ตอนที่ 20 ไสหัวไป

Mars เจ้าสงครามครองโลก

เกาเจี๋ยลงมาจากรถถัง คุกเข่าข้างหนึ่งลงพื้น “เจ้าเทพ ทหารประจำเฉียนถัง รับคำสั่ง”

ทหารเกือบพันคน ต่างพากันคุกเข่าข้างหนึ่ง พูดเสียงดังสนั่นว่า “เข้าพบเจ้าเทพ”

เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างนิ่งๆ “ลุกขึ้นเถอะ พวกคุณเป็นทหารผู้มีเกียรติ ไม่จำเป็นต้องคุกเข่า”

ทหารเกือบพันคน พูดพร้อมกันเสียงดัง “ขอบคุณเจ้าเทพ!”

เจ้าเทพ คือศรัทธาของทหารทุกคน เป็นเทพในใจ

เกาเจี๋ยพูดเสียงสั่น “มีคนดูหมิ่นเจ้าเทพ ควรทำอย่างไร”

“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!”

ทหารทุกคน ตะโกนอย่างโมโห

เหมือนสายฟ้าเกรี้ยวกราด เหมือนคลื่นยักษ์บ้าคลั่ง

หมิงเจ๋อหัวตกใจจนเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้น

อันธพาลพวกนั้น ทิ้งมีดไปนานแล้ว บางคนตกใจกับความอาฆาตจนฉี่ราด

อันธพาลธรรมดาๆ ในเมือง กล้าอวดดีกับความแข็งแกร่งของกองทัพ อย่างนั้นหรือ!

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เย่เซิ่งเทียน แกเป็นเจ้าเทพได้ยังไง!”

หมิงเจ๋อหัวช็อกไปแล้ว เหมือนโดนดึงวิญญาณออกไป โวยวายออกมาเหมือนคนบ้า

ความจริงนี้ เล่นงานเขารุนแรงมาก

ลูกนอกสมรส ที่โดนพวกเขามองเป็นสิ่งน่าอายของตระกูลหมิง เป็นเจ้าเทพจริงๆ!

สำนักงานจ่งตูบอกว่า เย่เซิ่งเทียนไม่ใช่เจ้าเทพ ไม่ใช่หรือไง

ทำไมตอนนี้ถึงเป็นเจ้าเทพได้

ขนาดทหารประจำเมืองเฉียนถังก็มาด้วย!!

“เย่เซิ่งเทียน แกอย่าคิดหลอกฉัน นี่ต้องเป็นน้ำใจที่เจ้าเทพตอบแทนแก แกกล้าใช้กองทัพทหาร แกตายแน่! เลขาเวิน เลขาเกา ไม่ต้องเล่นละครกับมันแล้ว ผมรู้ว่าพวกคุณกำลังเล่นละคร!”

หมิงเจ๋อหัวตกใจจนร้องไห้ คำรามเหมือนวิตกจริต เขาพังทลายไปหมดแล้ว

มดในสายตาของเขา กลับกลายเป็นสิ่งที่เขาทำไม่ได้แม้แต่จะแหงนมอง

ความจริงนี้ ช่างโหดร้ายเหลือเกิน

ทำลายความภาคภูมิใจ กับความรู้สึกเหนือกว่าคนอื่นของเขาจนหมดสิ้น

ที่แท้เขาเป็นคนต่ำตม เป็นฝุ่นที่อยู่ในฝุ่น

ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะแหงนมองเย่เซิ่งเทียน

เย่เซิ่งเทียนมองหมิงเจ๋อหัวอย่างเฉยเมย ก้าวเข้าไปทีละก้าว

แต่ละก้าว เหมือนเหยียบย่ำลงบนหัวใจหมิงเจ๋อหัว ทำให้เขาหายใจไม่ออก

เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างยียวน “ถ้าฉันไม่ปล่อยข่าวเท็จ จะฆ่าตระกูลหมิงของแกทีละก้าวได้ยังไงล่ะ”

ข่าวเท็จงั้นเหรอ

จงใจให้ตระกูลหมิงของเขาเห็น!!!

หมิงเจ๋อหัวพังทลาย คุกเข่าตรงหน้าเย่เซิ่งเทียน

เขาตกใจจนร้องไห้ มีกลิ่นฉุนของฉี่โชยออกมา

เอาหัวโขกพื้นเสียงดังปักๆ

“เจ้าเทพ ไม่ใช่สิ ลูกพี่ลูกน้อง อย่าฆ่าฉัน อย่าฆ่าฉัน เราเป็นครอบครัวเดียวกัน อาหญิงหมิงยู่ชอบฉันที่สุด”

“น้อง ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้วจริงๆ ฉันจะไปคุกเข่าสำนึกผิด หน้าหลุมศพอาหญิงหมิงยู่ ลูกพี่ลูกน้อง อย่าฆ่าฉัน ฉันยอมทำความสะอาดหลุมศพ ให้อาหญิงหมิงยู่ตลอดชีวิต”

“น้อง ฉันสมควรตาย ฉันสมควรตาย ฉันคุกเข่าให้คุณ ฉันยอมเลียเสลด ปล่อยฉันไปสักครั้งเถอะนะ”

หัวเจ๋อหมิงพูดพลาง คลานเหมือนหมาไปเลียเสลดนั่น

“แกไม่คู่ควร!”

เย่เซิ่งเทียนเตะไปที่อกหมิงเจ๋อหัว จนเกิดเสียงกระดูกหักดังขึ้น

หมิงเจ๋อหัวกระเด็นออกไป อ้าปากกระอักเลือดออกมา ในนั้นปะปนไปด้วยชิ้นส่วนเล็กๆ ของอวัยวะภายใน

หมิงเจ๋อหัวกระแทกลงบนพื้น แขนหดเกร็ง ขาทั้งสองข้างกระตุก สุดท้ายก็แข็งทื่อไม่ขยับอีก

หมิงเจ๋อหัวตายแล้ว ดวงตาที่ลืมอยู่ มีความหวาดกลัวมากมาย

“เอาศพของหมิงเจ๋อหัว ส่งไปให้ตระกูลหมิงเป็นของขวัญ บอกคนตระกูลหมิงว่า วันนี้เป็นวันที่สี่”

พูดจบ เย่เซิ่งเทียนสั่งงานเวินเฉิน และกลับบ้านไป

……

“หมิงชุนชิว นี่เป็นของขวัญชิ้นแรก ที่คุณเย่มอบให้คุณ”

เกาเจี๋ยโยนศพหมิงเจ๋อหัว ไว้ในลานตระกูลหมิง

“หลานชายฉัน”

หมิงชุนชิวมองศพหลานชาย น้ำตาไหลนองหน้า

เจ็บปวด!

เจ็บจนแทบขาดใจ!

เจ็บจนวิญญาณแตกสลาย!

หลานชายที่เขารักที่สุด เป็นเลือดเนื้อของเขา

ผู้สืบทอดรุ่นที่สาม ที่ตระกูลหมิงเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก

ตอนนี้ เป็นเพียงศพเย็นยะเยือก

“แกรนหาที่ตาย!”

หมิงฮุยตวาดออกมา

ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ เหมือนจะกินคน

ขอบตาของเขา เหมือนจะฉีกออกมา

ไฟโกรธ แทบจะแผดเผาใจเขาจนกลายเป็นเถ้า!

ลูกชายคนโตของเขา โดนคนฆ่าตาย!

หมิงฮุยพุ่งเข้าไปหาเกาเจี๋ยเหมือนคนบ้า

“ใช้ชีวิตให้ดีเถอะ ชีวิตของคุณ เป็นของคุณเย่”

เกาเจี๋ยถีบหมิงฮุยจนกระเด็น เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณเย่ให้ฉันบอกพวกคุณ วันนี้เป็นวันที่สี่”

หมิงฮุยกระอักเลือดออกมา นอนบนพื้นเหมือนหมา ไม่สามารถขยับได้

“แกเป็นใคร ทำไมต้องช่วยเย่เซิ่งเทียน!!”

ดวงตาทั้งสองข้างของหมิงชุนชิวแดงก่ำ เหมือนแก่ลงอย่างรวดเร็วไปสิบกว่าปี

เกาเจี๋ยพูดอย่างเย็นชา “คุณไม่คู่ควรที่จะรู้ชื่อฉัน”

“ฆ่ามัน”

หมิงชุนชิวเหมือนเหมือนสิงโตคลั่ง

นักสู้ของตระกูลหมิงออกมาล้อมเกาเจี๋ยเอาไว้

“คนตระกูลหมิง เป็นพวกคนโง่จริงๆ ฮ่าๆๆๆ”

เกาเจี๋ยหัวเราะเสียงดัง พลิกตัวออกไปนอกกำแพง

เขาเคยเป็นผู้คุ้มกันคนสนิทของเจ้าเทพ คนตระกูลหมิงจะรั้งเขาได้หรือ

ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าเทพ ไม่ให้พวกเขาก้าวก่าย เขาทำลายตระกูลหมิงได้ด้วยตัวคนเดียว

“เย่เซิ่งเทียน!!!”

เสียงของหมิงชุนชิว เต็มไปด้วยความแค้น ไฟโกรธสะเทือนจิตใจ จนกระอักเลือดออกมา เป็นลมล้มลงบนพื้น

“รีบพาส่งโรงพยาบาล”

คนตระกูลหมิงตื่นตระหนก

ผู้สืบทอดเพิ่งตาย คุณท่านกระอักเลือดล้มลงไปอีก นี่สวรรค์จะทำลายตระกูลหมิงใช่ไหม

ทางเข้างานประกวดราคา ล้วนเป็นทหารหน่วยรบพิเศษ พร้อมอาวุธครบมือ

หวางเปียวยืดอก สีหน้าจองหอง

คนที่มาร่วมงานประกวดราคา ไม่ร่ำรวยก็เป็นคนมีอำนาจ ถ้าได้ทำความรู้จัก จะมีส่วนช่วยตระกูลหวางได้มาก

แค่ตัวเองได้โครงการเมืองใหม่มา ตัวเองจะเป็นคนที่มีความดีความชอบอันดับหนึ่ง

“คุณไม่มีสิทธิ์เข้าไป”

หน้าทางเข้างานประกวดราคา พนักงานพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

“อะไรนะ”

หวางเปียวอึ้งไป เข้าใจว่าตัวเองหูฝาด

เขาพูดอย่างเย่อหยิ่งทันที “ช่วยแหกตาพวกคุณดูให้ชัดๆ ฉันมีเอกสารรับรอง! มาทำให้ฉันเสียเวลา คุณรับผิดชอบไหวหรือเปล่า ยังไม่รีบให้ฉันเข้าไปอีก”

พนักงานพูดอย่างเย็นชา “ฟังไม่เข้าใจเหรอ นอกจากคุณหวางซี คนตระกูลหวางไม่คู่ควรที่จะเข้าไป”

หวางเปียวทั้งตกใจทั้งโมโห พูดอย่างอวดดีว่า “ทหารบื้อๆ อย่างคุณ กล้าพูดพล่อยๆ กับฉันเหรอ เชื่อไหมว่าฉัน……”

แกรกๆๆ

ปืนสิบกว่ากระบอก จ่อมาที่หัวหวางเปียว

หวางเปียวตกใจจนหน้าซีด มีกลิ่นเหม็นฉุน โชยออกมาจากเป้ากางเกง

ตกใจจนฉี่ราด

เขาไม่เพียงแต่จะเข้าไปไม่ได้ อีกทั้งยังโดนคนเอาปืนจ่อหัว

พนักงานพูดว่า “ไสหัวไป”

“อย่ายิง ฉันไปแล้ว”

หวางเปียววิ่งหัวซุกหัวซุนออกไป

เขากัดฟัน กลับไปต้องใส่ร้ายหวางซีให้เข็ด!

อีกด้านหนึ่ง หวางเอี๋ยนที่ไปรับคฤหาสน์เขตจวนสวรรค์ ก็เกิดเรื่องแล้ว

“ดิฉันหวางเอี๋ยน เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหวาง หวางซีจะนับประสาอะไรได้ คู่ควรมารับคฤหาสน์เขตจวนสวรรค์เหรอ”

หวางเอี๋ยนพูดอย่างเย่อหยิ่ง

ผู้ดูแลตระกูลจ้าว เห็นว่าไม่ใช่คุณหวางซี สีหน้าจึงเย็นชาลง “นอกจากคุณหวางซี คนตระกูลหวางคนอื่นๆ ไม่คู่ควรอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้!”

“แกตาบอดหรือไง ถึงกล้าพูดกับฉันขนาดนี้ นี่เป็นสัญญาโอน……”

หวางเอี๋ยนยังไม่ทันด่าออกมา ก็โดนผู้ดูแลตระกูลจ้าวตบจนล้มลงบนพื้น

“ไสหัวไป!”