บทที่ 228
ฉู่เหวินสงที่อยู่ข้างๆอิจฉาทันที พวกเขาต่างมีญาติพี่น้อง ถ้าได้โอสถเพิ่มมาหลายๆเม็ด มันคงเป็นเรื่องที่ดีมากๆ

“เฉินไต้ซือ ฉันจะไปหาสมุนไพรพวกนี้ด้วย คุณช่วยฉันกลั่นโอสถสองเม็ดได้ไหม?”

เฉินโม่เข้าใจความคิดของฉู่เหวินสงทันที เขาส่ายหัวและพูด:”เรื่องนี้รอไปก่อน ถ้ามีโอกาสฉันจะกลั่นโอสถที่เหมาะกับคนธรรมดาทั่วไปด้วย คนที่ทำตามคำสั่งและเป็นคนของฉัน ถ้าฉันมีโอสถดีๆก็คงให้พวกเขาอยู่แล้ว”

ตอนแรกที่ได้ยินคำนั้น ทำให้ฉู่เหวินสงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินว่ายังมีโอกาสอยู่ จิตใจของเขาร่าเริงทันที

“ขอบคุณเฉินไต้ซือมากๆ”

“ใช่แล้ว เรื่องที่คุณสั่งให้ฉันไปทำ ฉันได้ทำสำเร็จแล้ว เรื่องของหวงเจิ้นเป็นความสะเพร่าของฉันเอง เฉินไต้ซืออย่าถือโทษฉันเลย”

เมื่อฉู่เหวินสงพูดจบ เขาก็หันไปที่ประตูด้านนอกและปรบมือทันที มีเด็กหนุ่มที่สีหน้ามีแต่ความเคารพค่อยๆเดินเข้ามา

“จางหู่คารวะเฉินไต้ซือ!”

เฉินโม่มองเห็นจางหู่ที่คุกเข่าข้างหนึ่ง เขาพยักหน้าทันที:”ลุกขึ้นได้”

“ขอบคุณเฉินไต้ซือ!”จางหู่ลุกขึ้นมาและยืนอยู่ข้างๆด้วยความเคารพ สายตาของเขาที่มองเฉินโม่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง

เฉินโม่มองหน้าฉู่เหวินสงครั้งหนึ่งและพูดเบาๆ:”เรื่องนั้นก็ช่างมันเถอะ ถ้าอนาคตข้างหน้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก คุณก็เตรียมตัวหัวขาดได้เลย”

“รับทราบ!”ใบหน้าของฉู่เหวินสงเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น คนที่สามารถพูดเรื่องการสังหารคนได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ คงมีแค่เด็กหนุ่มคนนี้เท่านั้น

“เฉินไต้ซือ การประชุมสูงสุดฮ่านหยางจะเริ่มงานวันมะรืนแล้ว วันนี้พวกเราเตรียมตัวออกเดินทาง คุณจะไม่เดินทางพร้อมกับพวกเราเหรอ?”เจี่ยจิ้งอานถามด้วยสีหน้าประจบประแจง

เขาคิดว่าเฉินโม่ไม่ไปร่วมงาน เพราะเขาไม่อยากทำตัวโดดเด่น แต่เด็กหนุ่มส่วนใหญ่นั้นชอบทำตัวเป็นจุดเด่นอยู่แล้ว โอกาสที่จะสร้างชื่อเสียงแบบนี้ เฉินโม่จะยอมพลาดโอกาสครั้งนี้จริงๆเหรอ?

เฉินโม่ส่ายหัวทันที:”พวกคุณไปก่อนเถอะ ฉันรอให้อาการบาดเจ็บของเฉินซงจื่อหายดีก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

“ถ้างั้นฉันขอตัวก่อน”เจี่ยจิ้งอานรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ถ้าเฉินโม่ปรากฏตัวที่การประชุมสูงสุดฮ่านหยางจริงๆ เจ้าสัวจากสิบเจ็ดเมืองต่างมาทำความเคารพ เรื่องที่เกิดขึ้นแค่คิดก็ทำให้เจี่ยจิ้งอานตื่นเต้นดีใจแล้ว

เฉินโม่สามารถเอาชนะมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของฮ่านหยาง พวกเขาที่เป็นลูกน้องของเฉินโม่ก็คงรู้สึกภูมิใจมากๆ

น่าเสียดายมากๆที่เฉินโม่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปร่วมงานหรือเปล่า

ฉู่เหวินสงโค้งคำนับทันที:”เฉินไต้ซือ ฉันตั้งใจจะพาจางหู่ไปร่วมงานการประชุมสูงสุดฮ่านหยางครั้งนี้ด้วย ถ้าคุณไม่อยากจะไปจริงๆ คืนนี้ฉันจะเดินทางเลย”

“ไปก่อนเลย”เฉินโม่มองหน้าฉู่เหวินสงด้วยความพอใจ เนื่องจากจางหู่ยังไม่คู่ควรที่จะเข้าร่วมงานการประชุมสูงสุดฮ่านหยาง การที่ฉู่เหวินสงพาเขาไปนั้น เพราะเขาคิดจะประจบประแจงตัวเอง

จางหู่ดีใจมากๆจนร่างกายแข็งทื่อ เขาเคยศึกษางานการประชุมสูงสุดฮ่านหยางมาแล้ว เขารู้ว่าคนที่สามารถเข้าร่วมงานนี้ได้ ต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆของฮ่านหยาง ถ้าในชีวิตของเขาเคยเข้าร่วมงานแบบนี้ครั้งหนึ่งแล้ว เขาคงนอนตายตาหลับแล้ว

จางหู่รู้ตัวดี เดิมทีเขาไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานแบบนี้ การที่เขาสามารถเข้าร่วมได้เพราะชายหนุ่มลึกลับที่อยู่ด้านหน้าของเขา

จางหู่เดินออกมาและคุกเข่าอีกครั้งและพูดอย่างหนักแน่น:”จางหู่ ขอบคุณเฉินไต้ซือที่ให้โอกาสครั้งนี้!”

เฉินโม่พูดเบาๆ:”ไม่ต้องเกรงใจ นี่คือผลลัพธ์จากการตัดสินใจของตัวนายเอง”

จางหู่รู้ตัวดี เฉินโม่พูดถึงเรื่องที่เขาคอยปกป้องตระกูลเจี่ยงตลอดเวลา ถ้าตอนนั้นเขาลังเลเพียงเล็กน้อย ตอนนี้ก็คงจะตายไปแล้ว คงไม่ได้โชคดีเหมือนวันนี้อย่างแน่นอน

จางหู่ดีใจมากๆที่ตัวเองเลือกทำเรื่องนั้น

ตอนกลางคืน ฉู่เหวินสงพาจางหู่จากไป และสั่งให้คนรับใช้ให้ดูแลเฉินโม่ให้ดีๆ

ตอนดึกสามทุ่มกว่าๆ ในที่สุดเฉินซงจื่อก็ออกจากการเก็บตัวฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ

เฉินโม่ที่อยู่ห้องข้างๆลืมตาทันที วินาทีต่อมา เขาปรากฏตัวต่อหน้าเฉินซงจื่อทันที

“ลูกศิษย์ขอบคุณอาจารย์ที่ช่วยชีวิต!”เฉินซงจื่อคุกเข่ากับพื้นทันที

เฉินโม่มองหน้าเขาและพยักหน้าทันที:”ดูเหมือนนายจะได้ประโยชน์ไม่น้อยเลย ยาบำรุงจิตไม่เพียงรักษาอาการบาดเจ็บของจิตวิญญาณ และทำให้จิตวิญญาณของนายแข็งแกร่งขึ้นอีก ถ้าไม่ใช่เพราะนายฝึกฝนเวลาน้อยเกินไป พลังชี่แท้ไม่พอ ตอนนี้คงเข้าสู่แดนแปรภาพแล้ว!”

เฉินซงจื่อพูดด้วยความดีใจ:”อาจารย์ ฉันมั่นใจมากๆว่าภายในสามเดือน ฉันต้องเป็นปรมาจารย์ได้อย่างแน่นอน!”

เฉินโม่พูดเบาๆ:”ไม่ต้องลำบากขนาดนั้น ฉันจะช่วยนายเข้าสู่แดนแปรภาพเอง”