่ามือข้างขวาดูดร่างของเยี่ยเฟิงที่อยู่ในสภาพน่าอับอายมาที่เขา

“ฉึก……”