บทที่ 230
“ขยันหมั่นเพียร?”สีหน้าของเอียนชิงเฉิงผิดหวังมากๆ เธอมองเฉินโม่ด้วยความสงสัย:”คุณอยากเห็นความขยันหมั่นเพียรเรื่องอะไรเหรอ?”

เฉินโม่วางถ้วยน้ำชาลงและพูดเบาๆ:”คุณต้องเป็นคนไปหาคำตอบเอง คุณออกไปได้แล้ว!”

เอียนชิงเฉิงยืนขึ้นทันที สายตาอันงดงามของเธอฉายแววความโกรธออกมาและเธอก็พูดทันที:”ฉันจะทำให้คุณมองเห็นความขยันหมั่นเพียรของฉัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะอยู่ข้างๆคุณ เป็นสาวใช้ส่วนตัวให้คุณ ค่อยปรนนิบัติรับใช้คุณ ค่อยยกน้ำและยกอาหาร ปูที่นอนและเก็บที่นอนให้คุณ จนกว่าคุณจะยอมรับฉันเป็นลูกศิษย์!”

สีหน้าของเฉินซงจื่อแปลกไปทันที เขาอยากจะหัวเราะออกมาแต่ก็ไม่กล้า

สีหน้าของซังซังเต็มไปด้วยความตกใจ ราวกับเธอพึ่งรู้จักเอียนชิงเฉิงเป็นครั้งแรก

ถ้าให้คนอื่นๆรู้ว่าสาวงามอันดับหนึ่งของยานจิงยอมเป็นสาวใช้ส่วนตัวของเฉินโม่ ไม่รู้ว่าจะมีวัยรุ่นชายกี่คนที่ต้องอกหักและเสียใจ พวกเขาคงถือมีดทำอาหารมาไล่ฆ่าเฉินโม่อย่างแน่นอน

เฉินโม่ขมวดคิ้วทันที แต่เขาไม่เชื่ออยู่แล้วว่าลูกคุณหนูอย่างเอียนชิงเฉิงจะยอมเป็นสาวรับใช้ส่วนตัวจริงๆ เขาก็เลยไม่ได้สนใจคำพูดของเอียนชิงเฉิงเลย

เมื่อมองเห็นเอียนชิงเฉิงจากไป เขาก็สั่งให้เฉินซงจื่อฝึกฝนพลังต่อ จากนั้นเฉินโม่ก็กลับมาที่ห้องพักของตัวเองทันที

ขณะที่เฉินโม่กำลังนั่งลงเพื่อฝึกฝนนั้นก็มีคนมาเคาะประตูทันที

ไม่ต้องเปิดประตู แค่สัมผัสพลังของอีกฝ่าย ทำให้เฉินโม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครทันที ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เฉินโม่ไม่ได้เดินไปเปิดประตู เพราะเขาหวังว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัวและจากไปเอง

อย่างไรก็ตาม ทุกๆสองสามวินาที เธอจะเคาะประตูอีกครั้ง และเคาะอย่างนี้มาสิบนาทีแล้ว

เฉินโม่ถอนหายใจทันที เขาสะบัดมือ ทำให้ประตูห้องเปิดออกทันที

เอียนชิงเฉิงถือกะละมังและผ้าเช็ดเท้าแล้วเดินเข้ามา

เธอเดินมาถึงข้างๆเตียงนอน จากนั้นก็วางกะละมังลง ในกะละมังมีน้ำร้อนอยู่

“คุณชาย ฉันมาล้างเท้าให้คุณ”เอียนชิงเฉิงพูดเบาๆด้วยน้ำเสียงที่ไม่แข็งกร้าวและเย่อหยิ่ง

เฉินโม่มองหน้าเธอและพูดด้วยสีหน้าปกติ:”คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ การที่ฉันไม่รับคุณเป็นลูกศิษย์ เพราะเส้นทางฝึกฝนของฉันไม่เหมาะกับคุณ”

เอียนชิงเฉิงทำตัวเหมือนไม่ได้ยิน น้ำเสียงของเธอดังขึ้นและพูดด้วยสีหน้าปกติ:”คุณชาย ฉันมาเพื่อล้างเท้าให้คุณ”

เฉินโม่ไม่ได้ขยับตัว เขามองหน้าอันงดงามของเอียนชิงเฉิงอย่างเงียบๆ ราวกับเขาต้องการมองความคิดของผู้หญิงที่งดงามคนนี้ให้ออก

แต่น่าเสียดาย ถึงแม้เฉินโม่จะแข็งแกร่งมากแค่ไหน เขาก็มองจิตใจของผู้หญิงไม่ออก

เมื่อมองเห็นเฉินโม่ไม่ยอมขยับตัว เอียนชิงเฉิงจับเท้าของเฉินโม่ทันที เธอถอดถุงเท้าและเอาเท้าของเฉินโม่แช่ลงในกะละมังทันที

อุณหภูมิของน้ำกำลังพอดีเลย มืออันสวยงามของเธอ นิ่มราวกับไร้กระดูก ถึงแม้จิตใจอันเข้มแข็งของเฉินโม่ ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน

เขาก้มหน้ามองเอียนชิงเฉิง เธอกำลังนั่งยองๆและก้มหน้าอยู่ เส้นผมสีดำของเธอมัดไว้บนไหล่ เธอตั้งใจทำงานนี้มากๆ

หลังจากล้างเท้าเสร็จ เอียนชิงเฉิงก็เช็ดเท้าให้เฉินโม่อย่างระมัดระวัง จากนั้นก็โค้งคำนับ:”ฉันขอตัวก่อน!”

เอียนชิงเฉิงยกกะละมังขึ้นมาและเดินออกไปอย่างช้าๆ สีหน้าอันงดงามของเธอไม่ได้แสดงอะไรออกมา เธอเย็นชาราวกับนางฟ้า

ตั้งแต่ต้นจนจบ เฉินโม่มองเธออย่างเงียบๆ หลังจากเธอออกจากห้องและปิดประตูแล้ว

ได้รับการปรนนิบัติจากสาวงามขนาดนี้ แต่เฉินโม่ไม่ได้รู้สึกดีใจเหมือนผู้ชายทั่วไป สีหน้าของเธอนิ่งสงบมากๆ

“ปรนนิบัติผู้บำเพ็ญแดนดั่งเทพ คงไม่ได้ทำให้คุณเสียเกียรติหรอก ถ้าคุณสามารถอดทนทำได้หนึ่งเดือน ฉันจะพาคุณเข้าสู่การฝึกฝนบำเพ็ญเซียน ช่วยคุณเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตัวเอง!”

ในเวลานี้ ประตูห้องถูกเปิดออกอีกครั้ง เอียนชิงเฉิงที่เปลี่ยนเป็นชุดนอนสีขาวแล้วเดินเข้ามาอีกครั้ง เส้นผมอันยาวของเธอวางอยู่ด้านหน้า ใบหน้าอันงดงามของเธอ ทำให้ผู้ชายนับไม่ถ้วนหายใจติดขัดเพราะมองเห็นความงามของเธอ

เฉินโม่ขมวดคิ้วทันที เธอต้องการทำอะไรกันแน่?

เอียนชิงเฉิงเดินมาถึงข้างเตียง สีหน้าของเธอแดงมากๆ เธอถอดรองเท้าและเผยเท้าอันสวยงามออกมา จากนั้นเธอก็ขึ้นไปที่เตียงและนอนนิ่งๆอยู่ในผ้าห่ม

เฉินโม่หายใจติดขัดทันที เขาไม่รู้จะทำยังไงก็เลยลงมาจากเตียงทันที เขาเดินไปที่มุมห้อง จากนั้นก็นั่งลงและปิดตาฝึกฝนทันที

เอียนชิงเฉิงไม่ได้ไปรบกวนเขา เธอนอนนิ่งๆอยู่ในผ้าห่ม ไม่นานเธอก็หลับไปทันที