ตอนที่ 200: วิบัติ
ทุกคนในหมู่บ้านที่อยู่ห่างออกไป 100 เมตรต่างก็มองดูเจี้ยนเฉินด้วยความตกใจ
มีเสียงดังกึกก้องห่างออกไป 2-3 กิโลเมตรทั่วทุกที่ ขณะที่เจี้ยนเฉินกระโดดขึ้นไปบนอากาศเหนือพื้น 50 เมตรก่อนที่จะกระแทกกำปั้นของเขาลงที่พื้นและทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ฝุ่นดินฟุ้งกระจายเต็มอากาศ ขณะที่กลุ่มชาวบ้านที่มองเห็นสิ่งนี้ต่างก็พากันอึ้งตะลึงและกำลังทำความเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
อาจจะกล่าวได้ว่ามันก็ไม่ได้พูดเกินจริงที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเช่นนั้น พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่เคยเดินทางไปในทวีปมาก่อน หรือมีความรู้ว่าเซียนเหล่านี้มีความแข็งแกร่งแค่ไหนจึงจะทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ได้ แม้กระทั่งหัวหน้าหมู่บ้านที่เป็นเซียนระดับสูงก็ยังรู้เรื่องภายนอกผ่านทางลมปากเท่านั้น หากการมองเจี้ยนเฉินที่กระโดดขึ้นท้องฟ้าและลงมาต่อยพื้นจนเกิดเป็นหลุมเป็นบ่อเหล่านี้ มันเป็นครั้งแรกที่เขาเห็น
ในขณะนี้ใบหน้าของชาวบ้านแต่ละคนต่างก็แสดงความตกใจอย่างมาก พร้อมกับชื่นชมอีกด้วย เห็นความเคารพนับถือในดวงตาของพวกเขาปะปนกับการไม่อยากจะเชื่อในทีแรก
แม้ว่าพวกเขาจะเห็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวเหล่านี้ด้วยดวงตาของพวกเขาเอง พวกเขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็น เด็กคนนี้อายุน่าจะไม่เกิน 20 ปี แต่กลับมีพลังทำลายล้างสูงถึงเพียงนี้
เมื่อรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของพลังเซียนทำให้หัวใจของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างมาก ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบันแม้ว่าจะยังไม่เพียงพอที่จะป้องกันตัวเองกับเซียนปฐพี แต่กับกลุ่มเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษที่มักจะต้องทำให้เขาหลบหนีตลอดเวลาและไม่อาจใช้จิตวิญญาณกระบี่เป็นไพ่ตายสุดท้ายของเขา
เจี้ยนเฉินมองกระบี่วายุโปรยในมือขวาของเขา หลังจากที่เขาทะลวงขึ้นมาเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ตัวเขาก็สามารถบอกได้เช่นกันว่ากระบี่วายุโปรยของเขาก็มีความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน กระบี่ของเขาในตอนนี้ดูเหมือนจะเงางามกว่าแต่ก่อน ใบมีดของมันสามารถส่องสะท้อนได้ราวกับกระจกและมีแสงประกายสีขาวที่พร่างพราว ประกายแสงของมันดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่น่าทึ่งนักในตอนแรก แต่ประกายแสงเหล่านี้สามารถตัดหิน ฟันเหล็กได้ด้วยพลังที่ไม่อาจจินตนาการได้
นอกจากนี้ความแข็งแกร่งของกระบี่วายุโปรยยังได้รับการพัฒนาขึ้นมามากมายเช่นกัน เจี้ยนเฉินมั่นใจว่าพลังของเขานั้นแตกต่างจากตอนที่เขาเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญ ใครก็ตามที่ต้องการทำลายกระบี่ที่กว้าง 2 นิ้วของเขาเล่มนี้จะต้องพบว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะทำเช่นนั้น
เจี้ยนเฉินมองดูรอบ ๆ ตัวเขาและเห็นห้องที่เสียหายยับเยิน เขามีใบหน้าที่ขมขื่นขณะที่เขาเดินไปหารอสโก้ซึ่งอยู่ห่างออกไป 100 เมตรช้า ๆ และพูดด้วยความเสียใจว่า ท่านลุง ข้าเสียใจจริง ๆ ที่ข้าทำลายห้องของท่าน
แม้ว่ารอสโก้จะแอบตกใจอย่างมากกับพลังของเจี้ยนเฉิน แต่เขาก็เป็นทหารรับจ้างที่มีประสบการณ์ ดังนั้นเขาจึงสามารถยับยั้งอารมณ์ของเขาได้อย่างรวดเร็ว เขาตบไหล่เจี้ยนเฉินและหัวเราะ ไม่ต้องห่วงหรอก มันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าห้องพักเท่านั้น สิ่งที่เราต้องการคือเวลาและมันก็สามารถสร้างใหม่ได้ เจ้าหนุ่ม ข้าได้มองพลาดอย่างมากตอนนี้ ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่ยังเยาว์ ข้าตกใจจริง ๆ รอสโก้พูดด้วยน้ำเสียงอันตื่นเต้นของเขา
ฮ่าฮ่า น้องเจี้ยนเฉินไม่ต้องสุภาพเกินไปนัก มันเป็นแค่ห้องเล็ก ๆ เราสามารถสร้างมันใหม่ได้ภายใน 3 ชั่วยามหรือน้อยกว่า แต่พลังของน้องเจี้ยนเฉินทำให้พวกเราได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ ทุกคนไม่คิดเช่นนั้นหรือ ? หัวหน้าหมู่บ้านหัวเราะด้วยความดีใจ
ใช่ ถูกต้อง..
ทุกคนที่อยู่ด้านหลังหัวหน้าหมู่บ้านขานรับและพูดด้วยความเคารพและนับถือ
ไอ๊หยา ในเวลานั้นหัวหน้าหมู่บ้านก็ร้องตกอกตกใจก่อนที่จะมองไปที่ใบหน้าเจี้ยนเฉินใกล้ ๆ และถามอย่างอยากรู้อยากเห็นว่า น้องเจี้ยนเฉิน ทำไมใบหน้าของเจ้าถึงเป็นสีขาว? ข้าจำได้ว่าไม่กี่วันก่อนใบหน้าของเจ้ายังเป็นสีแดงอยู่เลย
รอสโก้รีบตอบคำถามอย่างรวดเร็วว่า ฮ่าฮ่า หัวหน้าหมู่บ้าน ใบหน้าของเจี้ยนเฉินเป็นสีขาวมาตลอด ไม่กี่วันก่อนเขาได้ใช้ยาบางอย่างทำให้ร่างกายและใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง
หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้าเข้าใจก่อนที่จะหัวเราะ นั่นก็ดี ดีแล้ว หน้าขาว ๆ ก็ยังดีกว่าหน้าแดง ๆ นั่น ข้าไม่คิดว่าน้องเจี้ยนเฉินของเราจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่เพียงเท่านั้นเจ้ายังรูปงามมากด้วยเช่นกัน ด้วยรูปโฉมเช่นนี้ เจ้าสามารถทำให้หญิงสาวนางใดก็ตามที่อยู่ใกล้กับเจ้า คลั่งไคล้เจ้าได้เลย
ทุกคนต่างหัวเราะขณะที่ทุกคนต่างพากันเห็นด้วยกับคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านอย่างไม่ต้องสงสัย
เจี้ยนเฉินยิ้มเล็กน้อย คำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านทำให้เขาพูดไม่ออก
ทันใดนั้นในเวลาเดียวกัน ใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็กลายเป็นปั้นยากหลังจากที่เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาก็เริ่มสั่นอย่างรุนแรง เนื่องจากพลังงานจำนวนมากระเบิดออกมาจากร่างกายของเขาอย่างไม่อาจควบคุมได้ เขาเดินโซเซไปไม่กี่ก้าวจากนั้นเขาก็กระโดดออกไปอีกหลายเมตร
ในเวลาเดียวกันใบหน้าที่หล่อเหลาของเจี้ยนเฉินที่เป็นสีขาวซีดก็กลายมาเป็นสีม่วงและสีฟ้า แม้กระทั่งดวงตาของเขาก็เริ่มแผ่แสงบาง ๆ ออกมาจากม่านตา
รอสโก้ถูกผลักให้ถอยหลังออกไปกว่า 20 เมตรจากพลังงานที่เจี้ยนเฉินปล่อยออกมา ก่อนที่ตัวเขาจะตั้งหลักได้ เขาหันมามองเจี้ยนเฉินและเขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าตัวของเขานั้นอยู่ในสภาพใด เขารีบถามออกไปอย่างกังวลว่า เจ้าหนุ่ม เกิดอะไรขึ้น?
ร่างกายของเจี้ยนเฉินสั่นสะท้านขณะที่ดวงตาของเขาก็แผ่แสงสีม่วงและสีฟ้าสลับไปมา
ถะ-ถอย…ถอย อะ-ออกไป! ทะ-ทุกคน…ถอยอะ-ออกไปจากข้า…ยะ-อย่าเข้ามาใกล้…! เจี้ยนเฉินตะคอกออกมาก่อนที่จะนั่งขัดสมาธิและหลับตา
เกิดอะไรขึ้น? มีอะไรเกิดขึ้นกับน้องเจี้ยนเฉินงั้นหรอ ? การบ่มเพาะของเขาประสบปัญหาใช่หรือไม่?
เกิดอะไรขึ้นกับน้องเจี้ยนเฉินงั้นหรือ ?
กลุ่มชาวบ้านต่างก็ถามคำถามออกมาและมองไปที่เจี้ยนเฉินที่นั่งอยู่ด้วยความสับสน
ใบหน้าของรอสโก้ก็สับสนด้วยเช่นกัน เขาเคยเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญก่อนที่อาวุธเซียนของเขาจะพังและทำให้เขากลายเป็นคนพิการ แต่หลังจากที่ได้เห็นสภาพของเจี้ยนเฉิน เขาก็ตระหนักได้แล้วว่าอาจจะมีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับการบ่มเพาะของเจี้ยนเฉิน
ถอยออกมา พวกเราถอยออกมาก่อน จนกว่าเจ้าหนุ่มจะลืมตา เราควรจะอยู่เงียบ ๆ ตอนนี้ เราต้องไม่ไปรบกวนเขา รอสโก้กระซิบกับคนที่เหลือก่อนที่จะพากันถอยออกไป