ตอนที่ 900 การตบหน้าครั้งใหญ่

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ในขณะเดียวกันโจวชิงเริ่มเข้าถ่ายทำที่กองถ่ายของอีกรายการหนึ่งอย่างลับๆ และตกลงเซ็นสัญญาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเขามีเงื่อนไขคือเขาต้องการให้ซย่าหันโม่เป็นพิธีกรร่วมด้วย

 

 

อีกฝ่ายจึงยอมรับเงื่อนไขอย่างยินดี

 

 

 

 

แม้ว่าลูกชายของผู้จัดการสถานีจะไม่ได้คิดตื้นๆ แต่เขายังคงมีพ่อของตัวเองหนุนหลังอยู่ เพื่อแย่งตำแหน่งและกำจัดโจวชิงไปอย่างง่ายดาย ผู้จัดการสถานีต้องมีความสามารถและรู้วิธีอย่างแน่นอน

 

 

ดังนั้นชายแก่จึงวางแผนเปิดตัวรายการของลูกชายตัวเอง ด้วยเหตุนี้ในตัวอย่างรายการตอนใหม่ล่าสุด ผู้จัดการจึงเอาใจเหล่าเด็กวัยเรียนโดยการเชิญนักแสดงวัยรุ่นชื่อดังทั้งหญิงและชายมาเป็นแขกรับเชิญ และตั้งใจตัดต่อให้ผู้ชมเห็น

 

 

ไม่นาน การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ ก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ถึงอย่างไรต่อให้แฟนๆ จะไม่ชอบรายการแต่พวกเขาก็ยังต้องการสนับสนุนศิลปินที่พวกเขารัก

 

 

ชายสูงวัยกำลังพิสูจน์ว่า การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ สามารถคงความเป็นตำนานไว้ได้แม้ไม่มีโจวชิง

 

 

ทว่าอีกปัญหาที่เขากังวลก็คือโจวชิงไม่ได้ปรากฏตัวเพื่อขัดขวางใครที่สถานี หากแต่จริงๆ แล้วเขากลับโต้กลับมากกว่านั้น

 

 

ถังหนิงเห็นสิ่งที่เขาทำและรู้ว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ อย่างน้อยเขาก็ดีกว่าลูกชายไร้สมองของตัวเอง

 

 

หากแต่สิ่งที่เขากำลังทำแทบจะเป็นการฆ่าห่านที่ออกไข่ทองคำ

 

 

โจวชิงเป็นคนรู้คุณคน อย่างน้อยตลอดหลายปีที่เขาอยู่ภายใต้สังกัดของสถานี เขาไม่เคยคิดอย่างอื่นนอกจากทำรายการให้ดี อย่างไรก็ตามผู้จัดการกลับหวาดระแวงเกินไป และทนไม่ได้ที่โจวชิงจะได้รับความนับหน้าถือตามากขึ้น เขาจึงตัดสินใจยกรายการให้ลูกชายที่อนาคตมืดมนของเขา

 

 

แต่ลูกชายของเขาจะรักษาบทบาทไว้ได้หรือเปล่าคงขึ้นอยู่กับกระแสตอบรับในครั้งแรกนี้

 

 

ผลที่ออกมามันไม่ได้เลวร้ายนัก…

 

 

ในเวลาเดียวกัน มีรายการทอล์กโชว์จากทางช่องโทรทัศน์อื่นที่เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของ การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ ที่ใช้ชื่อว่า ผมมีข่าวใหญ่มาบอก โดยในทุกตอนจะมีการนำหัวข้อที่กำลังเป็นประเด็นมาพูดคุยพร้อมทั้งความคิดเห็นมากมายจากเหล่าคนดัง แต่เป็นเพราะโจวชิงรายการนี้จึงตกเป็นรองมานาน

 

 

ดังนั้นบางคนจึงเริ่มสงสัยว่า การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ จะยังรั้งตำแหน่งเหนือกว่าโดยที่ไม่มีโจวชิงอยู่ได้หรือไม่

 

 

คำตอบถูกเผยออกมาหลังจากรายการตอนล่าสุด หากแต่ดูจากสถิติแล้ว เรตติ้งของ การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ ยังจำเป็นต้องสูงขึ้นกว่านี้อีกสักหน่อย

 

 

ถึงรายการจะไม่อาจเทียบได้กับในยามที่มีโจวชิง การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ ก็ยังคงได้ประโยชน์ไปอยู่ดี

 

 

น่าเสียดายที่ถังหนิงไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาหนีรอดไปได้

 

 

ผมมีข่าวใหญ่มาบอก ได้เชิญแขกรับเชิญปริศนาออกมาระหว่างที่ทุกรายการกำลังฉายด้วยหัวข้อที่เป็นที่ถกเถียงกัน ดังนั้นในช่วงเวลาที่มียอดเข้าชมสูง ผู้ชมที่กำลังดู การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ จึงเปลี่ยนช่องไป

 

 

เพราะแขกรับเชิญที่มาถึงรายการไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากโจวชิง!

 

 

ผู้ชมต่างตกตะลึง! โจวชิงเข้าสังกัดช่องคู่แข่งจริงๆ

 

 

พวกเขากลับยินดีที่ได้เห็นเช่นนี้อย่างบอกไม่ถูก

 

 

ในครั้งนี้ ผมมีข่าวมาบอก ปิดรายการด้วยเรตติ้งผู้เข้าชมสูงสุดเป็นประวัติการณ์แซงหน้า การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ ไป!

 

 

ด้วยเหตุนี้คนบนโลกออนไลน์ถึงกับสติแตกไปเช่นกัน

 

 

“อะไรกันเนี่ย นี่มันบ้าไปแล้ว! โจวชิงเข้าร่วมสังกัดช่องคู่แข่ง!”

 

 

“นี่เป็นการตบหน้าครั้งใหญ่เลยนะ โจวชิงใจกล้าสุดๆ ไปเลย! แม้แต่ฉันยังอึ้ง”

 

 

“โจวชิงใช้ตัวเลขนี้สั่งสอนบทเรียนให้กับ การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ สินะ”

 

 

“ให้ตายเถอะ ฉันให้คะแนนเต็มกับการตอกกลับครั้งนี้เลย”

 

 

สุดท้ายลูกชายของผู้จัดการก็พ่ายแพ้ไปอย่างราบคาบ

 

 

วันถัดมา ข่าวเรื่องเรตติ้งรายการแพร่สะพัดไปทั่วปักกิ่ง และเปิดเผยว่าโจวชิงเซ็นสัญญากับรายการคู่แข่งของ การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ อีกด้วย

 

 

หลังจากผู้จัดการสถานีสูงวัยเห็นเรตติ้งของ การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ ตอนล่าสุด เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาประมาทเกินไปที่ไปเชื่อใจลูกชายไร้ประโยชน์ของตัวเอง

 

 

ตอนนี้โจวชิงไปทำงานให้กับฝ่ายตรงข้ามแล้ว มันเหมือนการมอบปีกให้กับเสือ หากโจวชิงตัดสินใจเป็นพิธีกรมากกว่าหนึ่งรายการในคราวเดียว ไม่เพียงแต่ การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ จะไม่อาจอยู่รอดได้ แต่รายการอื่นๆ ก็เช่นกัน

 

 

เขาแพ้พนันไปเสียแล้ว…

 

 

ลูกชายของเขากลับไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ สุดท้ายจึงใช้เรื่องที่โจวชิงมีประสบการณ์มากกว่าเขาเป็นข้ออ้าง

 

 

“โชคดีที่ฉันไม่ได้ทำกับเขาไว้เลวร้ายนัก”

 

 

“ป๊า คิดมากไปหรือเปล่าครับ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องผ่านช่วงปรับตัวทั้งนั้นแหละ พ่อไม่ได้เตรียมใจเรื่องนี้ไว้เหรอครับ” ชายหนุ่มว่าเย้ยขึ้น “พ่อขี้ขลาดจนกลัวเรื่องเล็กน้อยแบบนี้เลยเหรอครับ”

 

 

หากแต่โจวชิงกำชัยชนะเอาไว้อยู่หมัดด้วยการตอบรับตำแหน่งพิธีกรของรายการใหม่ที่ชื่อว่า คืนค่ำยามสองทุ่ม รายการที่เขาจะได้เข้าร่วมทำภารกิจชวนขำกับเหล่าคนดังในเวลาสองทุ่ม

 

 

ซย่าหันโม่นึกไม่ถึงว่าเขาจะก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วขนาดนี้

 

 

หลังอ่านข่าวจบ เธอรู้สึกเหมือนหลับไปแล้วตื่นมาพบกับโลกอีกใบ

 

 

ไม่นานหลังจากนั้น เธอได้รับสายจากโจวชิง “ออกมาสิ ฉันจะพาเธอไปเซ็นสัญญา”

 

 

“หือ”

 

 

“เธอไม่อยากเป็นพิธีกรร่วมของฉันเหรอ”

 

 

ตอนนั้นเองที่เธอรู้ตัวว่าทั้งถังหนิงและโจวชิงได้วางแผนทั้งหมดเอาไว้และทุกอย่างก็ตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกเขา แน่นอนว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น พิธีกรรายการ ผมมีข่าวใหญ่มาบอก ก็ยังเชิญโจวชิงไปทานมื้อเย็นด้วย

 

 

ถึงอย่างไรโจวชิงก็ช่วยให้เขาโด่งดังขึ้นมา ถึงมันจะเป็นการทำลายสิ่งที่ตัวเขาเองสร้างมาก็ตาม

 

 

ในเวลานี้เองที่ถังหนิงเปิดเผยเหตุผลว่าทำไมซย่าหันโม่ถึงตบหน้าลูกชายของผู้จัดการสถานี

 

 

“ตลอดหลายปี โจวชิงทุ่มเทเพื่อทำให้ การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ มาจนถึงจุดนี้ แต่สถานีโทรทัศน์บางแห่งกลับตัดสินใจทอดทิ้งผู้มีบุญคุณของตัวเองและเอาญาติของตัวเองมาแทนที่ โจวชิงถึงได้ถูกกำจัดทิ้ง…

 

 

…อย่างที่ทุกคนทราบกันว่าหันโม่เป็นคนใจร้อน ดังนั้นทันทีที่เธอรู้ว่าหัวหน้าปฏิบัติกับลูกน้องที่จงรักภักดียังไง เธอก็อดไม่ได้ที่จะยืนหยัดเพื่อเขา เราถึงได้เห็นรูปที่ลูกชายของผู้จัดการสถานีโทรทัศน์ปล่อยออกมา…

 

 

…ด้วยความสัมพันธ์ฉันท์อาจารย์กับลูกศิษย์ของโจวชิงและซย่าหันโม่ ฉันตัดสินใจช่วยพวกเขา และหวังว่าพวกเขาจะร่วมงานกันได้อย่างดีในรายการใหม่ของพวกเขาค่ะ”

 

 

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถังหนิงออกมาพูดความจริง ผู้คนจึงไม่ได้แปลกใจกับการปรากฏตัวของเธอนัก

 

 

อีกอย่างใครๆ ก็ยอมรับคำพูดของเธอเพราะพวกเขารู้สึกว่าเธอเป็นคนน่าเชื่อถือ

 

 

ด้วยเหตุนี้ซย่าหันโม่และโจวชิงจึงได้รับการสนับสนุนจากแฟนๆ

 

 

“รายการใหม่ยังไม่ทันเริ่มถ่ายทำ แต่ซย่าหันโม่ก็ได้รับการติดต่องานโฆษณามาแล้วนะคะ” หลินเฉี่ยนเอ่ยพลางส่งรายละเอียดงานโฆษณาคร่าวๆ ให้ถังหนิง “เราควรรับไหมคะ”

 

 

“ยังไม่ถึงเวลาสำหรับเธอที่จะรับงานโฆษณาหรอก ตอนนี้เธอควรทุ่มเทให้กับการถ่ายทำรายการใหม่”

 

 

ถังหนิงพูดเช่นนี้เพราะเธอมักมองการณ์ไกลให้กับศิลปินของตัวเองเสมอ

 

 

“เข้าใจแล้วค่ะ” หลินเฉี่ยนพยักหน้ารับ

 

 

“อีกอย่าง ระหว่างเธอกับนายทหารของเธอเป็นถึงไหนกันแล้วล่ะ” ถังหนิงถามหลังจากคุยธุระเรื่องงานเสร็จ

 

 

“ทำไมอยู่ๆ ถามเรื่องฉันขึ้นมาละคะ” ใบหน้าของหลินเฉี่ยนขึ้นสีแดงระเรื่อ “คุณน่าจะเป็นห่วงว่าประธานโม่เป็นยังไงที่กองถ่ายมากกว่านะคะ”