เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1011 เทพปีศาจจิตวิญญาณ

แปลโดย iPAT

 

ผู้อมตะทั้งหมดแทบไม่เชื่อสายตาของตนเอง

 

พิณทะลวงใจ สายธารแห่งดวงดาว ภัยพิบัติใหญ่ทั้งสองกลับถูกหยุดอย่างง่ายดายโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ มันง่ายราวกับการดื่มน้ำ!

 

‘นี่…นี่คือพลังอำนาของเทพปีศาจระดับเก้า?’ หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้าน

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณตายไปแล้ว สิ่งที่ปรากฏขึ้นในเวลานี้เป็นเพียงดวงวิญญาณของเขา

 

แต่ดวงวิญญาณของเขาก็ยังเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตทั่วไปอย่างมาก

 

เขาสูงหลายพันเมตร กระทั่งเมฆสีดำของค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาก็ลอยอยู่ระดับเอวของเขาเท่านั้น

 

ฟางหยวนกับคนอื่นๆลอยอยู่กลางอากาศราวกับแมลงวันตัวเล็กตัวน้อย

 

เขามีสามหัว!

 

ศีรษะตรงกลางมีเขามังกร แผงคอราชสีห์ ดวงตาอสรพิษ และงาช้าง

 

ศีรษะด้านซ้ายมีหน้าผากสีลูกท้อ เส้นผมเหมือนหญ้า และมีดวงตาเหมือนดอกไม้

 

ศีรษะด้านขวามีผิวเหมือนก้อนเมฆ ดวงตาเต็มไปด้วยประกายสายฟ้า ใบหูเป็นไฟ และมีปากสีทอง

 

เขามีพันแขน ข้างละห้าร้อยที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของปีศาจร้าย

 

มือภูตผีก่อนหน้านี้เป็นเพียงหนึ่งในมือทั้งพันของเขาเท่านั้น!

 

“อา…รูปลักษณ์เช่นนี้อย่าบอกว่า…ไม่…เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้!” เทพธิดาหลี่ซานตระหนักถึงตัวตนของเทพปีศาจจิตวิญญาณและกรีดร้องออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ นางยกมือขึ้นกุมศีรษะ ส่ายศีรษะ และถอยหลังกลับไป ตอนนี้ความสง่างามในฐานะผู้อมตะระดับเจ็ดของนางสูญสลายไปอย่างสิ้นเชิง

 

รูปลักษณ์ของเทพปีศาจจิตวิญญาณไม่ได้ถูกเก็บไว้เป็นความลับ มันถูกเปิดเผยและแผ่กระจายออกไปในวงกว้าง กระทั่งผู้ใช้วิญญาณมนุษย์ยังรู้จักกันเป็นอย่างดี

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายแดนภาคใต้ ผู้คนนับถือเทพปีศาจจิตวิญญาณและมีรูปปั้นของเขาอยู่ทั่วไป

 

รูม่านตาของไห่ลั่วหลันหดเล็กลง นางตกใจจนพูดไม่ออก

 

ไท่เป่ยหยุนเฉิงกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากขณะที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยี่ยบ

 

แต่ฟางหยวนแสดงออกด้วยความคาดหวัง

 

ความตกใจของเขาก่อนหน้านี้หายไปแล้ว

 

‘นี่…นี่คือจุดสูงสุดของเส้นทางแห่งจิตวิญญาณงั้นหรือ? ดวงวิญญาณสามารถเปลี่ยนเป็นร่างกายภาพที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณนี้ต้องมากกว่าจิตวิญญาณของมนุษย์หนึ่งร้อยล้านคนอย่างแน่นอน หากเปรียบเทียบ จิตวิญญาณของข้าไม่ต่างจากมดตัวน้อยที่เผชิญหน้ากับดวงจันทร์!’

 

‘แม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะตายไปแล้ว แต่ดวงวิญญาณของเขากลับสามารถออกมาจากประตูแห่งชีวิตและความตาย ตอนนี้เขากำลังท้าทายสวรรค์พิภพ เขาพยายามทำสิ่งใด?’

 

‘เมื่อใดที่ข้าจะไปถึงระดับนั้น? แต่กระทั่งจะบรรลุระดับนี้ เขาก็ไม่สามารถหลบหนีจากความตาย ข้าไล่ล่าชีวิตนิรันดร์…มันจะมีอยู่จริงหรือไม่?’

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายด้วยความตื่นเต้น

 

แม้จะเป็นผีดิบแต่เขายังรู้สึกถึงเลือดที่เดือดพล่าน

 

ผู้คนสามารถเรียนรู้จากบุคคลที่ประสบความสำเร็จ

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นตัวอย่างที่ดีในแง่ของการบ่มเพาะอย่างไม่สามารถปฏิเสธ

 

แม้ฟางหยวนจะมีประสบการณ์ห้าร้อยปี แต่เขายังไม่ต่างจากแมลงวันหากเปรียบเทียบกับเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ความหวาดกลัวของฟางหยวนยังไม่ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง แต่ความตื่นเต้นกำลังทำให้เขาคลั่ง

 

เช่นเดียวกับคนที่ต้องการปีนขึ้นสู่ยอดเขา แม้พวกเขาจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย แต่พวกเขายังปรารถนาและต้องการปีนป่ายขึ้นไป

 

เกี่ยวกับความตาย ฟางหยวนลืมมันไปนานแล้ว

 

แม้เขาจะตายระหว่างทางแล้วอย่างไร?

 

นี่คือเป้าหมายที่เขาไขว่คว้า!

 

“บึม!”

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่หอคอยดวงตาสวรรค์ปลดปล่อยแสงสว่างออกมาทำให้มือภูตผีของเทพปีศาจจิตวิญญาณระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและสามารถปลดปล่อยตัวมันเอง

 

หลังจากทั้งหมดมันเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้า

 

บรรยากาศภายในหอคอยดวงตาสวรรค์กลายเป็นหนักหน่วง

 

ผู้อมตะวังสวรรค์รู้สึกถึงแรงกดดันเมื่อเห็นการปรากฏตัวของภูตผีตนนี้

 

“ดังคาด เทพปีศาจจิตวิญญาณช่างชั่วร้ายนัก!” เจ้าวังสวรรค์ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

 

จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขากระจายไปทั่วทั้งหอคอยดวงตาสวรรค์

 

“เจตจำนงแห่งสวรรค์ไม่สามารถต่อต้าน!”

 

“สวรรค์มิอาจท้าทาย!”

 

“แม้เจ้าจะเป็นเทพปีศาจที่ปกครองโลกหล้า แต่ยุคของเจ้าจบไปนานแล้ว!”

 

“แม้พวกเราจะตาย พวกเราก็จะปกป้องเจตจำนงแห่งสวรรค์!”

 

“มาเถอะ กระตุ้นใช้งานหอคอยดวงตาสวรรค์อย่างถึงที่สุด!”
ผู้อมตะวังสวรรค์เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

 

หอคอยดวงตาสวรรค์ส่องประกายขึ้นอีกครั้ง

 

ศีรษะข้างซ้ายของเทพปีศาจจิตวิญญาณมองไปที่มันและคำราม

 

การเคลื่อนไหวของเทพปีศาจจิตวิญญาณรวดเร็วมาก มือหลายข้างของเขาคว้าหอคอยดวงตาสวรรค์เอาไว้อย่างแน่นหนา

 

มือจำนวนมากทับซ้อนกันมากขึ้นเรื่อยๆโดยมีหอคอยดวงตาสวรรค์อยู่ตรงกลาง

 

ผู้อมตะวังสวรรค์ไม่ละความพยายามขณะที่ประกายแสงจากหอคอยดวงตาสวรรค์แทรกตัวออกมาราวกับใบมีดอันแหลมคม

 

มือของเทพปีศาจจิตวิญญาณสั่นสะท้านขึ้นเล็กน้อย

 

เมื่อถึงจุดนี้เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่สนใจหอคอยดวงตาสวรรค์อีกแต่เงยศีรษะทั้งสามและคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

แม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะสูงหลายพันเมตร แต่ท้องฟ้ายังสูงกว่า

 

ราวกับตระหนักถึงความโกรธของเทพปีศาจจิตวิญญาณ พายุฝนค่อยๆก่อตัวขึ้นจากบนท้องฟ้า

 

รางสังหรณ์ร้ายพุ่งเข้าเกาะกุมหัวใจของกลุ่มผู้อมตะ

 

“นี่…มันไม่ใช่ภัยพิบัติใหญ่!”

 

“มันคือหมื่นภัยพิบัติ!”

 

สมาชิกนิกายเงารู้สึกพูดไม่ออก

 

นอกเหนือจากภัยพิบัติใหญ่ยังมีหมื่นภัยพิบัติ

 

หมื่นภัยพิบัติเป็นภัยพิบัติของผู้อมตะระดับแปด หากสามารถผ่านหมื่นภัยพิบัติสามครั้ง พวกเขาจะบรรลุระดับเก้า

 

สวรรค์รู้ว่าภัยพิบัติใหญ่ไร้ประโยชน์ต่อหน้าเทพปีศาจจิตวิญญาณ ดังนั้นมันจึงส่งหมื่นภัยพิบัติลงมา

 

หมื่นภัยพิบัติ คุกพายุสายฟ้า!
“เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!”

 

หมื่นภัยพิบัติมาเร็วกว่าความคาดหมายของกลุ่มผู้อมตะ

 

สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งลงมาเลื้อยพันร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณเอาไว้ราวกับอสรพิษหรือมังกร

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณคำรามด้วยความโกรธ ดวงตาทั้งหกของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร

 

แขนทั้งพันข้างของเขาฉีกกระฉากพายุสายฟ้าอย่างบ้าคลั่ง

 

ไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมาได้อีก

 

ฉากตรงหน้าของพวกเราราวกับการแสดงเรื่องราวในตำนานอันน่าเหลือเชื่อ

 

หมื่นภัยพิบัติพุ่งเข้าโจมตีเทพปีศาจจิตวิญญาณเท่านั้น นั่นทำให้ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา ฟางหยวน และคนอื่นๆค่อนข้างปลอดภัย

 

“พลังอำนาจของหมื่นภัยพิบัติเหนือกว่าภัยพิบัติใหญ่มาก!”

 

“ร่างหลักของเราต้องทนได้!”

 

“แล้วค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา?”

 

“มันหลอมรวมไปถึงหกสิบส่วนแล้ว”

 

“หกสิบส่วน…แต่ภัยพิบัติกลับรุนแรงถึงเพียงนี้!”

 

สมาชิกนิกายเงากลายเป็นเงียบงัน

 

ศัตรูที่แท้จริงของพวกเขาไม่ใช่วังสวรรค์หรือฟางหยวน แต่เป็นสวรรค์!

 

หากพวกเขาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ สมาชิกนิกายเงาจะมีความมั่นใจ แต่เนื่องจากการปรากฏตัวของวังสวรรค์และฟางหยวน พวกเขาตกอยู่ในสภาพที่น่าอนาถ ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาเกือบพังทลาย ก่อนหน้านี้พวกเขาถึงกับต้องกอบกู้มันด้วยการบูชายัญกองกำลังพันธมิตรผีดิบ

 

“เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์พังทลายไปแล้ว ร่างหลักของเราปรากฏตัวขึ้น ตอนนี้พวกเรากลายเป็นไร้ประโยชน์ไปอย่างสมบูรณ์”

 

“ถูกต้อง สิ่งที่พวกเราทำได้มีเพียงเสียสละตนเองเพื่อค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุด”

 

“แล้วคนพวกนั้น?”

 

“ทิ้งพวกเขาให้เป็นหน้าที่ของข้า” อิงอู๋เซี่ยกล่าว

 

ภัยพิบัติทวีความรุนแรงมากขึ้นขณะที่สมาชิกนิกายเงากลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเสียสละตนเองเพื่อค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา

 

ตัวตนที่แท้จริงของสมาชิกนิกายเงาคือร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ! ดวงวิญญาณย่อยของเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในร่างของพวกเขา!

 

ด้วยเหตุนี้นิกายเงาจึงต้องซ่อนตัวและดำเนินแผนการอยู่อย่างลับๆโดยไม่เปิดเผยตัว

 

นี่คือสาเหตุที่ผู้อมตะนิกายเงาเพิกเฉยต่อความตายและไม่สนใจการเสียสละ

 

กองกำลังขนาดใหญ่แท้จริงแล้วกลับเป็นคนๆเดียวกัน นั่นก็คือเทพปีศาจจิตวิญญาณ!

 

หลังจากพูดคุย สมาชิกนิกายเงารวมถึงเทพเจ็ดดาราและซ่งซื่อซิงได้เลือกที่จะเสียสละตนเองเช่นเดียวกับม่านเยี่ยนซื่อ

 

มีเพียงสองคนที่เหลืออยู่

 

หนึ่งคืออิงอู๋เซี่ย เขามีกายาแห่งความฝัน การบ่มเพาะของเขาจะเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับทุกสองชั่วโมง ในช่วงสุดท้ายของชีวิต เขาจะกลายเป็นผู้อมตะระดับเก้าและเป็นกำลังสำคัญของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

อีกหนึ่งคือผีดิบอมตะโป้ชิง เขาเป็นหนึ่งในร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณเช่นกัน แต่มันเป็นเพียงร่างกายของเขาเท่านั้น ดวงวิญญาณที่อยู่ภายในไม่ใช่โป้ชิงแต่เป็นโม่เหยา

 

ดวงวิญญาณของโม่เหยาไม่สามารถช่วยเหลือค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาแม้นางจะเสียสละตน นางสามารถเป็นหนึ่งในวัสดุในการหลอมรวมซึ่งไม่คุ้มค่าที่นางจะทำ ดังนั้นนางจึงถูกทิ้งไว้ข้างหลังกับอิงอู๋เซี่ย

 

ปัจจุบันเทพปีศาจจิตวิญญาณกำลังปราบปรามหมื่นภัยพิบัติคุกพายุสายฟ้าและเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์

 

ผีดิบอมตะโป้ชิงกับอิงอู๋เซี่ยไม่มีสิ่งใดต้องกังวล ดังนั้นพวกเขาจึงพุ่งเข้าโจมตีกลุ่มของฟางหยวน

 

ฟางหยวนกับคนอื่นๆไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาและทำได้เพียงล่าถอย

 

แต่ภายใต้ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา พวกเขาจะหลบหนีไปที่ใด

 

โป้ชิงโบกมือและส่งดาบแสงพุ่งเข้าตัดศีรษะของเทพธิดาหลี่ซานออกจากร่างในเสี้ยวพริบตา

 

เลือดพุ่งออกมาจากลำคอของนางขณะที่ศีรษะกลิ้งไปบนพื้น

 

ไม่สามารถต้านทาน!

 

แต่ในช่วงเวลาสำคัญไท่เป่ยหยุนเฉิงยังสามารถกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้า

 

เทพธิดาหลี่ซานกลับสู่สภาพเดิม นางยกมือขึ้นสัมผัสลำคอและศีรษะของนางด้วยความหวาดกลัว

 

โป้ชิงหัวเราะเย้ยหยัน “เพียงวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาระดับหกจะหยุดข้าได้อย่างไร?”

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ดวงตาของเทพธิดาหลี่ซานพลันเบิกกว้างขึ้น ดาบพลังปราณระเบิดออกมาจากร่างของนางและทำให้นางกลายเป็นเศษเนื้อ

 

“ท่านป้า!” ไห่ลั่วหลันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงขณะพุ่งเข้าโจมตีโป้ชิง

 

อิงอู๋เซี่ยเข้ามาปิดกั้นฟางหยวน

 

เขาจ้องมองฟางหยวนอย่างตั้งใจ “ฟางหยวน เจ้าสามารถหลบหนีจากอาณาจักรแห่งความฝัน น่าสนใจมาก แต่ตอนนี้การบ่มเพาะของข้าบรรลุระดับแปดเรียบร้อยแล้ว ลองดูว่าเจ้ายังจะสามารถหลบหนีได้อีกหรือไม่?”

 

“เจ้ารู้จักชื่อของข้างั้นหรือ?” ฟางหยวนรู้สึกถึงความผิดปกติ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเป็นปีศาจต่างโลก เจ้ายังมีประโยชน์ต่อนิกายเงา ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า อย่าคิดใช้วิญญาณกาลเวลา วิญญาณอมตะระดับหกดวงนี้ถูกอนุมานไว้แล้วโดยม่านเยี่ยนซื่อ ตอนนี้มันยังใช้งานไม่ได้ถูกต้องหรือไม่?” อิงอู๋เซี่ยเดินเข้าไปหาฟางหยวนด้วยความมั่นใจ

 

“อันใด!?” ร่างของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง