ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 141
ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อเห็นว่าจื่ออานได้ผลักกุ้ยไท่เฟย
อ๋องอันรีบเข้าไปช่วยพยุงตัวนาง “ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม? จะล้มหรือเปล่า?”
กุ้ยไท่เฟยโกรธจนหน้าดำหน้าแดง ในชีวิตนี้ของนางยังไม่เคยถูกรังแกและเหยียดหยามเช่นนี้มาก่อน? นางจะอดทนได้เช่นไร? กัดฟันแล้วกล่าว“พวกเจ้าจับตัวนางแล้วพาไปส่งที่จวนอ๋องให้ข้า แล้วข้านี่แหละจะสั่งสอนนางแทนบิดาของนางเอง”
จื่ออานถูกฉุดลากตัวออกไป มู่หรงจ้วงจ้วงก็อยากช่วยขอร้องให้ แต่ว่า จื่ออานได้ผลักกุ้ยไท่เฟย นางคงช่วยขอร้องให้ไม่ไหว ได้แต่มองดูจื่ออานถูกพาตัวไปเท่านั้น
หลังจากที่จื่ออานถูกพาตัวไปแล้ว กุ้ยไท่เฟยก็ได้สั่งให้นำตัวมู่หรงเจี๋ยกลับไปรักษาที่จวนอ๋องโดยทันที
“ไท่เฟย ข้าขอแนะว่าตอนนี้ไม่ควรเคลื่อนย้ายตัวเขาเพื่อป้องกันไม่ให้เขาได้รับบาดเจ็บมากกว่าเดิม” อ๋องอันกล่าว
กุ้ยไท่เฟยกล่าวอย่างเย็นชา “อยู่ที่นี่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นมา ข้าจะพาอาเจี๋ยกลับจวน แล้วค่อยเชิญหมอหลวงจากในวังให้ไปรักษาเขา”
นักพรตที่ถูกคลายจุดแล้วคนนั้นก็พูดเสริม “ทำถูกแล้ว กุ้ยไท่เฟย ที่จวนอ๋องตอนนี้เป็นจุดศูนย์รวมพลังชี่ อยู่ที่จวนอ๋องเขาจะได้รับการคุ้มครองจากสวรรค์ อาตมาเองก็จะร่วมรักษากับหมอหลวงด้วยอย่างแน่นอน และเมื่อคำนวณดูแล้ว เคราะห์ร้ายครั้งนี้ของท่านอ๋อง จะกลับจากร้ายกลายเป็นดีได้”
เซียวท่าพอได้ยินว่าจะตามหมอหลวง ก็พูดขัดขึ้นมาทันที “กุ้ยไท่เฟย เรื่องที่ท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บ ไม่อาจแพร่งพรายให้ใครรู้ได้ และก็ไม่อาจให้ทางในวังรู้ได้เช่นกัน”
“เหลวไหล” กุ้ยไท่เฟยน้ำเสียงเย็นชา “ให้ทางในวังรู้แล้วมันจะเป็นยังไง? ตอนนี้หมอในสำนักฮุ่ยหมินก็รู้เรื่องกันหมดแล้วมิใช่หรือ?
เซียวท่ากล่าว “นั่นมันไม่เหมือนกัน หมอไม่กี่คนพวกนั้น ล้วนเป็นคนที่ท่านอ๋องไว้วางใจ แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปแม้สักครึ่งประโยค และถึงแม้ผู้อื่นจะรู้ว่าท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บ ก็ไม่อาจรู้ว่าพระองค์บาดเจ็บหนักขนาดนี้ ถ้าหากให้หมอหลวงออกนอกวังไปรักษา พระอาการของท่านอ๋องก็จะถูกรายงานอย่างละเอียด และจะส่งผลเสียต่อท่านอ๋องแทน”
“ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าชีวิตของเขา ถ้ามีใครจะมาโจมตี งั้นก็ให้มาเถอะ ข้าไม่กลัว” กุ้ยไท่เฟยพูดจบก็สั่งให้คนเข้ามาเตรียมการเคลื่อนย้ายตัวเขา”
อ๋องอันยังอยากพูดโน้มน้าวเพื่อยับยั้งนาง แต่กุ้ยไท่เฟยมีสีหน้าที่เคร่งขรึม มองไปที่เขาแล้วกล่าว มู่หรงจื่อ อาเจี๋ยคือบุตรชายของข้า ดังนั้นข้าจึงมิสิทธิ์ตัดสินใจขั้นเด็ดขาด หากเจ้ายังยืนกรานจะขัดขวางข้า เขาเป็นอะไรขึ้นมา เจ้าจะรับผิดชอบไหวไหม?
อ๋องอันกล่าว “ไท่เฟย เคลื่อนย้ายผู้ที่บาดเจ็บสาหัส เป็นเรื่องที่เขลามาก คิดดูอีกทีเถิด”
มู่หรงจ้วงจ้วงก็กล่าวขึ้นมา” มันก็แค่นี้เอง? พี่สะใภ้ ท่านก็ฟังความคิดเห็นของทุกคนด้วยสิ ท่านบังคับให้เคลื่อนตัวเขาไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันคุ้มกันแล้วเหรอ? หากท่านยืนยันจะเชิญหมอหลวง งั้นก็ให้เขามาที่นี่ก็ได้นี่?”
“เจ้าหุบปากซะ เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับเจ้า? เรื่องของบุรุษเจ้าก็เข้ามาวุ่นวาย ว่างนักก็ไปเรียนเย็บปักถักร้อยซะนะ ดูว่าองค์ชายพระองค์ใดจะพอใจในตัวเจ้า เมื่ออภิเษกออกไปแล้วจะได้ขจัดความกังวลใจให้หวงไท่โฮ่วได้ พระนางจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าอีก” กุ้ยไท่เฟยเกลียดน้องสาวของพระสวามีผู้นี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วที่นางเพิ่งจะชี้นำความคิดทำให้เข้าใจผิดว่าจื่ออานกับกับมู่หรงเจี๋ยมีความสัมพันธ์เกินเลยกันแล้ว
กุ้ยไท่เฟยปากคอเราะร้ายมาโดยตลอด ภายใต้ความโกรธ นางก็ต้องพูดทำนองนี้แน่นอน ถือว่าไว้หน้ามู่หรงจ้วงจ้วงมากพอแล้ว หากเป็นคนอื่น เกรงว่าจะพูดตรง ๆ ไปว่าเจ้าน่ะขายไม่ออกแล้ว
มู่หรงจ้วงจ้วงเกลียดที่คนมักจะพูดถึงเรื่องการอภิเษกสมรสของนางมาโดยตลอด เมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ ก็หันควับเดินจากไป ยังไงก็ไม่สามารถหยุดกุ้ยไท่เฟยได้แล้ว
กุ้ยไท่เฟยยึดมั่นในสิ่งที่จะทำมาก ทำให้เซียวท่ากับอ๋องอันจนปัญญาจะช่วยจริง ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นักพรตผู้นั้นพูดต่อหน้ากุ้ยไท่เฟยว่า จวนแม่ทัพแห่งนี้มีพลังชี่พิฆาตแข็งแกร่งมาก ไม่เหมาะสมถ้าจะให้ท่านอ๋องรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสที่นี่ มันยิ่งทำให้กุ้ยไท่เฟยมั่นใจในการตัดสินใจ