ตอนที่ 531 รักอะไรก็รักอย่างนั้นก็ได้
หลินเยียนไม่ได้รอนานมากนัก เผยอวี้เฉิงเลิกทำงานอย่างรวดเร็ว เขาหยิบเสื้อสูทที่พาดยู่บนพนักเก้าอี้แล้วออกจากห้องทำงานพร้อมกับเธอ
ภายในรถสีดำ ทั้งสองนั่งข้างกันอยู่ข้างหลัง กำลังพูดคุยอย่างสบายอารมณ์
“ช่วงนี้ยังราบรื่นดีหรือเปล่า?”
“ราบรื่นมากเลยค่ะ หลังจากคู่ปรับมหากาฬเข้าฉาย ชื่อเสียงของฉันก็ดีขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย คำเชิญให้ไปร่วมงานก็มีมาก ถึงยังไงตอนนี้ฉันก็เป็นศิลปินในสังกัดพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ มีเจเอ็ม คอร์เปอเรชั่นของคุณเผยหนุนหลัง ต่อให้เป็นเคเอส เอนเตอร์เทนเมนต์ก็แบนฉันไม่ได้แน่นอนค่ะ!
เพียงแต่ช่วงนี้ฉันถูกค้นหามากเหลือเกิน พี่หลิงบอกว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะทำให้คนอื่นไม่ชอบเอาได้ ดังนั้นถึงจงใจไม่ให้ฉันรับงานแถลงข่าวชั่วคราว อีกไม่กี่วันก็จะเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการแล้วล่ะค่ะ…”
เผยอวี้เฉิงเอามือรองศีรษะ ตะแคงฟังด้วยท่าทีสงบนิ่ง พูดสำทับประโยคสองประโยคเป็นบางครั้ง เหมือนเรื่องที่หลินเยียนพูดไม่ใช่เรื่องสัพเพเหระที่ไม่สำคัญอะไร แต่กลับสำคัญจนถึงขั้นไม่อาจพลาดแม้แต่คำเดียว
“ช่วงหลายวันนี้เหมือนเธอจะยุ่งมาก” เผยอวี้เฉิงพูด
เมื่อหลินเยียนได้ยินก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที เอ่ยปากพูดด้วยความระแวดระวัง “แค่ก ช่วงนี้ทีมรถแข่งของคุณตาฉันกำลังหาคนอยู่ ดังนั้น…เลยค่อนข้างยุ่งนิดหน่อยน่ะค่ะ…”
“จำเป็นต้องให้ช่วยไหม?” เผยอวี้เฉิงถาม
หลินเยียนกะพริบตาทันที “แค่ก คุณเผย คุณ…เกลียดรถแข่งไม่ใช่เหรอคะ?”
ถึงแม้คราวก่อนเผยอวี้เฉิงจะไปดูเธอแข่งด้วยตัวเอง แต่ท่าทีรังเกียจรถแข่งของเขา เธอก็กระจ่างแจ้งแก่ใจดีเช่นกัน ดังนั้นจึงอดกังวลเล็กน้อยไม่ได้
พอเผยอวี้เฉิงได้ยินกลับไม่ปฏิเสธเช่นกัน “ไม่ชอบจริงๆ ”
จริงด้วย…
หลินเยียนกลืนน้ำลาย ขณะที่กำลังตึงเครียดอยู่นั้น ก็ได้ยินเผยอวี้เฉิงพูดต่อไปทันที “เพียงแต่ รักอะไรก็รักอย่างนั้นก็ได้”
หลินเยียน “…”
เฉิงมั่วที่กำลังขับรถอยู่ข้างหน้า “…”
…
ขณะที่รถขับใกล้จะถึงคฤหาสน์ จู่ๆ เผยอวี้เฉิงก็พูดขึ้นมาว่า “จะลงไปเดินไหม?”
หลินเยียนอึ้งเป็นอย่างแรก จากนั้นก็ผงกศีรษะทันที “ดีสิคะ!”
เฉิงมั่วจอดเลียบถนน จากนั้นก็ลงจากรถมาเปิดประตูเพื่อให้หลินเยียนกับเผยอวี้เฉิงลงจากรถ
ราตรีเงียบสงัด ใต้แสงจันทร์ หลินเยียนกับเผยอวี้เฉิงเดินเคียงบ่าเคียงไหล่อยู่บนทางเดินสายเล็กๆ ใต้ร่มไม้อย่างเชื่องช้า
หลินเยียนสูดอากาศสดชื่นลึกๆ ครั้งหนึ่ง เมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็มองเห็นท้องฟ้าที่ปรากฏระหว่างกิ่งไม้และใบไม้เหนือศีรษะ “โอ้โห ออกมาเดินเล่นตอนกลางคืนที่นี่รู้สึกดีมากเลยนะคะ!”
“อืม” เผยอวี้เฉิงพลางเดินอย่างแช่มช้า พลางเหยียดมืออันกว้างใหญ่ออกไปกุมมือน้อยที่เย็นเฉียบเล็กน้อยของหญิงสาวอย่างเป็นธรรมชาติ
หลินเยียนนิ่งอึ้ง ก้มหน้ามองมือที่กุมมือตัวเองอยู่ สองแก้มเห่อร้อนขึ้นเล็กน้อย
กลางคืนอากาศเย็นเล็กน้อย สายลมเย็นโชยผ่านระลอกหนึ่ง หลินเยียนตัวสั่นโดยอัตโนมัติ
เผยอวี้เฉิงมองหญิงสาว กุมมือหญิงสาวแล้วนำไปไว้ในกระเป๋าเสื้อของตัวเองทันที
หลินเยียนรู้สึกเพียงว่ามือที่เย็นเล็กน้อยพลันถูกความอบอุ่นของเผยอวี้เฉิงห่อหุ้มเอาไว้
ความรู้สึกอุ่นสบายนั้นแผ่ขยายจากฝ่ามือมาจนถึงจิตใจ จากนั้นก็กลายเป็นใจที่เต้นอย่างรุนแรง…
สมองหลินเยียนผุดภาพ ‘หนึ่งร้อยเรื่องที่ควรทำกับแฟนหนุ่มที่คบกัน’ บนอินเทอร์เน็ตโดยไม่รู้ตัว
เธอจำได้ว่าหนึ่งในนั้นก็คือ ‘หน้าหนาวเอามือซุกในกระเป๋าของแฟน’
ตอนนั้นเธอยังรู้สึกว่าโง่เหลือเกิน จะเอามือไปไว้ในกระเป๋าของคนอื่นทำไม หรือเธอจะไม่มีกระเป๋าของตัวเอง?
ตอนนี้กลับรู้สึกว่าบังเกิดปัญญา ตระหนักรู้อย่างรุนแรงขึ้นมาทันที...
เมื่อเผยอวี้เฉิงเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปมาบนใบหน้าของหญิงสาวก็ผุดรอยยิ้มภายในดวงตาที่ยากจะสัมผัสได้แวบหนึ่ง
เพียงแต่รอยยิ้มนั้นกลับเจือจางลงไปอย่างรวดเร็ว
ทางสายนี้ไม่ยาวมากนัก ทั้งสองเดินถึงประตูคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
ขณะที่หลินเยียนกำลังจะเข้าบ้าน เผยอวี้เฉิงกลับยั้งฝีเท้ากะทันหัน
ตอนที่ 532 อยากกลับบ้านพร้อมกับคุณ
“มีอะไรเหรอคะ” หลินเยียนหันกลับไปโดยอัตโนมัติ
“ต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ชั่วคราว ตอนนี้ฉันต้องไปขึ้นเครื่องบินไปที่ประเทศเอ็ม” เผยอวี้เฉิงตอบ
พอหลินเยียนได้ยินก็นิ่งอึ้งทันที “อ๊ะ! คุณต้องรีบไปดูงานนอกสถานที่ที่เมืองนอกงั้นเหรอคะ ถ้ารู้ตั้งแต่แรกฉันกลับมาคนเดียวก็ได้ แบบนั้นคุณจะได้ไปสนามบินเลย! เที่ยวบินกี่โมงคะ ตอนนี้ยังทันรึเปล่า ทำไมคุณถึงไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะคะ!”
มิน่าก่อนหน้านี้เธอถึงเห็นเฉิงมั่วมีท่าทีอ้ำอึ้ง เหมือนจะมีสีหน้าร้อนใจเล็กน้อย!
เผยอวี้เฉิงคลึงนิ้วมืออันอ่อนนุ่มของหญิงสาว เอ่ยปากพูดด้วยราวกับถอนหายใจ “ข้อเสนอของคุณหลินทำให้คนไม่อาจปฏิเสธได้”
หลินเยียน “…”
หา? ข้อเสนอของเธอ?
เธอเสนออะไรไปน่ะ ก็แค่พูดว่ารอเขาทำงานเสร็จแล้วก็กลับบ้านพร้อมกันนี่นา?
จากนั้นเขาก็ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นว่าจะต้องเดินทางอ้อมเพื่อไปสนามบิน ต้องกลับบ้านพร้อมเธอให้ได้?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สองแก้มที่ยังไม่หายร้อนของหลินเยียนก็ร้อนลวกมากกว่าเดิม
“ขอโทษนะ พรุ่งนี้เป็นสุดสัปดาห์ แต่ฉันเกรงว่าจะต้องผิดนัดแล้ว” เผยอวี้เฉิงเอ่ย
หลินเยียนถึงนึกขึ้นมาได้ เหมือนก่อนหน้านี้จิตใต้สำนึกอีกร่างหนึ่งของตัวเองจะเป็นฝ่ายนัดเผยอวี้เฉิงเดตช่วงสุดสัปดาห์โดยพลการ
“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ ถึงยังไงหลังจากนี้ก็ยังมีโอกาสนี่นา พวกเราไปได้ทุกเมื่อค่ะ!” หลินเยียนตอบ
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเยียน ความเย็นชาภายในดวงตาเผยอวี้เฉิงคล้ายจะสลายไปไม่น้อย “ได้”
“งั้นคุณก็รีบไปขึ้นเครื่องบินเถอะค่ะ! อย่าเสียเวลาเลย!” หลินเยียนพูดเร่งเร้า กลัวว่าจะทำให้เผยอวี้เฉิงเสียเวลาเดินทาง
“อืม เข้าไปเถอะ พักผ่อนให้เร็วหน่อย”
“อืมๆ ได้ค่ะ”
หลินเยียนยืนอยู่ที่ประตู ใช้สายตาส่งเผยอวี้เฉิงจากไป
เงาร่างสูงโปร่งที่อ้างว้างเล็กน้อยของชายหนุ่มค่อยหลอมรวมกับราตรีทีละน้อย…
หลินเยียนมองเงาหลังเผยอวี้เฉิง คล้ายจะพูดแต่ไม่ได้พูด
เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน รู้สึกว่าตัวเองควรทำอะไรสักอย่าง…
จวบจนชายหนุ่มเดินถึงข้างรถและเปิดประตู ในที่สุดหลินเยียนก็อดพูดขึ้นมาไม่ได้ “เดี๋ยวก่อนค่ะ…”
จากนั้นเธอก็วิ่งเหยาะๆ ตามไป
เผยอวี้เฉิงเห็นหญิงสาวตามมาก็ยั้งฝีเท้า “มีอะไรเหรอ”
หลินเยียนเกาศีรษะ ลังเลอยู่นาน จากนั้นก็เขย่งเท้าแล้วจุมพิตริมฝีปากเผยอวี้เฉิงอย่างรวดเร็วทันที “มะ…ไม่มีอะไรค่ะ…คุณเดินทางระวังนะคะ…”
เมื่อหญิงสาวพูดจบก็รีบวิ่งหนีไป
ส่วนเผยอวี้เฉิงก็ยืนอึ้งอยู่กับที่ทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความตะลึงงัน
สัมผัสอันอบอุ่นที่กระทบถูกเพียงแวบเดียวแล้วจากไปบริเวณริมฝีปากราวกับภาพแห่งความฝัน ถึงกระนั้นกลับคงอยู่อย่างแท้จริง
ชายหนุ่มมองดูเงาหลังที่วิ่งหนีเข้าไปในบ้านของหญิงสาว ความตะลึงงันภายในดวงตากลายเป็นความมืดมิดที่ปกคลุมฟ้าดิน
ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็ถอนหายใจด้วยความอับจนปัญญา
เขาเป็นคนสงบเยือกเย็นและควบคุมตัวเองได้มาตลอด ไม่มีสิ่งใดที่ส่งผลกระทบต่อการย่างก้าวและการตัดสินใจของเขาได้ ถึงกระนั้นกลับเข้าใจเป็นครั้งแรกว่าเหตุใดในประวัติศาสตร์ถึงมีเจ้าผู้ปกครองที่แสนจะเลอะเลือนตั้งมากมายขนาดนั้น…
ระหว่างทางไปสนามบิน
เผยอวี้เฉิงไม่พูดตลอดทาง ขณะที่กำลังผ่านจอแอลอีดีขนาดยักษ์ของศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง สายตาก็มองเห็นโฆษณาที่กำลังฉายอยู่บนหน้าจอพอดี
“เทศกาลวาเลนไทน์นี้ไปฉลองความโรแมนติกร่วมกับคนข้างๆ ของคุณเถอะ…”
วาเลนไทน์…
เผยอวี้เฉิงพึมพำเบาๆ เสียงต่ำ “พรุ่งนี้เป็นวันวาเลนไทน์?”
เฉิงมั่วซึ่งกำลังขับรถอยู่ด้านหน้าผงกศีรษะ “เอ่อ เหมือนจะใช่นะครับ…”
เผยอวี้เฉิงหรี่ดวงตาทั้งสองข้าง แรงกดอากาศโดยรอบลดต่ำลง
เฉิงมั่วรู้ทันทีว่าตัวเองทำหน้าที่พลาดไปเสียแล้ว จึงรีบพูดด้วยความลนลานทันที “ขอโทษครับประธานเผย ผะ…ผมควรเตือนคุณก่อน…”
ที่สำคัญคือเขาไม่รู้ตัวเลยว่าประธานของตัวเองมีความรักแล้ว จนถึงขั้นลืมเตือนวันสำคัญนี้กับประธาน
จบกัน ประธานคงไม่คิดจะทำตัวเป็นเจ้าผู้ปกครองผู้เลอะเลือน ยกเลิกการเดินทางที่สำคัญขนาดนี้ไปเลยหรอกนะ…