เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1012 ฆ่าทุกคน

แปลโดย iPAT

 

หนึ่งแสนปีก่อน

 

ภาคใต้ ภูเขาซวนฉี

 

มันเป็นยามค่ำคืนที่มืดมิด สายลมคำราม สายฟ้ากรีดร้องไปทั่วสนามรบ

 

ทางขึ้นเขาซวนฉีเต็มไปด้วยซากศพของผู้ใช้วิญญาณ

 

ฝกตกหนักแต่ไม่สามารถชะล้างกลิ่นคาวเลือด

 

การต่อสู้พึ่งสิ้นสุดลง เหลือเพียงสองคนที่ยังยืนอยู่แต่ฝ่ายที่ได้รับชัยชนะเห็นได้ชัดเจน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” เด็กหนุ่มหัวเราะขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยดวงตาสีแดงเลือด เขาค่อยๆเดินเข้าไปหาฝ่ายตรงข้ามด้วยความกระหายเลือด

 

ผู้ใช้วิญญาณอีกคนเป็นชายชรา เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป เขาวิ่งหนีแต่สะดุดล้มลงบนพื้นโคลน

 

ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าผู้ใช้วิญญาณชราและจ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างเย็นชา

 

อย่างไรก็ตามสายตาของผู้ใช้วิญญาณชรากลับไม่ปรากฏร่องรอยของความหวาดกลัวแต่มันเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อและความโกรธ

 

ชายชราตะโกน “เพราะเหตุใด? ข้าเป็นปู่ของเจ้า ข้าชุบเลี้ยงเจ้ามา ข้าสอนทุกสิ่งให้แก่เจ้า ความสำเร็จของเจ้าในวันนี้เป็นเพราะการเลี้ยงดูของตระกูล! เหตุใดเจ้าจึงโจมตีพวกเรา? เหตุใดเจ้าจึงตอบแทนความเมตตาด้วยความเกลียดชัง? เหตุใด? เพราะเหตุใด!?”

 

เผชิญหน้ากับการซักถามของชายชรา ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มเผยรอยยิ้มบาง “เพราะเหตุใดงั้นหรือ? ข้าไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้จริงๆ อืม…หากจะหาเหตุผล อาจเป็นเพราะข้ารำคาญ”

 

“รำคาญ!?”

 

“ถูกต้อง…ตัวอย่างเช่น ตระกูลของเราอ่อนแอกว่ากองกำลังอื่นและต้องอดทนอยู่อย่างเงียบๆ พวกเราต้องเคารพผู้อาวุโสและเอ็นดูผู้เยาว์ พวกเราควรสุภาพ ซื่อสัตย์ และไม่นินทาผู้อาวุโสลับหลัง ตระกูลพึ่งพาข้าในการปกป้องชื่อเสียง ข้าต้องคิดถึงตระกูล นั่นจะทำให้ข้ากลายเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม ทุกอย่างมันน่ารำคาญ! ตั้งแต่เด็ก ข้ารู้สึกรำคาญ ข้าเคยคิดว่าข้าสามารถอดทน แต่ในที่สุดข้าก็ทนไม่ได้” ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มกล่าวและเผยรอยยิ้มกว้าง

 

“แค่นี้?” ผู้ใช้วิญญาณชราลุกขึ้นด้วยความโกรธ

 

เขาจ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง “เหตุใดเจ้าจึงกลายเป็นคนเช่นนี้? เจ้าคิดสิ่งใดอยู่? ข้าช่างตาบอดนักที่เลี้ยงดูเจ้ามาหลายปี ฮ่าฮ่า ข้ากระทั่งต้องการส่งมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับเจ้า!”

 

ผู้ใช้วิญญาณชราตำหนิและหลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่สามารถควบคุม

 

“พอแล้ว!” ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มรู้สึกรำคาญที่เห็นชายชราร่ำไห้

 

เขายกมือขวาขึ้น

 

“ฉับ!”

 

ด้วยเสียงอันแผ่วเบา ร่างของผู้ใช้วิญญาณชราถูกแยกออกเป็นสองส่วน เลือดทะลักออกมาพร้อมกับลำไส้

 

ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มสงบลงและหยุดเคลื่อนไหว

 

เขาสวมชุดคลุมดำและยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนราวกับรูปปั้น

 

เขาก้มศีรษะมองไปที่กองซากศพ ความทรงจำในอดีตปรากฏขึ้นในใจของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

เมื่อเขายังเด็ก ปู่ของเขาเคยพาเขาไปขี่ม้าและเล่นว่าว เมื่อพรสวรรค์ของเขาถูกเปิดเผย ปู่ของเขาเผยรอยยิ้มมีความสุข เมื่อเขากลายเป็นผู้ใช้วิญญาณ ปู่ของเขาก็สั่งสอนเขาด้วยตนเอง เขายังสอนเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับตระกูล

 

เวลาค่อยๆผ่านไป

 

ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาและหัวเราะ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”

 

เขาเงยหน้าขึ้นสู่ท้องฟ้าและอ้าแขนกว้าง

 

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเขาแต่ใบหน้าของเขากลับแสดงออกด้วยความพึงพอใจ

 

เขารู้สึกราวกับตนเองกำลังจมน้ำแต่ทันใดนั้นเขากลับสามารถทะยานขึ้นมาเหนือน้ำและพยายามดิ้นรนว่ายเข้าสู่ฝั่ง

 

เขาสูดหายใจลึก กลิ่นคาวเลือดราวกับความโกรธเกรี้ยวของผู้คนที่พุ่งเข้าจู่โจมเขา

 

แต่เขากลับรู้สึกสดชื่นมาก

 

“แม้ข้าจะเสียใจ…แต่ข้าก็ได้รับอิสรภาพ ฮ่าฮ่าฮ่า หากข้ารู้เช่นนี้ ข้าคงฆ่าพวกเขาไปนานแล้ว สิ่งที่น่ารำคาญเหล่านี้ควรถูกสังหารไปนานแล้ว จากนี้ไปข้าจะฆ่าทุกคนที่ทำให้ข้ารำคาญ!”

 

ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มตะโกนท่ามกลางสายฝนด้วยความตื่นเต้น

 

“เปรี้ยง!”

 

สายฟ้าแลบลั่นและส่องสะท้อนภาพของชายผู้หนึ่งที่กำลังมีความสุข

 

หนึ่งแสนปีต่อมา

 

สายฟ้าแลบลั่นและส่องสะท้อนใบหน้าของชายผู้หนึ่งแต่ตอนนี้เขาต่างไปจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดสูงหลายพันเมตรที่มีสามเศียรพันกร

 

“เสียงดัง น่ารำคาญ พอแล้ว!” เทพปีศาจจิตวิญญาณคำราม

 

“บึม!”

 

เขาใช้มือทั้งพันฉีกกระชากพายุสายฟ้าที่ม้วนตัวอยู่รอบๆออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

เขาทำลายคุกพายุสายฟ้า!

 

สายฟ้าหายไปอย่างสมบูรณ์ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวของเขา

 

กระทั่งหมื่นภัยพิบัติก็ไม่สามารถหยุดยั้งเขา

 

พลังอำนาจของเทพปีศาจถูกแสดงออกมาอย่างเต็มที่

 

ทุกคนที่เห็นฉากเหตุการณ์นี้ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายของฟางหยวนหรือวังสวรรค์ พวกเขาต่างตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์

 

“เราประสบความสำเร็จหรือไม่?” โป้ชิงกับอิงอู๋เซี่ยแสดงออกอย่างมีความสุข

 

แต่ทันใดนั้นท้องฟ้ากลับมืดลงอีกครั้ง เมฆสีเทาลอยเข้ามารวมกลุ่มกันเหนือศีรษะของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

หมื่นภัยพิบัติครั้งที่สองกำลังสะสมพลังงาน!

 

การแสดงออกของโป้ชิงกับอิงอู๋เซี่ยเปลี่ยนเป็นมืดมน

 

ผู้อมตะวังสวรรค์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

ดวงตาทั้งหกของเทพปีศาจจิตวิญญาณเผยให้เห็นว่าเขากำลังครุ่นคิด

 

เขายกแขนหลายร้อยข้างขึ้นก่อนจะแทงลงไปยังกลุ่มเมฆสีดำที่ลอยอยู่ระดับเอวของเขา

 

เมฆสีดำเหล่านี้เกิดจากค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา เมื่อมันได้รับความช่วยเหลือจากเทพปีศาจจิตวิญญาณ มันจึงสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง

 

“โอ้ ไม่ เขากำลังเร่งการหลอมรวม!”

 

“แม้ข้าจะไม่รู้ว่าเขาพยายามหลอมรวมสิ่งใดแต่เราจะปล่อยให้เขาประสบความสำเร็จไม่ได้!”

 

“ทุกคนร่วมมือกับข้า!”
ภายใต้การนำของเจ้าวังสวรรค์ หอคอยดวงตาสวรรค์บินออกไปราวกับภูตผีก่อนจะพุ่งชนศีรษะข้างขวาของเทพปีศาจจิตวิญญาณอย่างแรง

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณคำรามด้วยความโกรธและใช้มือนับร้อยคว้าหอคอยดวงตาสวรรค์

 

“อีกครั้ง!” เจ้าวังตะโกน

 

ในช่วงเวลาสำคัญหอคอยดวงตาสวรรค์เปลี่ยนเป็นภูตผีพุ่งออกไปทำให้การโจมตีของเทพปีศาจจิตวิญญาณพลาดเป้าหมาย

 

ความสามารถในการเปลี่ยนเป็นภูตผีเป็นหนึ่งในความสามารถของหอคอยดวงตาสวรรค์ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกระตุ้นใช้งานสิ่งนี้ มันต้องใช้ความคิดและสมาธิเช่นเดียวกันการกระตุ้นการโจมตีของสนามรบแห่งความโกลาหล

 

ผู้อมตะวังสวรรค์หกคนที่ร่วมมือกันกระตุ้นใช้ความสามารถของหอคอยดวงตาสวรรค์หอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า

 

หอคอยดวงตาสวรรค์ลอยอยู่เหนือศีรษะของเทพปีศาจจิตวิญญาณในรูปแบบภูตผี

 

อีกด้านหนึ่ง แขนหลายร้อยข้างของเทพปีศาจจิตวิญญาณกลายเป็นแห้งเหี่ยวขณะที่ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาที่ได้รับการสนับสนุนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

 

เมฆสีดำที่กระจายตัวอยู่รอบๆลอยเข้ามารวมกลุ่มกันและมีแสงสิบสี่สีส่องประกายออกมาจากจุดศูนย์กลาง

 

เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เจ้าวังเต็มไปด้วยความกังวลและเร่งออกคำสั่ง “ตัดแขนเหล่านั้น!”

 

หอคอยดวงตาสวรรค์พุ่งไปด้วยความเร็วสูงก่อนจะตัดแขนของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่เชื่อมต่อกับค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาออก

 

“อิงอู๋เซี่ย ไปจัดการผู้อมตะวังสวรรค์!” โป้ชิงตะโกนเรียก

 

มันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับโป้ชิงที่จะจัดการกลุ่มของฟางหยวน

 

แต่เหตุการณ์ต่างๆทำให้เขาต้องหยุดชะงักตลอดเวลา

 

อิงอู๋เซี่ยกัดฟันแน่น เขาไม่ต้องการจากไปในเวลานี้ “ขอเวลาให้ข้าส่งฟางหยวนเข้านอนสักครู่!”

 

หลังกล่าวจบคำ อิงอู๋เซี่ยกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะระดับแปดนำวิญญาณสู่ความฝันทันที

 

ฟางหยวนไม่สามารถหลบและถูกนำเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน

 

บนเกาะกลางทะเลสาบ เสียงพิณดังขึ้น

 

ฟางหยวนพบเทพอมตะกลุ่มดาวอีกครั้ง

 

คลี่คลายความฝัน!

 

คลี่คลายความฝัน!

 

คลี่คลายความฝัน!

 

คลี่คลายความฝัน!

 

คลี่คลายความฝัน!

 

คลี่คลายความฝัน!

 

ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายของเขาแต่อาณาจักรแห่งความฝันกลับมั่นคงและเกิดระลอกคลื่นโปร่งใสกระจายออกไปเท่านั้น

 

หลังจากทั้งหมดท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับหกขณะที่ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปด

 

มันมีความแตกต่างมากเกินไป

 

หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง

 

เทพอมตะกลุ่มดาวเผยรอยยิ้มให้กับฟางหยวนและร้องเพลงให้เขาฟัง

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น เขารู้ว่าเขาแพ้แล้ว

 

ด้านนอก หอคอยดวงตาสวรรค์หลบการโจมตีของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

แต่เทพปีศาจจิตวิญญาณยังส่งมืออีกนับร้อยลงไปที่ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา

 

หอคอยดวงตาสวรรค์เตรียมโจมตีอีกครั้งแต่ดวงตาคู่หนึ่งของเทพปีศาจจิตวิญญาณกลับเพ่งมองไปยังหอคอยดวงตาสวรรค์และทำให้มันไม่สามารถขยับเขยื้อน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เหตุใดครั้งนี้ไม่หลบหนีออกมาอีก?” อิงอู๋เซี่ยระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความพึงพอใจ

 

“ฟางหยวน!” ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันตะโกนเรียก

 

แต่ฟางหยวนยังหลับสนิทและไม่ตื่นขึ้น

 

โป้ชิงกำลังจะสังหารไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันแต่ในจังหวะนี้แผ่นดินกลับสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง

 

กลุ่มผู้อมตะถูกสูบลงไปใต้พื้นดินและถูกผนึกการเคลื่อนไหว

 

ภัยพิบัติใหญ่ คุกปฐพี!

 

โป้ชิงกับอิงอู๋เซี่ยตกตะลึง พวกเขาไม่คาดคิดว่านอกจากหมื่นภัยพิบัติที่กำลังโจมตีเทพปีศาจจิตวิญญาณยังมีภัยพิบัติใหญ่ซุ่มโจมตีพวกเขาอยู่ด้วย

 

“เหตุใดพวกเขาไม่ถูกผนึก?” โป้ชิงกับอิงอู๋เซี่ยประหลาดใจมาก

 

หลังจากตกลงมา ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันกลับสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

 

ด้านไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลัน ทั้งสองทั้งตกตะลึงและรู้สึกสนุกสนาน

 

พวกเขาคว้าร่างของฟางหยวนและล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

 

สิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขที่สุดก็คือหลังจากกลุ่มเมฆสีดำรวมตัวกัน พื้นที่ต้องห้ามก็สูญสลายไป เมื่อฟางหยวนตื่นขึ้น พวกเขาจะสามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะหลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้

 

แต่ฟางหยวนยังหลับสนิท

 

ดวงตาของผีดิบอมตะโป้ชิงส่องประกายด้วยเจตนาสังหาร เขากำลังจะใช้ท่าไม้ตายอมตะแต่เขากลับรู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขากำลังถูกสูบออกไป

 

ปรากฏว่าภัยพิบัติใหญ่คุกปฐพีไม่เพียงสูบร่างกายของพวกเขาลงไป มันยังส่งผลกระทบต่อความคิด เจตจำนง และความรู้สึกของเป้าหมายอีกด้วย

 

ด้วยเหตุนี้โป้ชิงจึงทำได้เพียงมองดูกลุ่มของไห่ลั่วหลันหลบหนีจากใต้จมูกของเขาไปเท่านั้น