ตอนที่ 613 นางฟ้าออกโรง
ฟ่านอวี่เหมือนจะเข้าใจความหมายของเขาแล้ว ตัวสั่นทันที
ในสายตาของเขาปรากฏความรู้สึกประหลาดใจ
แต่ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“งั้นทำไมคุณถึงอยากเจอผม”
“เพราะการปรากฏตัวของคุณ ทำให้ผู้หญิงของผมไม่สบายใจ” ดวงตาสีดำของอวี๋เยว่หานหม่นลงเล็กน้อย เมื่อนึกถึงท่าทางเหนียนเสี่ยวมู่ซุกอยู่ในอกของเขาด้วยความลังเลและสับสน ชายหนุ่มก็เอ่ยขึ้น
ไม่ว่าฟ่านอวี่จะรู้อดีตของเธอจริงๆ หรือไม่ หรือตั้งใจหลอกลวง การปรากฏตัวของเขาก็เริ่มทำให้เหนียนเสี่ยวมู่สับสน
“คุณไม่สงสัยจริงๆ เหรอ ว่าอดีตของเธอเป็นยังไง หรือว่าไม่เคยคิดจริงๆ ว่าเธอเคยชอบผู้ชายคนอื่นมาก่อน แม้กระทั่งเคยมีคนที่รักลึกซึ้ง…” ฟ่านอวี่พูดช้าลง สายตาจับจ้องอวี๋เยว่หานตลอด
รอคอยปฏิกิริยาของอีกฝ่าย
แต่ไม่ว่าเขาจะมองอย่างไร สีหน้าของอวี๋เยว่หานก็ไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ต้น
บนใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยมาโดยตลอด
จนกระทั่งเขาพูดจบ อวี๋เยว่หานถึงช้อนสายตาขึ้น
“ผมไม่ทันได้มีส่วนร่วมในอดีตของเธอ ถือเป็นความเสียดายของผม แต่ชีวิตของเธอหลังจากนี้ ผมจะเป็นคนปกป้องเอง ขอแค่คุณเข้าใจเรื่องนี้ก็พอแล้ว”
“…”
“วันนี้ที่หน้าโรงเรียนอนุบาล คุณมีโอกาสบอกเธอแท้ๆ แต่คุณก็ไม่พูดออกไป แค่เรื่องนี้ คุณก็พอจะกลายเป็นคู่แข่งของผมแล้ว นี่เป็นเหตุผลที่ผมนัดคุณออกมาในคืนนี้”
อวี๋เยว่หานก้าวไปข้างหน้า เดินไปตรงหน้าฟ่านอวี่
ชายหนุ่มจ้องมองทุกสีหน้าของอีกฝ่าย ดงงตาสีดำหยั่งลึกขึ้น “คุณสนใจความรู้สึกของเธอไม่น้อยไปกว่าผม งั้นคุณควรจะรู้ดี ว่าทางเลือกแบบไหนดีกับเธอที่สุด”
หลังจากเขาพูดจบ เขาก็เตรียมจะเดินผ่านฟ่านอวี่ไป
ทว่าเพิ่งก้าวขา เสียงหัวเราะเยือกเย็นของฟ่านอวี่ก็ดังมาจากข้างหลัง
อวี๋เยว่หานชะงักฝีเท้าเล็กน้อย แล้วหันกลับไปมองอีกฝ่าย
ครั้นสบสายตาของฟ่านอวี่ เขาถึงเห็นรอยยิ้มเอาแต่ใจ ดวงตาอ่อนโยนเจือความบ้าคลั่งเล็กน้อย
“อวี๋เยว่หาน คุณเห็นแก่ตัวจริงๆ คุณมีสิทธิ์อะไรมาขอให้ผมเป็นสุภาพบุรุษในโลกของความรัก ในเมื่อคุณรู้ว่าผมสนใจเธอ คุณก็ควรจะรู้ ว่าต้องปกป้องผู้หญิงที่ตัวเองรัก แทนที่จะคาดหวังให้คนอื่นมาดูแลเธอ!”
“เธอไม่ได้เลือกคุณ คุณแพ้แล้ว” อวี๋เยว่หานหลุบตาลง เอ่ยอย่างเย็นชา
ใบหน้าของเขาเหมือนจะเรียบเฉย มือที่ตกอยู่ข้างตัวกำหมัดอย่างเงียบๆ
เขาไม่สนใจคำพูดของฟ่านอวี่ไม่ได้จริงๆ
ชายหนุ่มไม่รู้อดีตของเธอ แม้กระทั้งไม่รู้ว่าคนที่เธอสนใจที่สุดก่อนจะความจำเสื่อม คือใคร
ลูกตาสีดำของอวี๋เยว่หานหดตัวในทันใด!
“ครืดๆ…” จู่ๆ โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ส่งเสียงดังขึ้นมา
อวี๋เยว่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมามองการแจ้งเตือนสายเข้าบนนั้น แล้วรับสายอย่างรวดเร็ว
เป็นสายจากพ่อบ้าน
“คุณชาย คุณเหนียนตื่นหลังจากคุณออกไปได้ไม่นาน…”
พ่อบ้านยังพูดไม่ทันจบ ก็มีใครบางคนแย่งไปพูดสายแล้ว
ไม่นานเสียงของเหนียนเสี่ยวมู่ก็ดังมา เสียงของเธอดูน้อยใจอยู่บ้าง
“อวี๋เยว่หาน ฉันเพิ่งหลับคุณก็ไป แถมไม่ได้บริษัทอีกต่างหาก คุณไปเจอใคร ถ้าไม่พูดให้ชัดเจน คืนนี้คุณอย่าหวังจะได้นอนเตียงเดียวกับนางฟ้าเลย!”
ผ่านไปหลายวินาทีแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้ยินเสียงของเขา จึงหยิกต้นขาของตัวเองในทันที และเริ่มร้องไห้แทบใจจะขาดขึ้นมา
“คุณแอบมีกิ๊กอยู่ข้างนอกหรือเปล่า แอบเลี้ยงใครลับหลังฉันใช่ไหม ผู้ชายนิสัยไม่ดี อย่ามาห้ามฉันล่ะ ฉันจะพาเสี่ยวลิ่วลิ่วออกจากบ้าน!”
ตอนที่ 614 ฮีโร่ผู้เก่งกาจของเธอ
เมื่อได้ยินเสียงของเธอ หัวใจที่กระวนกระวายของอวี๋เยว่หานก็สงบลงในทันที
มุมปากของเขายกโค้งเหมือนกำลังยิ้ม
ชายหนุ่มเปลี่ยนมืออีกข้างถือโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะเอ่ยด้วยความเอ็น “เป็นเด็กดีอย่าดื้อ รอผมก่อน ตอนนี้ผมกำลังกลับไปนอนเป็นเพื่อนคุณแล้ว”
ทันทีที่วางสาย เขาก็ไม่ได้มองฟ่านอวี่อีก เพียงแต่มุ่งตรงไปขึ้นรถ แล้วบอกให้ผู้ช่วยออกรถ
ไม่นานรถของอวี๋เยว่หานก็เคลื่อยไปอีกด้านหนึ่ง
บนเขื่อนยาวเหลือเพียงฟ่านอวี่ที่ยืนเงียบๆ อยู่คนเดียว
ดึกมาแล้ว เงียบมากเช่นกัน
เงียบจนเขาเพียงแค่ยืนอยู่ค่อนข้างใกล้กับอวี๋เยว่หาน ก็ได้ยินเสียงของเธอดังออกมาจากในสายแล้ว
เสียงออดอ้อนของเธออาลัยอาวรณ์อวี๋เยว่หาน
ยังมีท่าทางโมโหที่เธอตั้งใจแสดงออกมาอีก ความจริงแล้วเธอคิดถึงอวี๋เยว่หานนั่นแหละ…
เขาไม่เคยเห็นลิ่วลิ่วเป็นแบบนี้มาก่อน
ทั้งแปลกหน้า และทำให้เขารักปักใจ
ฟ่านอวี่จับราวกั้นบนเขื่อนยาว เส้นเลือดบนหลังมือปูดโปน
ในแววตามีความไม่พอใจที่ปิดบังไว้ไม่อยู่…
ปล่อยวาง เขาทำได้จริงๆ เหรอ
คฤหาสน์ตระกูลอวี๋
กลางดึกสงัด
ในคฤหาสน์หลักยังคงเปิดไฟสว่างจ้า
เหนียนเสี่ยวมู่นั่งอยู่บนโซฟาห้องรับแขก ทันทีที่วางสาย เธอก็คว้าขนมกรุบกรอบห่อหนึ่งมาเปิดกิน
ทว่าเพิ่งยัดของกินเข้าไปในปาก จู่ๆ เธอก็นึกอะไรขึ้นได้ จึงหันไปมองพ่อบ้านที่อยู่ข้างๆ
“ดึกขนาดนี้แล้ว ฉันรออวี๋เยว่หานคนเดียวก็ได้ค่ะ คุณไปนอนเถอะ”
พ่อบ้านยื่นมือไปจัดชุดทำงานบนตัว แล้วตอบอย่างเป็นมืออาชีพ “คุณชายสั่งไว้แล้ว ว่าให้ผมดูแลคุณเหนียนจนกว่าเขาจะกลับมา”
พ่อบ้านขึ้นชื่อเรื่องหัวโบราณมาก
หากจะพูดถึงเหตุผลกับเขา ก็คงคุยกันไม่เข้าใจสักที
เหนียนเสี่ยวมู่ปล่อยวางความคิดที่จะโน้มน้าวให้เขาไปนอน พลางยกขนมในมือขึ้น “งั้นกินด้วยกันไหมคะ”
กินไปด้วยรอไปด้วย เวลาจะได้ผ่านไปเร็วหน่อย
ที่ไหนได้ พ่อบ้านแค่เหลือบมองขนมในมือของเธอ แล้วขมวดคิ้วอย่างเมินเฉยทันที
“คุณเหนียน กินขนมมากๆ ไม่ดีต่อสุขภาพ ผมไปล้างผลไม้มาให้คุณสักหน่อยดีกว่า ผลไม้อุดมไปด้วยโภชนาการ ทั้งยังช่วยเติมน้ำที่ร่างกายขาดไปด้วย” ระหว่างที่พ่อบ้านเดินเข้าห้องครัวไป เขาก็บ่นพึมพำอยู่ตลอด
“คุณเหนียนในตอนนี้อายุยังน้อย แต่ไม่สนใจสุขภาพของตัวเอง เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ต้องรักษาสุขภาพ…”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
หลังจากถูกพ่อบ้านบ่นไปหนึ่งยก เหนียนเสี่ยวมู่ก็มองขนมในมือครั้งหนึ่ง
เธออยากจะกินอีก แต่ก็รู้สึกว่าน่าขายหน้า
ขณะที่หญิงสาวลังเลว่าจะกินหรือไม่กิน เธอก็ได้ยินเสียงรถดังออกมาจากข้างนอกคฤหาสน์
ทำเอาเธอรู้สึกเป็นสุขยิ่งนัก
ทว่าเพิ่งวางห่อขนมในมือลง และยืนขึ้น เงาร่างของอวี๋เยว่หานก็ปรากฏอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์แล้ว
แสงจันทร์และดวงดาวสาดส่องให้เขาเปล่งประกาย ราวกับเป็นฮีโร่ผู้เก่งกาจของเธอ มาช่วยปลอบประโลมความไม่สบายใจของเธอในทันที
ครั้นเห็นเขายื่นมือมาหา หัวใจดวงน้อยๆ ของเหนียนเสี่ยวมู่ก็เต้นโครมครามอย่างกลั้นไม่อยู่ หญิงสาวก้าวขาวิ่งไปหาเขาทันที
ก่อนจะดีดตัวพุ่งเข้าใส่อ้อมกอดของเขา
มือและเท้ากอดตัวเขาไว้อีกต่างหาก
“นิสัยไม่ดี คุณ”ปไหนมา ฉันตื่นมาก็ไม่เห็นคุณแล้ว ฉันฝันร้ายด้วย…” เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่กล่าวมาถึงช่วงหลัง จู่ๆ เสียงของเธอก็สะอึกสะอื้น
เธอกลัวจนตกใจตื่น
แถมบรรยากาศรอบข้างยังเงียบเป็นพิเศษ คล้ายกับว่าโลกทั้งใบมีเธอพียงคนเดียว ทำให้เธอกลัวจนต้องกอดคอเขาไว้แน่น
บางทีคำพูดของฟ่านอวี่เมื่อตอนกลางวันอาจจะกระตุ้นความทรงจำของเธอ
ทำให้เธอฝันถึงไฟไหม้ครั้งนั้นอีก
เปลวไฟผลาญห่อหุ้มทุกอย่างที่เธอใส่ใจไว้ ราวกับปิศาจแห่งความฝัน
รวมทั้งเขาและเสี่ยวลิ่วลิ่วด้วย
หญิงสาวตกใจตื่นทันที ก่อนจะไปกอดเขาด้วยความร้อนใจ ทว่าข้างกายกลับไม่เหลือใคร