ตอนที่ 19 ตกใจฉี่ราด

Mars เจ้าสงครามครองโลก

สายลมอันหนาวเหน็บ

สายลมอันหนาวเหน็บเข้าไปในกระดูก

เย่เซิ่งเทียนคุกเข่าตรงหน้าหลุมศพแม่

สายตาเย็นชาราวกับมีด

บนป้ายหลุมศพ มีเลือดสุนัขไหลลงมา!

“ใคร!”

น้ำเสียงของเย่เซิ่งเทียน เย็นกว่าสายลมอันหนาวเหน็บในตอนนี้

ภายใต้แววตาอันนิ่งสงบ มีความอาฆาตสุดขีดซ่อนอยู่

“เจ้าเทพ หมิงเจ๋อหัวค่ะ เวินเฉินสมควรตาย มาช้าไปแค่ก้าวเดียว เชิญเจ้าเทพลงโทษ”

เวินเฉินคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น สีหน้าโทษตัวเอง

เย่เซิ่งเทียนคุกเข่า เช็ดเลือดสุนัขบนป้ายหลุมศพทีละนิด

ทันใดนั้น เขาลุกขึ้นยืน เตะเวินเฉินจนกระอักเลือดออกมา

“ถ้าครั้งหน้ายังผิดพลาดอีก ทำลายกำลังของตัวเองซะ!”

แววตาอึมครึมของเย่เซิ่งเทียน ทำให้เวินเฉินอดสั่นไม่ได้

เวินเฉินเช็ดคราบเลือดมุมปาก แล้วรีบพูดว่า “ขอบคุณเจ้าเทพที่ให้อภัย ผู้น้อยสืบจนกระจ่างแล้ว ตอนนี้หมิงเจ๋อหัวอยู่ที่สวรรค์บนดิน”

“ไป”

เย่เซิ่งเทียนพูดแค่นั้น

ลมหนาวเหน็บเป็นอย่างมาก

สวรรค์บนดิน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งหรูหราที่สุดในเมืองเฉียนถัง

ให้บริการเหล่าลูกคนรวยโดยเฉพาะ ใช้ชีวิตได้อย่างพร้อมสรรพ

ว่ากันว่า ด้านในถูกสร้างเป็นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว ทั้งสี่ฤดู

บ่งบอกถึงความหรูหรา

“คุณชายเจ๋อหัว เรื่องเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”

ลานสกี

วัยรุ่นคนหนึ่งยื่นมือถือให้หมิงเจ๋อหัว

หมิงเจ๋อหัวสวมอุปกรณ์ป้องกัน ในการเล่นสกี ปรายตามอง จากนั้นก็ไถลลงไป อีกทั้งยังหมุนตัวกลางอากาศอย่างงดงาม

มีคนรีบตามไป เอาอุปกรณ์ป้องกันออกจากหมิงเจ๋อหัว อย่างนอบน้อม

“ทำได้ไม่เลว”

หมิงเจ๋อหัวยื่นมือออกมา คนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ รีบยื่นซิการ์ให้ เขาสูบไปหนึ่งที่ แล้วยื่นมือออกมา คนใช้รีบเอาที่เขี่ยบุหรี่เข้าไป

“หมิงเจ๋อหัว ฉันมาส่งแกไปเจอยมบาล”

ทันใดนั้น เสียงอันน่ากลัวดังขึ้น

เกิดความวุ่นวายตรงทางเข้า

สวรรค์บนดินเป็นที่ที่อันธพาลหลายคน “ลอย” เข้ามา

ผู้หญิงที่ดูห้าวหาญคนหนึ่ง บีบคอผู้ดูแลด้วยมือเดียว แล้วถามเนิบๆ ว่า “เข้าไปได้ไหม”

“ได้ ได้ กระข้ามีตาหามีแววไม่……”

ผู้หญิงโยนผู้ดูแลทิ้ง พูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “ฉันชื่อเวินเฉิน จะชดใช้หลังเสร็จเรื่อง ไปหาฉันที่สำนักงานจ่งตู”

เมื่อได้ยินชื่อนี้ ผู้ดูแลเกือบจะฉี่ราด เหงื่อแตกพลั่ก

กลัวจนไม่กล้าพูดอะไร

คุณพระ นี่คือเลขาเวิน!

เลขาอันดับหนึ่งข้างกายจ่งตู!

คือจอมพลหญิงคนแรกของต้าเซี่ย ที่เจ้าเทพพามาจากสงคราม!

รับผิดชอบกำหนดการหลัก ในเขตรบทั้งหมดของต้าเซี่ย!!

ผู้มีอิทธิพลคนนี้ มาที่นี่ แต่ตัวเองไม่ให้เธอเข้ามา

ยังดีที่เธอไม่ฆ่าตัวเอง

ขณะนั้น เวินเฉินหันหลัง และไปยืนข้างๆ อย่างนอบน้อม

เย่เซิ่งเทียนก้าวเข้ามา คลุมเสื้อคลุมหนังสีดำ

ตรงคอเสื้อ คือตราที่เป็นสัญลักษณ์ของต้าเซี่ย

เมื่อเขาปรากฏตัว เหมือนเป็นศูนย์กลางของโลก

ออร่าทรงพลัง กดดันจนทำให้คนอึดอัดจนหายใจไม่ออก

ผู้ดูแลตกใจจนเกือบตาย

ใครที่ทำให้เลขาเวินนอบน้อมขนาดนี้

เจ้าเทพ!

“เย่เซิ่งเทียน แกยังกล้ามารนหาที่ตายที่นี่!”

ตอนแรกหมิงเจ๋อหัวอึ้งไป จากนั้นก็ยิ้มอย่างร้ายกาจ “ถึงแกไม่มา ฉันก็จะไปหาแก ไอ้สวะ กล้าหลอกพวกเรา วันนี้เป็นวันตายของแก”

หมิงเจ๋อหัวสะบัดมือ คนด้านหลัง 7-8 คน พุ่งเข้าไปทันที

เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างนิ่งๆ “สิบวิ อย่าให้เห็นเลือด”

“รับทราบ”

เลขาเวินขยับตัว เหมือนเสือเข้าไปในฝูงแกะ ยกขาง้างมือ อันธพาลพวกนั้นยังไม่ทันตั้งตัว ก็ล้มลงไปนอนร้องโอดครวญบนพื้น

ไม่ถึงสิบวินาที!

เห็นเวินเฉินลงมือ หมิงเจ๋อหัวคิดว่าตัวเองตาฝาด

ทำไมเลขาเวินถึงมาที่นี่

อีกทั้งยังเชื่อฟังเย่เซิ่งเทียนมาก

เย่เซิ่งเทียนไม่ใช่เจ้าเทพ นี่มันเกิดอะไรขึ้น

หมิงเจ๋อหัวแอบรู้สึกว่าผิดปกติ

“หมิงเจ๋อหัว ฉันมาเอาชีวิตแก”

เย่เซิ่งเทียนจ้องหมิงเจ๋อหัว แล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ

แววตาอันน่าสยดสยอง เหมือนทำให้อากาศรอบๆ แข็งตัวช้าๆ

ภายใต้น้ำเสียงอันนิ่งสงบ ไม่อาจปิดบังความอาฆาตอันรุนแรงได้

ภายใต้การกดดันที่เกินบรรยาย หมิงเจ๋อหัวตัวสั่น มือทั้งสองข้างกำลังสั่นเบาๆ

แค่บรรยากาศในนี้ ก็ทำให้เขาแทบจะหายใจไม่ได้

เย่เซิ่งเทียนไม่ใช่เจ้าเทพไม่ใช่หรือไง

แต่ทำไมตอนนี้ เลขาเวินทำเหมือนเป็นลูกน้อง เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เซิ่งเทียน

“เย่เซิ่งเทียน คิดว่ามีเยื่อใยกับเจ้าเทพ แล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ คิดว่าพาเลขาเวินมาแล้วจะรอดเหรอ เลขาเวินแค่มาทำแทนเจ้าเทพไปอย่างนั้น”

หมิงเจ๋อหัวไม่กล้าเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง คิดว่าเจ้าเทพต้องส่งมาแสร้งทำให้เย่เซิ่งเทียนเท่านั้น

เขายิ้มอย่างโหดเหี้ยม ตอนนี้ข่าวที่พวกเขามีก็คือ เจ้าเทพไม่พอใจมาก ที่เย่เซิ่งเทียนอวดดี

ดังนั้น เจ้าเทพจึงบอกให้เวินเฉินมาแสร้งทำ แค่ฆ่าเย่เซิ่งเทียนตาย เจ้าเทพก็ไม่ต้องสนใจเยื่อใยแล้ว!

เวินเฉินมองเขา เหมือนมองคนโง่

คนตระกูลหมิง เป็นพวกโง่ที่ในสายตา มีเพียงแค่ผลประโยชน์

“เลขาเวิน คุณวางใจเถอะ ผมจะจัดการไอ้สารเลวนี่แทนเจ้าเทพเอง”

หมิงเจ๋อหัวพูดเย้ยหยัน “หมิงยู่แอบคลอดไอ้สารเลวออกมา กล้าแอบอ้างเจ้าเทพ หลอกลวงพวกเรา ดูสิว่าพวกเราจะจัดการแกยังไง เห็นเลือดสุนัขบนหลุมศพแม่แกหรือยัง ฉันจะไม่ให้แม่แกได้เกิดอีกตลอดไป”

“ตอนนั้นคนต่ำตมอย่างหมิงยู่ โดนชายสารเลวทิ้งไป ทำให้ตระกูลหมิงขายหน้า คลอดไอ้สารเลวอย่างแกออกมา วันนี้ฉันจะดูว่าแกจะตายยังไง ลูกสาวแกก็ไม่เป็นสุขแน่ รอให้แกตายก่อน ดูสิว่าฉันจะทรมานลูกสาวแกยังไง”

“สับมันซะ”

พูดจบ มีคนยี่สิบกว่าคนปรากฏตัวออกมา ในมือมีมีดมาเชเต้

หมิงเจ๋อหัวพูดอย่างน่ากลัว “ไอ้สารเลว ครั้งนี้ฉันจะรอดูว่าแกจะหนีไปไหน สับมันซะ”

เวินเฉินเดินเข้ามา แผดเสียงอย่างดุดัน “กล้าใช้อาวุธต่อหน้าเจ้าเทพ ตาย!”

คำพูดของเวินเฉิน เหมือนเสียงฟ้าร้องที่ทำให้ตกใจในฤดูใบไม้ผลิ

ตกใจจนหมิงเจ๋อหัวตัวสั่น

เป็นช่วงที่หนาวที่สุดของปีแท้ๆ แต่เสื้อของเขากลับเปียกจนชื้น

“เจ้าเทพ เย่เซิ่งเทียนจะเป็นเจ้าเทพได้ยังไง เลขาเวิน คุณต้องเข้าใจผิดแน่ๆ ข่าวที่สำนักงานจ่งตูเผยแพร่ออกมา เย่เซิ่งเทียนไม่ใช่เจ้าเทพ”

หมิงเจ๋อหัวรีบพูด เขายังเข้าใจว่าเวินเฉินจงใจเล่นละครตบตา

“เลขาเวิน คุณไม่ต้องกังวล ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง เจ้าเทพลงมือไม่ได้ ตระกูลหมิงยอมรับใช้เจ้าเทพ จัดการไอ้สารเลวเย่เซิ่งเทียน”

หมิงเจ๋อหัวถ่มเสลดลงพื้น ชี้หน้าด่าเย่เซิ่งเทียนว่า “ไอ้สารเลว มาถึงขั้นนี้แล้ว ยังกล้าแอบอ้างเป็นเจ้าเทพ แกคิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ เลขาเวินจนปัญญา จึงเล่นละครกับแกเท่านั้น”

“ฉันเกือบจะตกใจเพราะแก เย่เซิ่งเทียน คุกเข่าซะ คลานมาเลียเสลดฉันให้สะอาด ฉันจะไม่ให้คุณตายอย่างทรมาน”

เขาเพิ่งพูดจบ

ก็ได้ยินเสียง

กึกๆๆ

เสียงรองเท้าคอมแบตของทหารดังขึ้น

ทหารพร้อมอาวุธครบมือเกือบพันคน ปรากฏตัวขึ้น

ตู้ม

กำแพงสวรรค์บนดิน โดนระเบิดจนแตกออก!

กำแพงถล่มลงมา

ปรากฏเป็นรูกระสุนปืนใหญ่สามรู!

รถถัง

รถถังสามคัน!

พระเจ้า!

นี่จะมาทำอะไร!

อันธพาลพวกนั้นปากสั่น มีคนฉี่ราดออกมา

กองทัพทหาร!

นี่จะทำสงครามกันชัดๆ!

ความเงียบอันน่ากลัว

ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจและเสียงหัวใจเต้น

ได้แค่กลิ่นเหม็นฉุน!

ตอนนี้ หมิงเจ๋อหัวรู้สึกว่าแม้แต่วิญญาณ ก็ไม่ใช่ของตัวเองแล้ว