ตอนที่ 611 ราชันไม่เจอกับราชัน / ตอนที่ 612 ปักหลักที่เมืองหนึ่ง พบรักไปทั้งชีวิต

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 611 ราชันไม่เจอกับราชัน

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ถูกเขาทับจนขยับไม่ได้ ได้แต่มองด้วยความร้อนใจ อยากจะดึงออกแทนเขาใจจะขาด

 

 

เธอได้แต่ขยับขยุกขยิกอย่างไม่สบายใจ

 

 

“อวี๋เยว่หาน คุณลุกขึ้นก่อน วันนี้คุณต้องให้ของขวัญฉันแท้ๆ ทำไมฉันกลายเป็นของขวัญของคุณไปได้!”

 

 

“โอ้ คุณคืนสินค้าให้ผมแล้ว แต่ผมจะรับคุณไว้แทน” อวี๋ฌยว่หานเอ่ยปากอย่างไม่ใส่ใจ

 

 

มือที่ดึงโบว์ออกยังคงเชื่องช้า

 

 

จนกระทั่งเหนียนเสี่ยวมู่ถูกแหย่จนโมโห “คุณทำอะไรให้มันเร็วๆ หน่อย ชักช้าแบบนี้ ฟ้าสว่างคุณก็ยังดึงโบว์ออกไม่สำเร็จหรอก!”

 

 

หลังจากเธอพูดจบ อวี๋เยว่หานก็ยกมือขึ้นดึงโบว์ออก

 

 

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง ครั้นสบสายตาเจ้าเล่ห์ในดวงตาสีดำของเขา เธอถึงรู้ได้ในทันทีว่าตัวเองติดกับแล้ว

 

 

“อวี๋เยว่หาน คุณขี้โกง…อุ๊บ!”

 

 

ทันทีที่บอกว่าช้า เขาก็รวดเร็วขึ้นมา

 

 

อวี๋เยว่หานเหมือนคาดเดาปฏิกิริยาของเธอได้แล้ว จึงจูบริมฝีปากสีเชอร์รีของเธอโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

 

 

เขางัดฟันหน้าเธออย่างง่ายดาย ก่อนจะแทรกเข้าไปโดยตรง

 

 

หญิงสาวยังไม่ทันระบายความโมโหออกมา มันก็ต้องกลับไปเสียแล้ว

 

 

ทว่าเธอเพิ่งคิดจะดันเขาออก เสื้อผ้าบนร่างหายก็ถูกถอดออกหมดแล้ว…

 

 

ราวกับเป็นพยาธิไส้เดือนในท้องของเธอ ปฏิกิริยาของเขาเร็วกว่าเธอก้าวหนึ่งเสมอ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เตรียมจะสบถ ทว่าเขาแหย่ทุกจุดอ่อนไว่ของเธอทีละจุดอีกรอบหนึ่งแล้ว

 

 

สุดท้ายเธอก็โอบรอบคอของเขาด้วยตัวเอง ร้องโยเยขอให้เขาเร็วหน่อย…

 

 

บัญชีใหม่ทบกับบัญชีเก่า

 

 

เมื่ออวี๋เยว่หานกินจนอิ่มหนำ คนในอกก็เหนื่อยจนยกแขนไม่ขึ้นแล้ว ครั้นได้ยินเขาถามเธอว่าพอหรือยัง อีกฝ่ายก็ได้แต่หรี่ตาพึมพำ

 

 

เธออยากจะกัดเขา ทว่าไม่มีเรี่ยวแรงแล้วจริงๆ

 

 

หญิงสาวปล่อยให้เขาอุ้มตัวเองเข้าไปทำความสะอาดตัวในห้องน้ำ

 

 

แล้วเขาก็อุ้มเธอกลับมาที่เตียง

 

 

ทันทีที่ได้ห่มผ้าห่ม เหนียนเสี่ยวมู่ม้วนตัวเองเป็นก้อนอย่างรวดเร็ว เหนื่อยจนหลับไป

 

 

ท้องฟ้ายามราตรีข้างนอกหน้าต่างมืดสนิท

 

 

อวี๋เยว่หานกวาดสายตามองหน้าจอโทรศัพท์มือถือครั้งหนึ่ง ก่อนจะทอดสายตามองเหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังหลับลึก ในหัวปรากฏบทสนทนาที่เธอพูดกับเขาตอนกลับมา

 

 

เขาห่มผ้าห่มให้เธอเรียบร้อย แล้วถือโทรศัพท์มือถือเดินออกไปนอกห้อง

 

 

ผู้ช่วยกำลังรออยู่นอกประตู

 

 

“ติดต่อเรียบร้อยหรือยัง” อวี๋เยว่หานก้าวไปข้างหน้า ริมฝีปากบางเอ่ย

 

 

ผู้ช่วยรีบตอบ “ติดต่อเรียบร้อยแล้วครับ”

 

 

จากนั้นเขาก็ส่งเสื้อนอกให้อวี๋เยว่หาน แล้วเดินนำทางอยู่ข้างหน้า

 

 

ชายหนุ่มสวมเสื้อนอก แล้วเดินไปข้างหน้าสองก้าว ทันใดนั้นเขาพลันนึกบางอย่างขึ้นได้ จึงหันกลับไปมองอย่างไม่สบายใจ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่บาดเจ็บจนความจำเสื่อม ก่อนเธอความจำเสื่อมนั้น น่าจะมีเรื่องน่ากลัวบางอย่างเกิดขึ้น

 

 

ถึงทำให้เธอละเมือในตอนที่นอนหลับ

 

 

บางครั้งก็ฝันร้าย ทำเอาเขาตกใจตื่นไปด้วย

 

 

ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์อย่างนั้น เขาได้เพียงกอดเธอ ปลอบใจเธออยู่เนิ่นนาน เธอถึงจะหลับได้อีกครั้ง

 

 

หลังจากหลับไปแล้ว เธอก็จับชายเสื้อของเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ราวกับเด็กที่รู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างไรอย่างนั้น

 

 

ตั้งแต่รู้ว่าเธอมีนิสัยแบบนี้ เขาก็ตัดใจให้เธอนอนคนเดียวในตอนกลางคืนไม่ได้

 

 

แววตาของอวี๋เยว่หานวูบไหว ตอนที่เดินลงไปข้างล่างแล้ว เขาก็ฆันหน้าไปกำชับกับพ่อบ้าน

 

 

“ให้คนไปเฝ้าที่หน้าห้องนอนหลัก ถ้าเธอตื่น ให้โทรศัพท์หาผมทันที”

 

 

“ครับ” พ่อบ้านตะลึงงัน ทว่าก็พยักหน้ารับอย่างว่องไว

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว อวี๋เยว่หานถึงจะเดินออกจากคฤหาสน์ไป

 

 

ทันทีที่ขึ้นรถ ชายหนุ่มก็หยิบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คออกมา เริ่มจัดการงานที่กองสุม

 

 

ไม่นานข้างนอกหน้าต่างก็มีเสียงคลื่นทะเลดังมา

 

 

คลื่นเหล่านั้นเดี๋ยวขึ้นสูง เดี๋ยวลงต่ำ ในเวลากลางคื่นแบบนี้ เสียงคลื่นทะเลจึงชัดเจนเป็นพิเศษ

 

 

ชายหนุ่มลดกระจกรถลง ส่งผลให้กลิ่นอายทะเลสดชื่นปะทะเข้ามาที่ใบหน้า

 

 

ห่างออกไป รถสปอร์ตคันหนึ่งจอดอยู่บนเขื่อนยาวริมทะเลแล้ว

 

 

ข้างนอกประตูรถ มีเงาร่างหล่อเหลายืนอยู่

 

 

 

 

 

ตอนที่ 612 ปักหลักที่เมืองหนึ่ง พบรักไปทั้งชีวิต

 

 

ฟ่านอวี่เหมือนกับรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เมื่อได้ยินเสียง เขาจึงค่อยๆ กลับหลังหัน

 

 

ไฟรถส่องบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา แสงสลัวยิ่งขับให้เขาดูโดษเดี่ยวมากขึ้น

 

 

“เอี๊ยด”

 

 

รถของอวี๋เยว่หานจอดลงข้างๆ เขา

 

 

ทันทีที่ประตูรถเปิดออก อวี๋เยว่หานปิดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค วางมันลงข้างๆ แล้วก้าวขาลงจากรถไป

 

 

เขาเดินไปตรงหน้าฟ่านอวี่

 

 

ชุดสูทสีดำทั้งตัวเกิดเป็นการเปรียบเทียบที่ชัดเจน กับชุดสูทสีขาวทั้งตัวของฟ่านอวี่

 

 

ชายหนุ่มรูปงามทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกัน

 

 

ทุกอย่างรอบข้างราวกับหายไปจนสิ้น

 

 

“ซ่า” คลื่นลูกใหญ่กระทบบนสันเขื่อน

 

 

ละอองน้ำที่กระเด็นมาทำให้บรรยากาศชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เจือด้วยลมหนาวที่ปะทะหน้าเข้ามา

 

 

ผู้ช่วยที่ยืนอยู่ไกลๆ ไม่กล้าเข้าใกล้

 

 

บนเขื่อนยาวๆ มีเพียงอวี๋เยว่หานและฟ่านอวี่ที่ยืนหันหน้าไปหาทะเลอยู่ข้างกัน

 

 

ไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไร ราวกับรอว่าใครจะเป็นฝ่ายทนไม่ได้ก่อนกัน

 

 

“คุณชายหานนัดผมออกมากลางดึก เพื่อยืนมองทะเลกับผมเท่านั้นเหรอครับ” เงาร่างรูปหล่อของฟ่านอวี่หันไปด้านข้างเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองไปที่อวี๋เยว่หาน

 

 

อวี๋เยว่หานไม่ได้หันไปมอง สายตายังคงมองจ้องทะเล

 

 

ผ่านไปนานทีเดียว เขาถึงจะเอ่ยปากอย่างเฉยชา

 

 

“คุณมาที่เมืองเอช ไม่ใช่เพราะจะขยายธุรกิจของบริษัทตระกูลฟ่าน แต่เพื่อตามหาใครบางคน”

 

 

ชายหนุ่มพูดด้วยประโยคยืนยัน

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น ฟ่านอวี่ก็เลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธ

 

 

อวี๋เยว่หานหมุนตัวไปชำเลืองมองอีกฝ่าย “คนที่คุณอยากเจอ คือเหนียนเสี่ยวมู่ใช่ไหม”

 

 

“…”

 

 

ฟ่านอวี่ตะลึงงันอย่างเห็นได้ชัด

 

 

คิดไม่ถึงว่าอวี๋เยว่หานจะเดาออกได้เร็วขนาดนี้ ยิ่งคิดไม่ถึง ว่าเขาจะพูดออกมาตรงๆ แบบนี้

 

 

ในวงการธุรกิจ มีใครไม่รู้บ้างว่าคุณชายหานขึ้นชื่อเรื่องพูดจาตรงไปตรงมา

 

 

เขาถามอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำเอาคนที่ได้ฟังทำอะไรไม่ถูก

 

 

ทำให้วันใดวันหนึ่งที่คุณแพ้ คุณไม่รู้ว่าตัวเองแพ้ที่ตรงไหนกันแน่

 

 

พวกเขาไม่เคยประมือกันซึ่งๆ หน้า

 

 

ฟ่านอวี่ไม่เคยคิดเลย ว่าพวกเขาปะทะกันครั้งแรก ไม่ใช่ในวงการธุรกิจ

 

 

และคิดไม่ถึง ว่าอวี๋เยว่หานคล้ายคิดจะใช้ลูกไม้ในวงการธุรกิจมาปะทะกับเขา

 

 

“คุณมาเพื่อถามผมว่าเหนียนเสี่ยวมู่เป็นใครสินะ” ฟ่านอวี่หลุบดวงตาสีน้ำตาลเข้มลง พลางเอ่ยปากอย่างเย็นชา

 

 

ด้วยฐานะทางครอบครัวของพวกเขา ก็กำหนดสิ่งต่างๆ มากมายตั้งแต่เกิดแล้ว

 

 

พื้นฐานอันสูงส่งและหรูหรา หน้าที่รับผิดชอบของตระกูล เจริญรุ่งเรืองหรือทรุดโทรม มีเกียรติหรือเสื่อมเกียรติ…

 

 

พวกเขาไม่ได้แบกรับอะไรทั้งนั้น

 

 

อวี๋เยว่หานเป็นผู้สืบทอดคนเดียวของตระกูล

 

 

มีคนมากมายมองอยู่ข้างหลังเขา

 

 

เขาอยากอยู่กับผู้หญิงที่ไม่มีเบื้องหลังครอบครัวอะไร เดิมทียากลำบากกว่าใครๆ

 

 

ถ้าหากเหนียนเสี่ยวมู่มีอดีตที่ด่างพร้อย ก็ไม่รู้ว่าคนตระกูลอวี๋จะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของพวกเขาหรือเปล่า

 

 

ชายหนุ่มรีบร้อนนัดอีกฝ่ายออกมา ก็น่าจะเพราะเรื่องนี้กระมัง

 

 

“ไม่จำเป็น”

 

 

“…คุณว่ายังไงนะ” ฟ่านอวี่ตะลึงงัน บยใบหน้าหล่อเหลาปรากฏความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

 

 

ราวกับกำลังสงสัยสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

 

 

อวี๋เยว่หานล้วงทั้งสองมือเข้าปในกระเป๋าชุดสูท แล้วหันไปมองอีกฝ่าย

 

 

ดวงตาสีดำลุ่มลึกอบอวลไปด้วยความรักที่คนข้างกายมองไม่เข้าใจ ก่อนจะกล่าวชัดถ้อยชัดคำอย่างช้าๆ

 

 

“ตั้งแต่ผมเลือกเธอ เตรียมวันที่จะได้อยู่กับเธอ ฐานะหรืออดีตของเธอไม่สำคัญสำหรับผมแล้ว ที่ผมรักก็คือเธอในตอนนี้ เป็นเหนียนเสี่ยวมู่ที่ผมจับต้องได้จริงๆ”

 

 

ปักหลักที่เมืองหนึ่ง พบรักไปทั้งขีวิต

 

 

ความรักของเขาไม่จำเป็นต้องบอกให้ใครรู้ ขอเพียงผู้หญิงของเขาเข้าใจก็พอแล้ว