บทที่ 214 วางแผนซ้อนแผน

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 214 วางแผนซ้อนแผน
  ลมภูเขาแรงมาก

  ร่างกายของอานกั๋วทนไม่ไหว เดินไปปิดหน้าต่างด้านริมหน้าผาสูงชัน

  ภายในห้อง อบอุ่นขึ้นเล็กน้อย

  เขาไอออกมาสองที นั่งลงตรงข้ามฉินเทียน กล่าวอย่างเยาะเย้ยตนเองเล็กน้อย: “เฮ้อ แก่แล้วแก่แล้ว ยังมีความขัดแย้งอยู่มากมายขนาดนี้”

  “ถ้าหากไม่ใช่ว่ามีความปรารถนาบางอย่างที่ยังทำไม่สำเร็จอยู่ ผมยินยอมตายไปเดี๋ยวนี้ด้วยความสมัครใจ ปัญหาต่างๆก็พลอยสิ้นสุดลงไปด้วย”

  ฉินเทียนมองอานกั๋ว จากอารมณ์ของเขา เหมือนกับว่าหูปินนำตนเองมาปล่อยไว้กลางทางที่ตรงนี้ การใช้อำนาจมีดปืนคุกคามบีบบังคับ เขาไม่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังจริงๆ

  เขาไม่พูดจา รอให้อานกั๋วพูดต่อไป

  อานกั๋วนิ่งเงียบครู่หนึ่ง มองฉินเทียน ทันใดนั้นก็กล่าวขึ้นมา: “ตระกูลฉินแห่งซีเป่ย นั่นถึงเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง!”

  หืม?

  สีหน้าของฉินเทียนเปลี่ยนไปทันควัน ภายในดวงตาปรากฏเจตนาสังหารแวบหนึ่ง!

  “คุณสืบเรื่องผม?” น้ำเสียงของเขาก็เย็นชาขึ้นทันทีทันใด

  อานกั๋วยิ้มแล้วพยักหน้า กล่าว: “ไม่ต้องตื่นเต้นไป ฟังผมพูด”

  “ผมให้คนสืบเรื่องคุณ เดิมทีเป็นเพียงแค่ความผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้แต่ผมก็คิดไม่ถึง ไม่นึกฝันว่าจะพัวพันกับอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลฉินแห่งซีเป่ยเช่นนี้”

  “หากรู้เช่นนี้ตั้งแต่แรก ผมไม่มีทางถ่ายทอดคำสั่งนี้ออกไป ก็เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในตอนนี้”

  ฉินเทียนกล่าวเสียงเย็นชา: “หมายความว่าอย่างไร?”

  “คุณหมายความว่า ความขัดแย้งเหล่านี้ มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลฉินแห่งซีเป่ยงั้นหรือ?”

  อานกั๋วถอนหายใจ กล่าว: “ตอนนี้ผมยังไม่รู้”

  “แต่ว่าผมกล้ายืนยันว่า มีลูกน้องของผม กำลังสมคบคิดกับเป่ยเจียงทางนั้น วางแผนที่จะก่อกบฏ”

  “ก็ไม่โทษพวกเขา ผมป่วยมาหลายปีขนาดนี้ การร่วงโรยเป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็ว”

  “เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงที่มีบางคน จะเก็บสันดานเอาไว้ไม่อยู่”

  “ไม่ง่ายเลยที่จะรอจนถึงโอกาสนี้ คิดไม่ถึงว่าฉินเทียนกลับสามารถรักษาโรคของผมได้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาถึงแพร่กระจายข่าวลือ กล่าวว่าคุณต้องการจะฆ่าผม”

  “แน่นอนว่าจุดประสงค์ก็เพื่อขัดขวางคุณให้การรักษาผม”

  “หูปินเชื่อข่าวลือนี้ ฉะนั้นจึงบังคับขู่เข็ญคุณผู้ชายมาถึงที่นี่ลับหลังผม”

  ฉินเทียนกล่าวเสียงเย็นชา: “ผมมีหน้าที่แค่รักษาเท่านั้น สิ่งเหล่านี้ที่คุณพูด เกี่ยวข้องอะไรกับผม”

  “มีความเกี่ยวข้อง” อานกั๋วมองฉินเทียน กล่าว: “ผมต้องการขอให้คุณช่วยผม”

  “วางแผนซ้อนแผน”

  “ในเมื่อมีคนไม่ต้องการให้ผมถูกรักษาจนหายดี เช่นนั้นคุณก็รักษาผมให้ตาย มีเพียงแค่ผมตายเท่านั้น ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหล่านั้น ถึงจะลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ”

  ฉินเทียนกล่าวอย่างดูแคลน: “คุณไม่แน่ใจว่าคนที่ทรยศคุณคือใคร ฉะนั้นอยากจะแกล้งตาย ให้คนเหล่านั้นเป็นฝ่ายเผยตัว หลังจากนั้นก็กำจัดให้ราบคาบในคราวเดียว”

  “วิธีการนี้ไม่เลว เพียงแต่ว่า ทำไมผมถึงต้องช่วยคุณ?”

  “อย่าคิดว่าผมไม่รู้ หลังจากที่คุณแกล้งตายแล้ว ลูกน้องของคุณเหล่านั้นคิดว่าถูกผมฆ่าตาย จะนำความเดือดร้อนมาให้ผมเพิ่มมากขึ้น”

  “ถึงแม้ผมไม่กลัวความเดือดร้อน แต่ผมก็ไม่ชอบความเดือดร้อนเช่นกัน”

  อานกั๋วยิ้มกล่าว: “นี่จึงได้มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลฉินแห่งซีเป่ยแล้ว”

  “คุณผู้ชายฉิน ในฐานะที่คุณเป็นลูกชายคนโตและหลานชายคนโตของตระกูลฉิน หลายปีมานี้ กลับถูกบีบบังคับให้ระเหเร่ร่อนอยู่ด้านนอก”

  “ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ เท่าที่ผมทราบ ตระกูลฉินยังไม่อยากจะปล่อยคุณไป”

  “ผมทราบดี อำนาจวิหารเทพของคุณค่อนข้างแข็งแกร่ง”

  “ไม่ว่าราชาเสือจะสั่งการให้ล่องเหนือ หรือว่าราชามังกรนำคนออกโจมตี ต่อให้ตระกูลฉินจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยเช่นกัน”

  “แต่ว่า ราชาเสือปกครองแดนเหนือ ราชามังกรควบคุมดูแลกลุ่มมังกร ถึงแม้พวกเขาทั้งหมดต่างก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณ แต่ว่าก็มีสถานะของราชการ”

  “ผมเชื่อว่า ต่อให้คุณตาย ก็ไม่มีทางยินยอมใช้อำนาจเหล่านี้ มาแก้ไขปัญหาทางบ้าน”

  “นอกจากนี้ อำนาจอื่นๆของวิหารเทพ ถึงแม้ไม่อาจดูแคลนได้ แต่ว่าส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ”

  “อยากจะต่อต้านตระกูลฉินแห่งซีเป่ย เกรงว่าจะเป็นพลังใจล้นเหลือแต่กำลังไม่พอ”

  “และผม สามารถช่วยคุณได้”

  “ขอเพียงแค่คุณช่วยผมทำให้ความวุ่นวายภายในสงบลง วันหน้าทั้งเมืองหนานเจียง ล้วนจะเป็นตำแหน่งแนวหลังของคุณ”

  ฉินเทียนกล่าวเสียงเย็นชา: “ไม่จำเป็น!”

  “เรื่องครอบครัวของผม ไม่จำเป็นต้องพึ่งพามือของใครทั้งนั้น ผมแก้ไขปัญหาเองได้”

  อานกั๋วถอนหายใจ กล่าว: “ความรู้สึกภายในใจของคุณผมสามารถเข้าใจได้ เพียงแต่ว่า ขออภัยที่ผมต้องพูดตรงๆ ตอนนี้คุณเองก็เป็นคนที่มีคนในครอบครัวแล้ว”

  “ต้องไตร่ตรองอย่างรอบคอบนะ”

  สีหน้าของฉินเทียนเปลี่ยนไปทันที เขาทราบดี “คนในครอบครัว”ที่อานกั๋วเอ่ยถึง หมายถึงซูซู

  เจตนาสังหารในดวงตาของเขาเปิดเผยออกมาอย่างเต็มที่: “ใครกล้าแตะต้องภรรยาของผม ผมจะทำให้มันตายอย่างไร้ที่ฝัง!”

  อานกั๋วยิ้มกล่าว: “มีอำนาจเพิ่มขึ้นอีกส่วน กันไว้ดีกว่าแก้นี่”

  “อย่างไรเสียเขตอิทธิพลและอำนาจของหลงเจียง เล็กเกินไป”

  “คุณผู้ชายฉิน คุณลองไตร่ตรองดูอีกครั้ง หลังจากเรื่องสำเร็จแล้ว คุณก็สามารถเป็นราชาของหนานเจียงได้อย่างแท้จริง”

  เมื่อเห็นว่าฉินเทียนยังลังเล อานกั๋วลุกขึ้นยืน โน้มตัวลงไปจนสุด กล่าว: “แน่นอนว่า อย่างไรเสียที่สำคัญคือก็เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของผมเอง”

  “เนื่องจากผมทราบดีว่า ถ้าหากตอนนี้ไม่สามารถขจัดภัยพิบัติที่แอบแฝงภายในได้ ต่อไปเกรงว่าก็จะไม่โอกาสอีกต่อไปแล้ว”

  “ขอให้คุณผู้ชายได้โปรดส่งเสริม!”

  ฉินเทียนถอนหายใจ กล่าว: “ก็ได้”

  “ในเมื่อคุณยืนหยัดเช่นนี้ เช่นนั้นครั้งนี้ผมจะส่งเสริมคุณสักครั้ง”

  “นอนลงเถอะครับ เริ่มต้นการรักษา”

  “หลังจากการรักษาแล้ว จำเป็นต้องใช้เวลาพักผ่อนร่างกายสักระยะหนึ่ง คุณก็สามารถแกล้งตายได้พอดี”

  “ขอบใจมากพ่อหนุ่ม!” อานกั๋วหัวเราะอย่างชอบใจ หลังจากดีใจ แม้แต่การเรียกชื่อก็เปลี่ยนไปแล้ว

  เขาถอดเสื้อนอกออก นอนราบบนตั่งเตียงที่อยู่ด้านข้าง หลับตาลง นำโชคชะตาของตนเอง มอบให้ไว้ให้ในมือของฉินเทียนทั้งหมด

  ฉินเทียนถอนหายใจ

  ตอนนี้ใกล้จะตีสามแล้ว เข้าสู่ยามสาม(ช่วงระยะเวลาตั้งแต่ตีสามถึงตีห้า) ชี่ของสวรรค์และโลก ตอบสนองต่อเส้นลมปราณตับและเส้นลมปราณปอดภายในร่างกายของคน

  แต่โรคของอานกั๋ว อยู่ที่เส้นลมปราณตับ

  ตอนนี้ก็คือโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการรักษา

  เขากระปรี้กระเปร่า กุ่ยเหมินสิบสามแสดงออกมาอีกครั้ง เมื่อได้ทำการรักษา

  ภายในห้องเต็มไปด้วยความเงียบสงัด

  ด้านนอก กลับเป็นคลื่นใต้น้ำที่โหมซัดสาด

  จี้เจินมองดูประตูที่ปิดสนิท รวมทั้งจุยเฟิงที่ราวกับหุ่นยนต์หน้าประตูห้อง กัดฟันแน่น กล่าว:

  “คุณหู พวกเราจะต้องคิดหาวิธีทางขัดขวางฉินเทียน!”

  “เขาสมคบคิดราชาเป่ยเจียง ต้องยืมโอกาสในการรักษา ฆ่านายท่าน พวกเราจะให้เขาทำแผนชั่วสำเร็จไม่ได้!”

  หูปินขมวดคิ้ว กล่าว: “นายท่านไว้วางใจฉินเทียนขนาดนั้น พวกเราคิดมากไปแล้วหรือไม่?”

  “นี่คงจะไม่ใช่แผนร้ายของหลิวเช่อหรอกมั้ง เจตนาปลุกปั่นพวกเรา เพื่อไม่ให้ฉินเทียนทำการรักษา”

  จี้เจินสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย กัดฟันกล่าว: “ไม่ขจัดความเป็นไปได้ข้อนี้!”

  “แต่ว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญ อย่างน้อยที่สุดพวกเราควรจะคอยดูอยู่ข้างๆใช่หรือไม่?”

  “ป้องกันคนแซ่ฉินเล่นเล่ห์เหลี่ยม!”

  หูปินพยักหน้า เขาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน นี่คือกลยุทธ์ที่สมบูรณ์แบบ

  แต่ว่า เขามองจุยเฟิง ฝืนยิ้มกล่าว: “จุยเฟิงนอกจากคำสั่งของนายท่านแล้ว ก็ไม่ฟังคำสั่งใครทั้งนั้น”

  “ตอนนี้เขาเฝ้าอยู่ที่ประตู คุณมีวิธีย้ายออกไปหรือไม่?”

  “อย่าได้ไม่เชื่อ ถ้าหากพวกเราเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต เขาจะตัดหัวของพวกเราจริงๆ”

  จี้เจินกล่าวอย่างเดือดดาล: “คุณเป็นราชาบู๊ ถึงแม้จุยเฟิงจะเป็นบอดี้การ์ดคนสนิทของนายท่าน แต่ว่าก็ควรจะต้องให้คุณดูแลถึงจะถูกต้อง!”

  “คุณหู เวลาไม่คอยท่า คุณจะต้องสั่งให้จุยเฟิงเปิดประตู!”

  หลี่ชุนที่อยู่ด้านข้างกัดฟันกล่าว: “คุณหู หากเขากล้าไม่ฟังคำสั่ง ก็ยิงเขาสักนัด”

  “ถึงแม้ว่ามีดของเขาจะเร็ว ผมไม่เชื่อว่า จะเร็วกว่าลูกปืน”

  หูปินกล่าวอย่างเดือดดาล: “ไอ้สารเลว!”

  “นายท่านเห็นจุยเฟิงเหมือนเป็นลูกของตนเอง ใครกล้าบังอาจฝ่าฝืน ก็คืออกตัญญูต่อนายท่าน!”

  “อีกอย่าง คุณคิดจริงๆหรือ ว่าเขาจะหลบลูกกระสุนไม่ได้งั้นหรือ?”

  เมื่อนึกถึงตอนที่จุยเฟิงเพิ่งมาถึงตระกูลอาน การทดสอบของตนเองต่อเขา ในดวงตาของหูปินยังมีความหวาดกลัวอยู่

  ครั้งนั้น ที่เผชิญหน้ากับลูกกระสุน จุยเฟิงไม่ได้หลบ

  แต่นำมีดยาวออกจากฝัก นำกระสุนที่รวดเร็วลูกนั้น ผ่าออกเป็นสองท่อน

  “รออีกสักครู่เถอะ”

  “นายท่านบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ฉันยินยอมเชื่อว่า เขาจะต้องรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน”

  เขาเอ่ยกล่าวอย่างหนักแน่น

  เมื่อได้ยินคำพูดของหูปิน จี้เจินส่งสายตาให้แก่หลี่ชุน กล่าว: “หัวหน้าหลี่ เธอตามฉันมาดูด้านนอก”

  “ฉันเป็นห่วง ว่าด้านนอกอาจจะมีคนฉวยโอกาสก่อการจลาจล”

  “ครับผม ท่านจี้” หลี่ชุนรีบขานรับ เดินตามจี้เจินออกไปทางด้านนอก