เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1010 ไม่สามารถต้านทาน

แปลโดย iPAT

 

มือภูตผียื่นออกมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตและความตายมีขนาดใหญ่โตเท่ากับภูเขา

 

แขนของมันยื่นออกมาได้ไม่เต็มที่และติดอยู่ที่ประตูทางเข้าออก

 

กลิ่นอายระดับเก้าปะทุออกไปทุกทิศทุกทาง

 

กลุ่มของฟางหยวนเร่งล่าถอยออกไป

 

ภายใต้พลังอำนาจระดับเก้า พวกเขารู้สึกราวกับหายใจไม่ออก

 

เมื่อมองไปที่มือยักษ์อีกครั้ง มันเหมือนเหวลึกอันมืดมิด

 

“นี่คืออสูรวิญญาณชนิดใด? กลิ่นอายของมันช่างน่ากลัวนัก อสูรวิญญาณทั่วไปไม่สามารถเปรียบเทียบกับสิ่งนี้! เป็นไปได้หรือไม่ว่าโลกนี้จะมีอสูรวิญญาณระดับเก้า!?” ไห่ลั่วหลันอุทานออกมาด้วยความตกใจ

 

นางยังไม่ตระหนักถึงตัวตนที่แท้จริงของมือภูตผี

 

“เป็นไปไม่ได้!” ใบหน้าของเทพธิดาหลี่ซานยิ่งซีดขาวกว่าก่อนหน้า นางกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกใบนี้มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่สามารถบรรลุระดับเก้า นั่นเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่ามนุษย์คือจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด”

 

เมื่อดวงวิญญาณออกจากร่าง พวกมันจะอยู่ในสภาพที่อ่อนแอมาก

 

แต่มือของเทพปีศาจจิตวิญญาณกลับแข็งแกร่งราวกับหินผา

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาลึกซึ้งเกินกว่าจิตนาการของผู้คน

 

‘เทพปีศาจ…เทพปีศาจจิตวิญญาณ…’ มองไปที่มือยักษ์ ฟางหยวนรู้สึกปากแห้ง

 

เขารู้ที่มาของมือข้างนี้

 

นี่เป็นเพราะเขาได้รับข้อมูลลึกลับจากบทเพลงของเทพอมตะกลุ่มดาวเมื่อถูกส่งเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันก่อนหน้านี้

 

“บทเพลงที่ล้มเหลวและวีรบุรุษที่สิ้นหวัง ความยากลำบากในการต่อต้านโชคชะตา”

 

“ดาบที่จมอยู่ใต้พื้นทรายทะยานขึ้นจากห้วงอดีตสร้างเสียงครวญครางไปทั่วน้ำตกสวรรค์”

 

“อนิจจา…”

 

“ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวนำวิญญาณสู่ความฝัน แล้วผู้ใดจะสามารถพักผ่อนอย่างสงบ?”

 

“ร่างกายและจิตใจอาจเปลี่ยนผัน แต่เจตจำนงสวรรค์ยังยิ่งใหญ่และไร้ขอบเขต”

 

ข้อมูลลึกลับถูกส่งเข้าสู่จิตใจของฟางหยวนด้วยบทเพลงลึกลับดังกล่าว

 

“ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวนำวิญญาณสู่ความฝัน แล้วผู้ใดจะสามารถพักผ่อนอย่างสงบ?” ประโยคนี้กล่าวถึงตัวตนที่แท้จริงของมือภูตผีและทำให้ฟางหยวนได้รู้ว่าเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่เบื้องหลังนิกายเงา

 

เมื่อฟางหยวนรู้เรื่องนี้ เขาตกใจมาก ด้วยการเตรียมใจมาก่อนหน้า ฟางหยวนจึงสามารถสงบจิตใจได้อย่างรวดเร็ว

 

ทุกชีวิตต้องตาย

 

นี่คือกฏของโลกที่ทุกคนเข้าใจดี กระทั่งผู้อมตะระดับเก้าก็ไม่สามารถหลบหนีจากชะตากรรมนี้

 

แล้วดวงวิญญาณของผู้อมตะระดับเก้าเหล่านี้จะเป็นอย่างไรหลังจากความตาย?

 

มีคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ในตำนานมนุษย์คนแรก

 

หลังจากหยางเมิ้งตาย ดวงวิญญาณของเขาเดินทางเข้าสู่ประตูแห่งชีวิตและความตายและได้พบกับวิญญาณอมตะความเที่ยงธรรมที่นั่น

 

บนถนนแห่งชีวิตและความตายเต็มไปด้วยวิญญาณทุกข์ทรมานและสามอุปสรรคสำคัญคือภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และแม่น้ำหวนคืน

 

ฟางหยวนไม่รู้ที่ตั้งของแม่น้ำหวนคืน แต่ภูเขาตงฮันกับหุบเขาเหล่าโปอยู่ในมือของเขา

 

นั่นทำให้เขาอนุมานว่าแม่น้ำหวนคืนไม่ได้อยู่บนถนนแห่งชีวิตและความตายเช่นกัน

 

เมื่อปราศจากอุปสรรคทั้งสาม มันไม่ใช่เรื่องยากที่ดวงวิญญาณจะหวนกลับมายังโลกของสิ่งมีชีวิต

 

นี่หมายความว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้หากดวงวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณจะหวนกลับมา

 

แต่ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นด้านหลังประตูแห่งชีวิตและความตาย ความจริงก็คือดวงวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณได้ปรากฏขึ้นแล้ว

 

‘ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของเทพปีศาจจิตวิญญาณจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดนิกายเงาจึงทรงพลังถึงเพียงนี้ สมาชิกนิกายเงาไม่เกรงกลัวต่อความตายเพราะพวกเขารู้วิธีกู้คืนชีวิตเช่นนั้นหรือ? แต่เทพปีศาจจิตวิญญาณต้องการสิ่งใด? เขาทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาโดยไม่สนใจความสูญเสีย เขากำลังหลอมรวมสิ่งใดกันแน่?’

 

ความสงสัยในใจของฟางหยวนทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกราวกับมีชั้นเมฆหมอกหนาทึบปกคลุมอยู่รอบตัวเขา

 

“เทพปีศาจจิตวิญญาณ…ในที่สุดเจ้าก็ไม่สามารถทนได้!” ในหอคอยดวงตาสวรรค์ เจ้าวังสูดหายใจลึก

 

ด้วยความช่วยเหลือจากหอคอยดวงตาสวรรค์ เจ้าวังอนุมานถึงตัวตนของเทพปีศาจจิตวิญญาณเอาไว้แล้ว

 

ดวงตาคู่ที่เต็มไปด้วยเจตนาสังหารบนหอคอยดวงตาสวรรค์เมื่อครั้งนั้นก็คือเทพปีศาจจิตวิญญาณ!

 

เมื่อรู้ว่าเทพปีศาจจิตวิญญาณพยายามต่อต้านสวรรค์ด้วยการฟื้นคืนสู่ชีวิตและหลบหนีจากโชคชะตา เจ้าวังตกใจมากและเร่งระดมผู้อมตะของวังสวรรค์เพื่อหยุดยั้งแผนการของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ทุกสิ่งต้องผ่านชีวิตและความตาย นี่คือกฎที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

 

เมื่อเทพปีศาจจิตวิญญาณวางแผนฟื้นคืนสู่ชีวิต ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือการละเมิดชะตากรรมและเจตจำนงแห่งสวรรค์

 

นี่อาจเป็นสาเหตุที่วิญญาณโชคชะตาไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์จนถึงตอนนี้

 

หากเทพปีศาจจิตวิญญาณที่โหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ฟื้นคืน โลกจะกลับสู่ยุคมืดและเต็มไปด้วยการเข่นฆ่า เมื่อเวลานั้นมาถึง วังสวรรค์อาจจะไม่สามารถแม้แต่ปกป้องตนเอง

 

นั่นเป็นเหตุผลที่วังสวรรค์เข้าสู่การต่อสู้ครั้งนี้โดยไม่สนค่าใช้จ่าย พวกเขากระทั่งนำคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้าหอคอยดวงตาสวรรค์เข้าสู่สนามรบพร้อมกับกองทัพผู้อมตะของวังสวรรค์

 

“เทพปีศาจจิตวิญญาณ…ระดับเก้า…”

 

“ต้องกลัวงั้นหรือ? เขาตายไปแล้ว เขาต้องซ่อนตัวอยู่หลังประตูแห่งชีวิตและความตาย เขาไม่ใช่ผู้อมตะระดับเก้าอีกต่อไป!”

 

“ถูกต้อง ทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงความอ่อนแอของเขา หากเขามีความแข็งแกร่งเช่นในอดีต เหตุใดเขาต้องก่อตั้งนิกายเงาและสร้างร่างแยกมากมายเช่นนี้? เหตุใดเขาต้องวางแผนเหล่านี้?”

 

“ในความคิดเห็นของข้า เขาเป็นเพียงดวงวิญญาณดวงหนึ่งเท่านั้น นี่ไม่ใช่เทพปีศาจจิตวิญญาณ!”

 

สมาชิกวังสวรรค์ปลุกขวัญกำลังใจของกันและกันเพื่อขับไล่ความหวาดกลัวออกไปจากหัวใจของพวกเขา

 

เผชิญหน้ากับผู้อมตะระดับเก้า กระทั่งผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์ยังรู้สึกกังวล

 

“ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาเป็นจุดอ่อนของเขา เราต้องหยุดมือภูตผีก่อนจะรวบรวมความแข็งแกร่งทำลายค่ายกลวิญญาณ!” ไป่เฉินเทียนตะโกน

 

“พูดได้ดี!” ผู้อมตะวังสวรรค์พยักหน้า จากนั้นสมาชิกบางส่วนก็เริ่มบินออกจากหอคอยดวงตาสวรรค์

 

หอคอยดวงตาสวรรค์เริ่มปลดปล่อยแสงสีขาวออกมา

 

ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝัน!

 

แต่อิงอู๋เซี่ยยังใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขาอีกครั้ง

 

หนึ่งทักษะปกครองโลก!

 

“บัดซบ!” เจ้าวังสวรรค์โกรธมาก เขาถูกนำเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันเป็นครั้งที่สองและไม่สามารถปลดปล่อยตนเองได้โดยง่าย

 

ความพยายามของนิกายเงาตลอดระยะเวลาที่ยาวนานในการสร้างอิงอู๋เซี่ย ตอนนี้ผลงานของพวกเขาแสดงผลลัพธ์ที่โดดเด่นออกมาแล้ว กระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้าก็ยังถูกหยุดโดยอิงอู๋เซี่ย

 

แม้บางคนจะเข้าควบคุมหอคอยดวงตาสวรรค์แทนเจ้าวัง แต่พวกเขาก็จะถูกส่งเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันเช่นกัน

 

“ฮืม พวกเจ้าคิดว่าวังสวรรค์มีเพียงหอคอยดวงตาสวรรค์เช่นนั้นหรือ?”

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะที่บินออกมาจากหอคอยดวงตาสวรรค์นำคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังที่สองออกมา

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด วังร้อยไหม!

 

มันเป็นวังหยกขนาดเล็กที่วิจิตรงดงาม อย่างไรก็ตามคนผู้หนึ่งสามารถมองเห็นรอยแตกร้าวของมันได้อย่างชัดเจน

 

แม้มันจะเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด แต่มันก็เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

 

“วังสวรรค์มีเพียงของโบราณเช่นนี้งั้นหรือ? เป็นเรื่องน่าอายที่พวกเจ้ายังเก็บสิ่งของที่ถูกทำลายโดยเทพปีศาจคลั่งเอาไว้และยังนำมันออกมาในเวลานี้เพื่อทำให้พวกเจ้าดูโง่เขลามากขึ้น!” โป้ชิงเย้ยหยันขณะยกมือขึ้นเหนือศีรษะ

 

เขาเตรียมใช้ท่าไม้ตายอมตะดาบห้าดัชนี

 

วังร้อยไหมสั่นสะท้านขึ้นขณะรวบรวมพลัง จากนั้นเข็มแสงเจ็ดเล่มจึงถูกยิงออกไป

 

เข็มแสงพุ่งเข้าโจมตีมือภูตผี พวกมันแทงทะลุมือภูตผีและปักลงบนพื้น

 

มือภูตผีพยายามเคลื่อนไหวแต่ไม่สามารถขยับเขยื้อน

 

เข็มแสงทั้งเจ็ดราวกับร้อยเส้นด้ายที่มองไม่เห็นเอาไว้และตรึงมือภูตผีให้อยู่กับที่

 

“วังร้อยไหมอาจเป็นเพียงคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด แต่หลังจากศิษย์ของเทพอมตะแรกกำเนิด เทพอมตะกลุ่มดาวกำลังจะหมั้นหมาย เขาจึงได้จัดเตรียมสิ่งนี้ไว้เพื่อเป็นสินสอด ในอดีตเมื่อเทพปีศาจคลั่งโจมตีวังสวรรค์ เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากการโจมตีนี้และต้องหลั่งเลือดเพื่อปลดปล่อยตนเองจากมัน” ภายในวังร้อยไหม ผู้อมตะวังสวรรค์หัวเราะ

 

มือภูตผีถูกผนึกไว้ด้วยด้ายเย็บผ้าที่เกิดจากพลังงานแห่งเต๋า

 

หากเทพปีศาจจิตวิญญาณต้องการยกมือของเขาขึ้น เขาอาจต้องยกพื้นดินทั้งหมดของภาคใต้!

 

บางทีอาจมีเพียงเทพปีศาจคลั่งที่มีความสามารถชนิดนี้

 

แต่เทพปีศาจจิตวิญญาณในตอนนี้ไม่สามารถบรรลุมาตรฐานดังกล่าว

 

หลังจากทั้งหมดรากฐานของวังสวรรค์ไม่สามารถดูแคลน

 

แม้ต้องเผชิญหน้ากับเทพปีศาจจิตวิญญาณ พวกเขาก็มีวิธีที่สามารถรับมือ

 

เมื่อเห็นมือภูตผีถูกตรึงไว้กับพื้น ช่วยไม่ได้ที่ไห่ลั่วหลัน ไท่เป่ยหยุนเฉิง และคนอื่นๆจะจ้องมองด้วยความตกตะลึง

 

ด้านนิกายเงา พวกเขาแสดงออกด้วยความกังวล

 

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมามือภูตผีกลับละลายกลายเป็นแอ่งน้ำ

 

ของเหลวสีดำไหลออกมาจากประตูแห่งชีวิตและความตาย นี่ทำให้ภูเขารอบๆจมลงไปใต้ทะเลสาบสีดำอย่างรวดเร็ว

 

ฟางหยวนและคนอื่นๆบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

วินาทีต่อมาทะเลสาบสีดำพลันแผ่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและควบรวมเป็นสัตว์ประหลาดสูงหลายพันเมตร!

 

“เทพปีศาจจิตวิญญาณ!” สมาชิกวังสวรรค์รู้สึกหวาดกลัวขณะที่กำปั้นสีดำทุบลงบนคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังร้อยไหมอย่างแรง

 

ในเวลาเดียวกันมืออีกข้างของเขาก็คว้าหอคอยดวงตาสวรรค์เอาไว้ ด้วยความแข็งแกร่งของมือภูตผี หอคอยดวงตาสวรรค์ค่อยๆพังทลาย

 

ภัยพิบัติใหญ่พิณทะลวงใจและสายธารแห่งดวงดาวพุ่งลงมา

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อหยุดเสียงพิณ

 

เขายกมืออีกสองข้างขึ้นและฉีกห้วงมิติออกอย่างดุเดือด

 

ห้วงมิติที่ว่างเปล่าดูดกลืนสายธารแห่งดวงดาวเข้าไปอย่างตะกละตะกลาม

 

ภัยพิบัติใหญ่ทั้งสองถูกกำหราบลงอย่างง่ายดายโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ!

 

ฟางหยวนและคนอื่นๆที่เป็นพยานในฉากเหตุการณ์นี้เบิกตาโตและกลายเป็นพูดไม่ออก