ตอนที่ 1402 นักบุญหญิง (7) / ตอนที่ 1403 นักบุญหญิง (8)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1402 นักบุญหญิง (7)

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มอย่างเฉยชา “ข้าพูดว่าพวกเจ้าไปได้ แต่…ข้าได้พูดหรือว่าจะปล่อยพวกเจ้าไป”

 

 

นางพูดว่าพวกเขาไปได้ แต่ไม่ได้พูดว่านางจะปล่อยพวกเขาไป!

 

 

เมื่อได้ยินแบบนี้ คนพวกนี้ก็หน้าบึ้งตึงแล้วจ้องหน้าอวิ๋นลั่วเฟิง

 

 

“หน้าไม่อาย!”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “เจ้าอ่อนแอเกินไปที่จะหนี เป็นความผิดข้าหรือ”

 

 

ตอนนั้นพวกเขาก็รู้ตัวว่าอวิ๋นลั่วเฟิงไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปตั้งแต่แรก

 

 

“เจ้าไม่กลัวหุบเขาผู้ใช้เวทเลยหรือ”

 

 

จนตอนนี้พวกเขาก็ยังพยายามขู่นางด้วยหุบเขาผู้ใช้เวท พวกเขาไม่รู้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงรู้ว่าพวกเขามาจากหุบเขาผู้ใช้เวทตั้งแต่แรก ถ้านางกลัวหุบเขาผู้ใช้เวทจริง นางก็ไม่สู้กับพวกเขาตั้งแต่แรก!

 

 

ถึงแม้ว่าหุบเขาผู้ใช้เวทจะแข็งแกร่ง แต่นางก็มีชะตาเป็นศัตรูกับพวกเขาอยู่แล้ว!

 

 

“หุบเขาผู้ใช้เวทของเจ้าต้องการสังหารข้า ถึงแม้ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป หุบเขาผู้ใช้เวทก็คงส่งคนที่แข็งแกร่งกว่ามาสังหารข้าอยู่ดี แล้วข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปทำไม” อวิ๋นลั่วเฟิงส่งยิ้มร้ายหาจไปให้พวกเขา

 

 

“สังหารนางกัน!” หนึ่งในนั้นกัดฟันแล้วนำคนกระโจนเข้าหาอวิ๋นลั่วเฟิง

 

 

ทว่าจู่ๆ เถาวัลย์มากมายก็ปรากฏขึ้นมาจากพื้นดิน พวกมันขยับราวกับมีชีวิตแล้วไล่ล่าคนจากหุบเขาผู้ใช้เวทก่อนแทงเข้าที่อกพวกเขา…

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงลูบเถาวัลย์พวกนี้แล้วใบหน้านางก็เป็นประกายจากรอยยิ้มชั่วร้าย “อาวุธของเสี่ยวซู่เยี่ยมมากจริงๆ”

 

 

คนพวกนี้ไม่ได้ทำให้นางบาดเจ็บ แต่นางก็ไม่สามารถสังหารพวกเขาด้วยเวลาอันรวดเร็วได้ เมื่อกี้นางสังหารหนึ่งในนั้นได้ง่ายเพราะชายคนนั้นไม่ระวังตัวแล้วโดนนางลอบโจมตี ส่วนคนที่เหลือนางก็ใช้อาวุธของเสี่ยวซู่สังหารพวกเขาอย่างไร้ร่องรอย!

 

 

“ไปกันเถอะ” อวิ๋นลั่วเฟิงมองหวงอิงอิงถึงตะลึงแล้วยักไหล่

 

 

ถ้าหวงอิงอิงยังเป็นคุณหนูที่โดนตามใจอย่ในจวน นางก็คงหวาดกลัว แต่ประสบการณ์ที่นางพบเจอเป็นปีทำให้นางรู้ว่านี่คือโลกที่มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด การแสดงความปรานีต่อศัตรูก็เหมือนทำร้ายตัวเอง! หากใครก็ตามต้องการสังหารเจ้า เจ้าก็ต้องสังหารพวกเขาก่อนเพื่อให้ได้เปรียบ ดังนั้นหวงอิงอิงจึงแค่ตะลึงในความแข็งแกร่งของอวิ๋นลั่วเฟิงเท่านั้น…

 

 

“เจ้าช้าเกินไปแล้ว” จีจิ่วเทียนพูดแล้วค่อยๆ ลุกจากเก้าอี้ยาวพร้อมยกยิ้มเจิดจ้าบนใบหน้าเย้ายวนนั่น “ในที่สุดเจ้าก็จัดการพวกมันได้ ข้าเกือบหมดความอดทนแล้ว”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงชำเลืองมองเขา “เจ้าแค่นอนดูการต่อสู้!”

 

 

จีจิ่วเทียนยิ้ม “นั่นเป็นเพราะว่าเจ้าบอกไม่ให้ข้ายุ่ง”

 

 

“แต่ข้าไม่ได้บอกให้เจ้างอมืองอเท้าดูอย่างเดียว!”

 

 

จีจิ่วเทียนเลิกคิ้ว เขาโบกมือเพื่อนำของกลับเข้าไปในธำมรงค์มิติแล้วสาวเท้าเข้าไปหาอวิ๋นลั่วเฟิง

 

 

“เจ้าอยากให้ข้าจัดการคนของหุบเขาผู้ใช้เวทให้เจ้าใช่หรือไม่” รอยยิ้มเย้ายวนบนใบหน้าของจีจิ่วเทียนกว้างขึ้น “ถ้าเจ้าอยากให้ข้าช่วย ก็จูบข้าก่อน ตกลงไหม”

 

 

“ก็ได้” อวิ๋นลั่วเฟิงกระดิกนิ้วเรียกจีจิ่วเทียน “มานี่”

 

 

จีจิ่วเทียนตะลึงงัน เขาจำได้ว่าเสี่ยวเฟิงเอ๋อร์ซื่อสัตย์กับจักรพรรดิปีศาจมาก ทำไมนางจึงยอมทำตามคำขอบ้าบอของเขาง่ายๆ แต่ว่า…

 

 

เมื่อมองริมฝีปากแดงสดยั่วยวนนั่น เขาก็อดไม่ได้ที่จะยื่นหน้าไปหาแล้วจากนั้น…

 

 

ตอนที่จีจิ่วเทียนกำลังตกอยู่ในภวังค์ อวิ๋นลั่วเฟิงก็ยกขาแล้วใช้เข่ากระแทกหว่างขาเขาเข้าอย่างแรง

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1403 นักบุญหญิง (8)

 

 

จีจิ่วเทียนหน้าเขียวทันทีแล้วเหงื่อเย็นๆ ก็ไหลเพราะความเจ็บปวด

 

 

“ขาข้าจูบกับส่วนนั้นของเจ้าแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง” อวิ๋นลั่วเฟิงมองใบหน้าซีดเผือดของจีจิ่วเทียนแล้วยิ้มเยาะ “ข้าสามารถทำให้เจ้าพอใจได้อีกถ้าเจ้าต้องการ”

 

 

จีจิ่วเทียนพยายามระงับความโกรธเขาขบฟัน “อวิ๋นลั่วเฟิง! เจ้าจะรับผิดชอบอย่างไรถ้าข้าไร้สมรรถภาพทางเพศ”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ตอบ เพียงแค่จ้องหน้าเขาแล้วพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ชอบโดนผู้อื่นเกี้ยว ข้าชอบเป็นฝ่ายเริ่มก่อน!”

 

 

จีจิ่วเทียนอดทนต่อความเจ็บแล้วมองอวิ๋นลั่วเฟิง “ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่คิดมากถ้าเจ้าจะเกี้ยวข้า”

 

 

ได้ยินแบบนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงก็ยิ้ม “ขอโทษด้วย ถ้าข้าอยากจะเกี้ยวใครสักคน คนคนนั้นก็ต้องเป็นอวิ๋นเซียว!”

 

 

ในชีวิต อวิ๋นเซียวเป็นคนรักเพียงคนเดียวของนาง!

 

 

นางไม่มีทางรักบุรุษอื่นนอกจากเขา!

 

 

จีจิ่วเทียนขมวดคิ้ว เมื่อเขาได้ยินคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิง ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้รู้สึกแปลกในใจแต่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร…

 

 

“เสี่ยวเฟิงเอ๋อร์ ทำตัวดีกับข้าหน่อย” จีจิ่วเทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วใช้ตาเรียวมองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างจริงจัง “ถึงอย่างไรข้าก็มีประโยชน์ อย่างน้อยข้าก็สู้เคียงข้างเจ้าได้ ถ้าเจ้าทำตัวดีกับข้า ข้าก็จะช่วยเจ้ามากกว่านี้”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงพูดพร้อมรอยยิ้ม “ข้ายังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด ไม่อย่างนั้นข้าเกรงว่าเจ้าคงสืบพันธุ์ไม่ได้แล้วจริงๆ”

 

 

ถึงแม้ว่าจีจิ่วเทียนจะค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่เขาก็เหมือนกับบุรุษทั่วไป บางส่วนในร่างกายเขาก็ยังบอบบาง แน่นอนว่าด้วยความแข็งแกร่งของจีจิ่วเทียน ถ้าคนที่โจมตีเขาไม่ใช่อวิ๋นลั่วเฟิงเขาก็ไม่มีทางบาดเจ็บเพราะ…ก่อนที่คนเหล่านั้นจะเข้าถึงตัวเขาก็คงโดนสังหารไปก่อนแล้ว!

 

 

“เอาล่ะ ข้าควรจะขอบคุณที่เจ้าเมตตาสินะ” จีจิ่วเทียนยิ้มเยาะ “ไม่อย่างนั้นข้าคงสืบพันธุ์ต่อไม่ได้แล้ว”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงได้ยินแบบนั้นก็เลิกคิ้ว “เจ้าเป็นเพื่อนเก่าของเจวี๋ยเชียนใช่หรือไม่”

 

 

“ถูกต้อง” จีจิ่วเทียนไม่คิดจะปิดบังตัวตน เขาเลยยอมรับโดยไม่ลังเล

 

 

“ทายาทตระกูลจีไม่ใช่บุตรเจ้าหรือ”

 

 

“ข้าไม่มีสตรีคนใดอยู่เคียงข้างแล้วข้าจะเอาบุตรมาจากไหน คนพวกนั้นเป็นบุตรของพี่ๆ น้องๆ ข้า”

 

 

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็บริสุทธิ์มาเป็นพันปีแล้วสิ แล้วเจ้าจะต้องการสืบพันธุ์ไปทำไม”

 

 

จีจิ่วเทียนชะงัก เขาไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองคิดว่า…อวิ๋นลั่วเฟิงเองก็พูดมีเหตุผล! เขาไม่เคยเป็นบิดาให้เด็กคนไหน แล้วเขาจะมีส่วนสืบพันธุ์ไปทำไม

 

 

“จีจิ่วเทียน ข้ามีคำถาม ข้อแรก เจ้ามีชีวิตอยู่เป็นพันปี แล้วตอนนี้เจ้าแข็งแกร่งแค่ไหน”

 

 

เมื่อได้ยินคำถาม ใบหน้าของจีจิ่วเทียนก็แข็งค้างไป เขาหันหน้าหนีด้วยความอายแล้วพูดขึ้น “เจ้าไม่ต้องรู้เรื่องนี้หรอก ถึงแม้ข้าจะบอกเจ้า ข้าก็เกรงว่าเจ้าก็จะไม่เข้าใจอยู่ดี”

 

 

“แล้วเป็นเรื่องจริงหรือที่เจ้าไม่เคยแตะต้องสตรีคนใดเลยตลอดพันปี”

 

 

“ฮึ่ม สตรีหยาบคายพวกนั้นน่ะหรือ! ข้าจะสนใจสตรีที่ตะลึงทุกครั้งที่เห็นหน้าข้าไปทำไม”

 

 

จีจิ่วเทียนค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง แล้วสตรีหยาบคายน่าเบื่อพวกนั้นจะเหมาะสมกับเขาได้อย่างไร ที่สำคัญจีจิ่วเทียนชินกับความงามของตัวเองแล้ว เขาจะยอมรับสตรีที่หน้าตาแย่กว่าเขาได้อย่างไร

 

 

ส่วนเรื่องความรู้สึกทางเพศนั้น…

 

 

เขาเคยพยายามลองมีอะไรกับสตรี แต่ทันทีที่เขาเห็นสตรีพวกนั้น ความปรารถนาในร่างเขาก็หายไปทันทีดังนั้นเขาก็เลยแก้ปัญหาด้วยใช้มือข้างขวาของตัวเองแทน