ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับริมฝีปากของซูฉิง
ประกบกันอย่างพอดี ฮ่อหยุนเฉิงหายใจติดขัดอย่างห้ามไม่อยู่
ริมฝีปากของเธอช่างนุ่มนวล อ่อนหวาน แม้จะยังร้อนอยู่ แต่ก็ยังคงเหมือนกับในความทรงจำ
ความรู้สึกที่คุ้นเคยและงดงามนั้นทำให้หัวใจของฮ่อหยุนเฉิงเต้นแรง
เขาอยากจูบเธอแบบนี้ไปจนชั่วฟ้าดินสลาย
แต่ว่า ไม่ได้
ตอนนี้เธอยังป่วยอยู่
เรื่อเร่งด่วนในตอนนี้คือต้องป้อนยาพวกนี้ให้ซูฉิงกลืนลงไป ให้อาการแพ้เธอดีขึ้น แบบนี้ไข้ถึงจะลดเร็ว
ฮ่อหยุนเฉิงระงับอากการสั่นของหัวใจ หายใจเข้าลึก ๆ เปิดปากเล็กของเธอด้วยลิ้น ป้อนยาทั้งหมดเข้าไปในปากของเธอ แล้วปิดดปากเล็กๆ ของเธอด้วยริมฝีปากเพื่อป้องกันไม่ให้เธอพ่นยาออกมา
“อื้ออื้อ…” ซูฉิงรู้สึกทรมานเล็กน้อย แต่ดิ้นไม่หลุดจึงกลืนยาลงไปโดยไม่รู้ตัว
เห็นซูฉิงกินยาลงไป ใจของฮ่อหยุนเฉิงก็ผ่อนคลายลง วิธีนี้ไม่เลวเลยจริงๆ
ฮั่วหยุนเฉิงทำเช่นเดียวกัน ด้วยนัยน์ตาที่ลึกซึ้งของเขา ป้อนซูฉิงทีละคำจนเธอกินยาเข้าไปทั้งหมด
“ขมมาก…” ซูฉิงถูกป้อนให้กินยาทั้งแก้ว จึงละเมอเลียริมฝีปากอย่าง
การกระทำเช่นนั้นล่อตาล่อใจฮ่อหยุนเฉิงอย่างมาก
ดวงตาลุ่มลึกก็เปลี่ยนเป็นลุกโชนขึ้นมา
เมื่อจ้องมองไปที่หญิงสาวตรงหน้า ในหัวของฮั่วหยุนเฉิงก็เต็มไปด้วยฉากที่เขาป้อนยาให้เธอเมื่อครู่
ริมฝีปากที่น่าดึงดูดนั่นทำให้เขาลืมไม่ลง
ต่อให้เธอจะดูอัปลักษณ์จากอาการแพ้ เธอก็ยังมีแรงดึงดูดต่อเขาไม่สิ้นสุด
เพราะว่า เขารักเธอ
เขารักเธอ ไม่ใช่เพราะเธองดงามจนน่าตะลึง แต่เพราะถูกเสน่ห์จากเอกลักษณ์ของเธอดึงดูด
ความฉลาดของเธอ ความมั่นใจ ความสงบเยือกเย็น ทุกๆ สิ่งทำให้หัวใจของฮ่อหยุนเฉิงเต้นแรง
ความรู้สึกแบบนี้ ฮ่อหยุนเฉิงไม่เคยมีมาก่อน
ชีวิตนี้ เขาเลือกเธอ
เขาจะทำให้เห็น ทำให้ซูฉิงรักเขาอีกครั้งและตอบรับคำขอแต่งงานของเขา
รักถนอมเธอ ดูแลเธอ จูงมือเธออยู่กับลูกหลานตราบสิ้นลมหายใจ
ฮั่วหยุนเฉิงจับมือของซูฉิงขึ้นมาวางมันลงบนริมฝีปากบางเซ็กซี่ของเขาแล้วถูเบาๆ นัยน์ตาของเขาปรากฏความอ่อนโยนที่ไม่เคยมีให้คนอื่นมาก่อน
“ซูฉิง เธอจะต้องไม่เป็นอะไร” ฮ่อหยุนเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“อืม…” ซูฉิงพิงอยู่ในอ้อมอกของฮ่อหยุนเฉิง ครางในลำคอ
จิตใต้สำนึกของเธอรู้สึกว่าริมฝีปากของฮ่อหยุนเฉิงเย็นสบาย จึงถูไถแก้มของเธอบนริมฝีปากของเขา
ความรู้สึกเย็นสดชื่นราวกับน้ำพุที่ใสสะอาด ทำให้เธออยากใกล้เข้าไปอีก
เขาพลิกสถานะจากแขกมาเป็นเจ้าบ้าน สองมือประคองแก้มซูฉิงแล้วจูบลงไปที่ริมฝีปากน่าหลงใหลนั่น
วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าแจ่มใส
แสงแดดนอกหน้าต่างส่องผ่านกระจกแยงตาของซูฉิง
ซูฉิงขยี้ตา แล้วค่อยเปิดเปลือกตาขึ้น
สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเธอคือใบหน้าที่หล่อเหลาจนทั้งคนและเทพต่างโกรธเคืองของฮ่อหยุนเฉิง
“ซูฉิง เธอตื่นแล้ว?”
ฮ่อหยุนเฉิงนั่งอยู่ที่หัวเตียง ในใจกังวลเกี่ยวกับอาการไม่สบายของซูฉิงจึงอดหลับอดนอนทั้งคืน เวลานี้เห็นว่าในที่สุดซูฉิงก็ฟื้นขึ้นมา น้ำเสียงแฝงไปด้วยความยินดีอยู่หลายส่วน
“ฮ่อหยุนเฉิง? นายมาอยู่ห้องฉันได้ยังไง?” ซูฉิงถามตามจิตใต้สำนึก
นัยน์ตาลึกซ฿งของฮ่อหยุนเฉิงมองมาที่เธอ พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เมื่อวานนี้เธอมีการแพ้จนไข้ขึ้น ฉันไม่วางใจ เลยอยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี่”
มีอาการแพ้? เป็นไข้?
ซูฉิงคลึงคิ้ว ความทรงจำของเมื่อวานก็ค่อยๆ กลับมา
เธอนึกออกแล้ว เมื่อวานเป็นงานเปิดตัวตำนานรักแห่งวังหลัง เมื่อเธอกับเฉินจุนเหยียนขึ้นเวทีไปตอบคำถามนักข่าว เธอก็มีอาการแพ้ขึ้นมา
ตอนนั้นเธอทรมานอย่างมาก ยังถูกนักข่าวล้อมไว้อีก เป็นฮ่อหยุนเฉิงมาไล่นักข่าว อุ้มเธอมาที่รถ
ต่อมา…
ต่อมาเกิดอะไรขึ้น?
ซูฉิงนึกไม่ออกแล้ว
“เธอรู้สึกยังไงบ้าง?” ฮ่อหยุนเฉิงมองซูฉิง หน้าของเธอดีขึ้นมากแล้ว
ดูท่ายาของเฮ่อหวงเหว่ยได้ผลอย่างมาก
เมื่อฮ่อหยุนเฉิงถามแบบนี้ ซูฉิงถึงรู้สึกร่างกายตนมีอาการคันเล็กน้อย
เธอก้มลงไปมอง บนแขน เหนือหน้าอกไม่ได้บวมแดงเหมือนเมื่อวานแล้ว ผื่นก็หายไปแล้ว
“ฉันดีขึ้นมากแล้ว” ซูฉิงหัวเราะ “เมื่อวานลำบากนายแล้ว ขอบคุณนะ”
“ไม่ต้องมาเกรงใจฉัน” นำเสียงทุ้มต่ำของฮ่อหยุนเฉิงเอ่ยว่า “เธอไม่เป็นอะไร ฉันก็วางใจ”
สบสายตาลึกซึ้งของผู้ชายตรงหน้า น้ำเสียงเป็นห่วงของเขาลอยเข้ามาในหู ในใจซูฉิงก็รู้สึกอบอุ่นอุ่นขึ้นอย่างไม่อาจห้าม
เห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขาซีดเซียวลง สีหน้ามีแววเหนื่อยล้า
“นายคงไม่นั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคืนจนไม่ได้นอน ใช่มั้ย?”
“อืม” ฮ่อหยุนเฉิงผงกศีรษะราบเรียบ
ทันใดนั้นเขาก็นึกบางอย่างได้ หยิบขวดยาบนโต๊ะข้างๆ ขึ้นมา เทยาแล้วยื่นให้ซูฉิง “นี่คือยาที่เฮ่อหวงเหว่ยสั่งให้เธอ ได้ผลดีมาก เมื่อคืนเธอกินเข้าไป วันนี้ก็ดีขึ้นมาก”
“เมื่อคืน เป็นนายป้อนยาฉันเหรอ?” ซูฉิงรับยามา ถามตามไปจิตใต้สำนึก
ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้ว มองเธอด้วยสายตาเข้ม เม้มริมฝีแกเล็กน้อย “ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะ?”
ซูฉิงก้มมองเม็ดยาในมือ
เมื่อวานนี้เธอไข้จึ้นจนสะลึมสะลือ เขาทำยังไงให้เอกลืนยาเม็ดใหญ่ขนาดนี้เข้าไปกัน?
ในสมองก็ปรากฏภาพที่ไม่เหมาสำหรับเด็กขึ้นมา
เมื่อคืนนี้… เธอรู้สึกราวกับมีคนกำลังโอบเธอ จูบเธอ เธอรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก
ภาพของฮ่อหยุนเฉิงที่ป้อนยาให้เธอปรากฏขึ้นเป็นช่วงๆ อยู่ในหัวของซูฉิงในเวลานี้
ครู่เดียวใบหน้าซูฉิงก็ร้อนฉ่าขึ้นมา
“ซูฉิง ทำไมเธอหน้าแดง?” ฮ่อหยุนเฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย ถามกึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม
ซูฉิงขัดเขิน “นั่น อาจเป็นเพราะไข้ยังไม่ลดน่ะ!”
“จริงเหรอ?” ฮ่อหยุนเฉิงโค้งริมฝีปากยิ้ม
วันนี้ช่วงเช้าตรู่ ตอนที่ซูฉิงยังไม่ฟื้นขึ้นมา ฮ่อหยุนเฉิงวัดอุณหภูมิให้ซูฉิงไปแล้ว ไข้ของเธอลดลงไปแล้ว
ตอนนี้ จู่ๆ เธอก็หน้าแดง เป็นเพราะเขินหรือไงกัน?
ดังนั้น เมื่อวานนี้แท้จริงแล้วเธอไม่ได้ไม่รู้ตัวทั้งหมด?
เห็นรอยยิ้มไม่ประสงค์ดีของฮ่อหยุนเฉิง ซูฉิงก็กลอกตาขาใส่เขา ลงจากเตียงจะไปหยิบยาประจำตัวของเธอเองในกระเป๋า
แม้ว่ายาของเฮ่อหวงเหว่ยจะดีมาก แต่ไม่สามารถกำจัดได้ทั้งหมด
กินพร้อมใช้ยาของเธอ จะดีขึ้นเร็วกว่า
ซูฉิงเพิ่งลงจากเตียง ก็ถูกฮ่อหยุนเฉิงกดลงไปคืน
“นายทำอะไร?” ซูฉิงขมวดคิ้วถาม
ฮ่อหยุนเฉิงรีบลุกขึ้น วางมือบนไหล่ทั้งสองข้างของซูฉิงแล้วก้มลงมองเธอ “ฉันควรถามเธอ ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ เธออยากวิ่งไปทั่วทั้งที่ยังไม่หายหรือไง? เฮ่อหวงเหว่ยให้เธอพักผ่อนให้ดีๆ เธอก็นอนบนเตียงพักผ่อนให้ดีเถอะ”
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่หล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิงตรงหน้า ใบหน้าของซูฉิงก็เริ่มร้อนขึ้นมาอีกครั้ง
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก “นายรีบออกไปเลย อย่ามากดฉัน…”